การประชุมผู้อำนวยการพรรคการเมือง
ครั้งที่ ๓/๒๕๔๕
จัดโดย....
คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) และพรรคเพื่อฟ้าดิน
วันศุกร์ที่ ๗ มิถุนายน ๒๕๔๕ ณ ชุมชนสันติอโศก
คณะกรรมการการเลือกตั้ง
(กกต.) เป็นหน่วยงาน ที่มีหน้าที่ ดูแลพรรคการเมือง ในประเทศไทย มีความมุ่งหวัง
ให้พรรคการเมืองต่างๆ ได้มีความรู้ ความเข้าใจ ในการดำเนินกิจการ ทางการเมือง
ตามพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วย พรรคการเมือง พ.ศ.๒๕๔๑ รวมทั้งสร้าง
ความสัมพันธ์อันดี และแลกเปลี่ยน ประสบการณ์ ซึ่งกันและกัน จึงจัดให้มี การประชุม
ผู้อำนวยการ พรรคการเมือง ทั่วประเทศไทย โดยเปิดโอกาสให้ พรรคต่างๆ ได้หมุนเวียนกัน
เป็นเจ้าภาพ จัดงานประชุม ทุก ๓ เดือน
พรรคเพื่อฟ้าดินได้รับมติจากที่ประชุม
ให้เป็นเจ้าภาพ จัดการประชุมผู้อำนวยการพรรค ครั้งที่ ๓/๒๕๔๕ ในวันศุกร์ที่
๗ มิถุนายน ๒๕๔๕ แต่เดิมมักจะจัดกัน ในโรงแรมต่างๆ
แต่งานนี้ พรรคเพื่อฟ้าดิน เลือกใช้ ชุมชนสันติอโศก เป็นสถานที่จัดประชุม
ซึ่งก็ได้รับเสียงตอบรับ จากผู้เข้าร่วมประชุมว่า บรรยากาศ
เป็นธรรมชาติ และแปลกใหม่ แตกต่างจากที่ผ่านๆ มา
เวลา ๗.๓๐ น. ผู้อำนวยการพรรคต่างๆ
เดินทางมาถึงสถานที่ประชุม ได้รับการต้อนรับ จากกรรมการ บริหารพรรค คณะกรรมการสาขาต่างๆ
สมาชิกและชาวชุมชน ช่วยแนะนำ สถานที่ในชุมชน หลังจากลงทะเบียน รับเท็ปและหนังสือ
เป็นของที่ระลึกแล้ว ก็รอเวลาเข้าประชุม ระหว่างนี้คุณสุรศักดิ์
หมื่นนาอาน นายทะเบียนพรรคเพื่อฟ้าดิน ซึ่งทำหน้าที่ เป็นโฆษกในงานนี้
ก็พูดคุย บอกเล่าความเป็นมา ของพรรค และกฎระเบียบต่างๆ ในการดำเนินงานการเมือง
จนถึงเวลา ๐๙.๐๐ น. เรือตรีแซมดิน เลิศบุศย์ รองเลขาธิการพรรค
กล่าวต้อนรับ และเล่าวิถีชีวิต ของชาวชุมชนว่า
ดำเนินชีวิตด้วย ระบบสาธารณโภคี เกื้อกูลสัมพันธ์กัน ระหว่างวัด-บ้าน-โรงเรียน
จากนั้น นักเรียนสัมมาสิกขาสันติอโศกและศีรษะอโศกร่วมร้องเพลง
"คนสร้างชาติ" ต้อนรับ ผู้เข้าร่วม ประชุม และ นางสาวขวัญดิน
สิงห์คำ หัวหน้าพรรคเพื่อฟ้าดิน กล่าวต้อนรับ และเล่าความเป็นมา อุดมการณ์
และการดำเนินการต่างๆ ของพรรคเพื่อฟ้าดิน ตามคำขวัญ
"เศรษฐกิจพึ่งตน ชุมชนเข้มแข็ง ประชามีธรรม ประเทศมีไท"
ต่อมา พลเอกศิรินทร์
ธูปกล่ำ ประธานกรรมการการเลือกตั้ง กล่าวเปิดงาน
"การประชุมผู้อำนวยการพรรคการเมือง เจตนาให้พรรคต่างๆ หมุนเวียนกันจัด
เพื่อให้ได้เรียนรู้ ซึ่งกันและกัน เข้าใจกัน การไม่เข้าใจกัน ก่อให้เกิดความแตกแยกได้
เราจะร่วมมือกัน ช่วยเหลือกัน ทำให้พรรคการเมือง ในประเทศไทย มีความเข้มแข็ง
ประชาธิปไตยยั่งยืน สาขาพรรค จะเป็นผู้ที่ใกล้ชิดประชาชน ควรมีบทบาท ในการเลือกตัวแทน
ของตนไปทำงาน การดำเนินการต่างๆ ประชาชน น่าจะมีส่วนร่วมรับรู้ ร่วมมือกัน
เมื่อประชาชนเข้มแข็ง สาขาต่างๆ เข้มแข็ง พรรคการเมืองเข้มแข็ง ประเทศชาติก็มั่นคง
พัฒนาไปได้ดี เจ้าหน้าที่พรรคต่างๆ ควรเรียนรู้กฎหมาย ของพรรคการเมือง ให้มากขึ้น
และควรมีบทบาท ในการให้ความรู้ แก่ประชาชนให้มากด้วย"
ต่อจากนั้น
"พ่อท่านสมณะโพธิรักษ์" แสดงธรรมในหัวข้อ "ทำอย่างไรการเมืองจึงจะมีธรรมะ"
"การเมือง ไม่ได้ตัดขาด จากมนุษยชาติ ไม่ว่าจะอยู่ในฐานะใดๆ
