>สารอโศก


ชื่อเดิม น.ส. อำไพ ปัญญาพร
ชื่อใหม่ น.ส. ประกายขวัญ ปัญญาพร
เกิด ๒ ตุลาคม ๒๕๐๑
พี่น้อง ๓ คน เป็นคนที่ ๑
ภูมิลำเนา กรุงเทพฯ
การศึกษา ปวช.แผนกบัญชี
อาชีพเดิม พนักงานฝ่ายธุรการ
ฝ่ายวิชาการ โรงเรียนพาณิชยการราชดำเนิน
(สวนลุมพินีวัน กรุงเทพฯ)

ช่วงที่มีกระแสโลกาวินาศ(ปี ๒๕๒๔) เป็นคนหนึ่งที่รู้สึกอยากช่วยให้โลกดีขึ้น จึงตามเพื่อน ไปบวชที่วัด วัดหนึ่ง พระท่านพูดว่า "ใครอยากขึ้นรถด่วนขบวนสุดท้าย ต้องกินมังสวิรัติ" จึงกินมังสวิรัติ ทุกวันพระ

ต่อมาเพื่อนพาไปวัดอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งมีการปฏิบัติแบบไสยศาสตร์ ดูแล้วทำให้เกิดความรู้สึก ตกใจกลัว เป็นอย่างมา กลัวจะเป็นอย่างพวกเขา ตั้งแต่นั้นมา รู้สึกขวัญเสียมาตลอด

ปี ๒๕๒๕ มีคนรู้จัก(ญาติธรรม) ชวนไปสันติอโศก ได้ฟังธรรมจากพ่อท่านเป็นครั้งแรก พ่อท่านเทศน์ เกี่ยวกับเรื่อง วิญญาณคืออะไร การเข้าทรง-ผีไม่มี รู้สึกประทับใจ ในคำเทศน์ และพบคำตอบ ที่ทำให้ คลายทุกข์ได้ หลังจากนั้น ก็มาวัดทุกวันอาทิตย์ รับประทานอาหารมังสวิรัติ ฝึกลดละการกินอยู่หลับนอน เคร่งครัดในศีล

เมื่อมาวัด มาตักบาตร ฟังธรรม ช่วยงานวัด เช่น ทำหนังสือธรรมะ ขนทราย ช่วยทำงานที่บริษัทพลังบุญ หรือ ไปช่วยล้างจานที่ ชมร.จตุจักร และระลึกเสมอว่า ถ้าพร้อมคือหมดภาระทางบ้าน ก็จะมาทำงาน รับใช้งาน พ่อท่าน

ปี ๒๕๓๕ จึงมาสมัครทำงานที่บริษัทพลังบุญ เป็นพนักงานขายแผนกยา

ปี ๒๕๓๗ เป็นฝ่ายบัญชี และเป็นกรรมการฝ่ายบริหารของบริษัท

ปลายปี ๒๕๔๔ เป็นกรรมการผู้จัดการ มีหน้าที่ทำให้นโยบายของบริษัท บรรลุวัตถุประสงค์ ดูแลงาน ฝ่ายต่างๆ ให้เป็นระบบ ตลอดจนถึง ความสะอาด ความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบริษัท ผู้จัดการ ต้องสามารถ ทำได้ทุกตำแหน่ง เมื่อยามขาดคน

เป็นเหรัญญิกสาขาลำดับ ที่ ๑๐ ของพรรคเพื่อฟ้าดิน (กรุงเทพฯ)

ปัญหา อุปสรรคในการทำงานและแนวทางแก้ไข
เนื่องจากบริษัทอยู่ในระบบบุญนิยม ผู้จะมาทำงานต้องมีคุณสมบัติถือศีล ๕ ละอบายมุข กินมังสวิรัติ งานหนัก เงินเดือนน้อย ทำให้ขาดบุคลากรในการทำงานตำแหน่งต่างๆ อยู่เสมอ เมื่อแผนกไหน ขาดคน ทำงาน จึงต้องเข้าไปทำหน้าที่แทน เพราะพ่อท่านสอนว่า คนทำงานในระบบบุญนิยม ต้องศึกษา เรียนรู้งาน ทำให้เป็นทุกอย่าง ตั้งแต่งานบริหาร บริการ จนถึงทำความสะอาด ทำให้ได้ฝึกอดทน เอาธรรมะที่ฟัง มาสอนตน ปรับตน กับความเปลี่ยนแปลง ที่เกิดขึ้นตลอดเวลา

ข้อปฏิบัติที่คิดว่ายากที่สุด คือ เรื่องนอน ยังไม่สามารถตื่นขึ้นมาทำวัตรเช้าได้ จะรู้สึกง่วงมาก สิ่งที่ทำได้ ตอนนี้คือ การตั้งตบะให้มาถึงที่ทำงาน ไม่เกินเวลา ๐๕.๓๐ น. (บริษัท เปิดจำหน่ายสินค้า ๐๖.๐๐ น.)

คติประจำใจ การทำงานคือการปฏิบัติธรรม และอยู่กับปัจจุบันให้ดีที่สุด

เป้าหมายชีวิต พยายามทำงานในหน้าที่ให้ดีที่สุด อาศัยงานเป็นทางเดินในการปฏิบัติธรรม ให้ดียิ่งๆ ขึ้น

ข้อคิดข้อฝาก การได้เข้ามาทำงานกับหมู่กลุ่ม ทำให้เราได้พัฒนา มีความปลอดภัย และพลังของกลุ่ม จะช่วยเรา เวลาเกิดปัญหา ขอยืนยันว่า ถ้าอยู่กับหมู่กลุ่ม เราจะไม่ตกต่ำ ทั้งด้านการปฏิบัติธรรม และ การงาน

(สารอโศก อันดับที่ ๒๕๐ กรกฎาคม ๒๕๔๕)