จดหมายจากญาติธรรม
หนังสือพิมพ์สารอโศก อันดับที่ 229 ฉบับ เดือนตุลาคม 2543
หน้า 1/1

คิดดีมีสุข

--------------------------------------------------------------------------------------------
กราบขออภัยที่ไม่ตอบรับมาและไม่ออกความคิดเห็น เจอมรสุมชีวิตเช่นคนอื่นๆลูกตกงานหมด ต้องดิ้นรนกันไปเพื่อหาเงินมาช่วยกัน (ผ่อนบ้าน) กราบขอบคุณ ที่ส่งหนังสือให้เสมอ พาลูกๆมาที่สันติอโศก มาฟังพ่อท่านเทศน์ มาทำบุญ และซื้อหนังสือเท็ปนิทาน ซื้ออาหารเจมา ๑๕ ครั้งแล้ว (หลานตัวเล็กชอบน้ำตก) ได้ฟังท่านจันทร์ทางวิทยุเวลาบ่าย ๓ โมงถึง ๕ โมงเย็นทุกวัน หนังสือดีมากๆ อ่านแล้ว ได้รับความรู้ เห็นการไม่แน่นอนของชีวิต

ลูกๆมาที่สันติอโศกได้ฟังได้รู้ได้เห็นสิ่งต่างๆภายในวัด เดี๋ยวนี้จิตใจดีขึ้นมาก รู้ว่าความสุข ความทุกข์ ทุกเรื่องนั้นๆ มันมาอยู่กับเราไม่นาน เดี๋ยวมา เดี๋ยวไป เป็นอนิจจัง สิ่งต่างๆที่เราพากันดิ้นรนหามา คิดว่าเป็นความสุขนั้นๆ พอเราเจ็บเราตายลงไป เอาติดตัวไปมิได้ ตอนนี้ก็เอาบ้านไว้เป็นที่อยู่อาศัยพอแล้ว ข้าวของสิ่งต่างๆที่ไม่จำเป็น ช่วยๆกันเก็บไปขายหมด ลูกที่ตกงานก็ไปฝึกทำขนมขาย พออยู่กันได้

ทำงานอยู่ที่บ้านก็ดีอีกแบบหนึ่ง ได้มีโอกาสฟังเท็ปธรรมะของท่านพ่อ ของท่านจันทร์ มือทำขนมไปหูก็ฟังเท็ปคำเทศน์ของพระที่ดีๆ ทำให้เราฉลาดขึ้น และเข้าใจชีวิตดีขึ้น ตกงานไม่มีงานทำสักครึ่งปี เป็นดีมาก เพราะบางครั้ง งานที่เราทำทุกวัน ทำให้แม่ลูกๆหลานๆไม่เจอกันเลยค่ะ เช้ามืดออกกันไปหมดบ้าน ตื่นมาต่างคนรีบๆร้อนๆ กลัวรถติด เลิกงานก็รีบๆเร่งกลับบ้าน ถึงบ้าน ๒๑ น. ๒๒ น. แม่ลูกเจอกันพูดคุยกันนิดหน่อย อาบน้ำนอนอีกแล้ว ตี ๔ ตื่นมาก็เช่นเดิม

ออกจากงานกันนี่ก็ดีไปอีกแบบหนึ่ง ตอนนี้ทำขนมขาย อยู่พร้อมหน้าตากันดี ขยันทำ มีเวลาวันอาทิตย์ก็พาหลานไปเสถียรธรรมสถานวันครอบครัว บ่าย ๓ โมง หรือ ๕ โมงก็พากันมาที่สันติอโศก เดินขึ้นไปกราบพระธาตุเจดีย์ ได้พูดคุยกับสมณะท่านหนึ่งที่อยู่บนตรงที่ตั้งศพ

งานบูชาพระบรมสารีริกธาตุ มากับลูกสาวคนโต ญาติธรรมมากทำให้ที่คับแคบ มาอยู่สองชั่วโมง ยิ่งบ่ายคนยิ่งมาก ทำบุญเสร็จก็กลับ อาหารอร่อยทุกอย่าง ญาติธรรมทุกท่านสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส

