หน้าแรก >สารอโศก

งานปีใหม่ '๔๖ ตลาดอาริยะ ครั้งที่ ๒๔


"....ตลาดอาริยะเป็นงานใหญ่ของชาวอโศก เป็นงานบุญ มีปีละครั้ง พวกเราร่วมกันคนละไม้ คนละมือ มาทำงานเป็นเจ้าภาพ มาเอาบุญ เป็นการทำบุญ ให้จริงๆได้บุญทันที เป็นเรื่องของ จิตวิญญาณลึกๆ เพราะ เราสุจริต คนซื้อจะมาสัมผัสถึงจิตวิญญาณของชาวอโศก ไม่ใช่วัดครึ่งหนึ่งกรรมการครึ่งหนึ่ง เราดีใจ ที่ได้เสียสละ ประชาชนมาซื้อมารับบริการ เขาดีใจที่ได้ซื้อของถูก พวกเราจน แต่ว่าทำงานใหญ่ได้ แล้วทุกคน ก็มาทำบุญกันทั้งนั้น ไม่ใช่เรื่องตื้น ไม่ใช่เรื่องสั้น เป็นเรื่องลึกและยาวไกล หากเราลดได้มากๆ จะชัดเจนยิ่งขึ้น งานนี้จะแข็งแรงถ้าพวกเราเข้าใจมากขึ้น เป็นงานที่ยิ่งใหญ่หาค่ามิได้......."

บุญญาวุธหมายเลข ๒ ตลาดอาริยะ ณ หมู่บ้านราชธานีอโศก ระหว่างวันที่ ๓๐ ธ.ค.๔๕ - ๑ ม.ค.๔๖ ได้เผยแพร่ สืบทอดต่อเนื่องกันมา ถึงวันนี้ เป็นครั้งที่ ๒๔ เป็นงานวัดที่ใหญ่ที่สุด ที่ ใช้บุคลากร เป็นจำนวนมาก ในการจัดงาน เริ่มตั้งแต่วันที่ ๑๘ ธ.ค.๔๕ เป็นต้นมา นิสิตสัมมาสิกขาลัยวังชีวิต ทุกวิชชาเขต รวม ๑๒๑ ชีวิต มุ่งสู่ราชธานีอโศกเพื่อร่วมกันสัมมนา-เข้าค่าย เตรียมตัวเป็นพี่เลี้ยงดูแลน้องๆ จากสัมมาสิกขา ทั่วประเทศ รวม ๖๐๐ คน ในงานยุวชนอโศกสัมพันธ์(ยอส.) และสมณะ-สิกขมาตุ-คุรุ-ญาติธรรมที่รวมตัวกันเพื่อผนึกกำลังเตรียมจัดงานตลาดอาริยะ ขับเคลื่อนอุดมการณ์บุญนิยม "ขายต่ำกว่าทุน" การเสียสละนี่แหละจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้ ในงานนี้เกิดกลุ่มอาสาสมัคร บุญนิยม (อสบ.) สัญลักษณ์ปลอกแขนสีเขียว ทำหน้าที่ช่วยงานต่างๆในช่วงสั้นๆตามเวลาที่มี เพื่อแบ่งเบางาน จากเด็กๆ

ตลาดอาริยะ แบ่งออกเป็น ตลาดสินค้า-ตลาดสละของรัก และตลาดอาหาร-เวทีชาวบ้าน เปิดจำหน่าย ตั้งแต่วันที่ ๓๐ ธ.ค.๔๕ - ๑ ม.ค.๔๖

