ถอดเทปจากการสัมมนา ตอน...
บทบาทของศาสนิกชนกับภาวะวิกฤตทางสังคม

ท่านเราะห์ มัตคาน: (สวดเป็นภาษาอิสลาม)

ขอความสันติจงมีแด่ทุกท่าน ที่ได้เสียสละ เวลาอันมีค่าของท่าน มานั่งฟังวิกฤติ ทางสังคมที่เกิดขึ้นในปัจจุบันนี้ เกิดจากเพราะว่า มนุษย์นั้นได้มอง คุณค่าของศาสนา เหมือนกับเด็กที่มองเมล็ดพืช ความรู้สึกน่าปวดร้าว เหล่านี้ เมื่อเราคิดว่า เด็กที่มองเมล็ดพืช ในมือนั้น แล้วเราไปถามเด็กว่า ท่านเชื่อไหมว่าในมือของ ฉันนี่มีเงินอยู่ 4 พัน 5 พัน 6 พันเชื่อไหม เด็กหัวเราะก๊ากเลยบอกไม่เชื่อ แต่ถ้านำเมล็ด พืชนั้นเอาไปให้ผู้ใหญ่ดู คนเขามีความคิด เขารู้ว่าเมื่อเมล็ดพืชนั้น ได้ว่านลงไปในดิน เกิดผล ออกมา เก็บผลได้กินต้นไม้นั้น ได้ใช้ แล้วก็มีประโยชน์ เช่นเดียวกัน หากเรา จะบอกว่า ลูกเอ๊ย วันนี้กล่าวพุทโธ สักคำไหม จะถามว่าพุทโธน่ะคือเขาไม่เห็นคุณค่าในคำกล่าวของ เขา

เพราะฉะนั้น ความสำเร็จของมนุษย์นั้นขึ้นอยู่กับ การนำเอาศาสนาเข้ามาใช้ ในการดำเนินชีวิต ทุกๆศาสนานั้นมี heart heart นี่อะไรนะ "หัวใจ" นะครับทุก ศาสนานั้นมี heart เขาบอกว่ สอนให้ทำความดีแล้วก็ละเว้นจากความชั่ว ทุกๆ ศาสนานั้น สอนเหมือนกันหมด

แต่ถ้า ว่าที่มนุษย์ทำไม่ได้ เพราะว่าอะไร อันนี้แหละ คือสิ่งที่เราต้องขบคิด เพราะว่ามนุษย์นั้น ไม่มีความสามารถ ถ้าหากไม่ได้รับการอนุญาต จากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ผมใช้คำ ว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อที่จะได้เข้าใจง่าย เพราะคำสอนในอิสลามนั้น จะต้องอธิบายกันยืดยาว ตั้งแต่ในเปล ยันหลุมฝังศพก็ยังไม่จบเลยนะครับ

วิกฤติการทางสังคมนั้นเกิดจากที่ว่ามอง ศาสนาเป็นเรื่องเล็กน้อย จริงๆ แล้วศาสนานั้น เป็นของสูง เป็นสิ่งที่มีสิริมงคล แต่ศาสนา ไม่ได้ให้อะไรกับเราเลยนั้น เพราะว่าเราไม่ได้มองศาสนาที่หลักการ เรามองศาสนาที่ตัว บุคคล อย่ามองศาสนาที่ตัวบุคคล อย่ามองว่า เอ่อ!พอเขาแต่งตัวอย่างนี้ อื้อฮือ! สาว่า หร่อยแล้วพรรนี้ ม่ายช่ายอย่างนั้น ม่ายช่ายนะครับ แล้วก็วิกฤตการทางสังคม อีกอย่าง หนึ่งก็เมื่อผู้รับฟังผู้ชี้แนะ ไม่ได้อยู่ในสิ่งแวดล้อมนั้นๆ มีปัจจัยหลัก 3 อย่าง ที่ทำให้วิกฤติ การทางสังคมมีมากขึ้นๆๆ

1. ประการแรกเลย อารมณ์ ภาษาอิสลามเขาเรียก นับซู อารมณ์เราใช้ อารมณ์นั้นไปตัดสินปัญหาของศาสนา ซึ่งเราไม่ได้ตัดสินปัญหาไปตามกฏเกณฑ์ของที่ศาสนา นั้นๆบัญญัติ เราบอกว่า อื้อ!อารมณ์ของเราอย่างนี้ เอ๊ะ!ทำอย่างนี้มันน่าจะดีกว่า

