หน้าแรก >[09] การสื่อสาร > การเผยแพร่ธรรมะ >สารอโศก

จดหมายจากญาติธรรม

สุขใจได้ช่วยเหลือ
กระผมต้องขอบพระคุณทางสมาคมฯด้วย ที่กรุณาส่งหนังสือดอกหญ้ามาให้เป็นประจำ ทำให้กระผม ได้รู้แจ้ง เห็นจริง ในความสุข ที่แท้จริง ไม่ใช่สิ่งจอมปลอม ที่สังคมปัจจุบัน เขาพึงกระทำกัน เป็นประจำ จนเชื่อว่า สิ่งเหล่านั้น เป็นสิ่งจำเป็น สำหรับชีวิต ของเขาไปแล้ว สำหรับผม ก็ยังคงปฏิบัติธรรม ตามที่ตัวเอง ได้ตั้งใจไว้ อย่างต่อเนื่อง จะพยายามทำ ให้ดียิ่งกว่าเก่า

วันนี้ผมไม่มีคดีที่ศาล ก็มาเจอชาวบ้าน พร้อมกับลูกอายุ ๖ ปี เอาถั่วฝักยาว และมะเขือเทศ มาขอแลก ซื้อผ้าเก่า ที่ไม่ได้ใช้ ผมได้สอบถามหลายๆ อย่างก็รู้สึกเห็นใจ และเข้าใจ ในสภาพความเป็นอยู่ จึงได้ค้นหา เสื้อผ้า ให้ไป ๑ ลัง พร้อมทั่งให้ ดื่มน้ำเย็น นมให้เด็ก แล้วให้น้ำเย็นเจี๊ยบ กับแก้ว ๑ ใบ ไปดื่มกินกลางทาง ซึ่งเขาก็ขอบใจมาก และ ให้ผัก กับมะเขือเทศ ซึ่งผมเอง ก็ไม่อยากได้อะไรมาก เอามาก็ไม่ได้ใช้ จึงเอาแต่ ถั่วฝักยาวไว้ ๑ มัดเล็ก ไว้จิ้มน้ำพริก เท่านั้น

ในวันนี้ ผมมีความสุข และสบายใจมาก ที่ได้ช่วยเหลือเห็นใจผู้อื่น ที่ทำได้มีจิตใจดีขึ้น ก็เพราะได้อ่าน ฝึกกระทำ ในสิ่งที่ดี เกี่ยวกับธรรมะ ที่ได้อ่านจากหนังสือ ของทางสมาคมฯ และหนังสือธรรมะทั่วๆไป

สุดท้าย ผมขอให้ชาวสมาคมฯ จงมีสุขภาพที่แข็งแรง เพื่อที่จะได้ยืนหยัด และต่อสู้กับสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ในสังคมต่อไป รวมทั้งกระผม ก็ยินดีร่วมด้วย แม้จะเป็นเพียง ส่วนร่วมน้อยนิดก็ตาม

ประภาส พิเชษฐโสภณ / จ.ศรีสะเกษ

ธรรมะเข้าถึงจิต จิตก็ผ่องใส ใจก็เมตตา ส่งผลสู่พฤติกรรมเอื้อเฟื้อต่อผู้อื่น แล้วก็จะได้รับความสุข ทั้งผู้ให้และผู้รับ บ.ก.

