หน้าแรก>สารอโศก


'ผู้ไม่ตกเป็นทาสของกามตัณหา ย่อมอยู่ผาสุก'


กามตัณหา คือความปรารถนาที่เกิดขึ้นภายในใจ โดยมีอวิชชา เป็นตัวขับดัน ให้เกิดการแสวงหา อันไม่จบสิ้น

รูป-รส-กลิ่น-เสียง-สัมผัส -อารมณ์ทั้งปวงอันก่อความพึงพอใจ เหล่านี้ล้วนเป็นกามตัณหาในชีวิตคนเรา การแสวงหามาได้สมใจ ก็เป็นสุขชั่วคราว สุขอย่างโลกีย์ ได้เสพสมปรารถนา แม้มิได้สมใจ ให้ก่อทุกข์ ภายในอก

เพราะดวงใจตกเป็นทาสกามตัณหา ชีวิตจึงมิอาจหลุดพ้นวัฏฏสงสาร

เราต้องได้สมใจจึงเป็นสุข แต่หากไม่สมใจ เป็นเกิดทุกข์ทันที...นี่เป็นเรื่องน่าเศร้า เพราะโลกนี้ ไม่มีใคร ได้สมใจ ปรารถนาไปเสียทุกอย่าง ความไม่เที่ยงเป็น อมตะสัจจะ เป็นบาทฐานของสรรพสิ่ง ชีวิตเรา แปรเปลี่ยนทุกขณะ บ้างสมหวัง บ้างผิดหวัง เป็นธรรมดา จะเอาแน่ไม่ได้ เหมือนสายลม ที่พร้อม จะเปลี่ยนทิศ ได้ทุกเมื่อ

หากยึดมั่นว่าต้องได้สมสุข ทุกข์ก็เป็นสภาพที่เรามิอาจเลี่ยงพ้น

เราจะพ้นจากการตกเป็นทาสของกามตัณหาได้อย่างไร?

อยู่เหนือใจตนให้ได้....อย่าปล่อยชีวิตไหลไปกับความเคยชิน หลงระเริงโลกียารมณ์ ฝึกที่จะอยู่เหนือใจตน ไม่ทำอะไร ไปตามความอยาก อันเป็นกิเลสกามตัณหา....ฝืนให้เป็นปรกติวิสัย เริ่มแรก อาจยากหน่อย ให้เราอดทนทุ่มโถมเข้าไว้ ขอเพียงเอาจริง คนเราทำได้ทุกอย่าง แล้วนานวันเข้า เราจะไม่ต้องฝืน อยู่เหนือ ความอยากได้ อย่างเบาสบาย ในที่สุด

อยู่เหนือโลกให้ได้....อย่าหลงให้โลกมันหลอกเรา

กี่ภพชาติแล้วที่เราเกิดมาโง่งม...รูปอย่างนี้จึงว่าสวย รสอย่างนี้จึงว่าอร่อย เสียงอย่างนี้จึงว่า ไพเราะ สัมผัสอย่างนี้ ถึงจะดี อารมณ์เช่นว่านี้พึงมีพึงได้ เหล่านี้ล้วนเป็นสภาพมายา ที่โลกปรุงแต่ง มาหลอกเรา ให้หลงใหลใฝ่หา ปั้นอารมณ์ขึ้นมาเสพด้วยอวิชชา เข้าใจว่าเป็นสุขของชีวิต ความสุขสุดประเสริฐแท้จริง มิได้อยู่ตรงนี้...

แม้มิได้รูปงดงามตามโลกสมมติ เราก็มีสุขได้....เพียงทำความงาม ให้เกิดขึ้นภายใน งามที่ใจ งามด้วย ความดี งามด้วยคุณธรรมจรรยา งามด้วยกิริยามารยาท เป็นความงามที่ถาวร ไม่เสื่อมสลาย แม้กาลเวลา ผ่านเลย

แม้มิได้ลิ้มรสอร่อยตามโลกสมมุติ เราก็มีสุขได้....ด้วยการเข้าถึงรสแห่งสัจจะ เป็นรสแห่งความเรียบง่าย เป็นรสแห่งความเบาสบาย เป็นรสแห่งธรรม เป็นรสแห่งวิมุติสุข ที่สุขยิ่งกว่ารสใดๆ ในสากล

แม้มิได้สูดกลิ่นอันหอมหวนยวนใจ เราก็มีสุขได้...เพียงได้กลิ่นแห่งความดี เป็นกลิ่นบริสุทธิ์ ศีลอันเรารักษา ไว้ดีแล้ว เป็นกลิ่นของบุญกุศล ที่เราได้ให้ทาน และเสียสละ เป็นกลิ่นของ ความเพียรพยายาม เดินทาง ไปสู่การหลุดพ้น

แม้มิได้ฟังเสียง อันไพเราะ ตามโลกสมมุติ เราก็มีสุขได้...ด้วยการได้ฟังเสียง ของวิญญาณ ที่สงบจาก การโหยหา ทะยานอยาก ได้ฟังเสียงแห่งความปีติยินดี ที่ดังกังวานอยู่ภายในความรู้สึก อย่างสงบเย็น

แม้มิได้สัมผัส อันรัดรึงใจ ตามโลกสมมติ เราก็มีสุขได้.... ด้วยสัมผัสของความมักน้อย สันโดษ สัมผัส ของชีวิต เรียบง่าย สมถะ สัมผัสของใจที่รู้จักหยุด รู้จักพอ รู้จักผ่อนพัก สัมผัสของวิถีทาง ที่ไม่มีการแก่งแย่ง แข่งขัน

แม้มิได้อารมณ์สุข ตามโลกสมมุติ เราก็มีสุขได้.... ด้วยสุขจากใจ ที่ไร้ตัณหา สุขจากการเดินทาง ไปสู่ ความหลุดพ้น สุขจากวิมุติ อันเป็นนิรันดร์

* แม่น้ำลักขิตะ *

(สารอโศก อันดับที่ ๒๔๙ มิถุนายน ๒๕๔๕)