เด็ก หนุ่มสาว คนแก่ พระ แต่
นักการเมือง แยกธรรมะ ออกจากการเมือง โดยการออกกฎหมายมากันไว้ นักบวช หรือนักการศาสนา
ศึกษาธรรมะ สร้างคนให้มีธรรมะ คนที่มีธรรมะโดยแท้จริง จะเป็นผู้ที่เสียสละ
หลายคนทิ้งศาสนา เพราะเบื่อ ไม่ชอบใจศาสนา ไม่เห็นว่าศาสนา จะช่วยอะไรตนได้
โดยจริงทุกคนต้องพยายาม มีธรรมะให้ได้ มนุษย์เป็นผู้เลือกสรร ศาสนาด้วยสมอง
ปัญญา ศาสนาเป็นความเชื่อถือ ศรัทธา ปัญญา
การเมือง จะมีธรรมะได้
ผู้บริหารหรือนักการเมืองต้องมีธรรมะ หากประชาชนมีธรรมะ
มีคุณธรรม ก็ยิ่งมีอำนาจมาก ศาสนาพุทธสอนให้คนมักน้อย สันโดษ กล้าจน คนกล้าจน
เป็นคนประเสริฐ ความรวยทำให้คนฟุ้งเฟ้อ เป็นความเลวร้าย คิดแต่จะเอา การทำลายเกิดขึ้นมาก
เพราะไม่สันโดษ
การศึกษาปัจจุบัน แยกจากสังคม
ไปเรียนอยู่ในกล่อง-กรอบ ไม่ได้สัมผัสศึกษาสังคม และ สิ่งแวดล้อมจริงๆ
สัมผัสเพียงผิวเผิน จึงไม่รับรู้สังคมจริงๆ เป็นเพียงความนึกคิดเอา การเรียนที่ถูกควรอยู่ในชุมชน
สังคมของตน มีความสัมพันธ์กัน ระหว่างคนในวัยต่างๆ ช่องว่างระหว่างวัยไม่มี
ทุกอย่างสัมพันธ์
สอดคล้อง และดำเนินกันไปด้วยดี"
หลังจากนั้น พลตำรวจโทวาสนา
เพิ่มลาภ คณะกรรมการการเลือกตั้ง พูดคุยกับผู้เข้าร่วมประชุม
"ขอให้พรรคการเมือง ดำเนินกิจการต่างๆ ให้เป็นไปตามระเบียบกฎหมาย กกต.
ไม่อยาก ที่จะดำเนินการ ทางกฎหมาย กับทุกพรรค แต่ถ้าทำผิด เราก็ต้องดำเนินการ
เพราะมันเป็นหน้าที่ของ กกต. ที่จะต้อง ตรวจสอบ ให้พรรคการเมืองต่างๆ ทำให้ถูกต้อง
ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง การแจ้งบัญชีทรัพย์สิน การแจ้งบัญชี ค่าใช้จ่าย พนักงานในสำนักงาน
ควรเรียนรู้เรื่อง กฎหมายพรรคการเมือง ให้ชัดเจน และอยากให้ทุกพรรค พยายามให้การศึกษา
และปลุกจิตสำนึก ให้ประชาชนรู้ว่า เขามีความสำคัญอย่างไร"
จากนั้น พักรับประทานอาหารว่าง
หลากหลายแบบบุฟเฟ่ต์ อาหารมากมายในงานนี้ ได้รับความร่วมมือ จากสมาชิก และชาวชุมชน
หลังจากนั้น จึงเริ่มการประชุม พิจารณาข้อเสนอ และงานต่างๆ โดย
ผู้อำนวยการพรรค เพื่อฟ้าดิน และคณะกรรมการ การเลือกตั้ง เป็นผู้ดำเนินการประชุม
เวลา ๑๒.๐๐ น. ปิดการประชุม
ผู้เข้าประชุมร่วมรับประทานอาหารมังสวิรัติ ซึ่งมีมากมายหลากหลาย ระหว่างทานอาหาร
ก็ชมการแสดง จากนักเรียนสัมมาสิกขาสันติอโศก และ โปงลางวัฒนธรรมอีสาน จากนักเรียน
สัมมาสิกขาศีรษะอโศก ซึ่งเป็นการแสดงที่คึกคัก มีชีวิตชีวา สื่อถึงองค์กร
และความสัมพันธ์ ในชุมชน การดำเนินชีวิตในชุมชนและ ๓ อาชีพกู้ชาติ ปิดการแสดงด้วยการมอบ
ผลผลิตจากกสิกรรม ไร้สารพิษ ทั้งแตงโมลูกโต เงาะ และผลิตภัณฑ์ ของชาวชุมชน
เป็นของฝาก ให้ผู้เข้าร่วมประชุมทุกคน และ งานประชุม ผู้อำนวยการพรรคการเมือง
ก็จบลงด้วยบรรยากาศที่อบอุ่น
ผู้เข้าร่วมประชุมจากพรรคการเมืองต่างๆประมาณ
๔๐ พรรคจากทั้งหมด ๔๘ พรรคการเมือง ในประเทศไทย เจ้าหน้าที่กรรมการ การเลือกตั้ง
ประมาณ ๒๐ ท่าน ได้สัมผัสถึง บรรยากาศแปลกใหม่ ทั้งนี้ก็โดย
ความร่วมมือกัน ของทุกๆ ฝ่าย ทั้งกรรมการการเลือกตั้ง กรรมการพรรคเพื่อฟ้าดิน
สมาชิกพรรค และ ชาวชุมชนหลายๆ แห่ง
- สู่เสรี
-
(สารอโศก
อันดับที่ ๒๔๘ พฤษภาคม ๒๕๔๕)
|