ฝากไว้ในแดนธรรม ระลึกถึง พรพิชัย เจียมกัลชาญ ตอน ...
อนุสรณ์พรพิชัย (บันทึกการปฏิบัติธรรม)
หนังสือพิมพ์สารอโศก
หน้า 1/1

เตือนสติเพื่อนก่อนเดินทางไปต่างประเทศ

ที่พุทธสถาน สันติอโศก
๒๘ เม.ย.๒๕๓๑

แด่ พี่ประสิทธิ์ โอวาทวงษ์

๑. เราจะไม่ทำร้ายชีวิต และจิตวิญญาณใคร หากเห็นใครทุกข์ร้อน เราต้องช่วย พึงตรวจเช็ค ให้ละเอียด ถึงความรู้สึก

๒. เราจะไม่เอารัดเอาเปรียบ และแข่งขันชิงดีชิงเด่นกับใคร หากเห็นใครต้องการความช่วยเหลือ เราต้องช่วย

๓. เราจะไม่เสพความอร่อย แต่เราต้องรู้เท่าทันเสมอ

๔. เราจะไม่พูดเรื่องไม่จริง และเรื่องไร้สาระ

๕. เราจะไม่คิดเรื่องไร้สาระ แต่เราจะพยายามคิดแต่เรื่องที่มีสาระ มีประโยชน์ต่อผู้อื่นเสมอ

พึงทำให้ตั้งมั่น ด้วยสติปัญญา และความเพียรเถิด ขอให้เพื่อนจงฉิบหายๆ โดยเร็ว เอ๊ย ไม่ใช่ ขอให้ ตั้งมั่น โดยเร็ว

พรพิชัย

(พรพิชัยเขียนให้ดินธรรม ตอนที่คิดจะไปต่างประเทศ)


เวลาที่เราตื่นนอน เราพึงตั้งใจทำดี พูดดี และคิดดี ให้ยิ่งๆขึ้นไปกว่านี้ เวลาจะหลับ ให้สรุปผลความเจริญของตัวเรา ที่ได้ตั้งใจทำมาในรอบ ๑ วัน เวลาจะนอน พึงทำด้วยความสามารถให้ดีที่สุด ด้วยความรู้ว่า อะไรเหมาะควรแก่กัน แล้วก็ทำ ทำด้วยความรู้ ไม่ทำด้วยความชอบหรือชัง ใจต้องเป็นกลางจริงๆ

เราควรร่วมแสดงความยินดีกับเพื่อน เมื่อเห็นเพื่อนมีสุข
เราควรรับรู้ทุกข์กับเพื่อน เมื่อเห็นเพื่อนมีทุกข์ และช่วยแก้ไขให้เพื่อนพ้นทุกข์
เมื่อใดเกิดจิตท้อแท้ ให้รีบปรับเปลี่ยนทันที

(ส่วนหนึ่ง ที่บันทึกไว้ไม่ได้ลงวันที่)

เขียนบันทึกมากมาย เขียนแล้วจะไม่ทิ้งไว้เป็นอนุสรณ์ ที่เขียนไว้ เพราะจะทบทวนทำให้ได้ เมื่อทำได้แล้ว ก็จะทำลายมันทิ้ง แสดงว่าจุดนั้นผ่านมาแล้ว ตั้งปณิธานที่จะทำอย่างอื่นต่อ ช่วงหลังก็ไม่ได้บันทึกมาก

กลางปี ๓๓ เริ่มเปลี่ยนมาคบคุ้นกับเพื่อน ร่าเริงเบิกบาน

ก่อนหน้านี้ เขาจะเป็นคนเคร่งๆ ขรึมๆ ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร

(ดินธรรมเล่าให้ฟัง)


"แด่...น้อง พรพิชัย ... ยอดนักรบ ผู้จากไป"

เหมือนสายฟ้าฟาด เมื่อได้ทราบข่าวการสูญเสียครั้งใหญ่หลวง...
มัจจุราชได้ช่วงชิงน้องรักจากพวกเราไปแล้ว
เฟืองจักรสำคัญยิ่งตัวหนึ่ง ของงานเข็นกงล้อ จากไปแล้ว อย่างไม่มีวันกลับ...
แม้มันจะเป็นสิ่งที่ปวดร้าว สะเทือนใจ เกินที่จะรับรู้ได้
แต่น้องจากไปครั้งนี้ จะไม่สูญเปล่า
Everything happens for the best.

ทุกสิ่งที่เกิดขึ้น ย่อมดีที่สุดสำหรับเรา
จะจดจำความดีงามของน้อง มาเป็นเยี่ยงอย่าง มาเป็นครู
ในการเดินบนเสันทางแห่งพรหมจรรย์ตลอดไป
เมื่อมือที่ถือชูธงธรรมมือหนึ่งล้มลงลาลับ
จงหยุดพักเหนื่อย และหลับให้สบายเถิดน้องรัก

มา...พี่และพวกเราผู้อยู่ข้างหลัง จะชูธงธรรมแทนเธอเอง
และพี่จะไม่ประมาทในความตาย
จะไม่สันโดษในการทำความดี
และจะไม่ย่อหย่อนต่อความเพียรในการล้างกิเลสอีกเลยจนชั่วชีวิต

ด้วยจิตเทิดทูนบูชา

ใบพุทธ อโศกตระกูล


ทำหน้าที่กินของเราให้ดีที่สุด บอกมันทุกคำข้าวว่าเรากินเพื่ออะไร ไม่ต้องไปใส่ใจว่าจะอร่อยหรือไม่อร่อย

-พรพิชัย-

อดทน
เรียนรู้
ละล้าง
อุดมการณ์

-เพื่อความสุขเพื่อประโยชน์สุขแด่มวลมนุษยชาติ

สิ่งที่ต้องวิรัติตน
งาน...สู้ทุกรูปแบบ ทำอย่างจริงจัง จริงใจ เอาจริง เต็มใจ แต่ต้องไม่มีจิตถือเอางานเป็นกรรมสิทธิ์

