ฝากไว้ในแดนธรรม ระลึกถึง พรพิชัย เจียมกัลชาญ ตอน ...
เสียเพื่อได้
หนังสือพิมพ์สารอโศก
หน้า 1/1

เสียเพื่อได้

วันที่พรพิชัย เสียชีวิต พวกเรา ชาวชมร. ต้องหยุดขายอาหารไปโดยปริยาย แต่ก็ต้องตัดสินใจขาย ในวันรุ่งขึ้น ด้วยเหตุผลว่า จะได้ไม่จับเจ่า เศร้าโศกกัน และมีข้าวของ กองพะเนิน (ของที่ทำแล้ว ในวันเสาร์) ที่ไม่ได้ขาย มีหลายอย่าง กับทั้งได้รับคำ แนะนำว่า เวลาลูกค้ามาซักถาม จะได้ปลอบใจเขาไปด้วย จริงเช่นนั้น เพราะเกิดผลดี เกินคาดกว่า ผลเสียที่ได้ตัดสินใจขาย เริ่มตั้งแต่ ตอนขึ้นรถ รถไปมีคันเดียว แต่ก็แน่นเป็นพิเศษ ดิฉันและแม่เฒ่า ต้องนั่งบนเข่งฟักทอง (ทำให้ประหยัด ที่นั่งได้อีก) ส่วนคุณสีนวล นั้นนั่งบน ไหเปล่า นั่งๆ ไปก็เจ็บ จึงสลับกับการยืน คนไปช่วยงาน วันนี้มากตั้งแต่ ออกจากวัด พอสายเข้าผู้มาช่วยงาน ยิ่งเพิ่มขึ้น ลูกค้าก็ทยอย มามากขึ้น พวกเรา จึงทำงาน ดุจเครื่องจักร ผู้เฒ่าก็พลอย ทานข้าวใกล้เที่ยงกัน หลายคน งานหลายอย่างที่เราไปเริ่มที่ร้าน (ซึ่งปกติแล้วเริ่มจากวัด) จึงเป็นเหตุให้งานล้นมือขึ้นอีก ลูกค้าก็โทรเข้ามาถามไม่ขาดระยะ เราทั้งฟังความห่วงใยทั้งทำงานไปด้วยก็เพลินไป แต่พอไปนั่งทานข้าวกัน ก็เริ่มเข้าภพแห่งความเศร้าใจ บ้างกินไปตาแดงไปพูดถึงกันแต่เรื่องของพรพิชัย ดิฉันภูมิใจที่ได้สัมผัสคนที่มีคุณธรรมสูง ปลื้มใจในการเสียเพื่อจะได้สิ่งที่ดีเกิดขึ้นใหม่

เมื่อวานนี้ (วันอาทิตย์) ดิฉันได้เกิดความตื้นตันใจ ยิ่งกว่า ข่าวการเสียชีวิตของเขา คือมี "พรพิชัย" เกิดขึ้น ในจิตวิญญาณ พวกเราอีกนับสิบ นับร้อยคน ไม่มีคนทำงานคนใด ที่มี อาการ หงอยเหงา เศร้าซึม กลับเห็นแต่ความออมชอม - เอื้ออวยช่วยกัน คนละไม้ คนละมือ เสมือนไม่มีเหตุร้าย อะไรเกิดขึ้น

ลูกค้าหลายคน เขาก็จ้องมองดูการทำงาน ของพวกเราอย่างสังเกต สังกา มาสนใจ อ่านบอร์ด อาลัยพรพิชัยไม่น้อย ตอนเย็นต้อง เก็บล้างพื้น เสียงไม้กวาดกระทบน้ำวันนั้นช่างไพเราะจริงๆ คุณพรพิชัยคงยืนยิ้มมองดูพวกเราด้วยความชื่นชมเอ็นดู และคงรำพึงในใจว่า "ข้าฯ หมดห่วงแล้ว วรยุทธ์ที่ข้าฝากไว้ ในแผ่นดิน มีทายาทรับการถ่ายทอดแล้ว"

วันนั้นคุณดินธรรมทำงานไม่ได้หยุดทานข้าวเลย เพราะหยุดไม่ได้นั่นเอง จึงเก็บข้าว และ กล้วยกลับมากิน ตอนกลับ ขออนุโมทนาที่แกร่งกล้า คงจะเกิดยอดนักรบอีกไม่น้อย

"เพียงแก้ว"


วิริยารัมภ พรพิชัย

พรพิชัยใช้สองมือคืออาวุธ
เหมือนมนุษย์มหัศจรรย์พลันได้เห็น
ยอมเหนื่อยยากตรากตรำแม้ลำเค็ญ
แถมใจเย็นยังหนุ่มโสดไม่โกรธใคร

ยามใดที่พี่น้องต้องหมองเศร้า
กิเลศเข้าตัณหารุมกลุ้มแค่ไหน
พรพิชัยให้ปรึกษาปัญหาใจ
สุดบรรยายได้หมดรสถ้อยความ

พรพิชัยงามใบหน้าสง่ายิ่ง
งามจริงใจกล้าจนแม้คนหยหาม
ไม่ตระหนี่มีแต่ให้ไฝ่ดีงาม
ผู้คนถามนามชื่อนี้พรพิชัย

-สองล้อ เมืองหลวง-