ปริมาณ และคุณภาพ
สารอโศก และดอกหญ้า ได้รับแล้ว ด้วยความขอบพระคุณเป็นอย่างสูง เพื่อประหยัดรายจ่าย ควรจะส่งมา พร้อมกัน อย่างนี้ จะดีมาก

คนไทยสมัยนี้ นับถือศาสนาแต่เพียงเปลือกและกระพี้ ยังไม่ถึงแก่นศาสนา ทำบุญสุนทานแต่น้อย แต่ปรารถนา อยากได้มาก เช่น ทำบุญ ๑๐๐ บาท แต่ปรารถนาให้ได้เงินล้าน ซึ่งไม่สมดุลกันเลย และคน ส่วนมาก ชอบทำบุญ อย่างเดียว แต่กุศล ไม่เอาไหนเลย

พระสมัยนี้ส่วนมากมีแต่บอกให้คนบริจาค แต่ตัวเองเก็บฝากธนาคารไว้ อันตรายของพระมี ๓ ส คือ สตรี สตางค์ สังฆเภท แต่ที่สำคัญที่สุด คือสตางค์ พระแทบทุกรูป ต้องอาบัติทั้งนั้น ถึงแม้ว่า จะให้คนอื่น เก็บไว้ให้ แต่ใจยังยินดี ในเงินอยู่

ส่วนสตรีรองลงมา ก่อนที่พระพุทธเจ้าจะปรินิพพาน พระอานนท์ได้กราบทูลถามเรื่อง ที่จะปฏิบัติ กับผู้หญิง พระองค์ตรัสว่า ไม่เห็นเสียเลยดีกว่า ถ้าจำเป็นที่จะเห็นก็อย่าพูด ถ้าจะพูดก็ให้มีสติ เรื่องการรักษาศีล เห็นมีแต่ สมณะอโศกเท่านั้น ที่ปฏิบัติได้เคร่งมาก เป็นอธิศีลเลย

และการคัดคนที่จะมาบวช ก็เป็นเกณฑ์ที่ดีมาก ต้องผ่านขั้นตอนต่างๆ จึงจะบวชได้ เน้นที่คุณภาพ ไม่ต้องการ ปริมาณ ซึ่งปริมาณนั้น ไม่มีประโยชน์อะไร

ทอง กุยแก้ว / จ.อุดรธานี

ปริมาณก็มีประโยชน์มาก หากปริมาณนั้นมีคุณภาพจริง เพราะหากมีคุณภาพ แต่ไม่มีปริมาณเลย เป็นได้ แค่คนเดียว ไม่อาจเพิ่มใคร อื่นใดได้เลย ศาสนาก็คงไม่เกิดขึ้นในโลก / บ.ก.

เสียงแห่งความดี
รู้สึกชื่นชมและยินดีว่า ในสังคมปัจจุบันนี้ ที่สังคมเต็มไปด้วยอบายมุข และพวกที่บ้าวัตถุนิยม กันเต็มบ้าน เต็มเมือง แต่ก็ยังมี ชุมชนชาวอโศก เป็นสังคมที่กล้า เดินทวนกระแส บริโภคนิยมเหล่านั้น เป็นสังคม ที่สงบสุข เป็นสังคม ที่ผู้คน มีจิตใจสูง จิตใจที่ประเสริฐ

ตอนได้อ่านแค่เพียงหนังสือ ก็ไม่ค่อยทึ่งเท่าไหร่ แต่พอมีโอกาสได้ไปเยี่ยมชมที่บ้านราชฯ ไปพักอยู่ เกือบอาทิตย์ จึงทำให้ เกิดความทึ่ง เกิดความชื่นชม มากขึ้นเป็นทวีคูณ เหมือนกับไปอยู่ ในโลกอีกโลกหนึ่ง เป็นโลกของ พระศรีอาริย์ ผู้คนยิ้มแย้ม แจ่มใสให้กัน เจอกันทักทาย ทำความเคารพกัน เด็กๆมีความเคารพ ต่อผู้หลักผู้ใหญ่ อยากให้สังคมไทย ทั้งประเทศ เป็นแบบสังคม ของชาวอโศก จะทำให้เรา ไม่ต้องเป็นหนี้ IMF ไม่ต้องมีข่าว ฆ่าฟันกัน ข่าวพระมั่วสีกา ข่าวพ่อข่มขืนลูก ฯลฯ