ผู้หญิง คือแท่งทุกข์ ก้อนทุกข์ ไม่มีสิทธิ์ที่จะครอบครอง ที่จะได้ใครมาเป็นกรรมสิทธิ์

กิน...กินอะไรก็ได้ มีสารอาหารครบพร้อมสมบูรณ์ต่อร่างกาย เท่าที่จำเป็นแต่เล็กน้อยก็พอ

เกียรติ...เราไม่ถือเนื้อถือตัว ถือศักดิ์ศรี ไม่รักตัวกลัวตาย หากต้องทำความดี

บุคคลทั้งหลายคือแท่งทุกข์ ก้อนทุกข์ แท่งปฏิกูล

พัฒนา -จิตใจ -กรรม -วัตถุ -บุคคล


สมุดบันทึกฉบับ ขุมทรัพย์อริยะ

ทุกคนคือครู
วัตถุ ทำตามใจ ยอม
ขอเพียงเราได้อยู่ที่นี้ก็พอแล้ว ไม่ว่าจะอยู่ในฐานะใดๆก็ตามที เราพึงให้ความเข้าใจเห็นใจผู้อื่น

เราอย่าเป็นผู้ก่อปัญหา แต่ต้องช่วยงาน ช่วยแก้ปัญหาให้หมู่
ไม่รัก-ไม่ชัง
ยอม-หยุด
บุญอื่น.

อย่าเผลอใจ เราต้องไม่ท้อแท้ที่จะทำความดี เราต้องไม่ขี้เกียจ เราจะไม่ถือโทษโกรธเคืองใครเด็ดขาด จะสัมพันธ์กับผู้อื่นด้วยจิตเมตตา เอื้อเฟื้อเกื้อกูล ไม่ก่อบาปกรรม แต่ก่อบุญกรรม

๑. ไม่ทำร้ายชีวิตจิตวิญญาณใคร เมตตาธรรม
๒. ไม่ทำงานเพื่อหวังสิ่งตอบแทน จาคะธรรม
๓. ไม่เอารูปใดๆมาเสพ โลกุตรธรรม
๔. ไม่ปด หยาบ ส่อเสียด เพ้อเจ้อ สัจธรรม
๕. ไม่เสพติดมัวเมาในความขี้เกียจ วิมุติธรรม (ในวัตถุกาม ในเกียรติศักดิ์ศรี ในความรู้สึกว่าเป็นเรา)

จงอดทนให้ได้กับ แดด ลม ฝน สัตว์เสือกริ้นคลาน
จงอดทนให้ได้กับความเจ็บป่วยทั้งหลาย
จงอดทนให้ได้กับความชอบ และความไม่ชอบ

สภาวจิตเป้าหมาย

ละ ปล่อย วาง

๑.จิตคิดร้าย
๒.จิตคิดยินดีอยากใคร่มาเพื่อตัว
๓.จิตเบื่อเซ็งหลบ
๔.จิตคิดไม่เป็นเรื่องเป็นราว คิดไม่จบวุ่นวาย
๕.จิตสงสัยลังเล สร้างยึดมั่น

สร้างยึดมั่น
จิตที่คิดช่วยคิดให้คิดเสียสละ
ตั้งสติ

เรากระทำความดีสุดความสามารถของเราหรือยัง
เรายังคิดเรียกร้องอะไรมาให้แก่ตัว (อันเป็นกิเลสหรือไม่)

กำหนดความพอสำหรับตัวเราเพียงแค่ปัจจัย ๔ เล็กๆน้อยๆ ไม่เรียกร้อง ลาภ ยศ สรรเสริญ ความเข้าใจเห็นใจสนใจจากใคร โลกียสุข ไม่ถือเนื้อไม่ถือตัว


๑ ๕ MO ๓๐ ตื่น ๒.๓๐ น.

เป้าหมายของการปฏิบัติธรรมในวันนี้

การกระทำ...ทำงานทุกอย่างที่ขวางหน้า ลุยงานจนเย็น

คำพูด...ไม่พูดปดเด็ดขาด (จริงจากใจ) ไม่เพ้อเจ้อเด็ดขาด

ความคิด...ให้เกิดจิตที่ปรารถนาดีต่อทุกชีวิต ทุกบรรยากาศ ทุกสิ่งทุกเหตุทุกปัจจัย

ปล่อยวางจิตจากวัตถุทุกอย่างได้อาศัยแต่ของจำเป็น

ปล่อยวางจิตจากพยาบาททั้งสาย กามราคะ ถีนมิทธะ อุทธัจจะกุกกุจจะ วิจิกิจฉา ให้ได้มากที่สุด สร้างเมตตา สร้างอุเบกขา

พยายามตามรู้จิตที่ไม่มีความยินดีในกาม (รูป รส ฯลฯ) พยายามตามรู้จิตที่ไม่มีความยินดีในความขี้เกียจ (ห้ามเบื่อ)

ทำความเข้าใจกับการกินให้เหมือนการเติมพลังงาน เต็มเมื่อไหร่ก็ได้ ที่ไหนก็ได้ อะไรก็ได้ ที่มีคุณค่าสาระ กำหนดอาหาร ๑.๕ kg ให้พลังงานสูงที่สุดเท่าที่จะทำได้

-วันนี้ เราจะเป็นพรหม เราจะฆ่าผีตัวโลภโกรธ กลัวและหลงผิด ในทุกสภาพ

จะละความโกรธด้วยเมตตาธรรม
จะละความโลภ ต้องเห็นมันเป็นสิ่งไร้ค่า
จะละความกลัว ต้องกล้าเผชิญ
จะละความโง่ ด้วยปัญญา

กิน...ข้าวขาว (กะประมาณ) ๔๐๐ g คิดเป็นพลังงาน ๒,๒๕๐ cal
กินถั่วเหลือง " ๑๑๑๐ g
ผักสด (ผักกาด ถั่วฝักยาว ผักขม ผักอีกอย่าง)
ต้มสวรรค์ กะประมาณ ๒๕๐ Cal.

