นักโทษประหาร
ผมถูกพิพากษาประหารชีวิต
! ตั้งแต่เดือนเมษายน พ.ศ.๒๔๖๗ โทษฐานเกิดมา(กวน)เป็นคน
ขณะนี้ ยังไม่ถึงคราวประหาร
เนื่องด้วยได้รับความกรุณาจากพญามัจจุราช ผ่อนผันให้อยู่ในช่วง "คุมประพฤติ"
เพื่อไว้ต่อรองกับวิธีการประหาร.....เวลา.....สถานที่ จะเป็นที่ไหน? เวลาไหน?
ประหารด้วย วิธีใด? โหดเหี้ยมหรือว่านิ่มนวลนั้น ขึ้นอยู่กับความประพฤติ-พฤติกรรมของเรา
ซึ่งพนักงาน เจ้าหน้าที่คุมประพฤติ
จะคอยสอดส่องดูแลและติดตามอยู่ตลอดเวลา รอบด้าน ไม่ว่าเราจะอยู่
ในที่ลับ ที่แจ้ง ผู้คุมประพฤติจะรู้เห็นทุกขณะ แล้วก็คอยรายงานให้พญามัจจุราชได้รับทราบเป็นระยะไป
ถ้าเรากระทำกรรมเลวร้าย
ก็จะได้รับการประหารอย่างโหดเหี้ยมและเร็ววัน แต่ถ้าเรากระทำแต่ความดี ก็จะได้รับ
การผ่อนผันให้อยู่ต่อไป อีกยาวนาน แล้วแต่พฤติกรรมนั้นๆ
ครั้งหนึ่ง เมื่อได้รับผ่อนผันมาได้เกือบ
๖๐ ปี ผมประพฤติตัวเลวมากมาตลอด เพราะหลงมัวเมา อำนาจ ของกิเลส ประพฤติตัวเบ็ดเตล็ดเสเพล
เป็นนักเลงผู้หญิง นักเลงสุรา ยาเสพติด ของมึนเมา หลายชนิด ชอบใจคนพาล จนถึงตั้งบ่อน
ตั้งบ้อง(กัญชา)ในบ้าน ไว้บริการพวกเสเพล ทั้งหลายแหล่ เหล่านั้น ให้ได้ผ่อน
คลายอารมณ์ สนุกสนาน ตามกิเลสต้องการ ทั้งตัวเองด้วย
บางครั้งมีโอกาสไปเร่ขายยาบนดอย
มักจะมียาแก้ปวดชนิดผงไปด้วย เพราะขายดี ชาวดอย ชอบเอาไปคลุก กับฝิ่นสูบเสพ
เราเลยลองเสพกับเขาด้วย ชักติดใจ เพราะเมื่อเสพแล้วสบาย ชื่นใจ แต่ไม่ถึงขั้นติดยา
เพราะไม่ค่อย มีโอกาสไปดอยบ่อยนัก แต่ไปครั้งใด ก็เสพทุกครั้ง
พอแก่ตัวเข้า ยมทูตมาเยือน
พญามัจจุราชเกือบจะประหาร ด้วยวิธีการทำลายปอด กระเพาะถึงกับ ถ่ายเป็นเลือด
ไอเป็นเลือด ดีว่าเรามาเจอธรรมะ
ลดละเลิกสิ่งเลวร้ายต่างๆนั้นได้ ได้รับการเยียวยา รักษาตัว จนพ้นการทรมาน
แสนสาหัส จากโรคภัยนั้น นานถึง ๑๘ เดือน จึงหายจากโรค
หันมาประพฤติกลับตัวเป็นคนดี
จนได้รับการผ่อนผัน จากมัจจุราช อยู่ต่อมาจนบัดนี้ ๗๘ ปีแล้ว
ถ้าเรา ประพฤติตัว ดีขึ้นกว่านี้อีก คงจะได้การผ่อนผัน ให้อยู่ยาวถึง ๑๐๐
ปี ก็อาจเป็นได้
ฉะนั้น ผมจะพยายามทำความดีให้มากขึ้น
มากขึ้นเท่าที่มีความสามารถ บริหารร่างกายและจิตวิญญาณ ให้มีพลังสูงส่ง ด้วยศีลธรรม
คุณธรรมให้ยิ่งๆขึ้นไป ไว้ต่อรองกับพญามัจจุราช จะได้พ้นจากอำนาจ ของกิเลส
ที่เป็นเหตุแห่งความทุกข์ทรมาน กับการเกิดมา เป็นนักโทษประหาร จะมั่นคงในความดี
ตามคำสั่งสอน ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะไม่มีเส้นทางทางไหนอีกแล้ว
ตายแล้วเกิดใหม่ ก็จะขอเดิน บนเส้นทางสายนี้ อีกทุกชาติไป จนกว่าจะหลุดพ้นวังวน
แห่งวัฏฏะความทุกข์ได้
หมู่กลุ่มญาติธรรมทุกคนที่มีโอกาสดีกว่าผม
จงขวนขวายหาความดีให้ได้มากๆ ถ้าเรามีความดีถึงขั้นแล้ว
พญามัจจุราช ไม่ได้ใจร้าย กับผู้มีความดี ท่านคงผ่อนผัน ให้อยู่ในโลกนี้
จนถึงร้อยปีเป็นแน่ ไม่ว่าชาตินี้ และชาติไหน จนกว่าเราจะหลุดพ้น
จากอำนาจของกิเลส ความทุกข์ และความตาย
ด้วยรักและห่วงใยนักโทษประหารทุกคน....
- น.ช.แก้วมูล เภตรา -
(สารอโศก
อันดับที่ ๑๔๙ มิถุนายน ๒๕๔๕)
|