ใต้ร่มอโศก
กรกฎาคม ๒๕๔๕
ธารน้ำใจ
บนเส้นทางไม่รู้จบ
ยาวเหยียดเป็นนิรันดร
อาจสามารถกำหนดจุดเริ่มต้น
ตรงนี้แหละที่เราจะฝึกฝน ขัดเกลาตน
ทรมานกิเลสวันละนิด วันละน้อยก็ยังดี
หากเป็นการรบ
ต้องปั่นหัวกิเลสอย่าให้มันพัก
จู่โจมแบบทัพใหญ่
โจมตีแบบกองโจร
ทำสงครามจิตวิทยากับมัน
การตั้ง"ตบะ" หัดฝืนใจตน
จึงเป็นการรบ "เชิงรุก" มิใช่"ตั้งรับ"
การตั้ง"ตบะ" ไม่ตามใจตัวเอง
จึงเป็นได้ทั้ง"เป้าหมาย" และ "เครื่องมือ"
เพราะเมื่อถึงระดับหนึ่ง
เราจะจัดการกับกิเลสซึ่งๆหน้าไม่ได้
ต้องอาศัยลูกกระทบ พาสะท้อน
เป็นกระสุนวิถีโค้งอันมหัศจรรย์
มาระดมตั้งตบะกันเถอะ
ปล่อยให้กิเลสหัวเราะสักพัก
เมื่อวานเราแทงด้านหน้า มันยังไม่ตาย
แต่วันข้างหน้ามันจะตายจากอาวุธด้านข้าง !
โปรดเตือนตนให้มั่น
ปลาเป็นย่อมว่ายทวนน้ำ
มีแต่ปลาตายเท่านั้นที่ลอยตามน้ำ
บำเพ็ญ "ทานบารมี"
อันยั่งยืน
ญาติธรรมที่กินน้อยใช้น้อย ชีวิตไม่มีภาระอะไรต้องรับผิดชอบ
ญาติธรรม ที่พอมีเวลา อาทิตย์ละวันสองวัน
ขอเชิญมาเป็น "พนักงาน" มาเป็น "อาสาสมัคร"
แบ่งเบางาน พาณิชย์บุญนิยม ของชาวอโศก
ภายใต้"ประโยชน์ตน" พ่อท่านหากิจกรรม"ประโยชน์ท่าน"
ให้พวกเราได้ฝึกฝน
และใน"ประโยชน์ท่าน"ก็เป็น "เครื่องมือ" ฝึกปฏิบัติลดละกิเลสด้วย
"ปฏิบัติจริง"
โปรดสำนึกไว้เสมอว่า "ทำงานคนเดียว ไม่มีโอกาสชำระล้างจิตใจ"
ใจวันนี้ที่สงบ นิ่ง ว่าง มันเป็นแค่ "เสือหลับ"
เท่านั้นเอง
และหากยังไม่บรรลุ ก็ถือว่าเราได้สั่งสมทานบารมีไปในตัว
หว่านล้อมโฆษณาชวนเชื่อขนาดนี้ ยังไม่สนใจก็เกินไปละ !! จุ๊ย์ๆๆ
ชมรมตบะหรรษา
เพราะเหตุที่เอาชนะตัวเอง ต้องมีรูปธรรมเด่นชัด
เพราะเหตุที่กิเลสบางตัวต้องอาศัยเครื่องมือล้วงลึกเข้าไปทำลาย....
ตบะจึงเป็นสิ่งสำคัญ ดังข้อความที่ว่า "ไฟเผาขยะ ตบะเผากิเลส"
และหรือ "ปฏิบัติธรรมไร้ตบะ ก็เหมือน พระไร้จีวร !"