งาน เกี่ยวข้าวตั้งแต่ช่วง ๑๐-๔

สภาวธรรม ...ทุกๆสภาวธรรม ที่เกิดขึ้นแล้ว ถ้าเราอาศัยเอาประโยชน์มันก็ล้วนแล้วแต่เป็นประโยชน์ทั้งสิ้น ว่าแต่เราจะรู้จักหาประโยชน์จากมันหรือไม่อย่างไร เจอกับความลำบากได้สร้างขันติบารมี

อดทนต่อสิ่งเหล่านี้ให้ได้

๑. ความทุกข์ยากลำบากทั้งหลาย
๒. ความร้อน หนาว เจ็บ

เราเข้าใจสภาพของจิตตัวปรารถนาให้ผู้อื่นพ้นทุกข์มากยิ่งขึ้น หากเราจะสัมพันธ์กับอะไร ก็ให้สัมพันธ์กับทุกสิ่งด้วยจิตที่ปรารถนาดีได้ เราเข้าใจสภาวจิตตัวปล่อยวางแบบพุทธมากยิ่งขึ้น คนเราจะปล่อยวางเหตุปัจจัยใด เราก็จะต้องรู้และเข้าใจสิ่งนั้นจริงๆ หากเกิดสภาวจิตราคะกับเหตุปัจจัยใด เราต้องเห็นโทษ เห็นภัยเหตุปัจจัยนั้นจริงๆ เราจึงจะล้างราคะได้

มุ่งมั่น รอคอย ให้อภัย

นอน ๙.๐๕ น.


๑ ๖ Tu ๓๐ ตื่น ๒.๓๐ น.

เป้าหมายของวันนี้

ผ่าน ๑. แม้นนิดแม้นน้อยของความรู้สึกท้อแท้ หดหู่ ไม่สู้ ต้องไม่ให้เกิด
๗๕% ๒. แม้นนิดแม้นน้อย ของความรู้สึกคิดร้ายต่อเพื่อนไม่ให้เกิด
๗๕% ๓. แม้นนิดแม้นน้อย ของความรู้สึก อยากได้ความเข้าใจ และเห็นใจจากใคร
๘๐% ๔. แม้นนิดแม้นน้อย ของความรู้สึกเสียดายวัตถุต้องไม่ให้เกิด
๗๐% ๕. แม้นนิดแม้นน้อย ของความรู้สึกอยากผัสสะทางทวารทั้ง ๕ อย่ามี

ผ่าน ไม่พูดเล่นเด็ดขาด
กิน เราตัดรอบตรวจจุดอิ่มพอดี เป็นผลปรากฏออกมาวันนี้
คือ ข้าวกล้อง ถั่วเหลือง งา ข้าวโพด ถั่วแดง ๑.๕ Kg มะเขือเทศ ๒๐๐ g ผักกาด ๒ ต้น

บางทีเราก็ตัดรอบขอบเขตที่เหมาะที่สุดของเราไม่ยักได้สักที ว่ากินอย่างไร จึงจะไม่เป็นพิษเป็นภัยต่อร่างกาย และก่อให้เกิดความเจริญที่พอเป็นไปทำให้ร่างกายนี้แข็งแรง พอไปวัดไปวากับเขาได้ แต่เราก็พึงตัดรอบจุดมักน้อยสันโดษให้มันน้อยไว้ก่อนจะดีกว่า

สภาวธรรม กิน คนเราจะเติมพลังงานอย่างใดหนอ ฝึกใจให้มันมีประสิทธิผลเป็นความดีได้อย่างสูงสุด อะไรก็ได้ ให้ได้พลังงานวันละไม่เกิน ๒ kcal. กินให้ง่ายที่สุด ต้องไม่ติดในรสอาหาร ต้องไม่ติดในการกิน ต้องไม่ติดในสิ่งใดๆในโลก

นอน ๘.๔๐ น.


อึดอัด ขัดเคือง หดหู่ ซึมเซา วุ่นวายใจ ลังเลใจ get it out

กำหนดทำไปเรื่อยตบะ กำหนดเรื่องการกิน อาหารรวมทุกอย่างไม่ให้เกิน ๑.๕ kg ยกเว้นน้ำเปล่า ให้ได้คุณค่าทางอาหารพร้อมมูล และพลังงานที่เต็มพร้อม พยายามใช้เวลาในการกินให้น้อยที่สุด ที่ไม่เสพ

กำหนดความพอที่สารสังเคราะห์ครบพร้อมบริบูรณ์อาหารจะเป็นอะไรก็ช่าง หาเอาตามเหตุตามปัจจัย ถึงแม้นไม่ครบพร้อมบริบูรณ์ก็จะต้องไม่ติดใจ พอให้ได้ เคี้ยวให้ละเอียดที่สุด ในปริมาณน้อย แต่ให้พลังงานได้อย่างเต็มที่

ก่อนกินต้องไม่มีอาการอยากกิน กินเมื่อไหร่ก็ได้ ตามเหตุปัจจัย
ขณะกิน ต้องพยายามตั้งใจเคี้ยวให้ละเอียด พร้อมทั้งพิจารณาไม่ให้เกิดจิตติดใจชอบชัง
กินเสร็จกำหนดจิตพอตัดอาลัย
นอน พยายามนอนด้วยสติ ตะแคงขวากำหนดจิตตื่นด้วยกุศลกรรม
ก่อนนอนไม่ง่วง ขณะนอนมีสติ หลังตื่นนอน ไม่มีง่วง ตื่นอย่างกระฉับกระเฉง หลัง ๕ ช.ม.ตื่น

การงาน ...ก่อนทำงาน ต้องมีความกระฉับกระเฉง มีฉันทะ ขณะทำงานก็ต้องมีการทำงานด้วยความกระฉับกระเฉง มีสติสัมปชัญญะ ไม่ทำงานเพื่อเอาอะไรมาตอบแทน


๗ พ.ย.๓๐ ตื่น ๑.๔๕ น.

