>สารอโศก

รับเพื่อนใหม่ '๔๕
"รามบูชาธรรม"

๒๑ ปีที่แล้ว กลุ่มรามบูชาธรรม ซึ่งเป็นกลุ่มหนุ่มสาวนักศึกษาผู้ปฏิบัติธรรมตามแนวทาง ของชาวอโศก ได้ถือกำเนิด ขึ้นในรั้วมหาวิทยาลัยรามคำแหง กว่าสองทศวรรษที่ผ่านมา มีเรื่องราว หลากหลาย มากมาย ได้เกิดขึ้น บันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์อีกหน้าหนึ่ง ของชาวอโศก

ปัจจุบันนี้มีหลายคนเข้าใจว่า กลุ่มรามบูชาธรรม ได้แยกย้ายสลายตัวกันไปหมดแล้ว ซึ่งตามความเป็นจริง กลุ่มรามบูชาธรรม ก็ยังมีอยู่ไม่ได้หายไปไหน เพียงแต่ไม่ค่อยจะเฟื่องฟูเหมือนยุคก่อนๆ นักศึกษา รามบูชาธรรม ก็ยังมีการรวมตัวกัน มีการถือศีล ปฏิบัติธรรม เรียนหนังสือ พร้อมกับทำกิจกรรม ควบคู่กัน ไปด้วย กิจกรรมแม้จะมีน้อย และซบเซาลงไปกว่าแต่ก่อน แต่หลายคนก็ยังมีพลัง และมีไฟที่จะร่วมกัน สานต่ออุดมการณ์ ของกลุ่มต่อไป.......

รับเพื่อนใหม่ '๔๕ ถือได้ว่า เป็นอีกกิจกรรมหนึ่งของกลุ่ม ที่ได้จัดสืบทอดกันมา ตั้งแต่ยุคแรกๆ จนถึงยุค ปัจจุบันนี้ เป็นกิจกรรมชักชวนเพื่อนๆ นักศึกษาเข้ามาถือศีล ปฏิบัติธรรม มาเรียนรู้วิถีชีวิตที่เรียบง่าย สมถะ เป็นชีวิต ที่ไม่รื่นไหล ไปกับกระแสโลกีย์ และที่สำคัญ อีกประการหนึ่งคือ เป็นการหาทายาท ของกลุ่มด้วย โดยปีนี้ จัดงานขึ้นที่ พุทธสถานสันติอโศก ระหว่างวันที่ ๒๖-๒๘ ก.ค.๒๕๔๕

ศ. ๒๖ ก.ค. -๑๓.๐๐ น. ได้รวมตัวและลงทะเบียนกันที่ม.รามคำแหง โดยมีพี่เลี้ยง ไปรอรับเพื่อนใหม่ที่นั่น ท่ามกลางอากาศ ที่ร้อนอบอ้าว พร้อมกับสถานการณ์ทางการเมือง ที่กำลังร้อนแรง ในมหาวิทยาลัย เกี่ยวกับ การสรรหา อธิการบดี แต่พวกเราก็ยิ้มแย้มแจ่มใส กับมิตรภาพ และความอบอุ่น ที่กำลังจะเกิดขึ้น จนกระทั่ง ถึงเวลา ๑๔.๓๐ น. ก็ได้เดินทางโดยรถเมล์ มายังพุทธสถานสันติอโศก พร้อมกับเพื่อนใหม่ ที่ร่วมทาง มากับเรา ๙ ชีวิตด้วยกัน เป็นชาย ๓ คน และเป็นหญิง ๖ คน

๑๕.๐๐ น. ถึงพุทธสถานสันติอโศก รวมตัวกันบริเวณลานหินนั่ง มีการสลายพฤติกรรม ทำให้แต่ละคน เกิดความคุ้นเคย และสนิทสนมกันมากขึ้น ต่อจากนั้น ตัวแทนชาวชุมชนคือ พี่ฟ้านวล นาวาบุญนิยม ซึ่งเป็นรุ่นพี่ ในกลุ่มรามบูชาธรรม ได้มากล่าวต้อนรับเพื่อนใหม่ ทำให้บรรยากาศอบอุ่นมากขึ้น

๑๖.๔๐ น. ปฐมนิเทศโดย สมณะร้อยดาว ปัญญาวุฑโฒ พร้อมกับนำกล่าวคำปฏิญาณตน ถือศีล ๕ ตลอดระยะเวลา ๓ วันที่เข้าค่ายรับเพื่อนใหม่นี้ หลังจากนั้น ก็ได้แยกย้าย เอาสัมภาระไปเก็บ โดยฝ่ายชาย พักบนโบสถ์ และ ฝ่ายหญิงพักตึกขาว