กติกาของชมรม มีดังนี้
๑. ตั้งตบะไม่ต่ำกว่า ๒ ข้อ และไม่เกิน ๓ ข้อ
๒. ระยะเวลาของตบะที่ตั้งไว้ แต่ละข้อ ควรกำหนดอย่างน้อย ๑ เดือน
๓. ทำผิดตบะแต่ละข้อ เสียเงินครั้งละ ๕ บาท
ออกพรรษา นำเงินมารวมกัน ทำบุญสร้างวิหารพันปี ถวายพ่อท่าน!
ใครที่ยังไม่เริ่ม ยังไม่สายเกินไป เริ่มกันวันนี้เลย จุ๊ย์ๆๆๆ
เคล็ดลับการตัดมานะทิฏฐิ
พระธรรมรักษ์ สิงห์ทอง (อ.นครไทย จ.พิษณุโลก)
ท่านชื่นชมชาวอโศกดังนี้
"ผมชอบรูปแบบที่มีระบบงานที่ร่วมแรงกาย ร่วมจิตใจกันทำงาน
งานทุกๆอย่างที่พ่อท่านโพธิรักษ์ จะกระทำ จึงสำเร็จ และมีความประหยัด มีประสิทธิภาพ
และมีความสะอาด เรียบร้อยอีกด้วย ผมคิดว่าพ่อท่าน มีความคิด ที่กว้างไกล
มองกาลไกล และระบบงานครบวงจร เกือบทุกอย่าง งานของพ่อท่าน จึงสำเร็จ สมบูรณ์
อย่างที่เห็นๆกันอยู่ ในปัจจุบันนี้ครับ"
จุดเด่นของชาวอโศก คือการทำงานร่วมกัน
นอกจากจะได้ประโยชน์ท่าน ได้การงานสำเร็จ ประโยชน์ตน ก็มิได้ยิ่งหย่อน ไปกว่ากัน
เนื่องจากการทำงานด้วยกันหลายๆคน ย่อมมีความเห็นที่แตกต่าง ย่อมมี ความขัดแย้ง
เราจะทำใจ ทำกายอย่างไร
ภาษาธรรมะ เขาบอกว่า ได้ฝึกลดตัวลดตน
ตัวกูของกู ภาษาจิตวิทยาเขาบอกว่าเราจะฉลาดทางอารมณ์ มี EQ ที่สูงขึ้น จุ๊ย์ๆๆๆ
ข้อมูลถึงเครือข่ายฝึกอบรมเกษตรกร
จากญาติธรรม กัมพล ภูริวรางคกูล (อ.เมือง จ.พิษณุโลก)
"สร้างคนและสร้างดิน เป็นคำกล่าวที่ถูกต้อง ๑๐๐%
ตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อ ๔ ธ.ค.๒๕๔๐ ใจความว่า
เกษตรกรรมเป็นพื้นฐานที่มีความสำคัญ เป็นระบบเศรษฐกิจ ที่เลี้ยงตัวเอง ให้มีกินมีใช้
ประเทศไทยมีพื้นที่ เหมาะแก่การเกษตร นับแสนไร่ มารวมกันคิด รวมกันทำ รวมกันแก้ไข
แค่พอกินพอใช้ ที่เหลือค่อยขายเห็นจะพอ หมายความว่า ประเทศไทยจะต้องเป็นเกษตร
หรือการแปรรูป เกษตรเท่านั้น จึงจะรอด แต่ต้องเป็นเกษตร ที่ห้ามใช้ปุ๋ยเคมี
ห้ามใช้สารเคมี ฆ่าแมลง ฆ่าหญ้า เพราะจะมีปัญหา ต่อการส่งออก ผลิตภัณฑ์เกษตร
ทุกระดับ คืนธรรมชาติ ที่สมบูรณ์ให้แก่ดิน น้ำ ลม ความวิปริต ด้านความร้อน
จะลดลง สุวรรณภูมิ ก็จะเป็นแหลมทองจริงๆ ของไทย
หัดมาเป็นคนที่ อุดมด้วยวรรณะ
๙ บริโภคแต่พอเพียง ไม่ขาดไม่เกิน กินให้ถูกต้อง ปลอดภัย และพอดี เราจะก็จะรอด
ทุกๆคนไป ทั้งทางเศรษฐกิจ และสุขภาพ ทำให้เป็นก็จะรวย (ไม่มีหนี้สิน) และ
สามารถแข่งกับ นานาประเทศได้ ประเทศคิวบา หันมาทำเกษตร แบบไม่ใช้วัตถุเคมี
ลดการพึ่งพา ทางเกษตร ที่จะใช้น้ำมัน เลิกการใช้อาหารเม็ด สำเร็จรูป ตั้งแต่ปี
๑๙๘๐ ขณะนี้ประสบความสำเร็จ ต้นทุน เกษตรต่ำมาก ไม่ต้องไปงอนง้อ ขายผลผลิต
กับนานาประเทศ..."
