พระบรมราโชวาท
"ก่อนลงมานี้ ไม่ได้ตั้งใจพูดเรื่องพัฒนา
ตั้งใจมาพูดเรื่องความหายนะ ซึ่งปัจจุบันนี้ ทุกคนทราบดีว่า ประเทศดูเหมือนว่าจะหายนะ
ไม่ใช่พัฒนะ ไม่ใช่วัฒนะ เพราะว่าเดี๋ยวนี้ อะไรๆดูเสื่อมลง
เมื่อ ๒๐ ปีได้คิดดูว่า
เจ้าหน้าที่ที่ไปดูดสิ่งโสโครกจากบ้าน แล้วเขาเอาไปไว้ที่ไหน เป็นปัญหา ก็ไปสืบดู
เขาบอกว่า เอาไปทิ้งที่ที่เหมาะสม ที่ที่เหมาะสมนั้น ไม่ทราบว่าที่ไหน ก็ตามรถ
ที่เขาเอาสิ่งโสโครกนั้นไป ตามรถนั้นไป แล่นๆไป กลางคืนก็ไม่ค่อยเห็น ก็ไปจอดที่คลอง
หรือที่แม่น้ำ จอดสักพักหนึ่ง ปล่อยลงคลอง ปล่อยลงแม่น้ำ เสร็จแล้วในรถนั้น
ก็ไม่มี สิ่งโสโครกแล้ว เป็นสำเร็จประโยชน์เรียบร้อยสะดวกดี ไม่ต้องไปไกล
ไปดูดที่อีกบ้านหนึ่ง ที่อีกแห่ง เกิดจากเหตุอย่างนี้
จึงเกิดความคิดว่า ถ้าหากว่าหาที่แห่งหนึ่งนอกเมือง
ไปทำถัง เอาสิ่งโสโครก ไปปล่อยใส่ ในถังนั้น แล้วหมักไป ๑๐ วัน สิ่งโสโครกก็หายโสโครก
มีเชื้อโรคๆอะไร หมดไป ๑๐ วัน ก็หมดไป ถ้าให้ดีเอาเป็น ๒๘ วันให้มันจริงๆจังๆ
โสโครกพวกเชื้อที่ร้ายแรง ที่เวลานั้นมีอยู่ ก็คงไม่ต้องบอกชื่อ คนรังเกียจชื่อสิ่งโสโครก
พวกเชื้อโรคต่างๆชนิด หมด ไม่มี แม้แต่กลิ่น ก็หมด ใส่แบบนั้นเสร็จแล้ว ออกมาตาก
มาใช้ ที่มาใช้เป็นปุ๋ยได้ เป็นประโยชน์ ส่วนที่เป็น ของแข็ง และสิ่งที่เป็นน้ำ
น้ำก็เป็นปุ๋ยที่ไม่เหม็น ของแข็งก็เป็นปุ๋ย ที่ไม่เหม็น เมื่อเอาไปใช้แล้ว
เอาทำหลายถัง เอาสิ่งโสโครกมาใส่อีกต่อไป เอาของที่โสโครก ของปฏิกูลมาใช้
เป็นประโยชน์ สำหรับการเกษตร ใช้ได้"
พระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ณ ศาลาดุสิดาลัย พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต วันที่
๔ ธันวาคม ๒๕๔๔
(สารอโศก
อันดับที่ ๒๕๓ ตุลาคม ๒๕๔๕)
|