หน้าแรก >[09] การสื่อสาร > การเผยแพร่ธรรมะ >สารอโศก

...สานฝันกู้ดินฟ้า ... มะเหมี่ยว


ชีวิตคนหรือสัตว์ ต่างต้องเลี้ยงชีวิตตัวเองด้วยอาหารการกิน เรื่องกินจึงเป็นเรื่องยิ่ง ใหญ่ แต่กินอย่างไร ไม่ให้เบียดเบียนตนเอง และเครื่องบริโภคใดที่ไม่ไปเบียดเบียนผู้อื่น การกินใด ที่ต้องฆ่าชีวิตผู้อื่นมา เพื่อบำรุงบำเรอตัวเรา การกินอย่างนั้น ถูกต้องตามหลักธรรม คำสั่งสอนของ พระพุทธเจ้าแล้วหรือ?

กินอยู่แบบพอเพียง ส่วนที่เหลือจุนเจือสังคม จุนเจือผู้อื่นด้วยความรัก ที่เต็มไปด้วยการเสียสละ รักที่จะ ให้ผู้อื่นมีสุขภาพ ที่แข็งแรงสมบูรณ์ มีความโอบเอื้ออารีผู้อื่น ให้มีสิ่งบริโภคที่ ปลอดภัยไร้พิษ ไร้สารเคมี ปนเปื้อน

ฉบับนี้มะเหมี่ยวจะพาท่านผู้อ่านไปพบกับ...ผู้ที่เห็นและเป็นความสำคัญ ในเรื่องของการ กสิกรรม ที่สามารถ กอบกู้ผืนดิน กอบกู้อากาศให้บริสุทธิ์ และในขณะเดียวกัน ก็สร้างงานให้กับ กสิกรได้พออยู่พอกิน จนรวมกลุ่ม กลายเป็นสหกรณ์ จากสหกรณ์ จนกลายเป็นโครงการ ในพระราชดำริ นั่นคือ คุณอำนาจ หมายยอดกลาง ประธานกลุ่มส่งเสริมกสิกรรมไร้สารพิษวัง น้ำเขียว ซึ่งก่อตั้งวันที่ ๒๗ มกราคม ๒๕๔๑

ถาม. มีจุดเริ่มต้นในการทำกสิกรรมไร้สารพิษอย่างไร?
ตอบ. ทำเพื่อตัวเองก่อน มีพื้นที่ประมาณ ๔๐ ไร่ เป็นภูเขาหัวโล้น โดยมีความเชื่อว่า เมื่อ ธรรมชาติสมบูรณ์ มันจะมีความลงตัว เคยตั้งคำถาม กับตัวเองว่า ป่าไม่เคยมีใครให้ปุ๋ย ไม่ เคยรู้จักสารเคมี ไม่เคยรู้จัก NPK ทำไมถึงมีความสมดุล ทำไมถึงงามตลอด จึงค้นหาคำตอบ ด้วยการทดลอง ทำในพื้นที่ ซึ่งอยู่บริเวณ บ้านน้ำซับ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ปรากฏว่าได้ผลจริงๆ โดยการทำกสิกรรม แบบไร้สารเคมี ใช้เวลา เพียง ๓ ปีเห็นผล และมี คนมาสนใจจึงตั้งกลุ่มขึ้น

ถาม. เพราะเหตุใดจึงคิดตั้งกลุ่มคะ?
ตอบ. เพราะว่า การปลูกป่าจะไปชี้นำชาวบ้านให้เห็นคุณค่าป่า มันไกลเกินไป และกสิกรไทยคิดสั้นๆ ไม่เคยคิด การณ์ไกล ไม่ใช่เกษตรกรใช้ปัญญาใช้สมอง แต่ไม่มีกระบวนการ จัดการอะไร จึงตั้งกลุ่ม ลูกพืชระยะสั้นขึ้น เริ่มจากการปลูกผัก เพราะผัก ๕๔ วันก็สามารถขายได้ รวมกลุ่มครั้งแรกก็ ๓๐ คน ทำได้ผล เรื่องการตลาด ก็วิธีการง่ายๆ ไม่ต้องคิดอะไรไกล คือเน้นปลูกหลายอย่าง มีพืชหลายชนิด ตลาดก็หาง่าย ใกล้บ้านนั่นเอง เริ่มจาก ๑ คนปลูก ๗-๘ ชนิด แต่ละคนปลูกพืชไม่ซ้ำกัน เพราะคน ไม่ได้กินผัก ชนิดเดียว อย่างเดียว การติดต่อร้านอาหาร ก็ทำง่ายขึ้น เพราะเริ่มจากจุดเล็ก ไปหาใหญ่ จากชุมชนเล็ก ไปหาใหญ่ โดยทุกคน ต้องการผักไร้สารพิษ เพราะพระพุทธเจ้า ท่านตรัสว่า อาหาร เป็นหนึ่งในโลก การให้อาหารเป็นการให้ชีวิต แต่ทุกวันนี้เกษตรกรหลงทิศผิดทางในการทำเกษตร แทนที่จะŠให้ชีวิต กลับเป็นการบั่นทอนชีวิต เพราะใส่ สารพิษไปโดยคนไม่เข้าใจเรื่องกรรม และมอง เห็นแค่เงินเป็นตัวสำคัญ ผมเคยตั้งคำถาม กับกสิกรว่า คุณทำกสิกรรมไปเพื่ออะไร เขาตอบว่า เพื่อเอาเงิน มาซื้อกิน นั่นคือความคิด ที่ผิดพลาดแล้ว