ยิ่งอ่านหนังสือของท่าน และฟังเท็ปธรรมะคำสอนของพ่อท่าน ครอบครัวเราเป็นครอบครัวที่ดีขึ้น ปลงตกมากขึ้น กินน้อยลง เดี๋ยวนี้ลูกๆกินอาหารเจได้มากมื้อ แม่จะเป็นคนทำก๋วยเตี๋ยวเจ กับข้าวเจ ขนมจีนเจ หลานตัวเล็กชอบทาน

ปีนี้บริจาคเงินซื้ออาหารให้สุนัขจรจัด ที่คนนำมาทิ้งไว้ ๕๙ ตัวที่สัมมากร มีผู้ใจบุญเลี้ยงไว้ ๕๐๐ บาท ช่วยเด็กพิการ ๕๐๐ บาท เด็กเป็นเอดส์ของพระสมชายสระบุรี ๓๐๐ บาท มอบให้เพื่อนช่วยเพื่อน ๒๐๐ บาท มาซื้อเท็ปธรรมะที่สมาคมผู้ปฏิบัติธรรม หนังสือนิทาน หนังสือหลายเล่มปีนี้ ๗๘๐ บาท ทำบุญวันแม่ ๒๐๐ บาท

นี่คือผลแห่งการที่ได้อ่านหนังสือของทางสมาคมผู้ปฏิบัติธรรม ทำให้ครอบครัวเรามองเห็น แสงสว่างแห่งการเสียสละทรัพย์ เพื่อหัดตัดกิเลสความโลภเก็บสะสม ได้รู้ ได้เห็น ได้ฟัง ด้วยตาตนเอง ที่พ่อท่านและสมณะทุกรูปทำงานหนักกัน เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ตกทุกข์และเจ็บป่วย และโครงการแต่ละท่านช่วยกันงานหนักจริงๆ เสียสละแรงกายใจจริงๆ ได้พาลูกมาเห็นแล้ว เกิดความสำนึกได้ว่า ที่เราลำบากนั้นมันเรื่องเล็กน้อยเหลือเกินค่ะ ท่านพ่อและคณะทำงานของท่าน เสียสละกันยิ่งกว่า ขอกราบมาถึงท่านพ่อ ท่านจันทร์ และคณะผู้ปฏิบัติธรรมทุกๆท่าน / สมาชิก ๒๕๐๗๓๖

-----------------------------------------------------------------------------------------
ตกงานได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันที่บ้าน ช่วยกันทำขนมขาย กินน้อย ใช้น้อย ก็พออยู่กันได้ ชีวิตไม่ต้องอยู่กับความเร่งรีบตลอดเวลา แถมยังมีส่วนทรัพย์เกื้อกูลผู้อื่นได้อีก นับเป็นชีวิตที่เรียบง่าย สุข สงบ ดีทีเดียว …บ.ก.

เกือบจะทนไม่ไหว

--------------------------------------------------------------------------------------------
ในสถานการณ์ปัจจุบัน ทำให้ประชาชนไร้ที่พึ่งพิงทางจิตใจ ไม่สามารถหาทางออกที่ดีให้กับตัวเองได้ จึงเป็นโอกาสให้เหล่ามิจฉาชีพผู้คอยหาโอกาส แสวงหาผลประโยชน์บนความไม่รู้ของประชาชนเหล่านั้น ในขณะที่กลไกของรัฐไม่สามารถแก้ไขปัญหาเหล่านั้นได้อย่างถูกต้องถูกวิธี เพราะก็มีคนของรัฐอีกนั่นแหละ ที่คอยแสวงหาโอกาสจากคนเหล่านั้นอีกทอดหนึ่ง เข้าทำนองที่ว่าสัตวโลกย่อมเป็นไปตามกรรม"

