การหัวเราะ เป็นยาวิเศษ ไม่ต้องซื้อหา
(จากหนังสือหัวเราะชนะโรค)

ปัจจุบัน ได้มีการทดลองการยิ้ม การหัวเราะ ช่วยรักษาและป้องกันโรคได้ ทำให้ร่างกาย ผ่อนคลาย จากการทดลอง พบว่า

การหัวเราะ ทำให้หลอดเลือดขยาย และกระตุ้นโลหิต ให้หมุนเวียนไป ทั่วร่างกาย คนที่มือชาเท้าชาอยู่เสมอ ควรหัวเราะให้มากขึ้น

การหัวเราะ ทำให้ร่างกายอบอุ่น เพราะการหัวเราะเพิ่มออกซิเจน เข้าสู่เซลล์ต่าง ๆ ในร่างกาย

การหัวเราะช่วยเร่งเนื้อเยื่อ ให้หายเป็นปกติเร็วขึ้น และทำให้ร่างกาย มีภูมิต้านทานการติดเชื้อสูงขึ้น

นอกจากนี้การหัวเราะ ก็ยังลดอัตราการเต้นของหัวใจ และกระตุ้น ความอยากอาหาร สารฮอร์โมนในร่างกายถูกกระตุ้น การผลิตเบต้า - เอ็นดอร์ฟิน(สารสุข) ซึ่งเป็นสารเพิ่มภูมิต้านทานโรค

ถ้าการจ็อกกิ้ง คือการออกกำลังกายที่ดี การหัวเราะก็คือการจ็อกกิ้งนั่นเอง

งูเขียวว่าทีนี้ใครบอกไม่มีเวลาออกกำลังละก็แย่ที่สุด เพราะหัวเราะได้ทุกที่ทุกเวลา ยิ่งรถติดมาก ๆ หัวเราะเข้าไว้ใครว่าบ้าก็ช่าง ก็เราออกกำลังนี่นา

.น้ำนั้น สำคัญยิ่ง
(จากหนังสือวิกฤตสิ่งแวดล้อม)

ปีนี้ได้เกิดความแห้งแล้งขึ้นเกือบทั่วประเทศไทยแล้ว สาเหตุที่ทำให้น้ำขาดแคลนคือ

๑. ปริมาณน้ำฝนน้อย มีสาเหตุจากปริมาณป่าไม้ที่ลดลงมาก และอุณหภูมิโลกร้อน

๒. การเพิ่มปริมาณการใช้ ทั้งภาคเกษตร และอุตสาหกรรมและประชากรมากขึ้น

๓. การเพิ่มสารพิษในน้ำ โดยการทิ้งขยะสิ่งปฏิกูลลงในน้ำ ทั้งน้ำเสียจากโรงงาน อุตสาหกรรม และจากการเกษตร

๔. การใช้น้ำที่ฟุ่มเฟือย

การขาดแคลนน้ำสะอาดดื่ม ซึ่งแต่เดิมมาเราใช้น้ำฝน น้ำต้มดื่ม ขณะนี้น้ำฝนก็ไม่สะอาด ประชาชนต้องหันมาซื้อน้ำดื่มในราคาแพง คนยากจนต้องลำบากมาก

การแก้ไข ช่วยกันปลูกต้นไม้มากๆ นี่ใกล้หน้าฝนแล้ว "เราช่วยโลก - โลกช่วยเรา"

ภูมิแพ้ (Allergies)
(จากหนังสือ กินอะไร กินอย่างไร ปฏิบัติแบบไหน โรคจึงจะหายร่างกายแข็งแรง โดย ณรงค์ อัศกุลโกวิท)

เกิดเนื่องจากร่างกายอ่อนแอ ไม่มีความต้านทานพอที่จะต่อสู้กับสิ่งแวดล้อม ส่วนมากจะเกิดกับคนที่ความดันต่ำ พักผ่อนไม่พอ และอยู่ในสภาพแวดล้อมไม่เหมาะสม

การรักษา มักจะใช้ยาระงับการแพ้ หลีกเลี่ยงสิ่งที่ร่างกายแพ้ สร้างภูมิต้านทานด้วยวัคซีน ร่างกายขาดความสมบูรณ์ อาจเนื่องจากการบริโภค พักผ่อนไม่ถูก ต้องแก้ไขปรับปรุง

และควรบประทานไวตามินบางอย่าง ช่วยเพิ่มความแข็งแรง มี

กระเทียม ครั้งละ ๑ หัว วันละ ๓ ครั้ง

ไวตามินบี ๖ ครั้งละ ๑๐๐ - ๒๐๐ มก.วันละ ๓ ครั้ง
ไวตามินบี ๑๒ ครั้งละ ๑๐๐ - ๒๐๐ มค.ก. วันละ ๓ ครั้ง
ไวตามิน E ครั้งละ ๑๐๐ - ๒๐๐ ยูนิต วันละ ๓ ครั้ง
ไวตามิน C ครั้งละ ๒๐๐ - ๔๐๐ มก. วันละ ๓ ครั้ง

ข้อควรปฏิบัติอื่น

พักผ่อนให้พอเพียง ไม่ทำงานหนักเกินไป อย่าเครียด อยู่ที่อากาศบริสุทธิ์ ระวังอย่าให้ท้องผูก ออกกำลังสม่ำเสมอ ทำอารมณ์ให้แจ่มใส หายใจด้วยวิธีที่ถูกต้อง