เป้าหมายวันนี้

๘๐% ๑. แม้นนิดแม้นน้อย ของความรู้สึก ท้อแท้หดหู่ไม่สู้
๗๐% ๒. แม้นนิดแม้นน้อยของความรู้สึกคิดร้ายต่อเพื่อน
๗๐% ๓. แม้นนิดแม้นน้อยของความรู้สึกขี้เกียจ
๘๐% ๔. แม้นนิดแม้นน้อย ของความรู้สึกอยากได้ความเข้าใจและความเห็นใจจากผู้อื่น
๕. แม้นนิดแม้นน้อย ของความรู้สึกกลัวตาย ๖. แม้นนิดแม้น้อยของความรู้สึกอยากเสพกาม

หากจิตใจของเราเป็นในทางชั่ว พิจารณาให้เบื่อหน่ายให้ได้

ความสมบูรณ์ของชีวิต เพียงแค่สุขภาพร่างกายที่ดี และสุขภาพจิตที่ดี พึงถนอมสุขภาพ (เราอาศัยแต่ไม่อาลัย)

กิน ข้าวกล้อง ๔๐๐ ถั่วเหลือง ๔๐๐ ข้าวโพด ๓๐๐ งา ๑๐๐ ประมาณ ๒,๒๐๐
ถั่วแขก แครอท ๑๐๐ g ละมุด (เหลือจากแขกกิน) ๑๘๐ cal
รวมพลังงานวันนี้ ประมาณ ๒,๔๐๐ cal
รวมน้ำหนัก ๑,๕๐๐ cal

สภาวธรรมที่ได้

ให้เราเป็นคนรักศักดิ์ศรี และรู้เข้าใจความหมายของศักดิ์ศรีที่ถูกต้อง ศักดิ์ศรี หมายถึงความเก่ง และความดี เราจะมีความดี เราก็ต้องไหว้คนอื่นได้ก่อน เราจะมีศักดิ์ศรี ก็ต้องมีความอ่อนน้อมถ่อมตนมากๆ

อย่าเสียศักดิ์ศรี เพราะรักผู้หญิง
อย่าเสียศักดิ์ศรี เพราะติดรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส
อย่าเสียศักดิ์ศรี เพราะติดวิดีโอ

เราดูวิดีโอ ให้เกิดความรู้สึกซาบซึ้งกับการทำความดี และใช้ฝึกหัดเทียบเคียงดูสภาวธรรมต่างๆที่เราผัสสะว่าเราเกิดสภาวะของกิเลสอะไรบ้าง แล้วเราสามารถวางได้หรือไม่

เป้าหมายของการปฏิบัติธรรม คือ ปฏิบัติลดละกิเลส หากเราไม่ได้ปฏิบัติธรรมลดละกิเลส ตัณหา อุปาทาน เราไม่ได้ปฏิบัติธรรมให้เราปล่อยวางชั่วให้หมดจากทุกขณะแห่งจิต เราต้องทำจิตให้ปราศจากกิเลสอยู่ได้เสมอๆ อย่าหลงโง่งมงายหลงติด พึงระลึกนะว่าเราปฏิบัติลดละกิเลส หาใช่ปฏิบัติด้วยจิตหลงโง่งมงาย

เราบอกกับเพื่อนว่า เราไม่รักผู้หญิง อย่างชายหนุ่มหญิงสาวแล้ว
เราบอกกับเพื่อนว่า เราได้ดีขนาดนี้ระวังอย่าผิดคำพูด

คิดได้ วางได้
พูดได้ หยุดได้ เป้าหมายวันนี้ หากทำได้โดยมีจิตห่วงหาอาลัยนั้นหมายถึงเราไม่ติด
ทำได้ หยุดได้


๑ ๘ Th

เป้าหมายของวันนี้

เราจะต้องเป็นคนประเภทที่ทำความดีทำหน้าที่ไปให้สุดความสามารถของเรา โดยไม่หลงบ้ายอ บ้ากาม บ้านนอน อย่าหลง อย่าบ้าตัวบ้าตน

การกระทำทุกอย่างให้ได้จังหวะจะโคน

หายใจให้ได้จังหวะ เดินให้ได้จังหวะ พูดให้ได้จังหวะ

๑.ยิ้มสำรวม จะยิ้มแย้มแบบ ควบคุมรอยยิ้มบนใบหน้าให้ได้ ผ่าน
๒.ควบคุมความคิดให้ได้ อย่าคิดเฟ้อเจ้อ (คิดได้วางได้) ผ่าน ๘๐%
๓.ควบคุมคำพูดให้ได้ อย่าพูดเพ้อเจ้อ ผ่าน ๒๐%
๔.เราไม่คิดอยากได้กาม (วัตถุ รูป) พอผ่าน
๕.เราไม่คิดทำร้ายใคร แวบ
๖.เราไม่คิดต้องการความเข้าใจเห็นใจจากใคร ผ่าน
๗.เราไม่คิดหลบงาน

กินข้าวกล้อง ๕๐๐ g ถั่วเหลือง ๓๐๐ g งา ๑๐๐ g ข้าวโพด ๑๗๐ g
กล้วยต้ม ๒๕๕ เศษตำลึงต้ม สับปะรด ๑๐๐ g ฟักทอง ๒๕๐ ๔g
รวมพลังงาน ประมาณ ๒,๓๐๐ cal

ต่อไปเรากำหนดความพอของกินที่สุด อะไรก็ได้รวมกันไม่ให้เกิน ๒ kg พลังงาน ๒,๐๐๐-๒,๕๐๐ cal ตามเหตุตามปัจจัย ที่เหมาะสม

