ค่ายจริยธรรมหนุ่มสาว ครั้งที่ ๔ วันที่ ๑๑ - ๑๓ มกราคม ๒๕๔๕
ลำนำแห่งการอำลาสันติอโศก
กว่าจะเป็น ชุมชน แห่งนี้ กว่าจะดี ต้องเดิน เผชิญขวากหนาม
กว่าจะยอม รับเป็น สถาน อันน่าเกรงขาม เลื่องลือนาม พุทธสถาน สันติอโศก
ถึงจะถูก โจมตี มาเนิ่นนาน ถูกเหยียดหยาม ถูกประนาม เรื่อยมา
กำลังใจ พวกเรา ไม่เคยโศกา สู้เพื่อรักษา คุณค่า ชีวิตที่แท้จริง
จะมีใคร สักกี่คน ที่โชคดี ได้มามี ชีวี ถึงแก่นธรรม
มาครั้งนี้ นั้นเป็น ชีวิต ที่น่าจดจำ การกระทำ ความรู้ คู่คุณธรรม
เราเคยกิน เคยอยู่ ร่วมสุขกันมา แต่เวลา ต้องพา เราพรากจากกัน
ห่างแต่กาย หัวใจ เราไม่ห่างกัน แต่สักวัน พวกเรานั้น จะกลับมา
หากวันนี้ พวกเราต้อง ห่างกันไกล ขอดวงใจ พวกเรา เป็นดวงเดียวกัน
ขอสัญญา จะไม่ลืมเลือน ชั่วนิจนิรันดร์ ขอความผูกพัน สันติอโศกนั้น เนิ่นกาลนาน

ไม่! ไม่ใช่ใครในสันติอโศกจะลาไปไหน แต่เป็นน้ำเสียงใสๆ กระท่อนกระแท่นนิดหน่อย เพราะข่มกั้นน้ำตา ของหลายหนุ่มสาว ที่ร่วมกันร้องเพลง ลำนำแห่งการอำลาสันติอโศก ซึ่งทั้งเนื้อร้อง ทำนอง เรียบเรียง โดย นางสาวธิดารัตน์ อรรถรัฐ (อ้อย) นักศึกษารัฐศาสตร์ จากมศว.ประสานมิตร อ้อยบอกเพื่อนๆ พี่น้อง ผู้ร่วมค่าย ในการสรุปงานว่า "อ้อยรู้สึกดีมาก และอยากร้องเพลง แทนการกล่าวใดๆ" จากนั้น เสียงเพลง ดังกล่าว ก็ดังขึ้น ช่วงนี้หลายคน ซึ่งอยู่ร่วมบรรยากาศ มาโดยตลอด ต้องลอบซ่อนดวงตา ที่ทำท่า จะฉ่ำน้ำ ...นี่เป็นบรรยากาศหนึ่ง ในหลายของงาน ค่ายจริยธรรมหนุ่มสาว ซึ่งจัดขึ้น เป็นครั้งที่ ๔ ณ พุทธสถาน สันติอโศก

งานนี้มีหนุ่มสาวจากหลายถิ่น มาร่วมกิจกรรมกันคับคั่ง รวมแล้วเกือบ ๖๐ ชีวิต มีทั้งจาก มศว. ประสานมิตร จากเอแบค จากเทคนิค พานิชการอยุธยา จากมัธยมศึกษาก็มี ที่เป็นวัยทำงานแล้ว ก็หลายคน หลายคน มาเดี่ยว แต่ทีม มศว. มากันเป็นคันรถใหญ่ ซึ่งผู้มากลุ่มนี้ บอกประทับใจมาก ที่มาถึงก็เห็นพี่ซี ยืนรอ โบกมือต้อนรับ ตั้งแต่ยังไม่ลงรถ

คืนวันศุกร์ที่ ๑๑ ม.ค. งานนี้เราเริ่มกิจกรรมแรก กันบนศาลาวิหารพันปี โดย สมณะ ร้อยดาว ปัญญาวุฑโฒ กล่าวต้อนรับ หนุ่มสาว ที่มาร่วมงาน จากนั้นกร ซึ่งเป็นพี่เลี้ยง พาทำกิจกรรม คบคุ้นอุ่นใจ เพื่อให้หนุ่มสาว ที่มา ได้รู้จักคุ้นเคยกันบ้าง จากนั้น เมื่อกล่าวคำปฏิญาณตนแล้ว สมณะร้อยดาว จึงกล่าวสรุปว่า "ในงานนี้ เราจะอยู่ อย่างผู้ฝึกตน สมาทานศีล ๕ ไม่รับประทานอาหารเนื้อสัตว์ ไม่รับประทานพร่ำเพรื่อ ทานอาหาร สองมื้อ และ ตื่นแต่เช้ามืด"