แต่น่าเสียดายที่ชุมชนดีๆมีสาระอย่างชุมชนชาวอโศก ไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก ของสังคมภายนอก หรือ สังคมส่วนใหญ่ กันมากเท่าไหร่ แต่ก็รู้สึกว่า ตอนนี้ชุมชนชาวอโศก กำลังเป็นที่รู้จัก ของคนวงนอก กว้างขวาง ออกไปเรื่อยๆ

อาตมาเชื่อว่า สิ่งที่ดีจริงๆ เสียงแห่งความดีจะค่อยๆ แผ่ขยายออกไปเรื่อยๆ และเสียงของความดี จะดังได้นาน ดังได้ทนกว่า เสียงอื่นใด ทั้งสิ้น

ตอนนี้อาตมาก็พยายามฝึกหัดตนเองอยู่ เพราะรู้ตัวว่า ตัวเองก็ยังมีกิเลสอยู่ พยายามมองดู ด้านในตนเอง อยู่เสมอ พยายามศึกษา ดูตัวอย่าง จากชีวิต และ ประวัติการต่อสู้ ของหลวงพ่อโพธิรักษ์ พยายาม ทำความเข้าใจว่า ท่านเป็น ผู้ที่มีจิตใจ ที่สูงพอสมควร ที่สามารถ ต่อสู้กับสิ่งที่มาคอย กระทบมากมาย ในอดีต ถ้าคนที่มีจิตใจไม่สูง และ ไม่เข้มแข็งจริง คงจะทำไม่ได้ เช่นนี้หรอก ท่านทำงาน เพื่อสังคมจริงๆ ทำงานเพื่อ ความสูญจริงๆ แต่ผลที่ได้รับ ในตอนแรกๆ เป็นเสียงที่หาว่า นอกคอกบ้าง ว่าเดียรถีย์บ้าง แต่พอระยะ เวลาผ่านไป ความดี ก็ได้พิสูจน์ ให้สังคม ได้ประจักษ์แล้วว่า ท่านเป็นผู้ที่มี จิตใจสูงเช่นไร บุคคลเช่นนี้ อาตมาว่า หาได้ยาก และหาได้น้อยมาก ในสังคมของเรา ในปัจจุบันนี้

แต่สังคมไทยเราก็แปลก คนที่ดีจริงๆ กลับมองไม่ค่อยเห็นคุณค่ากัน แต่คนที่ทำดีเอาหน้า มีหน้ามีตา ในสังคมหน่อย ก็พากันชื่นชม พากันมอบรางวัลกัน ให้อย่างเอิกเกริก เช่น ดาราเก็บขยะนิดหน่อย ก็ให้รางวัลกันยกใหญ่ หรือ พระเถระผู้ใหญ่ บางท่านเรี่ยไร เงินญาติโยม มาสร้างศาลา หลังใหญ่ๆ หน่อย สังคมก็ยกย่อง เชิดชู เสียใหญ่โต

สิ่งเหล่านี้ ก็ล้วนเป็นสิ่งดีเหมือนกัน ไม่ใช่ไม่ดี แต่ทำไมเวลาหลวงพ่อโพธิรักษ์ ท่านทำงาน เพื่อสังคม มาเกือบ ตลอดชีวิต กลับไม่เห็นสังคม ให้การยกย่อง เชิดชูมากมายอะไรเลย คิดๆมันก็น่าน้อยใจ เหมือนกันนะ

แต่อาตมาก็ยังเชื่ออยู่ว่า ในสังคมนี้ ก็ยังมีคนที่ดีๆ ที่เห็นชอบกับหลวงพ่อโพธิรักษ์ และ ชาวอโศกอยู่เยอะ เหมือนกัน อย่างน้อย ก็อาตมารูปหนึ่งละ