ทุกวันนี้แม้ข้าพเจ้าไม่ไปทำให้คนอื่นยุ่งยาก แต่ก็ยังมีคนรอบๆข้างพยายามเข้ามาสร้างปัญหาให้ตลอดเวลา แม้จะพยายามทำใจว่า ให้อดทนอดกลั้นไว้ แต่บางครั้งก็แทบจะอดทนไม่ไหวอีกแล้ว ดีที่มีลูกเมียคอยเป็นกำลังใจให้ จึงประคับประคองตัวให้รอดจากจิตมารมาได้ ยิ่งได้อาศัยอ่านสาระจากหนังสือดอกหญ้า และสารอโศก ที่ทางสมาคมส่งไปให้ ก็ยิ่งได้เพิ่มพูนความรู้ ทางสว่างให้ตนเองและครอบครัวมากขึ้น

แปลกนะ คนปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ คนทั่วไปกลับไม่ชอบ ชอบสิ่งที่เป็นของจอมปลอมและหลอกลวง

ดุสิต เจริญสุข

-----------------------------------------------------------------------------------------
ผัสสะเป็นกระจกสะท้อนให้เรารู้จักตัวตนของเราเป็นอย่างดี การปฏิบัติฝึกฝนฝึกใจ จะเป็นไปได้อย่างก้าวหน้า ก็ต่อเมื่อคนรอบข้างช่วยเสริมหนุน ทั้งด้วยความหวังดีหรือไม่หวังดีก็ตาม ขอบคุณโจทย์ทุกโจทย์ ไม่มีเขา เราก็ไม่รู้เรา
…บ. ก.

ศีล ๕ เคร่งครัดขึ้น

--------------------------------------------------------------------------------------------
๑.เริ่มประหยัดใช้จ่ายเฉพาะสิ่งที่จำเป็น

๒. พยายามไม่โกรธอะไรง่ายๆ โดยเฉพาะเวลาขับรถ แต่จะพยายามระลึกรู้อยู่เสมอ เวลาโกรธไปแล้วจะพิจารณาตัวเอง รู้สึกเสียใจ ต้องปรับปรุงตนเองให้ได้

๓. จะช่วยชาติลดการซื้อปุ๋ยเคมี และยาฆ่าแมลง โดยการยกตัวอย่างเกษตรธรรมชาติของชาวอโศก ให้แก่เกษตรกรที่เป็นลูกค้าของ ธ.ก.ส. เพื่อลดต้นทุนการผลิต และขออนุญาต นำเกษตรกรที่สนใจ ไปดูงานของชาวอโศกด้วย

๔. การปฏิบัติศีล ๕ เคร่งครัดขึ้นมากแล้วครับ สมาชิก ๒๕๗๒๐๔

-----------------------------------------------------------------------------------------
เคร่งครัดขึ้น ก็ได้เรียนรู้จิตส่วนลึกเพิ่มขึ้น ทั้งเห็นหน้าตากิเลสชัดเจนขึ้น ขอเพียงรู้หน้าตาก็นับว่ามีฝีมือในระดับหนึ่งแล้ว เพียรฝึกปรือฝีมือฆ่ากิเลสให้ได้อีก ชีวิตยิ่งมีคุณค่าความหมาย …บ.ก.

กายห่างไกล ใจใกล้ชิด

--------------------------------------------------------------------------------------------
๑. อ่านสารอโศกแล้วทำให้ความโลภ ความโกรธ ความหลง ในตัวลดลง

๒. ทำให้ทราบถึงสภาพความเป็นอยู่ และวิถีชีวิตของหมู่กลุ่มชาวอโศก เพื่อนำไปปฏิบัติตาม

๓. ทำให้ได้ทราบข้อคิด ธรรมะต่างๆของกลุ่มชาวอโศก

๔. ทำให้ทราบถึงอุปสรรค ปัญหา ในการปฏิบัติธรรมของกลุ่มสมาชิกชาวอโศก เพื่อเป็นแบบอย่างในการแก้ไขปัญหาต่างๆต่อไป

วิเชียร วงศ์สถาน

-----------------------------------------------------------------------------------------
แม้จะอยู่ห่างไกลหมู่กลุ่ม แต่คอยติดตามข่าวคราวของหมู่กลุ่มเสมอ ทั้งยังนำข้อคิดและธรรมะไปปฏิบัติอีกด้วย อย่างนี้ไกลแต่ตัว แต่หัวใจใกล้ชิดแท้ๆ …บ.ก.

