จุลดิน
ฉบับ ๒๔๕
ฉบับนี้เป็นการรายงานผลจากสมาชิกอีกเช่นเคยค่ะ
ท่านแรก สมาชิกหมายเลข
๒๒๒๖๗๖ จาก จ.ตาก
"กระผมได้เขียนข้อมูลที่เป็นจริงเรื่อง น้ำฉี่ดีจริงหรือ? มาเล่าสู่กันฟังครับ
เป็นข้อมูลที่ กระผมประสพมาด้วยตนเอง และยังมีข้อมูลจากหลายร้อยปีที่น่าศึกษา
มากล่าวด้วย
ปีพุทธศักราช ๒๕๓๖ ช่วงกลางฤดูฝน
ราวๆเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม นี้แหละครับ ผมได้เดินทางไปแสวงบุญ ที่ประเทศพม่า
ที่สำนักใหญ่ มีชื่อเสียงที่สุด ในการรวมกลุ่ม ของผู้ถือศีล กินเจในประเทศพม่า
อยู่มาวันหนึ่ง ไม่รู้ว่าเป็นเพราะสาเหตุใด
อาจจะเป็นเพราะ บริโภคอาหาร แสลงหรือเปล่า ก็ไม่ทราบ เพราะตอนนั้น อาหารหลัก
คือ หน่อไม้ดอง คือกระผมได้เกิดการติดเชื้อ ทางระบบ ทางเดินปัสสาวะ ซึ่งมีอาการปวดที่ท้องน้อย
และอาการขัดเบา อย่างรุนแรง ทุกๆห้าหรือสิบนาที ผมต้องเดินไปฉี่ อาการปวดเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
รวมทั้งอาการฉี่ ก็ถี่ขึ้นตาม ช่วงสองชั่วโมงเศษ ผมมีไข้ขึ้นทันที ตัวร้อนหนาวสั่น
ผมรู้ว่า ต้องมีอาการอักเสบภายใน ซึ่งดูได้จาก น้ำปัสสาวะของผม ที่ฉี่ใส่กระโถน
ได้เปลี่ยนไป จากสีเดิม และมีเลือดสดๆ ปนเปื้อนออกมา
ผมนอนคุดคู้อยู่ ในใจของผมก็รู้ดีอยู่ว่า
พม่านั้นเขาด้อยพัฒนา จึงไม่ต้องถาม หาหยูกยาอะไรให้ยาก จิตใจของผม สับสนมาก
ปรับไม่ทัน เพราะอาการ มันช่างรวดเร็วเหลือเกิน ผมเอง หวั่นๆอยู่เหมือนกัน
กับภาวะ ร่างกายขาดน้ำ และเกิดอาการช็อค อาการปวดและพิษไข้ เริ่มพุ่งสูงขึ้นทุกที
ณ ครานั้น ศีลและปัญญา ของผมเท่านั้น
คือกำลังที่เหลืออยู่ ไว้เป็นที่พึ่ง ผมพยายามนึกถึง หยูกยาที่ใกล้ตัว สาเหตุว่า
เดินไปไหนไม่ได้แล้ว ทั้งปวดทั้งไข้หนาวสั่น ผมนอนเพ่งมอง ไปที่ปัสสาวะ ในกระโถน
ครู่หนึ่งผมต้องสว่างวาบ เพราะนึกได้ ถึงยาสูตรสุดท้ายของ พระพุทธเจ้า จึงรำพึงว่า
อึม... อาจเป็นไปได้ ที่เมื่อโรคสามารถเกิดขึ้น ภายในกายนี้ได้ แล้วยาในกายนี้
จะพึงเกิดขึ้นไม่ได้ น้ำฉี่ที่มีขึ้นบ่อยๆนั้น อาจแสดงถึงหนทางที่นำไปสู่การรักษา
ครั้นนึกได้เช่นนั้น ผมจึงบรรจงฉี่ใส่กะลา