๑๘.๐๐ น. เริ่มรายการภาคค่ำ "ที่นี่สันติอโศก" เป็นรายการสัมภาษณ์ปฏิบัติกรจากหน่วยงานต่างๆ ของชุมชน ซึ่งได้แก่ คุณแซมดิน เลิศบุศย์ จากบริษัทฟ้าอภัยจำกัด คุณประกายขวัญ ปัญญาพร จากบริษัท พลังบุญจำกัด คุณปีกฟ้า เภาประเสริฐ จากช.ม.ร. คุณปีกรัก ชาวหินฟ้า คุรุจากสัมมาสิกขาสันติอโศก คุณปรเมศน์ ทัศโน นิสิตจากม.วช. และน้องเยาวทัศน์ บุญกล้า จากตัวแทนนักเรียนสัมมาสิกขา สันติอโศก โดยมีสมณะ กล้าตาย ปพโล เป็นผู้ดำเนินรายการ ช่วงท้ายๆของรายการ อบอุ่นไปด้วยชาวชุมชน ที่มาร่วม รายการกัน อย่างคับคั่ง หลังจากนั้น ท่านกล้าตาย ปพโล ได้นำสวดมนต์ และนั่งเจโตสมถะ ก่อนที่จะแยกย้าย กันไปพักผ่อนหลับนอน ด้วยจิตใจที่เงียบสงบ

ส. ๒๗ ก.ค. เวลา ๐๓.๔๕ น.
ทำวัตรเช้า ด้วยรายการ "ที่นี่มีสมณะฯ" ดำเนินรายการโดย สมณะเมืองแก้ว ติสสวโร มีสมณะหม่อน มุทุกันโต ได้เล่าเรื่องราว ชีวิตที่ผ่านอะไรมากมายมาอย่างโชกโชน จนกระทั่งมาเป็นสมณะได้ทุกวันนี้ ทำให้หลายคน ที่ฟังหายง่วง ด้วยลีลาการเทศน์ที่ไม่เหมือนใคร ต่อด้วยสมณะชนะผี ชิตมาโร แต่น่าเสียดาย ที่เวลามีน้อยเกินไป ทำให้ได้ฟังเรื่องราว ชีวิตของสมณะ ได้เพียง ๒ รูปเท่านั้นเอง หลังจากนั้น ก็ใส่บาตรร่วมกัน นับเป็นเช้าวันใหม่ ที่อากาศแจ่มใส จิตใจหลายดวงร้อยรวมประสาน พร้อมกับมิตรภาพ ที่เบ่งบานขึ้นเรื่อยๆ

๐๖.๐๐ น. ออกเดินทางไปสวนสามวา โดยมี สมณะร้อยดาว ร่วมเดินทางไปด้วย ได้ไปเรียนรู้ชีวิตธรรมชาติ มีการทำก้อนเห็ดนางฟ้า แบ่งกลุ่มกันทำอาหาร โดยหาพืชผักที่มีอยู่ในสวนมาประกอบอาหาร และทานข้าว ร่วมกัน แต่ละคนก็จะมีกระทงใบตองสำหรับใส่อาหารและเปิบข้าวด้วยมือกัน ทำให้รู้ว่า ชีวิตที่เรียบง่าย สมถะ ไม่ต้องมีอะไรมากมาย เราก็สามารถมีชีวิตอยู่ได้อย่างมีความสุข ก็ต้องขอขอบคุณ น้องๆ กลุ่มศิษย์เก่าฯ อากวี และน้องๆสัมมาสิกขา ที่ได้ให้ความรู้ เอื้อเฟื้อสถานที่ และช่วยเหลือด้วยดี

๑๓.๐๐ น. เริ่มกิจกรรมต่อที่พุทธสถานสันติอโศก เป็นกิจกรรม Walk rally ไปตามจุดต่างๆของชุมชน ทำให้เพื่อนใหม่ ได้รู้จักชุมชนมากขึ้น ว่ามีอะไรบ้าง และกล้าที่จะเข้าหาชาวชุมชน เพิ่มความสนิทสนม สามัคคีกันมากขึ้น

๑๔.๐๐ น. พบกับสมณะประจำกลุ่ม โดยมีสมณะกล้าจริง ตถภาโว และสมณะชัดแจ้ง วิจักขโณ มาตอบปัญหา กันอย่างสุดๆ คลายความสงสัยกับเพื่อนใหม่ไปได้ทีเดียว