อโศกอยู่ในใจ

--------------------------------------------------------------------------------------------
ดิฉันเป็นชาวพุทธที่อยากจะรู้ อยากจะตื่น และอยากจะเบิกบานจริงๆ ซึ่งการพยายามขัดเกลาตนเองนั้น ดิฉันก็พยายามอยู่เสมอเท่าที่จะสามารถ โดยมี"พี่เลี้ยง" คือ ชาวอโศกนี่แหละค่ะ ถ้าไม่ได้รับหนังสือ ดิฉันจะต้องเหงาหงอยสนิทเลยทีเดียว อยากพึ่งพาเอาจริงๆ ได้อ่านได้เห็น"เพื่อน"ค่ะ

ทุกครั้งที่ดิฉันมีธุระมากรุงเทพฯ ดิฉันไม่ทานอาหารอื่น นอกจากมังสวิรัติที่ร้าน ชมร. ถ้าครั้งใดที่มาแล้วปรากฏว่าร้านปิด ดิฉันจะเหงาและผิดหวังอย่างยิ่ง ที่ไม่เห็น"เพื่อน" ดิฉันไม่ได้ประกาศตนเป็นชาวอโศกหรอกค่ะ แต่ในใจจะยึดชาวอโศกเป็นเพื่อน เป็นที่พึ่งทางใจ แบบขอรู้จักข้างเดียวค่ะ เพราะขณะนี้ดิฉันต้องการอิสระในการอ่านและศึกษา ยังไม่ต้องการสังกัดกลุ่ม จนกว่าจะถึงเวลาที่กำหนดไว้ ซึ่งกลุ่มอโศกคือที่หมายสุดท้ายในชีวิตของดิฉันค่ะ

เวลานี้ดิฉันดึงหลานชายให้มาสนใจศึกษากลุ่มอโศกได้หนึ่งคน พ่วงเพื่อนมาอีกกลุ่มค่ะ หลานชายเรียนวิศวะอยู่มหาวิทยาลัยขอนแก่น ๕ ปี ไม่จบ ลาออกมาเรียนรัฐศาสตร์รามคำแหง ตั้งเป้าขอจบ ๒ ปีครึ่ง ผ่านไปแล้วครึ่งทางค่ะ โลกและชีวิตเป็นเรื่องยุ่งยาก ดิฉันอยากให้หลานหันมาสนใจธรรมะ ก็รู้สึกดีใจที่หลานให้ความสนใจอโศกมาก และออกปากว่าไม่อยากแต่งงาน ไม่อยากมีลูก ดิฉันอยากดึงหลานมาทางธรรม ไม่อยากให้เหนื่อยเปล่า กับความไร้สาระทางโลก อย่างน้อยก็ตัดตอนได้บ้างค่ะ /

นภาภรณ์

-----------------------------------------------------------------------------------------
พร้อมเข้ากลุ่มเมื่อไหร่ ยินดีต้อนรับสมาชิกเก่าแก่ ว่าแต่ว่าอีกนานไหม กว่าจะถึงเวลาที่กำหนดไว้ คุณนภากรณ์จะรอให้รู้จักอโศกถึง ๓๐ ปีก่อนหรือเปล่านะ
….บ.ก.

มุมมองสารอโศก

--------------------------------------------------------------------------------------------
ต้องขอขอบคุณที่กรุณาส่งหนังสือให้ผมได้อ่าน ผมได้รับหนังสือเพียงสามฉบับ คือสารอโศก (๒๒๓-๒๒๔-๒๒๕) ตัวผมอ่านแล้วรู้สึกว่าบทความส่วนใหญ่จะตึงเครียดไปนิดหน่อย สำหรับความคิดในปัจจุบันของตนเอง แต่มีคอลัมน์ที่ชอบอยู่บ้างดังนี้

