กรรมตามสนอง ตอน...
แมงดาพยาบาท
หนังสือพิมพ์สารอโศก อันดับที่ ...
หน้า 1/1

วันนี้ขอพาท่านไปพบกับเรื่องราวของผู้ทำปาณาติบาต ซึ่งสะท้อนผลกรรมที่เกิดจริงเป็นจริงกับครอบครัวของสองตายาย ชาวโกรกพระ จังหวัดนครสวรรค์

เรื่องมีอยู่ว่า ป้าแพรและลุงหลีตั้งบ้านเรือนอยู่ริมคลอง ซึ่งพวกชาวบ้านก็ได้อาศัยน้ำกินน้ำใช้จากคลองนี้ บ้านดิฉันก็อยู่ใกล้คลองเช่นกัน

ลุงหลีมีอาชีพช้อนแมงดาตามห้วยตามหนองเป็นประจำ วันหนึ่งๆแกได้แมงดาเป็นร้อยๆตัว ทั้งตัวผู้ตัวเมีย ช้อนมาได้ใส่ตะข้อง พอกลับมาถึงบ้าน ก็เอาตะข้องจุ่มน้ำเขย่าล้างให้มันสะอาด แล้วใส่ลังถึงนึ่งทั้งที่แมงดายังเป็นๆทุกวัน พอตอนเช้าก็เอาไปขายที่ตลาดไผ่ล้อม ค่ายจิรประวัติ ตัวผู้ก็ขายได้ราคาแพง ส่วนตัวเมียไม่หอมก็ขายได้ถูก พวกเมียทหารเรียกแกว่า ยายแพรแมงดา แกทำเช่นนี้มาประมาณสัก ๑๐ ปีเห็นจะได้

อยู่มาไม่นาน ลุงหลีก็ล้มเจ็บ มีอาการร้อนตามตัว ไปให้หมอตรวจร่างกายแล้ว ก็ไม่รู้เป็นโรคอะไร เพราะแกร้อนหมดทั้งตัว นอนดิ้นไปดิ้นมาจนหนังถลอกตามตัวทั่วไปหมด ต่อมาเกิดต้อกระจกขึ้นที่ตาทั้งสองข้าง ความร้อนที่ตัวลดลงบ้าง แต่มันกลับมาปวดที่ลูกนัยน์ตาเป็นอย่างมาก ปวดอยู่นานสัก ๒ เดือน นัยน์ตาทั้งสองก็บอดสนิท หมอแผนโบราณมาดูอาการแล้วบอกว่า ลูกนัยน์ตามันแตก พอลูกนัยน์ตาแตกทั้งร้อนตามเนื้อตามตัว ในที่สุด แกก็ขาดใจตาย

อยู่มาอีกประมาณ ๑ ปี ป้าแพรก็ขายบ้าน ย้ายไปอยู่ที่ตลาดสดโกรกพระ ไปกินนอนอยู่ที่ตลาด แล้วแกก็ล้มป่วย มีอาการร้อนตามตัวเหมือนลุงหลีไม่มีผิด ร้อนจนหนังถลอกที่ตามตัว พอมีคนเดินไปเดินมา ก็ร้องขอน้ำสักหนึ่งขัน พอได้น้ำแล้วแกไม่กิน แกใช้ราดตามตัวของแก ทุกคนที่ผ่านไปมาก็จะถามกันว่า แกให้น้ำป้าแพรหรือเปล่า บางคนก็ให้บางคนเขารีบกลับบ้านก็ไม่ได้ให้ อาการร้อนยิ่งหนักเข้าประกอบกับมีคนราดน้ำให้บ่อยๆ จนกระทั่งแฉะ นานเข้าตัวก็เน่า แกก็ร้องครวญครางเรียกหาน้ำๆๆ ไม่ขาดปาก

อยู่มาไม่นานต้อก็ขึ้นที่ตาของแกทั้งสองข้าง จนตาแตกและบอด ซึ่งเป็นอาการเหมือนลุงหลีทุกอย่าง ทนทุกข์ทรมานอยู่ได้ไม่นานแกก็ตาย

หลวงพ่อพระครูที่วัดโกรกพระใต้ ท่านเรียกว่า "นิจกรรม" คือการทำกรรมปาณาติบาตเป็นนิจ เป็นบาปอย่างยิ่ง ตั้งแต่วันนั้นมา ดิฉันไม่กินแมงดาอีกเลยเพราะกลัวบาป

พวง ศรีเรือง

จบแล้ว end of column