ตลาดสินค้า เปิดจำหน่ายตั้งแต่เวลา ๐๘.๐๐-๑๖.๐๐ น. ปีนี้เข้มงวดยิ่งขึ้น ในเรื่องชนิดของสินค้า ที่นำมาจำหน่าย ต้องเป็นสินค้าที่จำเป็นเกี่ยวกับปัจจัย ๔ ไม่ใช่สินค้าฟุ่มเฟือยไร้สาระ หรือ มอมเมาผู้ซื้อ และกำไรอาริยะ ไม่ควรต่ำกว่า ๑๐ % นอกจากนี้ได้ขยายพื้นที่ของตลาด และจัดรั้ว สำหรับเข้าแถว ให้กว้าง และสะดวกแข็งแรงยิ่งขึ้น ผู้มาขายต้องเป็นผู้ที่เข้าใจในอุดมการณ์บุญนิยม อย่างถูกต้อง ไม่มาแอบแฝง เพื่อผลประโยชน์ใดๆ สินค้ายอดฮิตที่ได้รับการอุดหนุนอย่างคับคั่ง คงไม่พ้น น้ำมันพืช น้ำตาลทราย เครื่องใช้ในครัว เครื่องใช้พลาสติก และที่ถูกที่สุดคือ "พุทธเทวนิยม หรือ พุทธอเทวนิยม" หนังสือใหม่ล่าสุด จากบริษัทฟ้าอภัยจำกัด เขียนโดย พ่อท่านสมณะโพธิรักษ์ จำหน่าย ในราคาเล่มละ ๑ บาทเท่านั้น

ตลาดสละของรัก เป็นความคืบหน้าของตลาดอาริยะในปีนี้ จำหน่ายสินค้าซึ่งเป็นของรักของหวง อันเป็นโอฬาริกอัตตาของแต่ละคน ที่สละออกมา เพื่อลดกิเลสของตนเอง และแบ่งปันความสุข ให้ผู้อื่น ได้นำไปใช้ ในราคาถูกที่สุด ปรากฏว่าเพียงวันแรกสินค้าก็แทบจะหมดเกลี้ยง ตั้งอยู่ในบริเวณ ตลาดสินค้า

ตลาดอาหาร เปิดจำหน่ายตั้งแต่เวลา ๐๖.๐๐ - ๑๗.๐๐ น. มีกลุ่มญาติธรรมแสดงความจำนงเปิดร้านอาหารเพิ่มขึ้น เป็นอาหารมังสวิรัติ ราคาถูกที่สุดในโลก เพียงจานละ ๑ บาทเท่านั้น เงิน ๑๐ บาท ของชาวบ้านที่มาร่วมงาน สามารถกินอิ่มได้ถึง ๒ วัน นางสุดใจ สิบทัง อายุ ๔๐ ปี อาชีพทำนา บอกว่า "เมื่อวาน(๓๐ ธ.ค.๔๖)ก็มาซื้อ ได้แชมพู สระผม เสื้อ วันนี้มาอีก มาซื้อน้ำมัน น้ำตาล ถั่ว ของถูกมาก แต่เข้าคิวนานเพราะคนมาก จนเกือบจะเป็นลม อาหารก็ ถูกมาก เมื่อวานซื้อคูปองไว้ ๑๐ บาท กินได้ ๒ วัน เพิ่งหมดวันนี้ ส้มตำ ผัดหมี่อร่อยมาก น้ำหวานก็ ๒ แก้ว ๑ บาท

"เวทีชาวบ้าน อยู่ในบริเวณตลาดอาหาร เปิดฟรีให้ผู้มาร่วมงานขึ้นแสดงความสามารถต่างๆ มีวงดนตรี จากวงฆราวาส และวงอื่นๆ ขึ้นขับกล่อมบรรเลงเพลงไพเราะมีสาระให้ได้ฟังกัน ในช่วงเวลา ๐๙.๐๐-๑๐.๐๐ น. มีการบรรยายพิเศษ ๓๐ ธ.ค.๔๕ ฟัง "ขบวนการกู้ชาติ" จากคุณหนึ่งแก่น บุญรอด

เวทีการแสดงภาคค่ำ เริ่มเวลา ๑๘.๐๐ - ๒๐.๓๐ น. ตั้งแต่วันที่ ๒๙ ธ.ค.๔๕ เป็นต้นไป จากพุทธสถาน สังฆสถาน กลุ่มญาติธรรม และศิลปินเดี่ยวที่สื่อให้เห็นถึงวิถีชีวิต ความสามัคคี ความอุดมสมบูรณ์ และ อุดมการณ์บุญนิยม ของแต่ละชุมชน ซึ่งเวทีในปีนี้กว้างขวาง เป็นธรรมชาติ มีเรือพร้อมหุ่นคน จัดแสดง ลอยเด่น เป็นสง่าอยู่กลางเวที พร้อมกับเขียนข้างเรือว่า "ชีวิตนี้ขอสักชาติได้ไหม" เป็นข้อคิด สะกิดใจว่า ชาตินี้ขอชีวิตให้กับโลกุตระได้ไหม

