สารอโศก อันดับ ๒๔๒ พฤศจิกายน ๒๕๔๔
อีกไม่นาน...คงได้ดี บันทึกคนวัด

๖ ต.ค. เกือบเป็นยักษ์แล้ววันนี้ ก็บอกให้เพื่อนช่วยเอาโต๊ะนั้นลากมาให้ที เขาก็ค่ะ รับ ปาก ทำอย่างอื่นด้วย รอโต๊ะด้วย เอ๊! ไม่เอาโต๊ะ มาให้ซะที พอถาม เขาก็พูดขอโทษ บอกลืม แหม!อุณหภูมิในร่างกายพุ่งจู๊ด สงสัยจะเกิน ๑๐๐ องศา พุ่งเหมือนสายยาง ฉีดน้ำเลย เกือบจะพูด ออกไปแล้ว อะไรบอกค่ะค่ะ อยู่เมื่อตะกี้ ลืมแล้ว หยุด! หยุด! ดูใจ มันโมโหเพราะอะไร? ก็เพราะไม่สมใจ มีโต๊ะตัวอื่นแทนไหม? มี เอาตัวนี้ ที่อยู่ใกล้กว่า แทนก็ได้ ก็มีทางแก้ไขนี่นา ถึงไม่มี ก็ไม่ต้องโมโห ให้อภัย เรื่องนิดเดียว เราคาดหวัง อยากจะได้มากไป ไม่ต้องปล่อยอารมณ์ ให้วิ่งปรู๊ดปร๊าด ถึงขนาดนี้ก็ได้ เห็นอาการอารมณ์โมโห เลยรีบหยุด และหาสาเหตุ ก็ไม่ได้ตามที่ต้องการนั่นเอง รีบปรับใจ เปลี่ยนใจ ให้เป็นปกติ อย่าให้ชีพจรเต้นแรงอย่างนั้น อย่าทำร้ายตัวเอง เหตุอันเลวแท้ ที่ทำให้คนโกรธ ได้ง่ายที่สุดก็คือ "การเอาแต่ใจตัว" จริงที่สุดเลย เกือบจะต่อว่า เธอไปแล้ว เราต้องหัดให้มากๆ เจอโจทย์อีก ก็หัดอีก หัดไปตลอดชีวิต อย่าหนี....

๗ ต.ค. เช้านี้ไปเยี่ยมคุณพ่อ น้องสาวสองคน พร้อมกับห่วง (ลูก) ๒ ห่วง ชาย ๑ หญิง ๑ กำลังอยู่ ในวัยซน ๕-๖ ขวบ มารับ ขนของเล่น ไปด้วยเต็มกระเป๋า เป็นปืนเด็กเล่นซะส่วนใหญ่ คงจะชอบเล่นจริงๆ อยู่ในรถ ก็เอาออกมาเล่นยิงกัน แถมกิน ด้วยเป็นระยะ สองแม่ก็บอกให้หยุดกินได้แล้วลูก ก็ไม่รู้ว่าเด็กๆ จะหิวเร็ว กินได้นิดหน่อย เดี๋ยวก็หิวอีกหรืออย่างไร จำตัวเองตอนอายุขนาดนี้ไม่ได้แล้ว หรืออยู่ที่ต้องฝึกหัดก็ไม่แน่ ใจ หันไปดูแล้วพูดว่า ก็อยู่ที่ผู้ใหญ่นั่นแหละหามาให้ ใจนึก... โถ! เอาเข้าปากแล้ว เหมือน อ้อยเข้าปากช้าง จะดึงออกได้ยังไง หลานสองคนก็กินเก่งจริงๆ ขนมปังบ้าง ผลไม้ บ้าง ขนมกร๊อบแกร๊บบ้าง พอไปถึงบ้าน คุณปู่ใจดีแจกขนมให้กินอีก โอ้ย! เสียงร้องอยู่ใน ใจ (เปรตจ้ะ) ไม่ใช่อะไรหรอก อันนี้เกิดถูกกิเลส ใจแวบหนึ่ง แหม! ของชอบ จะ ขอเอาไว้มั่ง แล้วก็รีบหยุดปรุง อย่าปล่อยใจสังขารต่อ น่าอาย เรามาอยู่วัดกินมื้อเดียว หัวใจดวงเดียว ไม่มีแบ่งให้คนอื่น ปลดปล่อยภาระได้เยอะ ช่างสบายจริงหนอ แต่ถูกต่อ ว่าทรมานตัวเอง ฉันยังยืนหยัดมาเส้นทางสายนี้ ทางของผู้ถือพรหมจรรย์ หมดห่วง หมด กังวล ไม่คิดจะมีห่วงมีครอบครัว นึกถึงเพลงอาญารัก เนื้อเพลงช่างถูกใจซะจริง ขอ เขียนไว้สักหน่อย