๑. จดหมายจากญาติธรรม อ่านแล้วได้รับรู้ถึงความรู้สึก และความคิดของสมาชิกท่านอื่นๆ ว่ามีแนวทางในการปฏิบัติตนในหลายๆวิธี มีความคิดในการดำรงชีวิตในสังคมปัจจุบัน ในแบบที่ตัวผมเองไม่เคยนึกถึง และไม่เคยปฏิบัติเลย พออ่านแล้วก็คิดโน้มเอียงไปทางเดียวกันกับสมาชิกท่านอื่นอยู่บ้าง

๒. จากโลกีย์ถึงโลกุตระ ชอบเพราะอ่านได้สบายๆ อ่านประวัติของสมาชิกท่านอื่น ว่ามีความเป็นมาอย่างไร และจุดเป้าหมายต่อไปของเขา ต้องการให้ชีวิตดำเนินไปทางไหน

๓. กว่าจะถึงอรหันต์ ดีเพราะเป็นนิทานอิงธรรมะ ได้เรียนรู้ถึงภูมิความรู้ของเก่า (ไม่ทราบว่าจะเก่าหรือไม่) และความรู้ทางธรรมะควบคู่ไปด้วย

กล่าวโดยสรุปแล้ว ผมชอบอ่านหนังสือดอกหญ้ามากกว่า เพราะรู้สึกว่าอ่านสบายกว่ามาก ถูกกับลักษณะนิสัยของตนเองเป็นส่วนมาก ต้องขอขอบคุณที่กรุณาอ่านทุกตัวอักษร / บุญเกิด

-----------------------------------------------------------------------------------------
เนื้อหาสารอโศกจะตึงเข้มสักหน่อย เพราะเป็นหนังสือค่อนข้างภายในของชาวอโศก แต่ไม่โต่ง ถึงชอบดอกหญ้ามากกว่า แต่คุณบุญเกิดก็ยังคงอ่านสารอโศกต่อไปได้ใช่ไหม
บ.ก.

เหลือเพียงโทสะ

--------------------------------------------------------------------------------------------
ได้รับหนังสือตลอดเวลา กราบขอบพระคุณที่ทางสมาคมฯส่งหนังสือมาให้ หนังสือทั้งสองเล่มเปรียบเหมือนยาชูกำลัง ทำให้มีขวัญ และหวังที่จะต่อสู้กับโรคร้ายคือกิเลส

ในช่วงเข้าพรรษา ได้ถือข้อปฏิบัติคือ กินมังสวิรัติตลอดพรรษา ร่างกายเบา สุขภาพดีขึ้นมาก เหลือเพียงโทสะเท่านั้น ที่ยังคงรุนแรงอยู่ ไม่ยอมปล่อยวางซักที

วันเพ็ญ

-----------------------------------------------------------------------------------------
พ่อท่านโพธิรักษ์เคยบอกไว้ว่า "สาเหตุอันเลวแท้ ที่ทำให้คนยังโกรธอยู่ คือการเอาแต่ใจตัวเอง" เปิดใจให้กว้างขึ้นจะเข้าใจผู้อื่นมากขึ้น และอย่าเป็นคนช่างมีเงื่อนไข แล้วเราจะพบความสุขใจเบาใจเพิ่มขึ้น
…บ.ก.

ขอเป็นกำลังหนุน

--------------------------------------------------------------------------------------------
ถึงแม้ว่าข้าพเจ้าจะไม่ค่อยได้เข้าไปสัมผัสใกล้ชิดหมู่กลุ่มชาวอโศก แต่ข้าพเจ้าก็ได้รับหนังสือดอกหญ้าและสารอโศกเป็นประจำ ทำให้ข้าพเจ้ารู้ข่าวคราวความเคลื่อนไหวของชาวอโศก

ช่วงหลายเดือนข้าพเจ้าต้องขออภัย ที่ไม่ได้ตอบรับหนังสือ เพราะความผัดวันประกันพรุ่งของข้าพเจ้าเอง ปัจจุบันก็ทั้งทำงานและเรียนต่อปริญญาตรี ตอนนี้ปี ๒ เทคโนฯอุตสาหกรรม(อิเล็กทรอนิกส์) ภาคค่ำ (กศ.บป.)