หนังสือที่ทางอโศกส่งมา ก็เป็นประโยชน์มาก อาตมาอ่านเสร็จ ก็ให้พระรูปอื่นๆ ภายในวัดยืมไปอ่านด้วย ตอนนี้ พระในวัด ที่อาตมาอยู่ หลายๆรูป เริ่มรู้จัก และเข้าใจชาวอโศก ดีขึ้นกว่าเมื่อก่อน เพราะเมื่อก่อน เขาได้ยิน ได้ฟัง จากสื่อ ที่เป็นข่าว และคำบอกเล่า ของคนนอก ที่ไม่เคยสัมผัส และคลุกคลี กับชาวอโศก เลย ทำให้อาจเข้าใจ ชาวอโศก คลาดเคลื่อนไปบ้าง

ตอนนี้ถ้าอาตมามีโอกาสได้พูดคุยกับพระใหม่ หรือพระรูปอื่นๆ ภายในวัด ก็จะคอยอธิบาย ให้เขาเข้าใจ ตามความ เป็นจริง มากขึ้น และ ให้หนังสือสารอโศก กับดอกหญ้า ให้นำไปอ่าน

ขอยินดีในความเข้มแข็ง และหาญกล้า ทวนกระแสวัตถุนิยม ของชุมชนชาวอโศก ทุกๆท่าน

พระถนอมศักดิ์ ถีรธัมโม / จ.นนทบุรี

แม้คนใบ้ทำความดี เสียงแห่งความดีก็ยังขจรขจายไป ฉะนั้น หากทำดีให้จริง ทำดีให้มากๆ จะกลัวไปไยว่า เสียงแห่งความดี จะไม่กู่ร้องให้โลกรับรู้เล่า เพียงแต่ต้องระวัง ทำดีอย่าหวังสรรเสริญ ก็แล้วกัน / บ.ก.

ตายแล้วเกิดใหม่
ชีวิตเปลี่ยนไปมาก เมื่อได้อ่านนิตยสารทั้งสองฉบับ แรกๆ ก็ยังไม่แน่ใจเท่าไหร่ว่า จะทำได้ในเรื่องเลิกเหล้า บุหรี่ แต่เมื่อค่อยๆ ลองลด ละเลิก ทีละน้อย จนกระทั่งเดี๋ยวนี้ เลิกได้ทั้งสองอย่าง เด็ดขาดแล้ว และ จะเลิกต่อไป จนกว่าชีวิต จะหาไม่ เพราะแรงบันดาลใจ ที่ได้อ่านดอกหญ้า และ สารอโศก เปรียบเสมือน มีเทพที่ศักดิ์สิทธิ์ เสด็จลงมา เป็นกำลังใจ ให้ข้าพเจ้า ปฏิบัติได้

ทุกวันนี้ ข้าพเจ้ามีความสุขตามอัตภาพ กับลูกสองคน หญิงหนึ่ง ชายหนึ่ง พร้อมภรรยา โดยการค้าขาย ของชำ ภายในหมู่บ้าน หลังจากที่เดินทาง กลับจากการไปขายแรงงาน ยังต่างประเทศ

เหตุที่ไม่ร่ำรวย ดังใครอื่นเขา เพราะข้าพเจ้า ยังตัดกิเลส อบายมุขไม่ได้ ในช่วงที่ไปทำงาน จนกระทั่ง มีเพื่อน ร่วมงานคนหนึ่ง อยู่ที่จังหวัด หนองบัวลำภู ได้แนะนำ ให้ข้าพเจ้า อ่านดอกหญ้า ที่ภรรยา เขาส่งไปให้อ่าน ถึงประเทศลิเบีย ทีแรก ข้าพเจ้าอ่านดู ก็รู้สึกเฉยๆ คิดว่าคงปฏิบัติตามได้ยาก เพราะข้าพเจ้า ดื่มเหล้า มาเป็น เวลานาน เป็นสิบๆปี คงจะเลิกยาก พอได้อ่านดอกหญ้า หลายๆฉบับเข้า ข้าพเจ้าก็ค่อยๆรู้ซึ้ง ถึงหลักธรรม ตามที่ พ่อท่าน สั่งสอน