...เพราะบุญเคยทำ เกิดจากกรรมปางไหน ที่ทำให้ทุกชีวาต้องมาพบกัน ร่วมรอยร่วมเรียง เรื่องราวที่ผูกพัน แต่ละคนต่างที่มาชดใช้กรรม ที่เคยทำกันไว้ ได้เจอวันที่หวานชื่นคืนแห่งน้ำตา ไม่อาจฝืนเส้นทาง ถูกวางให้เกิดมา ตามชะตา เกิดเป็นใคร...
... ขอจงมั่นใจ ให้ความดีคอยคุ้ม สุขห่างหายทุกข์รายรุมเราอยู่ทุกวัน หมดเวรเมื่อไร หมดกรรมที่ผูกพัน อีกไม่นาน คงได้ดี...

เกิดชาติไหนๆ อย่าไปสร้างหนี้ผูกเวรกับใครเลย ขอจบอโหสิกรรมตั้งแต่ชาตินี้เลย ฉัน หวังไว้ อีกไม่นาน... คงได้ดี

๑๒ ต.ค. เช้าวันนี้ มองหาพี่ มองหาเพื่อน เขาไปไหนกันหมดนะ ใจมันเหงาๆ เรียกร้อง เอาละซิ ไม่ต้องหา ไม่ต้องส่งใจให้เขามา ก็เรากวาดลานวัด อยู่คนเดียว ทำไม ต้องทิ้งให้เราทำ คนเดียวอยู่เรื่อยเลย อัตตามันโผล่ มาแล้ว ก็เขาคงมีธุระต้องทำแหละน่า ถึงยังมาช่วยไม่ได้ อย่าเสียพลังงาน อย่าหวังให้เขามาช่วย อย่าไปคิดว่า ต้องมาช่วยฉัน ค่อยๆกวาดไป เช้านี้อากาศไม่ร้อนซะหน่อย หากมีโอกาสค่อยบอกให้หาเวลามา ช่วยกัน ดีกว่ราจะฮึ่มๆ อยู่ในใจ ก็เป็นการลดอัตตามานะของเรา เป็นการขอแรง ร่วมมือ ด้วยการไม่มีจิตถือสา ไม่เย่อหยิ่ง ลงมือกวาด กวาดตามทางไปเรื่อยๆ ไม่ใช่ เรื่องยากเย็นอะไรเลย เกิดเป็นหญิง มีหน้าที่กวาดอยู่แล้ว กวาดตัวถือสาออกไปทางซ้าย กวาดตัวเรียกร้องออกไปทางขวา กวาดใจไล่ตัวปฏิฆะ ที่เข้ามาใกล้ๆ ให้ออกไป เร็วๆ กวาดความออเซาะ ตัวเอง เป็นอิตถีภาวะ ที่เราต้องเอาชนะ แล้วก็กวาดไปเรื่อยๆ ด้วยใจที่สงบ