2. ซาตาน คำใหม่นะ หึ หึ แต่จริงๆแล้ว ในทางศาสนาพุทธ เรียกว่า มาร โอ้ย! เพิ่นสิแต่งงานยามได๋ สิบวชยามได๋มีมารมาบังเบียด นะครับ มาร

ประการที่ 3. คือ มะฮอร์น มะฮอร์นนี่เป็นภาษาอารบิกครับ อาจารย์

มะฮอร์น คือสิ่งแวดล้อม สิ่งแวดล้อม หำๆ! มานี่เดี๋ยว อ้ายสิเว้าเรื่องหนึ่ง ให้ฟัง ผีแม่นาคพระโขนง ฮึ่ยๆ อันโต๋มันยาวๆ ใหญ่ๆ ตามันเขียวๆ แต่เราไปเล่าเรื่องผีให้ เด็กฟังในขณะที่ตอนเที่ยงวันในบรรยากาศที่ดีน่ะ สภาพมันไม่น่ากลัว แต่ถ้าหากว่าเราพา เด็กเข้าป่าช้าเวลาตี 2 เราไม่ต้องเกริ่นเลย ผี! คนเว้าก็แล่น จั่กสิแล่นไปได๋ไปฮอดไส ไม้กะเท้ากะสิบ่เอา นั่นละครับคือ ถ้าหากว่า เขาอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี ผมขอยกตัวอย่าง นะครับ ยกตัวอย่าง อย่างเช่น "ราชธานีอโศก" นะครับ ขออนุญาตนะครับ ราชธานีอโศกนี้ เขาอยู่ในสิ่งแวดล้อม ที่สะอาดเราใช้คำว่า "ดี" ไม่ได้ เราต้องใช้คำว่า "สะอาด" สะอาดในที่นี้คือ จิตใจเขาสะอาด คำพูดเขาสะอาด การฟังเขาสะอาด สายตาเขาสะอาด อันนี้ไม่ได้ชมนะ ย่องๆ เพราะว่า เราต้องสนับสนุนคน ให้เป็นคนดีนะครับ เราต้องสนับสนุน คนให้เป็นคนดี ถ้าหากว่าเอ๊! เรามาฟัง การเสวนาในวันนี้ กลับบ้านเรา ได้อะไรไปบ้างน่ะ แล้วผมจะฝากสิ่งที่กลับบ้านไปนะครับ ฝากสิ่งกลับบ้าน เวลาเลยหรือยังไม่รู้

ผู้ดำเนินรายการ: มันจ้อแล้วครับจ้อแล้วๆ

เราะห์มัตคาน: จ้อแล้วหรือ ครับ จ้อแล้ว

ผู้ดำเนินรายการ: สรุป สรุปได้แล้วครับ จ้อแล้วเวลาน้อย

เราะห์ มัตคาน: ก็สรุปว่านะครับมนุษย์ที่จะได้รับความสำเร็จนั้น

1. จะต้องมีความหวัง แต่ไม่ใช่หวังจากสิ่งถูกสร้าง ไม่ใช่หวังจากมนุษย์ด้วย กัน หวังจากสิ่งศักดิ์สิทธ์ เราทำอะไรก็ตาม ถ้าเรามีเจตนาของเรา วิธีที่จะได้ก็คือ เช็ค ก่อนที่เราจะทำ เอ๊ะ!เราจะทำสิ่งนี้เราทำเพื่ออะไร และในขณะที่เราทำอยู่เราต้องเช็ค อีก เอ๊ะ! เราทำเพื่ออะไร และหลังจากขณะที่เราทำไปแล้วเราก็เช็คอีก เอ๊ะ!ที่เราทำ ไปเมื่อกี้เราทำเพื่ออะไร เราต้องมีเจตนาหัวใจของเรานี่ มีเจตนาที่บริสุทธิ์ กรรมนั้นเป็น เครื่องชี้เจตนานะครับ มีความบริสุทธิ์ใจ มีการอิกรอมมุสลิมมีน อิกรอมมุสลิมมีนก็คือ ดูแล พ่อแม่ของเราครูบาอาจารย์ของเราไม่ว่าเขาคนนั้นจะเป็นใครก็แล้วแต่นะครับ

