อาชีพเดิม
หลังจากเรียนจบไม่เคยประกอบอาชีพอื่นใด เพราะมาพบหมู่กลุ่ม ชาวอโศกก่อน
พบอโศก เมื่อปี
๒๕๓๕ (เรียนอยู่ปี ๓) เข้ารับเพื่อนใหม่กับกลุ่ม รามบูชาธรรม ระหว่างงาน
ได้ฟังปาฐกถาธรรม ของพ่อท่าน สมณะโพธิรักษ์ ที่ตึก AD๑ ม.รามคำแหง และ มีรายการอื่นๆ
ที่น่าสนใจ หลายประการ เช่น การอภิปราย จากวิทยากรผู้รู้ มีการแสดง บนเวที
มีนิทรรศการ ให้ความรู้ ที่หลากหลาย เปิดโลกทัศน์ของเรา ให้กว้างขึ้น และมีวิธีการ
ดำเนินชีวิต ที่เรียบง่าย มีความสุข
สิ่งที่ประทับใจ
ประทับใจชาวอโศกมีสิ่งที่เรียบง่าย ธรรมดาๆ เหมือนเราได้ย้อน กลับไปสู่
สิ่งที่เราได้เรียนรู้มาก่อน ตามชนบท (บ้านนอก) คือ ชีวิตที่ไม่ต้อง มีอะไรมาก
แต่มีความสุข มีความเป็นพี่น้อง มีความจริงใจ มีวิถีชีวิตของชนบท (ชาวสันติอโศก)
ที่เรามาพบ เมื่ออยู่ในเมือง
ประทับใจการตอบปัญหาของพ่อท่าน
มีความชัดเจน เป็นสัจจะ เป็นสิ่งที่เรา เลี่ยงไม่ได้ และ ก็ไม่มี ข้อโต้แย้งใดๆ
เมื่อพบแล้วก็เปลี่ยนแปลงตนเอง
โดยหันมารับประทาน อาหารมังสวิรัติ ถือศีลห้า รับประทาน อาหาร วันละ ๒ มื้อ
และ มื้อเดียวในที่สุด เพราะเห็นความยุ่งยาก ในการกิน หลายมื้อ เช่น บางวัน
เมื่อต้องปรุงอาหาร กินเอง ก็ต้องเตรียมทั้งวัน ไม่ต้องทำอะไรอื่นเลย
ตั้งแต่ปี ๒๕๓๕ ก็คบคุ้นกับกลุ่มนักศึกษา
ผู้ปฏิบัติธรรมนี้ (กลุ่มรามบูชาธรรม) มาเรื่อย รู้สึกว่า เดินตามแนวทางนี้ดี
ก็เลยมาช่วยกลุ่ม ขายอาหาร อยู่ที่แผง ๒๒ ในมหาวิทยาลัย รามคำแหง ประมาณ
๑ ปี ได้ค่าสวัสดิการ เดือนละ ๒,๐๐๐ บาท ทำงานไปด้วย เรียนไปด้วย
ปี ๒๕๓๗ เรียนจบ ก็ออกมาทำงาน
ขายอาหาร อยู่ที่แผง ๒๒ ต่อไป
ปี ๒๕๓๘-๒๕๔๓ มีรุ่นพี่ชักชวนให้มาช่วยกันทำหนังสือ
ของชาวอโศก เล่มใหม่ หนังสือพิมพ์ เราคิดอะไร ได้ค่าสวัสดิการ เดือนละ ๓,๐๐๐
บาท
ปี ๒๕๔๓-ปัจจุบัน ตั้งใจมาเป็นคนวัด
ที่พุทธสถาน สันติอโศก เพื่อฝึกฝนตนเองให้มากขึ้น เป็นอาสาสมัคร ประจำที่ชมรมมังสวิรัติ
สาขาหน้าสันติอโศก เป็นอาสาสมัครจร ที่สำนักพิมพ์ กลั่นแก่น รับหน้าที่ เป็นคณะกรรมการ
ฝ่ายปฏิคม ของชุมชนสันติอโศก เป็นคณะกรรมการ พรรคเพื่อฟ้าดิน สาขา ๑๐ บึงกุ่ม
ปัญหาในการทำงาน
มักเกี่ยวกับเรื่องความคิดเห็นที่แตกต่างกัน
ซึ่งเรามักมองว่า ความคิดเห็น ของเราถูกต้อง และเห็นว่า ความคิดเห็นของเพื่อนร่วมงาน
ไม่ดีเท่าของเรา (ซึ่งรู้ว่า เป็นความคิดที่ผิด แต่มักคิดไม่ทัน) และถ้าเรายึด
ความถูกต้อง ของความคิด ของเรามาก เมื่อไม่ได้ดั่งใจเรา และยังวางใจไม่ได้
ก็เกิดติดขัดในการทำงาน
วิธีแก้ไข
พยายามหันกลับ มาแก้ไขที่ตนเองให้มากที่สุด ให้ค่าและความสำคัญ กับการกระทำ
และความคิดเห็น ของทุกๆคน ซ้ำบ่อยตัดสินใจ โดยเอาเสียงข้างมาก ของหมู่กลุ่ม
หรือผู้ร่วมงานเป็นหลัก วางใจกับหมู่กลุ่ม ที่ได้ร่วมกัน ตัดสินใจ ถือว่าถูกต้อง
ที่สุดแล้ว เพราะเราได้รับผิดชอบร่วมกัน ยอมรับ ในความคิดเห็น ของหมู่กลุ่ม
ของคนดี ที่ต่างมาเสียสละ และ ทำตามนั้นให้ได้
คติเตือนใจตนเอง พยายามทำปัจจุบันให้ดีที่สุด
แม้ว่าจะยาก เสียเหลือเกิน เพราะขณะที่ เราทำงาน อาจเพลิดเพลิน และขาดสติ
ทำบางอย่างผิดพลาด ถ้ามีสติ ทำปัจจุบัน ให้ดีได้ ก็ไม่ต้องห่วง ทั้งอดีต
และอนาคต เพราะปัจจุบันก็คือ อดีต และ อนาคตนั่นเอง
เป้าหมายในชีวิตวันนี้
อยากเป็นหนึ่งในผู้บริสุทธิ์
ทั้งทางกาย วาจา ใจ หวังเป็นคนดี คนหนึ่งของสังคม
ข้อคิดข้อฝาก ตอนนี้ได้พาชีวิตมาพิสูจน์ตนบนเส้นทางสายธรรม
ได้พบแล้ว หมู่มวลมิตรดี สังคมสิ่งแวดล้อมดี ได้มาแล้ว ก็รู้สึกว่า จริงๆ
แล้วชีวิตคนนั้น แสนสั้นนิดเดียว อยู่กันได้ ก็เพียง ๒-๓ หมื่นวัน แต่พญามาร
มักพาให้เพลิดเพลิน ในสิ่งที่ไม่ควรเพลิดเพลิน เราจึง มักพลาดโอกาส ในการสะสม
อริยทรัพย์ พ่อท่านเคยบอกไว้ว่า ระวัง ! กรรมเป็นทรัพย์แท้ ของคนจริงๆนะ
ชาตินี้เราจะสะสมอริยทรัพย์ เป็นทรัพย์แท้ของชีวิต ที่ตามเราไปได้ ในทุกๆชาติ
หรือจะแค่ สะสมทรัพย์สมบัติ ก็จะได้แต่ทรัพย์สมบัติ ที่จะมีได้ ก็แต่ในชาตินี้เท่านั้น
เท่านั้นจริงๆ
(สารอโศก
อันดับที่ ๒๕๑ สิงหาคม ๒๕๔๕)
|