สถานะปัจจุบันก็ทานมังสวิรัติ (แต่ยังทานนมและไข่อยู่ เพราะหาทานบริสุทธิ์ลำบาก และที่สำคัญต้องเข้าร่วมสัมมนาอยู่บ่อยๆ) ถือศีล ๕ บริสุทธิ์ และที่สำคัญจะพยายามไม่โกรธ ไม่ใช้อารมณ์ขณะสั่งงาน

สิ่งแวดล้อมภายนอก (ผัสสะ) ก็พยายามมองแก่นแท้ของชีวิตเป็นหลัก เพราะว่าสังคมปัจจุบันนี้มีแต่เปลือก เช่นที่ข้าพเจ้าเห็นอยู่บ่อยๆ ก็เห็นจะเป็นการนุ่งสั้น หุ้มน้อยปล่อยเยอะ(กาย) พอนุ่งสั้นเวลานั่งรถซูบารุเข้าซอย ก็ต้องคอยระวัง แต่บางครั้งก็ระวังไม่หมด ทำให้ผู้โดยสารคนอื่นๆต้องนั่งลำบาก ทำไมต้องทำให้ตัวเองต้องลำบากถึงขนาดนี้ด้วย ทั้งๆที่ทางออกมีเยอะมากๆ

สังคมภายนอกดูดี แต่ดูอีกทีกลับเน่าเหม็น พึ่งไม่ได้เลย คอยแต่จะแทะซึ่งกันและกัน ช่วยเหลือก็หวังแต่ประโยชน์ แต่ข้าพเจ้าขอเป็นกำลังหนุนหลังก็แล้วกัน ถ้าข้าพเจ้าพร้อมเมื่อไหร่ ข้าพเจ้าจะเข้าไปช่วยเต็มที่เลย

ท้ายสุดนี้ ก็ขอให้ชาวอโศกทั้งใหม่และเก่า จงยึดมั่นหมั่นเพียรในการงาน ในศีล ให้มั่นคง ขอให้เดินเกาะกลุ่มกันไว้ อย่าแตกแยกในความแตกต่างเพราะสังคมภายนอกปัจจุบันและอนาคตพึ่งไม่ได้แน่นอน!

สุธรรม

-----------------------------------------------------------------------------------------
เป็นกำลังหนุน ก็ได้ช่วยหมู่กลุ่มเช่นกัน ทำให้ชาวอโศกมีกำลังใจว่า มีผู้ที่เข้าใจแนวทางบุญนิยมนี้ไม่น้อย
…บ.ก.

จม.จากลูกที่หลงทาง

--------------------------------------------------------------------------------------------
ที่ส่งหนังสือมาให้ผมเรื่อยมา ผมก็ขอบอกตามความจริงเลยว่า ตอนนี้ผมได้ตกล่วงลงไปต่ำมาก แต่ก่อนเคยยึดมั่นการทานมังสวิรัติ แต่ตอนนี้ต้องกลับมาทานเนื้อสัตว์ แต่ก็ทานได้แค่ปลาเท่านั้น เนื้อสัตว์อื่นๆ ผมไม่กล้าทาน เพราะในสำนึกลึกๆแล้วผมก็ไม่อยากจะทานเลย แต่สิ่งแวดล้อมในการเป็นอยู่ของผมไม่อำนวย เพราะตอนนี้ผมก็ได้แต่งงาน มีลูกแล้วหนึ่งคน และก็อยู่กับพ่อตาแม่ยายด้วย ความมั่นคงในการเงินก็ยังไม่พร้อม จึงต้องจำใจทาน ทุกครั้งกลืนปลาลงคอ การเป็นบาปก็ปรากฏขึ้นในใจของผมเสมอ แต่ผมก็ไม่ได้ทานทุกมื้อเสมอไป มื้อไหนพอหลีกเลี่ยงได้ผมก็ทำ ผมก็คิดว่าผม จะกลับมาทานอาหารมังสวิรัติอีกครั้ง ถ้าผมมีโอกาส