นอน รวมเวลานอน ๕.๓๐

ท่านอนสีหไสยาสน์
ท่าตื่นเปรต
ฝันจิตปรุงมาก ค่อนข้างขาดสติ

เรื่องกิน เรื่องนอน เรื่องเหนื่อย เป็นเรื่องเล็กน้อย
เรื่องผู้หญิง เรื่องกาม เรื่องชื่อเสียง เป็นเรื่องไร้สาระ ไร้ค่า
เรื่องเจ็บ เรื่องแก่ เรื่องตาย เป็นเรื่องธรรมดา


๑ ๙ Fri ๓๐ ตื่น ๒.๒๕ น. (เราจะไม่ยอมให้สิ่งเหล่านี้มาปรากฏให้เราเกิดกิเลสที่จิต)

เราใกล้ตายเข้าไปอีกวันหนึ่งแล้วซินะ พร้อมหรือยัง ยังไม่พร้อม ตัดรอบเรื่องกิน ดูจากสภาวะแต่ละวัน เหตุปัจจัยในแต่ละวัน อะไรก็ได้ ที่หาง่ายได้ประโยชน์สูงสุดประหยัดสุด ขอบเขตของพลังงาน ๒,๐๐๐-๒,๕๐๐ cal น้ำหนักไม่เกิน ๒ kg รวมทั้งน้ำ

ตัดรอบเรื่องนอน ดูจากสภาวะแวดล้อมในแต่ละวันว่า เราทำงานมากน้อยขนาดไหน ตั้งแต่ ๕-๖ ช.ม.

การสัมพันธ์กับบุคคลอื่น หากเป็นคนที่อ่อนวัยวุฒิอ่อนคุณธรรมกว่า ก็ให้สัมพันธ์กับเขาด้วยความเด่นดูกันช่วยเหลือเอื้อเฟื้อกัน หากเป็นบุคคลสูงคุณธรรมกว่าด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตน

ผัก กล้วย ๔๐๐ g งา ๖๐ g กล้วย ๗๕๐ g ผักบุ้ง มะเขือเทศ น้ำต้มถั่ว ๒๕๐ g

นอน ท่านอน สีหไสยาสน์
ท่าตื่น เปรต
รวมเวลานอน ๕.๑๐ ช.ม.

จิตเกิดสภาวะปรุงแต่งเห็นวิดีโอ การสมสู่เรายังล้างอุปาทานไม่หมด

เป้าหมาย

๑๐% ๑.แม้นน้อยแม้นนิด ของจิตคิดร้าย
๗๐% ๒.แม้นน้อยแม้นนิด ของจิตคิดเบื่อการงาน
๓.แม้นน้อยแม้นนิด ของความยินดีอยากใคร่ในกาม
๗๐% ๓.๑ รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส
๗๐% ๓.๒ วัตถุสิ่งของ
๗๐% ๓.๓ ความเข้าใจเห็นใจจากผู้อื่น
๘๐% ๔.ห้ามพูดเล่นไร้ประโยชน์
๕๐% ๕.มีสติกำหนดการกระทำ คำพูด ความคิด กิน
ข้าวกล้อง ๔๐๐ ถั่วเหลือง ๔๐๐ งา ๖๐ g กล้วย ๘๐๐ g
เรื่องถือเนื้อถือตัวเป็นความชั่ว
สัมพันธ์กับทุกสถานที่ ทุกบุคคล ทุกสิ่งของได้ โดยให้เกิดแต่ความเจริญ และไม่ผูกพัน
มะเขือเทศ ๓ ใบ ผักบุ้งลวก
รวมพลังงาน ๒,๓๐๐ cal
รวมน้ำหนัก ทั้งหมด ๑๘๐๐ kg

นอน
ท่านอน สีหไสยาสน์
ท่าตื่น สีหไสยาสน์

เรายังคงจำความฝันของตัวเราเองไม่ได้อยู่ดีกิเลส
-เรายังมีกิเลสตัวตระหนี่เหลืออยู่อีก
-เรายังมีกิเลสตัวแข่งดีถือสา เหลืออยู่อีก


๒ ๑๑ sun ๓๐

เป้าหมาย

๕๐% ๑.ห้ามคิดร้ายต่อใคร
๕๐% ๒.ห้ามคิดแข่งดี ชิงดี ชิงเด่นชิงสุขเสพ กับใคร
๓.ห้ามอยากกินอาหารเกิน ๒,๕๐๐ น้ำหนักรวม ๒ kg
๓๖% ๓.๑.ห้ามอยากเสพรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส
๓.๒ วัตถุสิ่งของ
๓.๓ ความเข้าใจและเห็นใจจากใคร
๕๐% ๔. ห้ามพูดเล่นไร้ประโยชน์
๕๐% ๕. ห้ามเมา

เราพร้อมหรือยังที่จะให้ (ทั้งร่างกาย และจิตใจ)
ให้อะไร กับใคร เพื่ออะไร
เราจะต้องมีการกระทำที่คิดเสียสละ

ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ไป เราจะลงบัญชีรับ-จ่าย ตรวจอารมณ์ทุกวัน

กิน ข้าวกล้อง ๔๐๐ g ถั่วเหลือง ๕๐๐ g งาดำขาว๖ ๕๐ g ผักสด ผักบุ้ง มะเขือเทศ มะเขือพวง (แก๊สมาก) กล้วย ๕๐๐ g

ปฏินิสสัคคะ (ทำย้อนไปย้อนมา)
เราจะให้ความเป็นเพื่อนกับทุกสรรพสิ่งให้ได้ (ความรัก)
เราจะให้ ความเป็นปกติธรรมดา ไม่ยินดี ยินร้าย กับทุกสภาพ ใช้เวลา ๑.๒๐ ช.ม.
นอน กำหนด นอนไม่ให้เกิน ๕.๓๐ ช.ม.