แจ้งเพื่อทราบ
จากญาติธรรมสาโรจน์ วราภรณ์ (อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช)
"ตอนนี้ดิฉันกลับไปอยู่บ้าน(จากกทม.)ได้เกือบสี่เดือนแล้ว
ปลูกผักทำสวนครัว มีผักหลายอย่าง ปลูกแบบ ธรรมชาติ ใช้น้ำหมักชีวภาพรด ดีบ้าง
เสียบ้าง แต่ก็ไม่ท้อ จะพยายามปลูกต่อไป ส่วนการปฏิบัติธรรม ก็ยังเคร่งครัดที่ตน
ผ่อนปรนผู้อื่นต่อไปค่ะ...."
สาธุๆ นี่แหละอีกด้านหนึ่ง
ของชีวิตชาวอโศก ปฏิบัติธรรม - พึ่งตน - รักษาสิ่งแวดล้อม จุ๊ย์ๆๆๆ
พลังจากการอ่าน คือพลังอิทธิบาท
!
"อ่านสารอโศก และดอกหญ้าทำให้มีกำลังใจ เกิดปีติ
ได้อ่านการปฏิบัติ กิจกรรมของญาติธรรม แล้วเกิด กำลังใจ บางครั้ง เกิดความท้อแท้
ก็มีกำลังใจดีขึ้น......"
ญาติธรรมวิศาล เดชเดียว
(อ.ไทรงาม จ.กำแพงเพชร) เล่าถึงอานิสงส์จากการอ่านหนังสือ
ใครไม่อ่านเลย ก็เหมือนออกไปรบกับข้าศึก
ด้วยมือเปล่า !
อ่านแล้วจิตใจได้อะไรบ้าง
กรณีคนที่อ่อนแอ จะได้เอาไว้เตือนตน เอาไว้เป็นอนุสติ เป็นอุทาหรณ์
และเกิดธรรมสังเวช
กรณีคนที่เข้มแข็ง เราจะได้เกิดปัตตานุโมทนามัย
เกิดความชื่นชมยินดี รื่นเริง......ฮึกเหิม
การได้อ่านคือเจริญอิทธิบาทโดยแท้
จุ๊ย์ๆๆ
คุณธรรมโพธิสัตว์
"น่าแปลกจริงๆ อ่านสารอโศก ดอกหญ้าบ่อยๆเข้า
เลิกเลี้ยงเป็ด ไก่ได้เอง มดปลวก ก็ไม่อยากฆ่า ไม่อยาก ทำลายเขา ฤดูฝน นกยางมาอาศัย
อยู่ในสวน บริเวณบ้าน ไม่ต่ำกว่า ๒๐๐ ตัว แต่ก็ยังมีคนใจบาป บุกรุกเข้ามา
ยิงนก จนต้องขับไล่ ให้ออกไป เผลอสติ ยิงปืนขับไล่ไป ๑ นัด......."