จงพอใจในสิ่งที่ได้ทำ อย่าไปคิดว่าทำไมต้องเป็นเราด้วยทุกที ก็เป็นเรานั่นแหละ เป็น ให้ดีที่สุด อย่างที่เคย ได้ยินว่า จะเป็นอะไรก็ตาม จงเป็นเสียอย่างหนึ่ง และพึงพอใจในสิ่ง ที่เราได้เป็น เป็นอะไร ไม่ใช่ปัญหา สำคัญที่ว่า จงเป็นอย่างดีที่สุด เป็นให้ดีที่สุด

กวาดเสร็จแล้ว พร้อมกับใจที่ได้ต่อสู้ตลอด แต่เรากลับสบายใจ อิ่มใจ

คติวันนี้ เมื่อใดที่เราไม่ชอบใจใครๆ ให้รู้เถอะว่า เราได้เลวไปกับเขา หรือเลวไปก่อน เขาแล้ว

๒๐ ต.ค.๔๔ การอยู่ด้วยกันนานๆ หากไม่รู้เท่าทันอารมณ์ ก็ทำให้เกิดจิตอกุศล ตอน เป็นสะใภ้ใหม่ ได้รับน้ำใจ ความห่วงใย ก็ประทับใจเหลือเกิน เพื่อนช่างมีน้ำใจกับ เรานะ เพียงแต่บอกว่า อยากช่วยงานอยู่นะ เห็นว่าหนัก แค่นี้ก็ซาบซึ้งใจไปนาน แต่พอคบคุ้น กันมากๆ เห็นจริต เห็นกิริยา นิสัยซึ่งไม่น่าจะทำอย่างนี้ น่าจะรู้ แต่กลับไม่รู้ อย่างนี้น่าจะสำรวม กลับไม่ระวัง เห็นความเป็นปกติ ในตัวบุคคลที่เราคิดว่า เราศรัทธา ตอนนี้ก็คิดว่า หมดศรัทธา ไม่เชื่อถือ ดูถูก ดูหมิ่น เพราะเพ่งแต่ข้อบกพร่องของเขา เออ! ทำไมใจเปลี่ยน ง่ายดายเหลือเกิน สงสัยจะไม่ใช่ซะแล้ว เราต้องการอะไร ทำไมต้องให้คนอื่นเป็น อย่างที่เราอยาก เราเห็นแก่ตัว เรียกร้องความสนใจ เรียก ร้องให้เขาเป็นคนดี ความจริง เขาก็เป็นอย่างของเขา เราต้องมาเข้าใจในตัวเองให้ มากขึ้น พอๆกับที่ต้องเข้าใจ ในตัวคนอื่น เราต้องศรัทธา ในตัวเองก่อน หากเราเชื่อมั่น ศรัทธาและรักตัวเองเป็น ช่วยตัวเองได้ โดยไม่หวังการสนองตอบ ไม่ว่าทางใด นี่แหละ จะเป็นสายโยงใย ถ่ายทอด ไปหาบุคคลอื่นๆ ไม่ใช่ไปหาจากบุคคลอื่น มาใส่ตัว เราทำได้ก็เพราะ เราเกิดศรัทธาในตัวเอง พึ่งตนเอง จนแผ่ไปถึงคนอื่น ช่วยคนอื่นได้ อย่างจริงจังจริงใจ เราจะมีกำลังใจ ที่จะทำหน้าที่ให้ดีต่อไป โดยไม่ต้องรอน้ำใจ หรือ ความเห็นใจ จากคนอื่น ไม่เรียกร้อง ให้คนอื่น ต้องมาสนใจเรา เราจะทุกข์น้อยลง ใช่แล้ว! ใช่แล้ว ! เราต้องทำตรงนี้ ปีติเกิด สารสุขก็เกิด