ยอมรับว่านิตยสารทุกฉบับ ของชาวคณะผู้จัดทำ ดีด้วยคุณภาพ และคำสอน ที่หาค่าเปรียบมิได้ เดี๋ยวนี้ ข้าพเจ้า เปรียบเสมือน ตายแล้วเกิดใหม่ ถึงจะไม่ร่ำรวย เหมือนใครอื่นเขา ก็ขออยู่แบบสมถะ รักและ ช่วยเหลือ เพื่อนมนุษย์ ด้วยกัน ตามกำลัง ที่เราพอจะช่วยได้ รู้สึกว่าจิตใจ เป็นสุขขึ้น ร่างกายก็สบาย ตามไปด้วย

ขอให้นิตยสาร ของชาวอโศก จงอยู่คู่กับความดีตลอดไป ข้าพเจ้าศรัทธามากจริงๆ และจะขอ เป็นสมาชิก ตลอดไป

ชวลิต แพ่งศรีสาร / จ.อุดรธานี

ที่จริงทุกคนตายแล้วก็มักจะเกิดใหม่ แต่ส่วนใหญ่มักจะฆ่าความดี แล้วเกิดความชั่วใหม่ๆ อยู่เสมอ จึงเป็นบุคคล ที่หาได้ยาก ในโลกนี้ ที่จะฆ่าความชั่วในตัวเรา แล้วทำให้เกิด ความดีงามขึ้นใหม่ สาธุ! สำหรับผู้มี จิตใจเข้มแข็ง บ.ก.

ลองใหม่อีกครั้ง
ปกติเป็นคนไม่ค่อยมีเวลา เป็นส่วนตัวเท่าไรนัก จึงไม่มีเวลาอ่าน และตอบความคิดเห็น จากการอ่านหนังสือ ชีวิตค่อนข้างยุ่ง วุ่นวาย (เมื่อก่อนนี้) แต่ตอนนี้ หันมาอ่านหนังสือ และศึกษาฝึกทาง สงบจิตใจ หาวิธีผ่อนคลาย ความเครียด หลายๆทาง แต่ไม่เคร่งครัดมาก เคยทานมังสวิรัติ และชีวจิต อยู่ประมาณ ๒-๓ เดือน ร่างกายผอม ไม่มีแรง เพราะต้องอดนอน ทำงานบ้าน เลี้ยงดูบุตร กลางวันทำงานบริษัท ค่อนข้าง เครียด เกี่ยวกับบัญชี เพื่อนร่วมงาน และ ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ทำให้ต้องเปลี่ยน มารับประทาน อาหาร ตามปกติ ใช้ชีวิต เหมือนคนทั่วไป แต่หันมาใช้วิธี สงบอารมณ์ร้อน ด้วยหลักธรรม จะรู้ตัวเองว่า ใจเย็นขึ้น คิดมากขึ้น พูดน้อยลง ไม่โกรธง่าย รู้จักให้อภัย ยอมรับบางสิ่งบางอย่าง ที่เลวร้าย กับตัวเองได้

- ทำบุญมากขึ้น ทำทานบ่อยๆ เมื่อโอกาสอำนวย

- ให้ความช่วยเหลือผู้อื่น โดยไม่หวังผล

- รู้สึกว่า ผลที่ได้รับตอบแทนจากการเปลี่ยนแนวคิดใหม่นี้ ทำให้ครอบครัว มีฐานะดีขึ้น มีความสงบสุขทางจิตใจ อย่างบอกไม่ถูก รู้สึกดี ที่ได้ปฏิบัติตนเช่นนี้

นางชริน โหรชัยยะ

ที่แท้แล้ว การกินมังสวิรัติ และชีวจิต เป็นการรักษาสุขภาพร่างกายให้สมบูรณ์แข็งแรง แต่ถ้าหากเรา ไม่ฝึกฝน หรือ ไม่กินให้ถูกวิธี ก็ทำให้เสื่อมคุณภาพได้ ตอนนี้คุณชริน จิตใจสงบสุขขึ้นแล้ว หากเป็นไปได้ น่าจะลองดูใหม่ อีกสักครั้ง บ.ก.