สรุปแล้วว่าวิกฤตทางสังคมกับบทบาทของศาสนิกชน เราไม่สามารถที่จะแยก กันได้ออก เพราะสังคมกับศาสนานั้นเป็นของคู่กันนะครับ เป็นของคู่กัน เวลานะครับผมมอง เวลาในนาฬิกา ผมกำลังมองอยู่อาจารย์ เวลานั้น เป็นสิ่งที่ทำให้มนุษย์นั้ นขาดทุน ขาดทุน เพราะว่า เราไม่สามารถที่จะเรียก เวลาเมื่อวานนี้ กลับมาได้ที่จะตักน้ำไปให้แม่ของเราสัก ขันหนึ่ง เราไม่สามารถที่จะเรียกเมื่อวานนี้กลับมาได้ เพื่อที่จะซื้อผลไม้ไปฝากครูเราสัก กิโลหนึ่ง แต่เราสามารถที่จะทำวันนี้ทำเดี๋ยวนี้ นับตั้งแต่วินาทีนี้อันดับแรกเลยคือเราคิดก่อน คิด เขาเรียก ฟิกกีส คิด คิดได้ก็ทำ ทำได้ก็บอกต่อ แล้วก็หวังว่าสิ่งที่ท่านได้ยินไปนั้น คง จะเป็นประโยชน์สำหรับท่านเพื่อใช้ในการดำเนินชีวิต

ผมก็ขอจบการพูดไว้แต่เพียงเท่านี้ เพราะว่าเวลานั้นมันสั้นนะครับอาจารย์ แล้วก็ ขอแนะนำอีกนิดนึ่งนะครับผมเป็นตัวแทนจาก มัสยิดกลาง จังหวัดอุบลราชธานีนะครับ ซึ่งตั้งอยู่ถนนอุปริสาร นะครับ ผมก็เป็นคนที่นี่แหละ เป็นคน เป็นคนลาวบ้านเฮานี่แหละ แต่ว่าไปศึกษาคัมภีร์อิสลามนะครับ ก็ขอเรียนเชิญ อาจารย์นะครับ

ผู้ดำเนินรายการ: ครับ ปรมมือให้ นะครับ ครับก็คุณเราะห์ มัตคาน นะครับเป็นคนบ้าน เฮา ทีแรกผมว่าแต่มาจากมาเลเซีย หึ หึ ผมว่าแต่เว้าไทยได้บ่น้อ ก็ยังฟังๆ เว้าไปเว้า มาเป็นลาวจ้อย หึ หึ โอ้ ครับเพิ่นเว้าก็เป็นตาฟังน้อว่า มันผิดมาตั้งแต่ข้อแรก มันเบิ่งมันมองผิด มันก็ตรงกับพุทธศาสนา ความคิดนี่มันผิด คือเห็นสิ่งที่สำคัญ ว่าไม่สำคัญ เห็น ศาสนาเป็นเรื่อง ของเล็กน้อย มันผิด เผิ่นว่ามันผิดแต่ยกแรก การดำเนินชีวิต มันก็ผิดพลาด เพราะมันมอง สิ่งที่สำคัญว่าไม่สำคัญ แต่เห็นสิ่งที่ ไม่สำคัญว่า สำคัญ แล้วท่านบอกว่า หลักการนี่ เป็นสิ่งสำคัญ อย่ามองตัวคน เพราะหลักการนั้น ยงไปถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เป็นถึงพระผู้เป็นเจ้า

เพราะฉะนั้น ตัวบุคคลนี้อาจจะผันผวนเปลี่ยนแปลงไปได้ แต่ท่านก็บอกว่า สาเหตุของสังคมวิกฤตนี่มันมีอยู่ 3 ตัว ตัวหนึ่ง ก็คือตัวอารมณ์ ใช้อารมณ์ตัดสิน คงจะเป็นเรื่อง ศาสนาพุทธว่า คนโง่นี่แหละ อวิชชา ก็คงจะคล้ายๆกัน แล้วตัวที่สอง ก็คือเรื่องมาร มารนี้ท่านก็ไม่ได้บอกว่า มันมาจากไหน แต่มันก็ คงติดตัวมา นั่นแหละนะครับ ใครมีมารน้อย มารมากก็ขึ้นอยู่กับ สร้างมาตั้งแต่ก่อนด้วย ใช่ไหม ครับ แล้วสร้างในปัจจุบันด้วย ก็มาเป็นมารของตังเอง อันหนึ่งไม่เคยได้ยินคือ มะฮอร์น หึ