๑๘.๐๐ น. เริ่มรายการภาคค่ำ "ที่นี่ ร.บ.ธ." เป็นการสัมภาษณ์คน ร.บ.ธ. ทั้งรุ่นพี่จบการศึกษาแล้ว และกำลัง ประกอบอาชีพอยู่ข้างนอก อย่างพี่ฟ้าคราม ศิริโชติ รุ่นพี่ที่เป็นคนวัดอย่างพี่ฟ้านวล นาวาบุญนิยม รุ่นพี่ที่เป็นคุรุ อย่างพี่กวี ปริกัมศีล และรุ่นปัจจุบัน ที่กำลังเรียนอยู่ แล้วทำงานแผง ๒๒ ไปด้วย อย่างน้องลัดดา รัตนชัย ดำเนินรายการโดยพี่ใบทิพย์ เฉลยวิจิตร บรรยากาศเต็มไปด้วย ความอบอุ่น สบายๆ เป็นกันเอง และครื้นเครง ไปด้วยเสียงหัวเราะ เพราะลีลาความเป็นตัวเองของพี่กวี

๑๙.๓๐ น. เป็นรายการรับขวัญเพื่อนใหม่ มีการนั่งกันเป็นวงกลมจุดเทียน ตัวแทนรุ่นพี่อ่านบทกวี และพี่ๆ เพื่อนเก่า ได้ประสานพลังเสียง ร้องเพลง "เทียนน้อย" เพื่อเป็นการรับขวัญเพื่อนใหม่

"เทียนหนึ่งถูกจุดที่นี่
เทียนนี้ถูกจุดลุกไสว
เทียนนี้ถูกจุดที่ใจ
เปลวไฟถูกจุดขึ้นมา"

หลังจากนั้นท่านสมณะร้อยดาว ก็ได้เทศน์ให้กำลังใจกับเพื่อนใหม่วัยหนุ่มสาว เพื่อที่จะได้มีพลัง ไปสร้างสรร สังคมกันต่อไป และพานั่งเจโตสมถะ แล้วแยกย้ายกันไปพักผ่อนหลับนอน

อา. ๒๘ ก.ค. ๐๓.๔๕ น. ทำวัตรเช้าด้วยรายการ "ที่นี่มีทางออก" โดยสมณะซาบซึ้ง สิริเตโช ท่านได้ชี้แนะ แนวทาง ซึ่งเป็นทางออกของชีวิต ให้กับหนุ่มสาว ขึ้นอยู่กับว่า ใครจะเลือกเอาทางไหน เป็นทางออก ให้กับชีวิตของตนเอง หลังจากนั้นก็ได้ใส่บาตรร่วมกัน

๐๖.๐๐ น. ออกกำลังกาย โดยแต่ละคนต่างก็มีท่าเด็ดๆของตนเอง มานำเพื่อนออกกำลังกาย หลังจากนั้น ก็แบ่งกลุ่ม เข้าฐานงาน โดยมีฐานโรงครัว ฐานกู้ดินฟ้า หลายคนก็สนุกสนานกับการ เป็นพ่อค้า-แม่ค้า ขายผักผลไม้ โดยจำเป็น

๐๙.๐๐ น. ฟังธรรมจากพ่อท่านสมณะโพธิรักษ์ พ่อท่านได้ให้หลักอธิบายที่ชัดเจนขึ้นว่า อายุจะยืนยาว ต้องทำ ๗ อ. ให้ดี (อิทธิบาท อาหาร อากาศ ออกกำลังกาย อารมณ์ เอนกาย เอาพิษออกจากร่างกาย) โดยเฉพาะ อ.อารมณ์ เป็นสิ่งที่สำคัญมาก เมื่อมาเป็นชาวอโศกแล้ว ก็อย่าโศก อย่าเศร้า อย่าเครียด ต้องเบิกบาน แจ่มใส อยู่ตลอดเวลา เพราะเราเป็นชาวพุทธ ซึ่ง"พุทธะ" แปลว่า ผู้รู้-ผู้ตื่น-ผู้เบิกบาน

๑๓.๐๐ น.เลือกตั้ง ผรช.รุ่นและตั้งชื่อรุ่น ซึ่งผู้ที่ได้รับการเลือกให้เป็นผรช.รุ่นคือ นางสาว พรรณพิลาศ รัตนมณี (เจี๊ยบ) ปัจจุบันเรียนอยู่ คณะเศรษฐศาสตร์ ปี ๑ และทำงานที่แผง ๒๒ มีชื่อรุ่นว่า "รามร่วมบุญ" ซึ่งก็คงจะต้อง ร่วมบุญกันต่อไป เพราะถ้าไม่มีบุญ แต่ละคนก็คงจะไม่ได้มาพบเจอ และอยู่ร่วมกัน

๑๓.๓๐ น. เป็นรายการ"พรก่อนจาก" โดยมีสมณะกล้าจริง ตถภาโว สมณะกล้าตาย ปพโล สิกขมาตุปราณี ธาตุหินฟ้า และสิกขมาตุมาลินี โภคาพันธ์ มาให้พรก่อนจาก และได้มอบของที่ระลึก ให้กับเพื่อนใหม่ แล้วพี่ฟ้านวล นาวาบุญนิยม ซึ่งเป็นตัวแทนชาวชุมชน มากล่าวให้พรแก่น้องๆ ก่อนที่จะจากลากันไป