หลุดพ้นวังวน
กระผมป่วย ต้องหยุดทำงาน (ขายของตามตลาดนัด) มาเป็นเวลาเกือบสิบเดือนแล้ว ป่วยปวดหลัง ปวดเอวอย่างมาก ยกของไม่ได้เลย แม้ร่างกายจะป่วย กระผมก็พยายามปฏิบัติธรรม จึงทำให้ความทุกข์ ทางใจ ไม่ปรากฏ ให้คนนอก เห็นเลย คนข้างบ้านจะรู้ ก็ตอนไปหาหมอเท่านั้น กระผมทำใจ ไม่ให้ป่วย ตามกายไปด้วย

สำหรับหนังสือกระผมอ่านทุกเรื่อง บางเรื่องอ่านซ้ำถึง ๕ ครั้ง ซื้อหนังสือ และ เท็ปของธรรมทัศน์ เท็ปซื้อ และ ยืมจากร้าน ครัวเพื่อนสุขภาพ ของอาจารย์ภาณุ พิทักษ์เผ่า

สำหรับข้อปฏิบัติของกระผมที่ทำได้ และบางอย่างทำมานานก่อนรู้จักอโศก เช่น

๑.กระผมนอนกับพื้นใช้เสื่อปู หรือผ้าปูมานาน ๓๐ กว่าปีแล้ว

๒.ทานข้าวสองมื้อ มาประมาณ ๑๒ ปี

๓.เวลาอาบน้ำ ก็จะถูสบู่ หากจะออกนอกบ้านไปพบปะผู้คน ถ้าอยู่บ้าน จะไม่ใช้สบู่

๔.ไม่เคยดื่มเหล้า หรือดื่มยาบำรุงขวดเล็ก ที่โฆษณาขายกันมาก และจะไม่ดื่มจนตลอดชีวิต เบียร์ และ ของมึนเมา อื่นๆ ก็ไม่ดื่มเลย

๕.ไม่เคยสูบบุหรี่ และจะไม่สูบตลอดชีวิต

๖.เลิกดื่มน้ำขวด น้ำอัดลมทุกยี่ห้อ มาประมาณ ๘ ปี

๗.เลิกดื่มน้ำชา กาแฟ นม โดยดื่มนมถั่วเหลือง น้ำข้าวกล้องแทน

๘.น้ำสมุนไพร ดื่มแทนน้ำชา

๙.พยายามทานมังสวิรัติเท่าที่มีโอกาส โดยปกติจะทานอาหารชีวจิต มาประมาณ ๗-๘ ปีแล้ว

๑๐.กระผมกล้าพูดว่า ไม่เข้าบาร์ ไม่เข้าร้านอาหารที่มีนักร้องมาเลยตลอดชีวิตนี้ และทุกวันนี้ หนังใน โทรทัศน์ ผมก็ไม่ดู เมื่อก่อนชอบดู ฟุตบอล ปัจจุบัน เลิกได้เด็ดขาด

ชีวิตกระผมคงมีเวรกรรมเก่ามาก จึงทำให้ชาตินี้ เกิดมาใช้กรรมมากที่สุดคนหนึ่ง เริ่มตั้งแต่เกิดมา ไม่มีพ่อแม่ คอยเลี้ยงดู เหมือนคนอื่น (แม่เสียเมื่อคลอดได้ ๒-๓ เดือน พ่อไปแต่งงานใหม่อยู่ต่างจังหวัด) กระผมเป็นคน มีโรคประจำตัว ตั้งแต่เกิด คือโรคภูมิแพ้ แพ้อากาศ แพ้อาหารบางอย่าง แม้กระทั่ง กลิ่นบางกลิ่นก็แพ้ จึงมีชีวิต ที่ทุกข์ทรมาน มาตลอด ทำให้กระผม สนใจธรรมะ