เสร็จแล้วนำน้ำฉี่ที่ได้มา สำรวมจิตนึกถึง พุทธคุณ-ธรรมคุณ-สังฆคุณ กำหนดลมปราน
เป่าลงไปที่ขันน้ำฉี่เบาๆ แล้วยกขึ้นดื่ม โอโห! กลิ่นคาวมาก เพราะเป็นปัสสาวะเลือดสดๆ
ผมดื่ม รวดเดียวหมด จากนั้นอีกประมาณ
๓ นาที เมื่อผมปวดฉี่ ผมก็นำน้ำฉี่มาทำตามวิธีเดิม ทำได้สามหน อาการปวดฉี่
และปวดที่ท้องน้อย เริ่มทุเลา จากเดิมที่ปวดฉี่ทุกๆ ๓ นาที ได้เลื่อนห่างออกไปเป็นห้าเป็นสิบนาที
ซึ่งเป็นเหตุ ทำให้ผม มีกำลังใจ ในการปฏิบัติเช่นนั้น
เมื่อผมดื่มน้ำฉี่ไปเรื่อยๆ
ครบเจ็ดหน อาการไข้เริ่มลดลงไป อย่างเห็นได้ชัด รุ่งเช้าผมมี
อาการดีขึ้น ไม่มีไข้ และหายจาก โรคนั้น ในเวลาต่อมา เรื่องนี้ทำให้ผมข้องคาใจ
เป็นอย่างมากว่า มันเป็นไปได้อย่างไร เป็นเรื่องที่ผมพบ โดยบังเอิญ จริงๆ
มันทำให้ผมรอดพ้น จากอุ้งมือมัจจุราชมาได้ ปัจจุบันผมดื่มน้ำฉี่ เป็นประจำทุกๆเช้า
ประมาณ ๑๒ ออนซ์ "
ท่านที่ ๒
คุณวีระ จ.นครศรีธรรมราช
"จากการปฏิบัติตามเรื่อง น้ำปัสสาวะดีจริงหรือ ผมได้ทดลองดื่มครั้งแรก
ดื่มตอนเย็น หลังเลิกงาน ปรากฏว่า น้ำปัสสาวะ มีกลิ่นแรงมาก และมีรสเค็มมากด้วย
หลังจากทานอาหารเย็นเสร็จ ก็ดื่มน้ำร้อนประมาณ ๒ แก้ว พอปัสสาวะออกมาอีก
ก็ดื่มอีก ปรากฏว่า น้ำปัสสาวะมีกลิ่นน้อยลง รสเค็มก็น้อยลง ตามไปด้วย ปัสสาวะบ่อย
ผมก็ดื่มทุกครั้ง ครั้งที่ ๓ เป็นต้นไป น้ำปัสสาวะจะใสมาก ทั้งกลิ่นและรสก็น่าดื่ม
เหมือนกับน้ำดื่ม ที่ดื่มประจำ ทำติดต่อกันประมาณ ๑ สัปดาห์ อาการภูมิแพ้ก็ไม่ดีขึ้น
ครั้งที่ ๒ เปลี่ยนเวลาดื่ม
มาเป็นเวลาตอนเช้า ผมตื่นนอนเวลาตี ๕ ก็ปัสสาวะและดื่มน้ำปัสสาวะ รสของน้ำปัสสาวะ
ในตอนเช้า จะไม่เค็มเท่าตอนเย็น และกลิ่นก็ไม่แรงด้วย ดื่มวันละประมาณ ๓
แก้ว ในตอนเช้า อาการโรคภูมิแพ้ ที่เป็นอยู่ประจำ ตอนนี้ดีขึ้นมากแล้ว"
ท่านที่
๓ คุณบุญจร จ.อำนาจเจริญ
"แต่ก่อนผมเป็นโรคกระเพาะ หรือเนื้อที่ขาพับงอกออกมา ถ้าเรากินของแสลง
แต่เดี๋ยวนี้ ผมดื่มน้ำปัสสาวะประจำทุกวัน ผมดื่มปีกว่าแล้ว กระผมหาย ๑๐๐
เปอร์เซ็นต์ ผมรู้สึกดีใจมาก ที่พึ่งตนเองได้ คราวหน้าผมจะเขียนมาใหม่"
(สารอโศก อันดับที่ ๒๔๕ กุมภาพันธ์
๒๕๔๕) |