เรื่องการมีชิวิตคู่ ก็มิใช่ว่าจะเป็นของสนุกเลย ปัญหาร้อยแปดประดังเข้ามา ความคิดที่เคยแจ่มใสกลับมืดมน ความสุขใจที่เคยมีกลับลดลงอย่างเห็นได้ชัด สมดังที่พระพุทธองค์ได้ตรัสไว้ "ผู้ฝักใฝ่ในเมถุนย่อมเศร้าหมอง" คิดเสียว่า ผมขอสารภาพบาปของตัวเองให้ทางสมาคมฯทราบ บางทีอาจจะเป็นข้อคิดสำหรับผู้กำลังแสวงหาการมีคู่มีเรือน ก็ขอให้คิดให้ดี ให้รอบคอบเสียก่อน ก่อนที่จะตัดสินใจทำอะไรลงไป

ความสุขมิได้อยู่ที่การมีคู่ ความทุกข์ต่างหากที่อยู่ในการมีคู่ครอง

จากลูกที่หลงทาง

-----------------------------------------------------------------------------------------
ถือศีล ๕ ละอบายมุข ตั้งหลักรับมือกับปัญหาต่างๆ พูดคุยกันด้วยความเข้าใจอันดีกับคู่ชีวิต ใจเย็นๆ เชื่อว่า คุณจะเนรมิตบ้านให้กลายเป็นบ้านร่ม บ้านขวัญได้
…บ.ก.

ชอบสารอโศกฉบับยิ้มกับแม่

-------------------------------------------------------------------------------------------
ผมได้รับหนังสือสารอโศก อันดับ ๒๒๗ ส.ค.๒๕๔๓ ฉบับยิ้มกับแม่แล้ว ผมขอขอบพระคุณมา ณ โอกาสนี้ด้วย ผมได้อ่านสารอโศกเล่มนี้รู้สึกรักแม่ผมมากเลย ท่านมีคุณกับผมมากๆ แม่อยู่ ผมมีกำลังใจทำงาน มีความอบอุ่น ผมอยากจะให้แม่ผมมีอายุยืนยาวเป็น ๑๐๐ ปี ยิ่งได้อ่านหนังสือดีๆอย่างนี้ เป็นคุณมหาศาลเลยดีมากๆ

ผมเกิดบ้านนอก อยู่ร่องขุ่นห่างจากตัวเมืองไป ๑๒ ก.ม. เข้าร.ร.แม่มอญ ป.๑ แล้วมาเข้าที่เชียงราย มาอยู่บ้านปู่ย่า เข้าร.ร.ดรุณวิทยา จบป.๗ ต่อ ร.ร.สามัคคีวิทยาคม ม.ศ.๑-๓ แล้วไปต่อวิทยาลัยครูเชียงใหม่อีก ๒ ปี ป.กศ.ต้น แล้วไปเรียนต่อกรุงเทพฯ เรียนรามคำแหงอยู่ ๔ ปีไม่จบ

ตอนเรียนอยู่รามคำแหงในราวปี ๑๙-๒๐ เคยเห็นพระอโศกไป แต่ยังไม่รู้ แต่ประทับใจ เห็นเดินช้าๆ เรียงแถวหนึ่ง สวยงามมาก ผมอยู่ในห้องสมุดในห้องแอร์เย็นฉ่ำ ผมมองดูพระรู้สึกประทับใจมากๆเลย แต่ปัจจุบันนี้ผมได้อ่านหนังสือของอโศก ฟังเท็ปอโศก เกิดมาชาตินี้ไม่เสียชาติเกิดจริงๆ มาพบของแท้ เป็นบุญของผมจริงๆ

ข้อปฏิบัติที่ได้จากการอ่าน

๑. อดทนต่อการทำงานมากๆ

๒. เห็นกิเลสในการทำงาน แล้วจะพยายามฆ่ากิเลสด้วย

๓. อดทนต่อผัสสะที่มากระทบได้มากขึ้น

สมาชิก ๒๕๘๐๐๘

-----------------------------------------------------------------------------------------
ถ้ามีลูกชายที่ดีๆ รักแม่อยู่ ทำให้มีกำลังใจทำงานอย่างนี้ คุณแม่ก็คงอยากมีอายุยืนยาวเหมือนกันล่ะ
…บ.ก.