แถลง
ยิ่งเล็ก ยิ่งใหญ่ ยิ่งจิ๋ว ยิ่งแจ๋ว
ในรายการภาคค่ำคืนสุดท้ายของงานพุทธาภิเษกฯ
ใครๆที่ได้ร่วมชมรายการ ณ ทุ่งศาลี ก็ ต้องอัศจรรย์กับเกษตรกร ที่พึ่งผ่านการอบรม
จากอำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม ได้ไม่นาน สามารถพลิกผันชีวิต ภายใน ๓-๔
เดือน เปลี่ยนพื้นที่นา มาเป็นสวนสารพัด พืชผัก ไร้สารพิษถึง ๑๗ ชนิดด้วยกัน
โดยสามารถเก็บขาย ได้วันละ ๒๐๐-๓๐๐ บาท
จุดสำเร็จที่สำคัญ เกิดจากเขาทำเพียง๑
ไร่เท่านั้นเอง จึงสามารถ บริหารจัดการได้ อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด พวกเราที่เป็นมืออาชีพ
ทางด้านกสิกรรม ต่างยอมรับกันว่า ความไม่สำเร็จ ที่ผ่านมา เกิดจากโลภ ทำในพื้นที่มาก
ทำให้ดูแลได้ไม่ถึงจุด การ "สร้างดิน" ให้สมบูรณ์
จนเป็นดินมีชีวิต
จะกอบกู้แผ่นดิน ก็ต้องเน้นการ
"สร้างดิน" ฉันใด จะกอบกู้สังคมก็ต้องเน้นการ "สร้างคน" ฉันนั้น
๑ ไร่ไม่น้อย สำหรับการสร้างดิน
(แต่ถ้าจะมุ่งปลูกกิน ปลูกเพื่อ เอาจากดิน ๑๐๐ ไร่ ๑,๐๐๐ ไร่ก็ไม่พอ)
๑ คนก็ไม่น้อย สำหรับการสร้างคน
โดยเฉพาะคน ที่สำคัญที่สุด ที่ควรจะพ้นทุกข์ หรือหมดกิเลส ก่อนใครๆ นั่นก็คือ
ตัวเรา
คิดวิตกวิจารณ์เผากิเลส ในตัวเราอยู่เสมอๆ
นั่นก็คือ ฌาน
อ่านรู้กิเลสในตัวเรา ถูกเผาได้มากน้อยแค่ไหน
= ญาณ
เมื่อใด ที่คิดจะเผาคนอื่น
คิดแต่ให้คนอื่นหมดกิเลส เมื่อนั้น เรากำลังถูกกิเลสแผดเผา (ฌาปนกิจ) และกิเลส
กำลังเจริญ งอกงาม อย่างยิ่ง (การเพ่งโทสผู้อื่น
อาสวะเจริญยิ่ง -พุทธพจน์)
ในยุคที่ชาวอโศกกำลังมีงานเข้ามามาก
เราจะต้องตระหนัก ในการทำงานให้เกิด ฌาน (กิเลสของเราถูกเผา)
และ ทำงาน ให้เกิดญาณ (รู้กิเลสว่าถูกเผาไป
มากน้อยเพียงใด)
ถ้าเรามุ่งทำงาน เพียงเพื่อจะได้งานๆๆๆๆๆๆ
โดยขาดการมองตน อ่านตน พิจารณาตน ปรับปรุง แก้ไขกรรม ๓ ของตน เราก็คงมีแต่ถูก
กิเลสเผาเท่านั้นเอง ญาณของเราก็จะกลายเป็น ยานโตงเตง ยุ่งเหยิง และยับเยินในที่สุด
สำคัญอยู่ที่ว่า เรามองหากิเลสในตัวเรา
หรือคิดจะเผากิเลสในตัวเรา หรือไม่เท่านั้นเอง?
หรือว่าตั้งหน้าตั้งตา คิดแต่จะทำนา
นอกตน มุ่งแต่จะทำงาน สังคมสงเคราะห์ ช่วยเหลือชาวบ้าน จนลืมคน
ที่สำคัญที่สุด ที่ควรจะได้รับ การแก้ไขก่อนใครๆ
ปัญหาการแตกแยก หรือทะเลาะเบาะแว้ง
ในกลุ่มต่างๆ ของชาวอโศก จะไม่มีทางเกิดขึ้นได้เลย
ถ้าทุกคน ต่างมุ่งทำนา ของพระพุทธเจ้า คนละ ๑ ร่าง หรือแค่ยาววา หนาคืบ กว้างศอก
เท่านี้ก็พอ
คณะผู้จัดทำ
(สารอโศก
อันดับ ๒๔๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๕) |