หน้าแรก>สารอโศก

- แม่น้ำ ลักขิตะ -

ได้รับใช้ผู้อื่น คือการหยิบยื่นความผาสุกให้จิตตน


เป็นความสุขที่หาได้โดยไม่ยาก เพียงออกปาก กับคนรอบข้างว่า "มีสิ่งใดให้ผมช่วยมั้ย?"

โลกปัจจุบันเต็มไปด้วยการแข่งขัน ชิงเด่นชิงดัง ล้างผลาญทำลายซึ่งกันและกัน ทุกคน ต่างอยาก เป็นนาย ชี้ใช้บงการ ส่วนผู้ยอมตน เป็นคน รับใช้สังคม เหลือน้อยเต็มท

เมื่อเราออกปากยินดีรับใช้ผู้อื่น เสมือนเป็น การทอดสะพาน สานสัมพันธ์ ผูกมิตร ด้วยไมตรีจิต รินหลั่งน้ำใจ ให้แก่กัน และกัน สายธารแห่งความสุข จะเอ่อท้นภายใน

แม้ช่วยได้เล็กน้อยก็ยังดีกว่าดูดาย เป็นต้นว่าเพื่อนร่วมสำนักงานคนหนึ่ง หอบเอกสารพะรุงพะรัง หากเราเข้าไปช่วยแบ่งเบาเสียครึ่ง เขาจะรู้สึกซาบซึ้งตรึงใจเป็นยิ่งนัก เพราะการให้เป็นที่ขาดแคลน ในยุคสมัยนี้ การเสียสละแรงกายเพื่อผู้อื่น หาได้น้อยเต็มที มีแต่คนคอยเอารัดเอาเปรียบ ข่มเหง ผู้อ่อนแอกว่า

กับการรับใช้ผู้อื่น ความสุขสันต์จะเกิดขึ้นได้อย่างไร?

ได้เสียสละแรงกายทำให้ใจเราเป็นสุข.....เพราะฟ้าโปรยปรายหยาดน้ำฝนลงมา พื้นพสุธาจึงยังมีชีวิต และสดใส เฉกโลกนี้อยู่ได้เพราะคนมีน้ำใจให้แก่กัน เมื่อเราได้ให้ สัมผัสแห่งสุข จะเกิดภายในใจเราทันที เพราะคิดที่จะให้ ใจจึงเป็นสุข หากคิดจะเอา อกเราร้อนเร่าเหมือนมีไฟเผาลน ได้เสียสละแรงกาย ทำให้รู้สึก เรามีคุณค่า.....

อาจมีบางคนรู้สึกว่า ตนมีชีวิตอยู่อย่างไร้คุณค่า ประโยชน์อันใดที่จะอยู่ต่อไปบนโลกใบนี้ จึงได้ฆ่าตัวตาย หรือใช้ชีวิต เหลวแหลกไปวันๆ เหมือนขนนกที่ลอยคว้างอยู่กลางเวหา ดุจใบไม้ปลิดปลิวออกจากขั้ว ลอยล่อง ค่าของชีวิต อยู่ที่การเสียสละ เป็นความสุขหนึ่งในใจเรา ที่รู้สึกว่าตนยังมีคุณค่าต่อผู้อื่น และสังคม ผู้เสียสละได้มากเท่าใด โดยมิหวังผลตอบแทน คุณค่าของชีวิต และความสุขใจ จะก่อเกิด มากมียิ่งขึ้น

ขอเพียงใจคิดให้ โอบกอดแห่งความสุขก็เปิดอ้ารับเราแล้ว

การยอมตนเป็นคนรับใช้ คล้ายเป็นมนต์เสน่ห์ของชีวิตอย่างหนึ่ง......

คนข้างกายรักใคร่เอ็นดู และยินดีคบหาเราอย่างจริงใจ ไม่สวมหน้ากากหน้าไหว้หลังหลอกหรือคิดร้าย เพราะเราเป็นผู้รับใช้ที่ดี คนมีประโยชน์เช่นนี้ใครเล่าไม่ต้องการคบหา ทว่าหายากเหลือเกิน ในยุคสมัย ศีลธรรมเสื่อมเช่นนี้

ความก้าวร้าวอหังการ์ มิอาจนำพาความสงบสุขมาสู่บาทวิถีชีวิตเราได้

แต่การอ่อนน้อมถ่อมตน ยอมตาม เป็นผู้รับใช้ด้วยใจเบิกบาน เส้นทางแห่งความสุข ได้พาดผ่าน มาสู่ใจเราแล้ว ขอเพียงก้าวย่างไปอย่างสม่ำเสมอ บนบาทวิถีแห่งชีวิต จะปรากฏรอยยิ้ม ไปสุดปลายทาง....

(สารอโศก อันดับที่ ๒๕๔ พฤศจิกายน ๒๕๔๕)