ชีวิตกระผมพบกับความผิดหวัง และความหมดหวังมาตั้งแต่เกิด จึงทำให้มองโลก อย่างระแวง มองคน อย่าง ระมัดระวัง มาตลอด แต่การปฏิบัติศึกษาธรรมะ ทำให้มีชีวิตรอด อยู่ในกองทุกข์ กองกามมา จนทุกวันนี้ คิดว่าทำใจ ให้ทนต่อ ความทุกข์ได้ จนไม่ยึดมั่นถือมั่น ในความสุข และความทุกข์ได้ พอสมควร แม้ร่างกาย จะได้รับ ทุกขเวทนา แต่ใจก็พยายาม รู้เท่าทัน พยายามให้สงบ ละวางโลกธรรม จนกว่าจะหลุดพ้นได้จริงๆ

เปลี่ยน ขุนจางวาง / จ.สตูล

ทุกคนเกิดมาแล้ว ต้องพบทุกข์ จะมากน้อยแล้วแต่ผลกรรมที่ทำไว้ แต่คนที่จะพ้นทุกข์ได้จริง มีน้อยนัก เพราะมักจะ หาทางออก จากทุกข์ไม่เจอ ส่วนใหญ่ยังหลงวน อยู่กับทุกข์ตั้งแต่เด็ก จนถึงวันตาย เพราะติดอยู่ใน วังวนของ ลาภ-ยศ-สรรเสริญ-สุข / บ.ก.

ปลื้มบุญ
ข้าพเจ้าขอขอบพระคุณทางสมาคมฯ ที่กรุณาจัดส่งหนังสือสารอโศก และดอกบัวน้อยมาให้ ข้าพเจ้า ได้รับประโยชน์ ในการอ่าน ได้ลดละ อารมณ์โกรธ และ ทำจิตใจ ให้เย็น ลดละน้ำอัดลม และ ของจุบจิบ ไม่ฆ่ามด และยุง ไม่กินเนื้อสัตว์ ไม่กินน้ำแข็ง และไม่แต่งหน้า ทาแป้ง ลิฟสติกก็ไม่ทา เสื้อผ้า ก็จะไม่ค่อยแต่ง นอกจาก จะไปงาน จะแต่งให้ดู เรียบร้อยหน่อย

ไม่เล่นหวย และไม่ไปดูหมอดู ไม่หาคนทรง เชื่อในกรรม ไม่ดูทีวี และไม่ซื้อหนังสือจำพวกบันเทิง รู้จักปล่อยวาง มีเหตุผลขึ้นเยอะ สันโดษมากขึ้น

ฟังรายการวิทยุท่านจันทร์ และท่านเสียงศีลเป็นประจำ จะสวดมนต์ทุกวัน จะไม่นอนกลางวัน ไม่ชอบทำผม จะตัดทรง ธรรมดา ไม่ไปร้านเสริมสวย ชอบอ่านหนังสือธรรมะ และไม่ไปเดินตามห้าง

วรรณา รุมรัตนะ / จ.อยุธยา

แค่ฟังผลรายงานถึง... การลดละกิเลสได้หลายสิ่งหลายอย่าง ก็อดพลอยปลื้มบุญไปด้วยไม่ได้ สาธุ! คนที่ทำจริง ย่อมจะได้ของจริง คนที่ทำเล่น ก็จะได้เล่นๆ คนที่ไม่ทำ ก็จะไม่ได้อะไรเลย บ.ก.

(สารอโศก อันดับที่ ๒๔๖ มีนาคม ๒๕๔๕)