หน้าแรก >[09] การสื่อสาร > การเผยแพร่ธรรมะ >สารอโศก

จากโลกีย์ถึงโลกุตระ
ชื่อเดิม น.ส.สมหมาย ตั้งจิตสมคิด
ชื่อใหม่ น.ส.เพ็ญเพียรธรรม สิ้นป่าโลกีย์
เกิด ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๐๖
พี่น้อง มีพี่น้อง ๑๙ คน เป็นคนที่ ๑๘ (พ่อเดียวกัน แม่ ๓ คน)
ภูมิลำเนา อ.บางมูลนาก จ.พิจิตร
การศึกษา พยาบาลวิชาชีพและผดุงครรภ์ โรงเรียนพยาบาล โรงพยาบาลมิชชั่น กรุงเทพฯ , วิทยาศาสตร์บัณฑิต (พยาบาลสาธารณสุข) คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล , เกือบจบปริญญาโทสุขศึกษา และ พฤติกรรมศาสตร์ คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัย มหิดล (ไม่ได้ทำวิทยานิพนธ์)
อาชีพเดิม พยาบาลวิชาชีพ

ปี  ๒๕๒๓ ได้พบและกราบ สมณะชาวอโศก ที่ไปกิจนิมนต์ บ้านญาติธรรม ที่แถวบ้าน อ.บางมูลนาก ประทับใจ สมณสารูป ของนักบวช ชาวอโศกที่เคร่งครัด แจ่มใส

ต่อมาได้อ่านหนังสือแสงสูญ ที่ห้องสมุดโรงเรียน  ประทับใจแนวคิดจากหนังสือว่า ยังมีผู้คิดดีๆ อย่างนี้อยู่ในสังคมนี้ น่าคบ น่ารู้จัก

ปี  ๒๕๒๔ มาพุทธสถานสันติอโศก วันงานบูชาอาสาฬหบูชา ไม่พบใคร ได้รับการบอกให้ไปร่วมงานที่ ม.รามคำแหง ประทับใจ "คน" ชาวอโศก เมื่อได้พบเห็น สงบ เย็น พูดดี ทำงานเก่ง

ความเปลี่ยนแปลงหลังจากพบชาวอโศก เป็นน้องคนเล็ก ชอบเรียกร้อง ใช้บริการจากพี่ๆ ด้วยเข้าใจว่า เป็นหน้าที่ ของพี่ที่ต้องบริการน้อง  เมื่อได้รู้จักชาวอโศก  ฝึกหัดรับผิดชอบตัวเองมากขึ้น โดยเฉพาะ เรื่องของตัวเอง เช่น  ซักรีดผ้า ทำอาหารกินเอง ซ่อมแซมของใช้ส่วนตัว ติดต่อเรื่องเรียน  เรื่องงาน ด้วยตนเอง  โดยมีพี่ๆ ให้คำปรึกษา ไม่กลัว ไม่สร้างปมด้อยให้ตัวเอง  ต้องการสิ่งใด จะขวนขวายทำ เพื่อให้ได้มา จนบางเรื่องกลายเป็น เชื่อมั่นตัวเองเกินไป

ประวัติการทำงาน เป็นพยาบาลวิชาชีพ  ในโรงพยาบาลเอกชน ๒ แห่ง เป็นเวลา ๑๐ ปี เมื่อครบปีที่ ๑๐ (ปี ๒๕๓๙)  จึงลาออก มาอยู่ข้างวัด (พุทธสถานสันติอโศก) ช่วยงานต่างๆ ในวัดไปเรื่อยๆ  ไม่ เจาะจงงานใดงานหนึ่ง ปี ๒๕๔๑ (วันเข้าพรรษา) จึงเข้ามาอยู่ในวัด ดูแลด้าน ศาลาสุขภาพ เป็นหลัก จนถึงปัจจุบัน

ปัญหาและอุปสรรค ในการทำงาน มักเกิดจากตัวเอง ในช่วงไม่ค่อยมีงานทำ คือการคิดเอาเอง โดยคาดเดาเหตุการณ์ หรือคิดแทนคนอื่น นึกเข้าใจไปเอง ทำให้ทุกข์ฟรี

แนวทางแก้ไข พูดคุยกับเพื่อน หรือผู้รู้ ที่มีทิศทาง ชี้ให้เราได้ แก้ไขตัวเอง ไม่ใช่ไป จัดการคนอื่น พอเปลี่ยนมุมมอง บรรยากาศก็คลี่คลาย

ข้อปฏิบัติที่คิดว่ายากที่สุด การทำความขวนขวาย สร้างสรร "บุญ" อย่างต่อเนื่อง

คติประจำใจ เราไม่อยู่ในฐานะที่จะไปสั่งสอนใครๆ ดูแลอบรมตนเองด้วยศีลให้ได้มากขณะ ที่สุดก็พอแล้ว

เป้าหมายชีวิต  เอา"ขยะ" (สิ่งไม่จำเป็นสำหรับชีวิต) ออกไปจากใจ ให้ได้มากที่สุด แม้จบชีวิตนี้แล้ว เกิดใหม่ ก็ตั้งใจ ทำต่ออีก เพราะทำได้ไม่ง่ายเลย

ข้อคิดข้อฝาก การได้เกิดมาพบกัน   นับเป็นบุญวาสนา   ยิ่งได้มาพบพุทธศาสนา   ที่มีธรรมฤทธิ์อย่างนี้ นับเป็นบุญ มหาศาล กุศลโลกุตระ ไม่มีใครทำให้ใครได้ นอกจากเจ้าของเอง ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม ตามฐานะแห่งตน เป็นสิ่งที่ ต้องเรียนรู้ และปรับตลอดเวลา

(สารอโศก อันดับที่ ๒๔๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๕)