ญาติธรรมสุกรี ธรรมเจริญ
(อ.หนองหาน จ.อุดรฯ)
เล่าประสบการณ์ชีวิต ฟังดูก็น่าตื่นเต้น
คนดีมีหลายระดับ ระดับสูง ก็จะยิ่งรับผิดชอบ กล้าปกป้องต่อสู้แทนคนอื่น แทนคนอ่อนแอ
ญาติธรรมชาวอโศก การปฏิบัติธรรมที่พัฒนา
ต่อไปจะต้องออกไปช่วยสังคม ช่วยคนที่ด้อยโอกาส ซึ่งเป็นฐาน ของฆราวาส อย่างชาวเรา
อุดมคติแห่งชาวพุทธ ที่เขียนไว้
ประโยชน์ตน ประโยชน์ท่าน จะวิ่งไปพร้อมกัน อย่างแนบแน่น ด้วยประการ ฉะนี้
จุ๊ย์ๆๆ
บุคคลแรกที่เราจะช่วยเหลือ
จากญาติธรรมจินตนา เลิศไพบูลย์ (อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา)
"อ่านเรื่องต.อ. ๒๐๐๒ ดิฉันใช้ยาสมุนไพรชาวอโศกหลายอย่าง
โดยเฉพาะขิงแค็ปซูล เพราะทราบว่า ไม่มีพิษ สามีดิฉัน ใช้เจลกันแดด ของชาวอโศก
รวมทั้งครีมใส่ผมด้วย เป็นของดีราคาถูก ใช้แล้ว แนะนำ ให้หลานใช้บ้าง ก็ติดใจเช่นกัน
ภายหลังเขาก็ไปซื้อเอาเอง ที่ชมร. จตุจักร..."
ในอนาคต อโศกเราจะก้าวล้ำแดนของตัวเอง
ออกไปช่วยสังคมภายนอกในทุกๆเรื่อง
การช่วยสังคมชนบทนั้น
นอกจากจะสอนเกษตรธรรมชาติแล้ว เราจะต้องหาตลาด รองรับสินค้า ของพวกเขาอีกด้วย
เป็นงานของชาวอโศก เป็นงานของบุญนิยม
และ เป็นงานของพรรค เพื่อฟ้าดิน ! จุ๊ย์ๆๆ
ค่าของคนอยู่ที่การมีงานทำ
!
สมาชิกเลขที่ ๒๖๕๓๖๘ ชอบถ้อยคำในหนังสือ จึงเกิดแรงบันดาลใจอีกโข มาอ่านดูซิฮะ
เขาว่าอย่างไร
"ไม่มีประโยชน์ เขาก็ไม่คบ ดีมากครับ อายุย่างเข้า
๗๕ ปี คิดว่าจะพักผ่อน ในบั้นปลายของชีวิต ให้สบาย แต่บทความนี้ ทำให้มีกำลังใจ
กำลังแรง ทำงานได้อย่างสนุก สุขภาพก็ไม่ทรุดมากนัก รู้สึกว่า การทำงาน ทำให้ชีวิต
เพลิดเพลินดี วันๆช่างรวดเร็วเหลือเกิน"
ใช่ยิ่งกว่าใช่ ค่าของคน
อยู่ที่มีการมีงานทำ คนว่างงาน คนไม่มีงานผูกพัน คนนั้น ก็ไม่ได้ฝึกอะไร
คนที่อยู่วัด หากดูความเจริญ
เขาจะต้องมีงานประจำทำ!
เพราะนั่นคือ การเสียสละ
การอยู่ในหมู่กลุ่ม จะมีอะไรประเสริฐไปกว่า
การรับใช้บริการ การแบกภาระ ช่วยเหลือคนอื่น ! จุ๊ย์ๆๆ
คติก่อนจาก
: งานหนักคือดอกไม้งามของชีวิต
- จิ้งจกส์
-คติประจำเดือนนี้
ทำงาน จึงตรวจเห็นมรรคผล
ทำเงิน จึงเห็นความหลงของคน
(สารอโศก
อันดับที่ ๒๕๐ กรกฎาคม ๒๕๔๕)
|