วันเสาร์แรกรุ่งเวลา ๐๔.๓๐ น. หนุ่มสาวมารวมตัวกันบนพระวิหาร ช่วงนี้ สมณะเพาะพุทธ จันทเสฏโฐ ได้แสดงธรรม ให้หนุ่มสาวฟัง เรื่อง "รักอย่างไรให้เป็นสุข" ปรากฏว่า นักศึกษาหลายคน ประทับใจมาก บอกว่าตรงกับสภาวะ ในช่วงวัยของตน นำไปใช้ได้ ในชีวิตประจำวัน เสร็จจากฟังธรรม ทั้งหมดรวมตัวกัน ที่หน้าพุทธสถาน เพื่อทำบุญ ตักบาตร การตักบาตรเช้าวันนี้ เป็นความรู้สึกดีๆ ของหลายคน เพราะตักบาตร ด้วยข้าวและผลไม้ ซึ่งไร้การเบียดเบียน ชีวิตใดๆ

เวลาหกโมงเช้า พวกเราชาวค่ายทั้งหมด ไปศึกษาวิชาทำกินกัน ที่สวนสามวา นั่งรถไปประมาณ ๒๐ นาที ที่นั่นเป็นสวน กสิกรรมไร้สารพิษ ซึ่งมีอากวี และเอก น.ร.สัมมาสิกขา สันติอโศก กล่าวต้อนรับ และแนะนำ ทำงาน ให้กับพี่ๆ ที่มาในครั้งนี้

.....ต่อไปเป็นเช่นไรลองฟังความรู้สึกของหนุ่มสาวชาวค่าย.......

เกด หนุ่มรัฐศาสตร์ปีหนึ่ง จาก ม.ศ.ว. ประสานมิตร
สะท้อนความรู้สึก สู่ฟังว่า ผมรู้ว่า มางานนี้ลำบาก แต่อยากมา เพราะวิถีชีวิตปกติ มันวัตถุนิยม สะดวกมาก มาลำบากบ้างก็ดี ในงานนี้ ผมได้เกี่ยวกก ที่สวนสามวา ก็ได้เห็นใจเพื่อน รู้จักหลายคนมากขึ้น

จั้ม สาวบริหารการตลาดปี ๔ จากเอแบค
...มาร่วมกิจกรรมรู้สึกลำบาก เป็นอะไรที่แปลกใหม่ ไม่เคยทำ แต่ดี รู้สึกว่าได้ประโยชน์ จากกิจกรรม เยอะมาก และได้ทำประโยชน์ กับแผ่นดิน คือ จั้มได้ปลูกต้นไม้ด้วย

บุ๋ม สาวเทคนิคพานิชการอยุธยา
...มาร่วมกิจกรรมเป็นครั้งที่สอง รู้สึกว่ามาครั้งนี้ สนุกกว่าครั้งที่แล้ว ปรับตัวได้มาก เพื่อนเยอะขึ้น และชอบมาก บรรยากาศ บนพระวิหารพันปี ที่สวนสามวาก็ชอบ ประทับใจมากที่สุด คือ เพื่อนที่มา ร่วมกิจกรรม

ใหม่ สาวน้อยจากสตรีวิทยา
...บอกว่าเคยมาสันติอโศกครั้งหนึ่งแล้ว ครั้งนั้น เห็นคนเขาไหว้กัน รู้สึกตกใจ แต่ดูไปรู้สึกเย็นๆ ด้วย จึงอยากมาร่วมกิจกรรม ค่ายจริยธรรม มาแล้วก็มีความสงสัย ทำไมสร้างวิหาร ไม่เหมือนทั่วไป และ
ตนไม่เคย ทานมังสวิรัติมาเลย มาที่นี่บางครั้ง จึงทานไม่อิ่ม แต่ถ้ามีกิจกรรม เช่นนี้อีก ก็จะมาอีก

แอ็ด หนุ่มทหารอากาศจากดอนเมือง
...ผมรู้สึกดีที่เห็นหนุ่มสาวนักศึกษา มาร่วมกิจกรรมค่าย เห็นว่าเป็นโอกาสของเขา ส่วนผม รู้สึกเหมือน ได้กลับบ้านเก่า เพราะบ้านผม ทำเกษตร มาที่นี่ผมได้จับจอบ และผมปลูกต้นมะม่วง ไปหลายต้น

แก้ว สาววัยทำงานจาก รพ. สมิติเวช ศรีราชา
เธอพูดพร้อมยิ้มสดใส... มาร่วมกิจกรรมครั้งนี้ ประทับใจมาก อยู่ร่วมกับน้องๆ ก็สบายใจ ไม่มีช่องว่าง ระหว่างวัย และรู้สึกว่า ตนห่างเหิน กิจกรรมค่ายไปนาน รู้สึกดี ที่กลับมาสัมผัสอีกครั้ง

เปิ้ล สาวรัฐศาสตร์ปีหนึ่งจาก มศว. ประสานมิตร
... รู้สึกว่าได้ออกจากความเคยชิน ได้เรียนรู้ การอยู่กับธรรมชาติ และพึ่งตนเอง มีหลายอย่าง ไม่เคยทำ ช่วงไปสวนสามวา ได้ช่วยหาฟืน ติดเตาธรรมชาติ... รู้สึกดีมาก

หลายคนยิ่งรู้สึกดีมาก โดยเฉพาะช่วงแบ่งกลุ่ม ทำอาหารทานกันเอง เพราะต้องหาพืชผักในสวน หาฟืนติดเตา ปรากฏว่า เป็นกับข้าวมื้อแรก โดยน้ำมือตน และผองเพื่อน ซึ่งนึกไม่ถึงว่า กับข้าวจะหมด ไม่เหลือ

