หน้าแรก>สารอโศก

แถลง จะเข้าพรรษาอย่างไรให้อบอุ่น

ไม่น่าเชื่อว่าชีวิตคนโสดพอมาอยู่วัด หลายๆคนกลายเป็นนักปฏิบัติธรรม ที่ขาดความอบอุ่น อาจเป็น เพราะว่า กว่าจะออกจากโลก มาอยู่วัดได้ ต้องใช้พลังงาน ผลักดันที่รุนแรง เหมือนยานอวกาศ ที่พุ่งตัว ออกนอกโลก ประมาณนั้น

บางคนขาดความอบอุ่น เพราะมีแต่เรียกร้องให้คนอื่นเข้าใจตัวเอง ทั้งๆที่เจ้าตัว ก็ยังไม่ค่อยจะเข้าใจ ตัวเอง เท่าใดนัก เมื่อหาคนเข้าใจไม่ได้ ก็พาลไม่อยากไปยุ่งกับใคร (จริงๆแล้วใครๆเขาไม่กล้ามายุ่ง กับตัวเองต่างหาก) เมื่อกลายเป็น คนโดดเดี่ยวที่น่าหลบ จึงไม่ได้คบคุ้น หรือ ร่วมสังเคราะห์ ความคิด กับใครๆ จึงไม่เกิดสัมมาทิฐิ เพราะขาดองค์ประกอบของ ปรโตโฆสะ (ฟังเสียงผู้อื่น) และ โยนิโสมนสิการ (การเพิ่มสมอง ด้วยการเก็บเอามุมมอง ของผู้อื่นมาใคร่ครวญอยู่เสมอ)

บางคนขาดความอบอุ่นเพราะแจกจ่ายความอบอุ่นออกมากไป เลยทำให้มีความอบอุ่น อยู่หลายแบบ มีทั้งแบบ มุ้งเล็ก แบบมุ้งใหญ่ กางไว้อยู่หลายๆมุ้ง ทั้งๆที่ต้องการเป็นคน มีหมู่หลาย แต่ใครอยากพิเศษ ก็ต้องเข้ามา อยู่ในมุ้งของตัวเอง แม้จะรักธรรมชาติ รักแผ่นดิน รักผืนน้ำ แต่ไม่รักระบบระเบียบ เพราะถนัด ที่จะใช้อัตโนมัติ ตามอำเภอใจเป็นใหญ่ จึงไม่สามารถสร้างความอบอุ่น ที่เป็นหมู่กลุ่ม เพราะเป็นหมู่ กูที่อยู่ในหมู่กลุ่ม

บางคนขาดความอบอุ่น เพราะให้ความสำคัญกับตัวเองมากไป เมื่อใครไม่ให้ค่าให้ความสำคัญ กับความคิด ความอ่าน หรือ ผลงานของตัวเอง ก็เลยกลายเป็นคน ขาดความอบอุ่น

บางคนขาดความอบอุ่น เพราะดูดเอาสารพิษจากชีวิตของคนอื่น มามากไป ไม่ว่าพูดหรือคิด ก็มีแต่จับผิด เพ่งโทส แต่คนอื่น น่าเสียดายที่ยังไม่มี เครื่องขับสารพิษ ทางจิตวิญญาณ ก็เลยต้องปล่อย ให้เพลิดเพลิน เจริญใจไปกับ ความผิดพลาด บกพร่องของผู้อื่น ซึ่งมีมากมาย ดุจดังเม็ดทราย ในมหาสุมทร

เคยมีครั้งหนึ่งที่หลวงตาได้ฟังนานาสารพัดทุกข์ของคนวัดแล้ว หลวงตาเลยเล่า ประสบการณ์ชีวิต ของท่าน ให้ฟังกันว่า นับตั้งแต่ที่ท่านได้เข้ามาอยู่วัด ท่านมีแต่ความสุข มากขึ้นๆทุกวัน พวกเราหูผึ่ง เพราะอยาก จะรู้ว่า หลวงตามีทีเด็ดอะไร ที่ทำให้ชีวิตที่อยู่ในวัด มีแต่ความสุขเพิ่มขึ้นๆ

สุดท้ายทุกคนอ๋อไปตามกัน เมื่อหลวงตาบอกว่า ในอดีตที่ผ่านมาชีวิตของท่านต้อง สาหัส สากรรจ์ ลำบาก นักหนา กับการทำมาหากิน การดูแลทรัพย์สมบัติ เหมือนคนต้องแบกภูเขา เอาไว้ตลอดเวลา เมื่อปลดปล่อย ปลงวาง ภูเขาลงได้ จึง สบม.ธมด.ปกต.หห. มาจนถึงทุกวันนี้

หลวงตาจึงมีแต่ความอบอุ่นแจกจ่ายให้กับทุกๆคนด้วยหลัก "สาราณียธรรม" อันได้แก่ การระลึกถึงกัน การรักกัน การเคารพกัน การเกื้อกูลช่วยเหลือกัน การไม่วิวาทกัน การพร้อมเพรียงกัน และ การเป็นน้ำหนึ่ง ใจเดียวกัน ซึ่งสาราณียธรรมนี้ จะตรงกันข้ามกับ ศาลาหนีประจำ เมื่อเอา "กู" เป็นใหญ่ ส่วนกู ก็จะสำคัญกว่า ส่วนกลาง ก็จะไม่อยากเข้าร่วมประชุม ไม่อยากเข้าศาลา เพราะความสำคัญของ "ตัวกู-ของกู" เหนือสิ่งใดๆ

ถ้าจะถามว่า เข้าพรรษาอย่างไรให้อบอุ่น ถ้าแต่ละคนลดความสำคัญ ของตัวตนมาให้ หมู่กลุ่ม เป็นใหญ่ เห็นความสำคัญ ของส่วนกลาง มากกว่าส่วนกู ช่วยกันขวนขวาย ในการลงศาลาร่วมกัน รับประทาน อาหารร่วมกัน มาประชุมพร้อมกัน ออกมาทำงานช่วยกัน ตามหลักของ สาราณียธรรม

เมื่อเรามีทั้งพิธีกรรม กิจกรรม และกิจวัตรอยู่ร่วมรวมกันอย่างอบอุ่น เบิกบานเช่นนี้ ย่อมเป็นไป เพื่อความพ้นทุกข์ โดยแท้

คณะผู้จัดทำ

(สารอโศก อันดับที่ ๒๔๙ มิถุนายน ๒๕๔๕)