หลังจากนั้น ก็นั่งล้อมวง เปิดใจเพื่อนใหม่ทีละคน แต่ละคนก็ได้พูดความรู้สึกในใจของตัวเองออกมา

น.ส.พรรพิลาศ รัตนมณี รู้สึกไม่ค่อยตื่นเต้นเท่าไหร่ เพราะจะรู้มาตลอดว่า พี่ๆเขาจะพาทำอะไร พี่เขาจะประชุม เตรียมงานกัน ทุกวันจันทร์ ก็เข้าประชุมด้วย ก็อยากให้เพื่อนๆ มาคบคุ้นกัน มาพบปะกัน ถ้ามีเวลา และถ้าไปรามฯ ก็อย่าลืมไปแผง ๒๒ ด้วย

น.ส.พัชราวลี ชาวดอน(แดง) กิจกรรมที่ทำบางอย่างก็จะคล้ายๆกับกิจกรรมค่ายที่ตัวเองเคยทำมา แต่ที่นี่ จะมีฟังเทศน์ก็รู้สึกดี ตั้งใจตั้งแต่ตอนกรอกใบสมัครแล้วว่า จะมารับเพื่อน พอถึงวัน ก็สองจิตสองใจ เหมือนกัน เพราะ วันที่ ๒๖ เป็นวันที่เขาจะนัดชุมนุม เกี่ยวกับเรื่องการสรรหาอธิการบดี แต่ก็ตัดสินใจ มารับเพื่อน ไว้กลับไปค่อยไปตามข่าวจากเพื่อนอีกทีหนึ่ง อยากให้เพิ่มวันในการรับเพื่อน ให้มากกว่านี้ จะได้สนิทสนมกันมากขึ้น

นายอาจติยะ แสงสัมมา(โหน่ง) ก็รู้สึกดี การรับเพื่อนที่นี่ไม่เหมือนที่อื่น ได้ฟังเทศน์จากสมณะ ทำให้ได้รู้ อะไรดีๆ มากขึ้น เพราะไม่เคยฟัง จะเคยฟังแต่แม่เทศน์

น.ส.บุผา คะสุดใจ (ภา) รู้สึกประทับใจกับบรรยากาศของพี่น้อง รู้สึกดีกับ ๓ วันที่ผ่านมา ทำให้อย่างน้อย เราได้หยุดเบียดเบียน เนื้อหนังร่างกายของสิ่งมีชีวิต ซึ่งก็คือเพื่อนร่วมโลกของเรา ได้รับรู้ วัฒนธรรมใหม่ๆ ของที่นี่ มองชีวิตในอีกแง่มุมหนึ่งชัดเจนขึ้น ความสงบกับความวุ่นวาย อยู่ห่างกันไม่กี่เมตร ตอนนี้ ยังต้องขอเวลา ในการตัดสินใจ ที่จะเดินเข้าหา เป็นไปอย่างช้าๆ แต่มั่นคง แต่ส่วนลึก อยากจะหยุดทุกอย่าง ที่เคยทำไว้ เมื่อวันวาน แล้วเริ่มเดินก้าวใหม่ ซึ่งตรงนี้ยังต้องขอเวลา และความแน่วแน่ในใจ เป็นเครื่องช่วยค่ะ

ปิดท้ายด้วยการเปิดใจเพื่อนเก่า พี่ๆ ทีมงานทุกคน และกิจกรรมอำลา พร้อมด้วยเสียงเพลงวันลา ของน้าหมู พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ ซึ่งเนื้อหาของเพลง เข้ากับบรรยากาศ จนทำให้บางคน ถึงกับน้ำตาคลอ กันเลยทีเดียว

ขึ้นไปกราบพระบรมสารีริกธาตุ บนพระวิหารพันปี ถ่ายรูปร่วมกัน เก็บทั้งภาพ เก็บทั้งความรู้สึก แล้วแต่ละคน ก็ได้แยกย้ายกันเดินทางกลับบ้าน.....

กิจกรรมค่ายรับเพื่อนใหม่ '๔๕ ได้จบลงตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ แต่บางสิ่งบางอย่าง เพิ่งจะเริ่มเกิดขึ้น.. เติบโต..และจะงอกงาม..ต่อ..ต่อไป...

"เทียนหนึ่งถึงการมอดดับ
ลาลับไปจากเพื่อนพ้อง
แต่ ณ ที่นี่เรืองรอง
ขอเทียนน้อยส่องทดแทน"

- รามบูชาธรรม -

(สารอโศก อันดับที่ ๒๕๐ กรกฎาคม ๒๕๔๕)