จำความฝันให้ได้ ฝันถึงแม่
นอนสีหไสยาสให้ได้เดินเจโตสมถะ ล้างจิตก่อนนอน อย่างน้อย ๑๕ นาที


๑ ๑๒ จันทร์ ๓๐

การงาน ขวนขวาย หางานทำอยู่เสมอ ไม่เหนื่อย ไม่ได้เวลาหยุดไม่หยุด

๕๐% ไม่ให้เกิดแม้นเศษนิดเศษน้อยของความโกรธ
๕๐% ให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน
๕๐% เ ราจะต้องเป็นคนดีบริสุทธิ์ ไม่เป็นอันธพาล แม้นทางจิตที่คิดจะใช้งาน ใครเกิดความเดือดเนื้อร้อนใจ
๕๐% เราจะไม่เรียกร้องความเข้าใจ และความเห็นใจจากใคร
๕๐% เราจะไม่มีจิตอยากเด่น อยากดัง อยากได้เพื่อตัวตน
๗๐% เราจะต้องไม่แคร์ต่อรูป
๕๐% เราจะต้องให้จิตมีงานอย่างต่อเนื่อง

เรามีหน้าที่ทำความดีละความชั่ว เราต้องรู้หน้าที่ของเรา และทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
(หน้าที่ฆ่าความชั่ว สร้างความดี) อย่าประมาท ทำความดีให้ยิ่งเสมอ

กิน
ข้าวกล้อง ๒๐๐ g ๑๕๐ cal รวมพลังงาน ๒,๒๐๐ cal
ถั่วเหลือง ๗๐๐ g ๑๐๕๐ cal
งาดำ ๕๐ g ๓๙๐ cal
กะปิเจ ๒ ชิ้น ผักลวก ๑ กำมือใหญ่ ฝักทอง ๑๕๐ g ส้ม ๑ ใบ

นอน
ท่านอนสีหไสยาสน์ ท่าตื่น สีหไสยาสน์ เวลานอน ๙-๑๑.๓๐ -๒.๒๕ (๕.๒๕ ช.ม.)
เราจะให้คนเขาข่มเราได้ อยากได้อะไรจงให้สิ่งนั้นออกไป
เราไม่เอาไม่เรียกร้อง ลาภ ยศ สรรเสริญ โลกียสุขใดๆ

อารมณ์
ตื่นมาฟังธรรมเข้าภพไปครั้งเดียว เหตุเพราะดำริเพลินไปหน่อย เรามีความรู้สึกเห็นความสัมพันธ์ระหว่างอารมณ์กับความนึกคิดมากเลยทีเดียว ต่อไปเราจะไม่คิดร้ายต่อใครเด็ดขาด (ความรังเกียจ ความเกลียดชัง ความอิจฉา พยาบาท แข่งดี จะต้องหายสูญ) (ความรัก ความเมตตา เป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากในการทำงาน เราพึงสร้าง)ความเข้าใจและความเห็นใจต่อผู้อื่น พึงเกลียดชังความชั่ว แต่อย่าพึงอย่าเกลียดคนชั่ว)

ช่วงเช้า จิตใจเราดี แต่ตอนก่อนฉัน เห็นจิตตัวริษยาเกิด (โอ หนอ เรายังเลวมากๆ อยู่เลยนะ ต่อไปจะไม่ให้กิเลสตัวนี้เกิด) หน้าที่ จงทำหน้าที่ให้ดีที่สุด

จิตวิญญาณที่มันไม่กล้าเปิดเผย ต้องไม่ให้เกิด อะไรที่ทำไปแล้ว อะไรที่คิดแล้ว ไม่สามารถจะพูด คิดทำได้ ห้ามทำกรรมเช่นนั้น

หลังกินอาหาร มีความรู้สึกว่า cal มันชักเกิน ต้องหาทางระบายออก

ระวังจิต ตัวทำเพื่อต้องการความดัง เด่น หรือความได้มาเป็นของเราให้มากๆ ไว้


๑ ๑๒ อังคาร ๓๐

ศีล
๑. ห้ามคิดร้ายกับใคร วิตก แข่งขัน อิสสา พยาบาท
๒. ห้ามคิดอยากเด่น อยากดัง อยากได้ใน วัตถุ รูป ยังมีความรู้สึกดูดกับรูป เพื่อนบางคน สรรเสริญ สุข (สบาย)

กิน
ข้าวกล้อง ๕๐๐ g ๗๕๐ cal
ถั่วเหลือง ๓๐๐ g ๔๕๐ cal
งาดำ ขาว ๙๐ g ๕๒๐ cal
กล้วย ๖๐๐ g ๖๐๐ cal

บทปฏิบัติขณะดูวิดีโอ

๑. คลี่คลายความเครียด ทั้งร่างกายและจิตใจเปิดรับ
พิจารณาธรรมไปตามบทของวิดีโอ เทียบเคียงกับจิตใจเรา

ผักบุ้ง ๑ กำมือ มะเขือพวง ๑ ช้อน มะเขือเทศ ๑ ลูก น้ำต้มถั่ว รวมเป็นพลังงาน ๒,๓๒๐ cal

นอน
ท่านอน สีหไสยาสน์

ท่าตื่น สีหไสยาสน์
เวลานอน ๘.๓๕ ๒

อารมณ์

เรามีความรู้ว่า จะเจอสภาพอารมณ์ไม่ต้องกลัว สู้ปรับ สู้เปลี่ยน

เราเห็นสัจธรรมข้อหนึ่ง ชัดขึ้น คนเรานี้เกิดมาเพื่อทำความดี สร้างสั่งสมความประเสริฐให้กับชีวิตลูกเดียว แล้วก็ทำลายล้างความไม่ดีไปจากจิตวิญญาณให้หมดสิ้น อาศัยแต่ปัจจัยที่พึงอาศัยแต่พอควรเท่านั้น สิ่งที่คนเราพึงอาศัยมี ๒ อย่างด้วยกัน

๑.สุขภาพร่างกายที่ดี
๒.สุขภาพจิตใจที่ดีที่เป็นจิตวิญญารขั้นวิสุทธิเทพได้เลยยิ่งดี