ถาม. ทำอย่างไรให้กสิกรในกลุ่มเชื่อว่า ไม่ใช้สารเคมีแล้วได้ผล?
ตอบ. มนุษย์เป็นสัตว์สังคม ต่างอาศัยกัน ต่างมีศักยภาพที่แตกต่างกัน การร่วมไม้ร่วมมือกัน ปัญหาน้อย เอาความเด่นที่แตกต่างกันมาร่วมกัน ก็เกิดกระบวนการขึ้นมา การทำงาน การ ทำการตลาดก็ง่าย และสอดคล้องกับพระราชดำริของในหลวงคือ การพึ่งตนเองก่อนให้ได้ ทำกินเอง ทำปุ๋ยเอง ปุ๋ยน้ำ ปุ๋ยหมัก ดินหมักเอง ไม่ต้องใช้สารเคมี ให้ใช้ทรัพยากรรอบ ตัวเราแปรสภาพมาเป็นปุ๋ย ทำตัวอย่างให้เขาเห็น เพราะมนุษย์ ต้องประจักษ์นิยม คือ ๑๐ ปากว่าไม่เท่าตาเห็น ๑๐ ตาเห็นไม่เท่ามือคลำ เพราะเมื่อคนมาเห็น ก็จำนน เถียงไม่ออก ก็เกิดความเชื่อ

ถาม. มีความสำคัญอย่างไรในการตั้งกลุ่มคะ?
ตาม. กลุ่มคือเครื่องมือของกสิกร เครื่องมือของการรวมตัว เครื่องมือของชุมชน เป็นพลังอันหนึ่ง ในการเจรจา ต่อรอง เป็นเครื่องมือ เป็นภาชนะ รองรับสิ่งต่างๆ รวมตัวจากคนหนึ่ง ที่พึ่งตนเองได้ พัฒนาไป ประกอบ ส่วนกัน พึ่งพิงกัน เริ่มจากญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง ก็เกิดรวมตัวกัน และสามารถ ที่จะเสนอ ขอความร่วมมือ จากภายนอก เรียกว่าพึ่งพา ซึ่งตอนนี้กลุ่ม ก็พึ่งพาจากคนภายนอก ภาครัฐบ้าง เอกชนบ้าง จากกลุ่ม ก็ทำโครงการไปถึง มูลนิธิชัยพัฒนา เพื่อแสดงเจตนาว่า เราจะฟื้นฟูต้นน้ำ เพื่อเป็นป่า เป็นภูเขา ทางมูลนิธิก็ส่ง ตัวแทนมา สำรวจดูกลุ่มของเรา เห็นพวกเราเอาจริง ทำจริง จึงกราบบังคมทูลในหลวง ท่านก็ทรงกรุณารับไว้เป็นโครงการในพระราชดำริ เมื่อวันที่ ๙ ตุลาคม ๒๕๔๑

เมื่อในหลวงท่านรับไว้ เป็นโครงการในพระราชดำริ หน่วงงานราชการ ก็เข้ามาประสานงาน สมาชิกก็เพิ่มขึ้น หลายเท่าตัว ปัจจุบัน มีสมาชิกในกลุ่ม ๖๐๐ กว่าคน

