หน้าแรก>สารอโศก

กรรมตามสนอง
แรงอาฆาต

ในปี ๒๕๔๐ ประมาณ ๕ ปีก่อน ซึ่งอาตมายังไม่ได้อุปสมบท อาตมา อุปสมบทเมื่อ ๒๑ มกราคม ๒๕๔๒ ปีนี้ก็พรรษา ๔ แล้ว

วันหนึ่ง สมัยที่ยังไม่ได้บวช ผมและเพื่อนนึกสนุก ออกไปยิงหนูกลางทุ่งนา ที่จริงผมไม่เคย ยิงหนูมาก่อนเลย แต่ก็ไป ด้วยความสนุก โดยเอาปืน สำหรับยิงหนูไปด้วย เพื่อนสามารถ ยิงหนูได้หลายตัว แต่ผมยิงไม่ได้เลย เพราะยิงไม่เป็น ดูเพื่อนท่า จะทำบาปขึ้นกระมัง

เพื่อนเห็นว่า ผมยิงหนูไม่ได้ ก็ตกลงจะแบ่งหนูให้ และให้มายิงตามกันใกล้ๆ จะได้บอก วิธีการยิงด้วย ก็ได้ผล ยิงหนูได้จริงๆ

จนกระทั่งถึงเวลาดึก พอเราสองคนหาหนูไปเรื่อยๆ ปรากฏว่าเพื่อนเดินไปเจองู คือ งูสามเหลี่ยม มีอยู่ ๓ ชื่อที่ชาวบ้านเรียกกันคือ ๑. งูสามเหลี่ยม ๒. งูทับทาง ๓. งูกล่านปล้อง (ภาษาบ้านนอก) เพื่อนตกใจกลัวงู แต่ผมไม่กลัวและเข้าไปดู โอ้โฮ! ตัวใหญ่มาก คิดว่า น่าจะกินได้ (มนุษย์กินมันทุกอย่างจริงๆ) ด้วยความคิด จะกินมัน ผมจึงใช้ปืน ยิงมันจนตาย แล้วใช้มีด ตัดหัวงูฝังไว้ ตัวของมัน ก็เอากลับไปบ้าน

งูตัวใหญ่มากเกือบเท่าลำแขนได้ จนเพื่อนไม่กล้าเข้าใกล้ แต่ผมจับด้วยมือเลย พอถึงที่บ้าน ก็เอาไปให้ คนที่บ้านดู ปรากฏว่าเขาบอกว่า "งูชนิดนี้เขาไม่กินกัน ให้เอาไปทิ้ง" ผมตกใจมาก รู้สึกใจหาย เพราะไม่น่า ไปฆ่ามันเลย ผลก็คือต้องเอาไปโยนทิ้งโดยไร้ค่า ชีวิตของมัน ไม่มีค่าเลย เสียใจอยู่ ได้แต่นึกในใจว่า ขอโทษ แต่ความจริงแล้ว เป็นไปไม่ได้ ที่จะขอโทษงู เพราะฆ่ามันเสียแล้ว

ต่อมาอีกหลายเดือน จนลืมเรื่องนี้ไปแล้ว มีอยู่วันหนึ่ง เหตุการณ์ไม่คาดคิด ก็เกิดขึ้น เพื่อนมานอน ด้วยที่บ้าน เราอยู่กันสองคน วันนั้น นุ่งโสร่งแบบพม่า ที่เหมือนสบงของพระ นอนไม่กางมุ้ง เพราะไม่มียุง แต่เปิดพัดลม เรานอนในเสื่อ ที่นอนอันเดียวกัน

พอตกดึกกำลังหลับนั้น ต้องสะดุ้งตื่น เพราะมีตัวอะไรไม่ทราบ เข้ามาในโสร่งของผม ในความมืด จึงเอามือ จับดู แล้วก็ต้องร้องสุดเสียง กระโจนสุดตัว ดึงโสร่งออก กระโดด ไปเปิดสวิชไฟ ปรากฏว่า เป็นงูสีดำ ลายเหลือง คืองูชนิดเดียวกับ ที่ผมได้ฆ่ามัน เมื่อครั้งก่อน ซึ่งมีพิษมากกว่า งูเห่าเสียอีก เพื่อนก็ตกใจ แล้วยังไม่วาย จะฆ่ามันอีก วิ่งหามีด จะฟันมัน พบมีดปอกผลไม้ ยาวประมาณ ๑ คืบ เล็กมาก จะเอามา ฟันมัน แต่ไม่ได้ฟัน เพราะมันเลื้อย หนีไปก่อน

มันเลื้อยหนีไปในที่เก็บของ ผมกับเพื่อนก็ค้นหามัน แต่ก็ไม่เจอ จนต้องยุติการหา ในคืนนั้น เราไม่เป็น อันนอนเลย เพราะกลัวมัน จะกลับมาอีก

ผมนำมาหวนคิดว่า น่าจะเป็นลูกหรือพ่อแม่งูตัวที่ผมฆ่า ในตอนนั้น มันคงตามมาทวงหนี้ ที่ไปฆ่า ญาติของมัน ตามมาด้วย แรงอาฆาต เคราะห์ดี ที่ไม่ทันได้กัดผม ทั้งๆที่มัน เข้าไปในโสร่ง จนถึงกางเกง ในแล้ว อดคิดไม่ได้ว่า มันขึ้นไปได้ยังไงบนบ้าน เพราะบ้านสูงตั้ง ๘ ศอก ใช้เสาปูนด้วย ยังเคยคุย กับเพื่อนเลยว่า มันขึ้นมาได้ยังไง แต่ก็สรุปไม่ได้

ในใจอาตมาสรุปว่า มันมาตามอาฆาตแก้แค้น เพราะอาตมาไปฆ่าพ่อ-แม่ของมัน หรือ ญาติของมัน จึงได้ตามมาทวงหนี้ แล้วทุกวันนี้ อาตมาก็เชื่อ เรื่องของกรรมจริงๆ ได้บวช สร้างบุญกุศล บรรเทาบาป ในอดีตของตนร่วม ๔ พรรษาแล้ว

ส่งท้าย จงเชื่อไว้เถอะ เรื่องเวรกรรมมีจริงๆ มันจะให้ผลไม่ช้าก็เร็ว

- พระไกรสร ทีปธัมโม -

(สารอโศก อันดับที่ ๒๕๓ ตุลาคม ๒๕๔๕)