แล้วเราก็ขยันหมั่นเพียรทำงานสร้างสรรไปวันต่อวัน


๑ ๑๔ พุธ ๓๐

พร้อมหรือยังที่จะตาย ยังๆ ไม่พร้อม แล้วเมื่อไหร่ล่ะจะพร้อม ถ้าอย่างนั้น ก็พร้อม ตายได้ทุกเมื่อ

อารมณ์
ตื่นนอน มาเขียนบันทึก เราเห็นสาเหตุที่ทำให้เราเป็นคนอารมณ์ไม่ดีแล้ว เพราะตัวขี้โลภ อยากได้ความดี แต่ไม่ได้ดีสมอยาก

เรามีความทุกข์ใจในเรื่องอะไร นี้คือคำถาม เมื่อเราเกิดความทุกข์ หาเหตุให้เจอ เราจะเห็นว่ามันเป็นสิ่งที่ไร้สาระจริงๆ

ทำอย่างไร เราจึงจะไม่ทุกข์ เราก็จะต้องไม่มีกามราคะและมานทิฐิ (เอามาต่อกามราคะ)

ทุกสิ่งจบที่ตัวเอง ไม่มีจิตถือโทษโกรธเคืองใคร ไม่มีจิตเรียกร้องอะไรในโลก

วันนี้เราไปกับลุงสงัด เกิดเกรงใจลุงจริงๆ กินอาหารไปไม่ปะติดปะต่อ ก็ต้องลงไปหาซื้ออุปกรณ์

ขณะทำงาน ทำอย่างไร จึงจะไม่ทุกข์ ก็จะต้องสนุกกับการงาน มีความเต็มใจจริงใจต่อการปฏิบัติธรรม
สุขภาพร่างกายที่ไม่ดี มีผลมากทีเดียว ที่ทำให้สุขภาพจิตไม่ดี
รูปนอกเป็นอย่างไรก็ช่างมัน ขอเพียงจริงใจปรารถนาดี ต่อเขาเป็นพอ ความชั่ว วาง ความดีทำ

คุณธรรมประจำจิตนักสู้
ไม่ทำใครให้เกิดทุกข์กายทุกข์ใจ
อย่าดูหมิ่นผู้อื่น จงมีความอ่อนน้อมถ่อมตน
ทำแต่ดี อย่าดีแต่ทำ
พูดแต่ดี อย่าดีแต่พูด
คิดแต่ดี อย่าดีแต่คิด

กิน
ข้าวกล้อง ๕๐๐ g
ถั่วเหลือง ๓๐๐ g
งาดำ ๑๐๐ g
กล้วย ๕๐๐ g
แครอท ถั่วแขก

นอน
ท่านอน สีหไสยาสน์

ท่าตื่น สีหไสยาสน์
เวลานอน ๙-๑.๒๐ - ๒.๓๐ รวม ๕.๓๐ ชม


๑ ๑๕ พฤหัสบดี ๓๐

ตั้งอธิษฐาน ... ไม่ว่าโลกจะยั่วอย่างไรๆ ก็ตาม ห้ามทำลาย แม้นคิด คิด พูด ทำ แต่สิ่งที่มีสาระ แก่นสาร เป็นไปเพื่อประโยชน์ตน และประโยชน์ท่าน

อารมณ์... ช่วงเช้าตื่นมา ก็สอนตัวเราเอง กับสอนจิต สอนใจให้เป็นคนดี วันนี้เราไม่มีจิตคิดร้ายกับใครเลย วันนี้เราไม่มีจิตขี้เกียจเลย วันนี้เราไม่มีจิตอยากเด่น อยากดังเลย แต่วันนี้เรายังมีจิตโลภ ไม่เต็ม อยากบรรลุเร็วๆ นี้คือความชั่ว ที่เราจะต้องล้างให้สิ้นซาก วันนี้เราไม่ได้เกิดความรักแบบชายหนุ่มกับใครเลย วันนี้เราไม่ได้โกรธใครเลย วันนี้เรายังมีบางครั้งที่อนุโลมยิ้มแย้ม ให้กับน้อง บางทีก็ต้องประมาณการให้พอเหมาะ

เราจะต้องเป็นคนที่ไม่รู้จักกับสภาพจิตขี้เกียจ รังเกียจ ท้อแท้ หดหู่เราจะต้องไม่หลงยินดีไปกับ รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส เสียง สรรเสริญเยินยอ วัตถุข้าวของ ทุกสิ่งล้วนหรือคือมายาทั้งสิ้น เราอย่าไปหลงมันเป็นอันขาด

กิน
ถั่วเหลือง ๙๐๐ g ๙๐๐ cal เวลาในการกิน ๑.๒๕ ช.ม.
งาขาว ๕๐ g ๓๕๐ cal
ข้าวโพด ๖๐ g ๙๐ cal
มะเขือเทศ ๒ ลูก ถั่วแขก แครอท

นอน
ท่านอน นอนสีหไสยาสน์ ท่าตื่น สีหไสยาสน์

เวลานอน ๘.๓๐ น-๑๒.๓๐ -๒.๐๕ น.

พึงทำทุกสิ่งทุกอย่างด้วยจิตเป็นญาณ และสมาธิ


๑ ๑๖ ศุกร์ ๓๐

วันนี้ขอตั้งอธิษฐานจิต

๑. เราจะไม่ให้มีการทำร้ายจิตใจและชีวิตของใครให้ตกต่ำ (หมั่นประคับประคองจิตใจให้เป็นพระพรหม)
๒. ทำความดีเสียสละทุกอย่างที่ขวางหน้า โดยไม่ต้องการสิ่งใดตอบแทน
๓. แม้นนิดแม้นน้อย ของความรู้สึกแอบเสพกาม ไม่ให้มี

๑. ขี้เกียจ ๕๐%
๒. รังเกียจ ๕๐%
๓. ท้อแท้ ไม่สู้หดหู่ซึมเซา ๕๐%
๔. ร้อนรน อยากใคร่ ๕๐%
๕. เพ้อเจ้อ คำพูด ๕๐% ความคิด การกระทำ

กิน
ข้าวกล้อง ๗๐๐ g ๑,๐๕๐ cal
ถั่วเหลือง ๕๐๐ g ๗๕๐ cal
งาดำขาว ๖๐ g ๓๐๐ calแครอท ถั่วแขก ผักกาดขาว น้ำซุป (ถั่ว) กะปิ ๑ แผ่น ข้าวโพด ๑๐๐ g ๑๕๐ cal
รวมเป็นพลังงานทั้งหมด ๒,๒๕๐ cal

ใช้เวลา ๑๒๕ ช.ม.