จากกลุ่มเราก็พัฒนาต่อไปอีก เพราะวังน้ำเขียว เป็นพื้นที่ปฏิรูป ทั้งอำเภอ ไปปรึกหากับ สปก. (สำนักงาน ปฏิรูปการเกษตร) สถาบันการเกษตร สามารถใช้พื้นที่ได้ ทางเราได้ดำเนินการ จดทะเบียน เป็นสหกรณ์ ชื่อว่า สหกรณ์ กสิกรรมไร้สารพิษ ในเขตปฏิรูปที่ดิน อำเภอวังน้ำเขียว จำกัด ขอใช้ที่ดินจากสปก. ๑,๐๐๐ กว่าไร่ ซึ่งกำลังดำเนินการอยู่ เพื่อทำเป็น ศูนย์การศึกษา การพัฒนา ของชาวบ้าน โครงการส่งเสริม กสิกรรมไร้สารพิษ ในพระราชดำริ

ถาม. มีนโยบายขยายทั่วจังหวัดไหมคะ?
ตอบ. จากการจัดตั้งเป็นสหกรณ์ ทำให้มีกำลังในการประสานงาน กับหน่วยงานราชการ จะไม่ได้รับ การปฏิเสธ ได้รับการตอบรับดี และท่านผู้ว่าราชการ จังหวัดนครราชสีมา ท่านสุนทร ลิ้วเหลือง นำเรื่อง เกตษรไร้สารพิษ เป็นนโยบายของจังหวัด ไม่ว่าจะเป็นการทำปุ๋ยน้ำ ท่านลงมือเอง สอนเอง ทำตำบลนำร่อง แม้ในวันราชการ ท่านก็ลงไปคลุกปุ๋ยเอง ท่านเองก็รณรงค์ ให้ข้าราชการเข้าใจ วังน้ำเขียว จึงกลายเป็น ศูนย์กลางการศึกษา มีคนมาร่วมเรียนรู้ถึง ๔๗ จังหวัด

ถาม. จัดลักษณะในการอบรมอย่างไรคะ?
ตอบ. การอบรมทางเราจัดเป็น ๒ โครงการในแต่ละรุ่น
หลักสูตรที่ ๑ หลักสูตรสร้างเกษตรกรมืออาชีพ คนที่มาเรียนรู้ จะได้เงินกลับบ้าน จากที่เขามาปลูกผัก นั่นแหละ หลักสูตรนี้ใช้ เวลา ๓ เดือน
หลักสูตรที่ ๒ ทำดินซีเมนต์ใช้เวลา ๑ เดือน ทำอิฐ ๑ เดือน เรียนรู้ตั้ง แต่ขบวนการเลือกดิน หมักดิน การบ่มอิฐ จนถึงการก่อสร้าง มีทั้งสร้างแทงค์น้ำ และสร้างบ้าน โดยไม่ต้องใช้แบบ (วิศวกร)

ถาม. มีสมาชิกและผู้มาอบรมมาก จัดการเรื่องการตลาดอย่างไรคะ?
ตอบ. เรื่องการตลาดไม่มีปัญหา ปัญหาของพวกเราคือ ทำไม่พอความต้องการของตลาด คือวังน้ำเขียว เป็นที่สูง อากาศเย็น สามารถปลูก พืชเมืองหนาว ได้ทุกชนิด คนระดับบน ก็ชอบทาน มีประเทศญี่ปุ่น มาติดต่อให้ส่ง ทางเรายังไม่กล้าส่ง เพราะต้องการสร้าง ตลาดล่าง ให้เข้มแข็ง ให้แน่น วิกฤตของไทย ก็คือ วิธีคิดของ เกษตรกร และ กระบวนการจัดการ จึงสร้างที่นี่ เพื่อเป็นรูปแบบ ในการจัดการก่อน

ถาม. ปรับแนวคิดและทิฏฐิของเกษตรกรอย่างไร?
ตอบ. ผมถือว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ เพราะถ้าไม่มาปรับแนวคิดวิธีคิด ไม่มีทางที่เกษตรกรจะ เลี้ยงตัวเองได้ แต่เราต้องมีตัวอย่างให้เขาเห็น อันดับแรก เกษตรกรต้องปรับ วิธีคิดก่อน และชี้ให้เห็น การรวมตัวกัน ก่อเกิดประโยชน์อะไร

ทุกวันนี้เกษตรกรมีอุปาทานที่ไม่เข้าใจเรื่องศาสนา จึงไม่เชื่อเรื่องของผลกรรม ก็ต้องมาชี้ โทษให้เขาเห็น เมื่อเขาคิดว่า เขาเป็นลูกจ้าง เขาก็ต้องอู้งาน เพราะมันไม่ใช่งานของเขา ทางเราจึงใช้วิธี การจัดอบรม คุณธรรมแทรกด้วย ขณะเดียวกัน ก็บอกเกษตรกรว่า ถ้าคุณทำได้ดี ในเรื่องกสิกรรมไร้สารพิษ ทางเรา รับซื้อหมด ความรู้สึกของเขา ก็จะต่างออกไป ความคิดเขา ก็จะต่างออกไป และภายในกลุ่ม ก็จะมีการ ควบคุมดูแลเรื่อง คุณภาพหรือ QC (Quality control) กันตลอด ให้มีการปรับปรุง ตลอด ๓ เดือน แล้วทางเราก็มี ประกาศนียบัตรให้ เพื่อสร้าง กสิกรอาชีพ