กลับจากสวนผ่อนคลายครู่หนึ่ง หนุ่มสาวได้สนทนาธรรมกับพระเกจิ ต่อด้วยรายการวอล์กแรลรี่ หรือ ชมชื่นชุมชน ช่วงนี้หลายคน ตื่นตาตื่นใจมาก (แต่ไม่ขอบอก) จากนั้นหนุ่มสาว ร่วมทานอาหารมังสวิรัติ มื้อที่สองของวันนี้ ส่วนกิจกรรมช่วงค่ำ ทั้งรายการ สาระรื่นรมย์ เจาะใจวัยสร้างสรร สงบกาย สงบใจ เราใช้สถานที่ บนพระวิหารพันปี บอกเพียงว่า บรรยากาศเกินบรรยาย ต้องสัมผัสโดยตน

เช้าวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของกิจกรรม หนุ่มสาวตื่นมาฟื้นฟูสุขภาพ ๐๔.๓๐ น. และร่วมช่วย เสริมโลกให้สวย ก่อนที่จะไป ร่วมกันตักบาตร เสร็จจากตักบาตร พี่เลี้ยงพาหนุ่มสาว ทัวร์ตลาดนัด พลังบุญ และ แบ่งกลุ่ม ไปสร้างสรรเสียสละ ปรากฏว่า หลายๆสาว ได้มีโอกาสเป็นแม่ค้า ตลาดนัดชั่วคราว ซึ่งประทับใจ และสนุกสนาน สำหรับสาวๆ กลุ่มนี้เป็นยิ่งนัก

ไฮไลท์ของวันอาทิตย์ น่าจะเป็นช่วงฟังธรรม ก่อนรับประทานอาหาร โดยพ่อท่าน สมณะโพธิรักษ์ และ สมณะจันทเสฏโฐ ในหัวข้อ "หายนะใหญ่ในมนุษย์" และตอบกันแบบสุดๆ หนุ่มสาวหลายคน ซึ่งล้าแล้ว แต่ช่วงนี้ กลับหลับไม่ลง ตลอดรายการ

ภาคบ่าย ทีมพี่เลี้ยงพาหนุ่มสาว ศึกษาวิชาทำใช้ โดยให้ทุกคนได้ร่วมลงมือทำ ครั้งนี้เป็นการเรียนรู้ ทำน้ำยาซักผ้า และเป็นของขวัญของฝาก ติดมือผู้ร่วมกิจกรรม กันไปทุกคน

สุดท้ายของกิจกรรม สมณะร้อยดาว นำพาสรุปงาน โดยหนุ่มสาวชาวค่ายเปิดใจ ซึ่งมีทั้งคำชม คำขอบคุณ คำติง เพื่อปรับกิจกรรม ให้ดีงามยิ่งขึ้น และพี่เลี้ยง ฝากคำปรารถนาดีแด่น้องๆ ...ปิดกิจกรรมค่าย ๑๖.๓๐ น. แต่กว่าจะลากันเสร็จ กว่าจะส่งขึ้นรถ ทั้งหมดได้ร่ำลา อาลัยกัน กระทั่งเกือบหกโมงเย็น ...

กิจกรรมค่ายจริยธรรมหนุ่มสาว ครั้งที่ ๔ จบลงแล้ว แต่ความเป็นมิตรที่ดีต่อกัน กำลังจะเริ่มต้น

กิจกรรมค่ายจริยธรรมหนุ่มสาว ครั้งที่ ๔ จบลงแล้ว แต่ความตระหนักในจริยธรรม จะไม่จบลง ดั่งเพลงที่อ้อย และผองเพื่อน ได้ร่วมร้องออกมา ห่างแต่กาย หัวใจเราไม่ห่างกัน ขอดวงใจ
พวกเรา เป็นดวงเดียวกัน เป็นใจดวงเดียวกัน ที่ตระหนักในจริยธรรม ซึ่งต้องไม่เพียงจริยธรรมในตน แต่เป็นจริยธรรม ที่ขยายออก กระทั่งหนุ่มสาว เป็นบุตรที่ดีของพ่อแม่ เป็นศิษย์ที่ดี ของครูบาอาจารย์ เป็นผู้ทำงานที่ดี ในที่ทำงาน เป็นเพื่อนที่ดีของเพื่อน เป็นคนดีของสังคม ชาติ ศาสนา สืบไป สิ้นกาลนาน

โมทนากับคุณพ่อคุณแม่ ที่พาบุตรมาร่วมกิจกรรมค่าย โมทนาที่หนุ่มสาวหลายคน มาแสวงหา ความดีโดยตน โมทนาอาจารย์ ทิพย์วิมล วงศ์รัตนชัย จาก มศว.ประสานมิตร ที่มีเมตตาต่อเหล่าศิษย์

ทีมงานค่ายจริยธรรมหนุ่มสาว

(สารอโศก อันดับที่ ๒๔๔ มกราคม ๒๕๔๕)