นอน
ท่านอน สีหไสยาสน์ ท่าตื่น เปรตไสยาสน์
เวลานอน ๙-๒.๒๕

ความฝัน ค่อนข้างจะออกไปทางเรื่องไร้สาระ แต่เราก็ยังจำความฝันของเราไม่ได้อยู่ดี

สภาพจิตอึดอัดขัดเคือง จะต้องไม่มีแม้นว่าทำความดีแล้ว ไม่ได้ดีดังใจที่ตั้งไว้ แม้นว่า ถูกข่ม แม้นว่าหิวแสนหิว แม้นว่าเหนื่อยแสนเหนื่อย แม้นว่าง่วงแสนง่วง เจ็บแสนเจ็บ แม้นว่าถูกเขาเข้าใจผิด แม้นว่าถูกฆ่าทำลาย (เหตุผลเพราะมันเป็นบาป เรามีหิริและโอตตัปปะ จะทำบาปชั่วเวรภัย)


๑ ๑๗ ศุกร์ ๓๐

เราใกล้ตายเข้าไปอีกวันหนึ่งแล้วซะนะ พร้อมหรือยัง เรายังมีจิตห่วงหาอาลัยอาวรณ์กับอะไรในโลกนี้อยู่อีกหรือไม่ เราพึงอาศัยวัตถุและอารมณ์ที่ดีที่สุด แต่เราจะต้องไม่มีจิตอาลัยติดมั่น

สู้ตายถวายชีวิต เพื่อความดี

กิน
ข้าวกล้อง ๗๐๐ g ๑,๐๕๐ cal รวมพลังงาน ๒,๓๕๐ cal
ถั่วเหลือง ๕๐๐ g๗๕๐ cal ใช้เวลา ๑.๒๒ ช.ม.
ถั่วโชเล่ ถั่วดำ ๑๐๐ g ๑๕๐ cal
งาดำ ขาว ๗๐ g ๓๕๐ cal
มะเขือเทศ ผักบุ้ง มะเขือเปราะ ๕๐ cal

เราทำความดีเสมอ และต้องไม่ยึดถืออะไรในโลกนี้เป็นของเรา หาเรื่องสนุกให้ได้

นอน
ท่านอน สีหไสยาสน์ ท่าตื่น เปรต เวลานอน ๘.๔๐ -๑๑ -๑๒.๓๐ ๒.๑๕


๑ ๑๘ เสาร์ ๓๐

พร้อมหรือยัง ...ยัง

ข้อ ๑. อสุรกายจิต วิตกจิต
ข้อ ๒. ปีติจิต
ข้อ ๓. ปีติจิต
ข้อ ๔. โมหะจิต
ข้อ ๕. ขี้เกียจ

อยากเด่น อยากดัง อยากได้

กิน ข้าวกล้อง ๖๕๐g ถั่วเหลือง ๖๐๐ ข้าวโพด งาดำ แครอท
อยากเด่นเหนือคนอื่น อยากดังมีสรรเสริญ อยากสุขสบาย อยากหลับก่อนเวลา อยากได้อารมณ์โดยไม่วาง
สภาพจิตที่คิดอยากได้จะต้องล้างรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส จะปรุงแต่งมาอย่างไรๆก็ตาม หากเกินสิ่งที่ เราอาศัยแล้วกำหนดความพอให้ได้
-ถั่วแขก มะเขือเทศ รวมพลังงาน ๒,๓๐๐ cal รวมเวลา ๑.๑๕
อิทธิวิธี สอน พลังจิตที่แข็งแกร่ง

นอน กำหนดท่านอนสีหไสยาสน์ ท่าตื่น สีหไสยาสน์
เวลานอน เข้านอน ๙.๔๕-๒.๑๕


๒ ๑๙ อาทิตย์ ๓๐

สอน ...เราจะต้องเป็นคนดี มีอารมณ์ดี มีความเมตตา เอื้อเฟื้อ เกื้อกูลต่อทุกสรรพชีวิต ทำความดีโดยไม่อยากได้อะไรตอบแทน ไม่อยากเด่นอยากดัง มีสติที่รู้เท่าทันการงาน ไม่หลงตกเป็นทาสอำนาจฝ่ายต่ำ ภายในจิตใจของตัวเอง ต้องทำความดีให้ได้ พูดก็ให้พูดแต่ความจริงที่มีสาระ ไม่มีจิตที่คิดชั่ว ต้องไม่เกียจคร้าน ต้องไม่อยากได้วัตถุอะไรมาให้แก่ตน ต้องไม่อยากให้ใครเดือดร้อน ต้องไม่อยากเด่นกว่าใคร ต้องไม่คิดเอาชนะใคร ต้องทำทุกสิ่งทุกอย่างด้วยเหตุผลไม่ทำด้วยกิเลสตัณหาอุปาทาน

กิน
ถั่วเหลือง ๘๐๐ g รวมพลังงาน ๒,๓๐๐ cal รวมเวลา ๑.๒๕ ช.ม.
ข้าวกล้อง ๕๐๐ g
งาดำขาว ๕๐ g
กะหล่ำปลีลวก มะเขือเทศ

นอน
ท่าสีหไสยาสน์

ท่าตื่น ตะแคงซ้าย
รวมเวลานอน ๙-๑.๓๐ -๒.๓๐ น.