เราต้องปรับวิธีคิด และจุดประกาย ให้กสิกร เพราะกสิกรทุกวันนี้ ทำกสิกรรมแบบแทงหวย ไม่รู้ว่า จะขายได้หรือไม่ แต่ที่วังน้ำเขียว กสิกรเขาจะรู้ว่า เขาขายได้เท่าไหร่ เพราะราคาบอกกันว่า คุณภาพเท่านี้ ราคาเท่านี้ เพราะสินค้าเกษตร เป็นสินค้าที่เกิดจาก สำนึกจากจิตวิญญาณ

วิกฤตของโลกมี ๒ อย่าง คือ เรื่องอาหาร และยารักษาโรค วิธีคิดว่าเราทำอย่างไร จะเป็นแหล่งอาหาร และสร้างต้นทุน ทุนที่ไม่ใช่เงิน ทางเราจึงปรับให้เขามอง ให้เห็นทุน ทางธรรมชาติ ทุนทางสังคม มนุษย์สามรถ สร้างธรรมชาติขึ้นมาได้ เมื่อธรรมชาติสมดุล ต้นทุนก็ลดลง

ถาม. เล็งทิศทางออกสู่ตลาดต่างประเทศหรือไม่คะ?
ตอบ. คือทางกลุ่มสหกรณ์ของเรา ได้ติดต่อกับกลุ่มดัชมิลล์กรุ๊ป ซึ่งเขาผลิตนมและโยเกิร์ต เขาจะปรับ เปลี่ยนทิศทาง หันมาใช้นมถั่วเหลือง และมีแนวคิด ที่จะสนับสนุน ส่งเสริมเกษตรกรที่ วังน้ำเขียว ให้มาปลูก ถั่วเหลือง ดัชมิลล์กรุ๊ป เขามีเทคโนโลยี มีการบริหารการตลาดที่กว้าง เขาจะมาทำนมถั่วเหลือง นมข้าวโพด

ส่วนประสบการณ์ด้านกสิกรรม การทำสวนผักก็ประมาณ ๑ ไร่ พืชไร่ประมาณ ๕ ไร่ ที่เหลือ ก็ควรจะเป็นป่า ซึ่งในหลวงท่าน ดำริว่า ป่าต้องเป็นป่า ๓ อย่าง
๑.ป่ากินได้
๒.ป่าไว้เป็นพลังงาน
๓.ป่าไว้ใช้สอยสร้างบ้านสร้างเมือง

และให้เกษตรมีความคิดที่กว้างขึ้น ด้วยคำขวัญ ๕ คือ
๑. เก่ง (หัดเปิดหูเปิดตาเรียนรู้สังคม )
๒. กว้าง (มองให้ลึกให้รอบ)
๓. มองไกล
๔. กล้า
๕. แกร่ง (แกร่งทางใจ สามารถทนต่อ อุปสรรคต่างๆได้) เหล่านี้ที่ทางกลุ่มได้ทำ ได้เน้นเกษตรกรที่มาดูงาน และมาอบรม เพื่อให้เข้าใจ

ในการแก้วิกฤตของประเทศนั้น ต้องเริ่มจากการพึ่งตนเอง ในเศรษฐกิจพอเพียง เมื่อกสิกร พออยู่พอกิน ชุมชนสังคม ย่อมเข้มแข็ง ประชาชนในชาติ ย่อมแข็งแรง สภาพเศรษฐกิจโดยรวม ของประเทศ ก็จะหาย จากภาวะวิกฤต ท่านผู้อ่านคะ หากท่านต้องการเป็นบุคคลผู้หนึ่ง ในการแก้วิกฤต ของประเทศไม่ยากค่ะ เพียงท่านหันมาใส่ใจ ในเรื่องการรับประทาน พืชผักผลไม้ ที่ไม่มีสารเคมี ซึ่งนอกจาก จะทำให้สุขภาพ ของท่านดี ไม่เจ็บป่วยง่ายแล้ว ยังช่วยกอบกู้วิกฤตชาติ และสานฝันกู้ดินฟ้าอีกด้วย


(สารอโศก อันดับที่ ๒๔๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๕)