เข้าใจผู้อื่น เป็นความรอบรู้
เข้าใจตนเอง เป็นความแจ่มกระจ่าง

๒๙ ต.ค.๔๔ เป็นวันคล้ายวันเกิดของตนเอง ทั้งรูป ทั้งธรรม และนามธรรม อะไรเคยชิน เคยติดก็หัดตัด หัดทิ้งให้มากกว่านี้ อายุเพิ่มขวบขึ้นอีก ๑ รอบแล้ว จัดอาหารถวาย สิกขมาตุเสร็จ ก็เตรียมตัวเข้าศาลา วันนี้ทางศูนย์มังสวิรัติ ได้เตรียมอาหารหลายอย่าง คงทำบุญเลี้ยงฉลอง หลังงานเจ หรือยังไงก็ไม่รู้ อาหารมีหลายอย่าง ก๋วยเตี๋ยวหลอด ลาบ โปรตีนเกษตร ผัดกระเทียมพริกไทย ก๋วยเตี๋ยวราดหน้า ขนมวุ้นสี หลายสี ขนมสาคูเปียก ราดครีมหน้ากระทิ (หรือจะเรียก ขนมอะไรก็ไม่รู้ ไม่เคยเห็นแบบนี้ เหมือนกัน) อาหารหรู ปรุงแต่งหลายอย่าง ก็มาเห็นที่อโศกนี่แหละ แหม! ยังกับงานเลี้ยงฉลองให้เราเลยนะ แอบดีใจอยู่นิดๆ ฮะแอ้ม ! อย่าเพิ่งหลงเพลิดเพลิน ยินดีที่ได้เห็น ที่จะได้กิน ได้อะไรมา หากดีใจมากนัก ระวังหนี้หามนะ ก็ไม่ได้กินทุกอย่างหรอก ตั้งเยอะแยะมากมาย หลงใหล ในอาหารเหลา ชีวิตก็ยุ่งยาก แต่ถ้าเมินอาหารเหลาได้บ้าง ชีวิตก็จะง่ายขึ้นกว่านี้เยอะ หลังอาหาร ไปทำงานตามปกติ ตกค่ำ ก็คุยกัน ตามประสาพี่น้อง วันคืนผ่านไป ยังรักษาศีล ได้ดีอยู่ วันนี้สังวรได้ดี ไม่ไปใส่อารมณ์เบียดเบียนใคร

อิตถีภาวะอยู่ในความเป็นหญิง ช่างสมรูปสมนามซ่ะจริง ความเป็นแม่ ความเอื้ออาทร การแบกรับภาระ ความจริงก็เป็นคุณสมบัติ เป็นความอดทน ของผู้หญิงอยู่แล้ว หากเราจะพัฒนา จากจุดนี้ไป เราต้องเอื้ออวย ต่อสรรพชีวิต ในรอบกว้างขึ้น โดยไม่ต้องแบ่งแยก เราก็สามารถมีส่วนร่วม ในการเปลี่ยนแปลง ช่วยสังคม ต้องกลับมามองชีวิต ใช้ชีวิตให้เรียบง่ายขึ้นอีก ในยุคสมัยที่ ทรัพยากรธรรมชาติ ถูกขโมยไป จนแทบไม่เหลือ ลดฟุ้งเฟ้อ เคร่ง ที่ตัวเอง เป็นแบบอย่างง่ายๆ อย่างนี้แหละ ไม่ต้องไปคิดแข่ง ในความเป็นชาย หรือต่อสู้ กับใคร ทำไปอย่างนี้ได้ในแต่ละคน ฉันเชื่อว่า พลังของผู้หญิง ที่มีทิศทาง ในการลดละ แนวเดียวกันเช่นนี้ จะสามารถ เปลี่ยนแปลงสังคม ให้ดีขึ้นได้ ฉันจะมาพัฒนาตัวเองในจุดนี้ ให้สมค่าที่แม่ให้กำเนิดชีวิต หมู่กลุ่มให้กำเนิด จิตวิญญาณ ที่จะก้าวไปสู่ความดีงาม

ขอกราบขอบพระคุณทุกสรรพชีวิต ทุกสรรพสิ่งที่ได้ช่วยเหลือเลี้ยงดู เกื้อกูลและอุปถัมภ์ ให้เติบโตต่อไป ในทางที่บริสุทธิ์

แม้ไม่มีความฝัน ชีวิตฉันก็อยู่ได้ ขอให้อยู่กับความจริง