ในส่วนของศาลาส่วนกลางเฮือนศูนย์สูญหรือเฮือนใหญ่ เป็นการแสดงธรรม-อภิปราย-บรรยายพิเศษ และ ประชุม บริเวณด้านซ้ายมือ มีนิทรรศการ "มาเป็นหมอ ดูแลตัวเองกันเถอะ" ของนิสิต สัมมาสิกขาลัยวังชีวิต คณะสาธารณสุขบุญนิยม (พลาภิบาล) การดูแลสุขภาพ ด้วยวิถีไทย อบ ย่างสมุนไพร อาหารประจำธาตุ การดีท็อกซ์ เอาพิษออกจากร่างกาย ฯลฯ และจำหน่ายชุดดีท็อกซ์ ในราคาเพียง ๕ บาท

ภาคเช้า สืบทอดพุทธประเพณีบิณฑบาต ด้วยการร่วมกันทำบุญตักบาตร สมณะ พระภิกษุ-อาคันตุกะ สิกขมาตุ ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ด้วยอาหารมังสวิรัติ

สำหรับรายการที่เฮือนศูนย์สูญ มีดังนี้

๐๔.๐๐ - ๐๖.๐๐ น.
ธรรมะรับอรุณ ตั้งแต่วันที่ ๓๐ ธ.ค.๔๕ - ๑ ม.ค.๔๖ เพื่อชาวบุญนิยม ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ พ่อท่านอธิบายขยายความทั้งรอบลึกและรอบกว้าง ทบทวนวิชาของพระพุทธเจ้า ให้เวไนยสัตว์ ตื่นจากการหลับใหล ในโลกียะที่มีทั้งสุข(สุก)และทุกข์ สู่โลกุตระที่มีแต่สุขเพียงส่วนเดียว คนสมัยนี้ ปฏิบัติสับสน ไม่มีมรรคผล เพราะผู้สอนไม่มีมรรคผลแท้จริง ขอบอกว่าท่านใดไม่ได้มาฟัง ต้องหาเท็ป มาฟังให้ได้ ส่วนผู้ได้ฟังแล้วต้องหาเท็ปมาฟังซ้ำอีก ห้ามพลาดเด็ดขาด ดีมากจริงๆ

๐๙.๐๐ - ๑๑.๐๐ น.
๒๙ ธ.ค
. ฟังบรรยายพิเศษและพิธีเปิดงาน โดย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง เชิญชวนให้คนไทยทุกคน ช่วยชาติด้วยการใช้ น้ำมันบางจาก น้ำมันคุณภาพดีที่สุด จากโรงกลั่นของคนไทย เป็นบริษัทแห่งเดียว ที่คนไทย เป็นเจ้าของ และร่วมกันติดสติ๊กเกอร์ "คนไทยใช้บางจาก" และ จะถูกลบชื่อ จากเมืองไทย หากคนไทย ไม่ช่วยกันเติมน้ำมัน ที่ปั๊มบางจาก วันนี้....รถของคุณเติมน้ำมันของคนไทยหรือเปล่า ?

๓๐ ธ.ค. ระดมสมองเตรียมงานเพื่อฟ้าดินครั้งที่ ๑๐ เริ่มด้วย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง พูดยืนยันว่า ทำกสิกรรมไร้สารพิษ สามารถอยู่รอดได้ โดยยกตัวอย่างเกษตรกรที่เข้าไปสนับสนุนตั้งแต่ปี ๒๕๓๖ จนถึงปัจจุบัน การระดมสมองสรุปได้ดังนี้

๑. แนวคิดการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตและจิตวิญญาณของกสิกรรมไร้สารพิษแบบยั่งยืน ด้วยหลักบุญนิยม สู่การลดละ เสียสละ มักน้อย สันโดษ

๒. ให้แต่ละศูนย์อบรมฯทั่วประเทศ จัดแสดงผลงานของเกษตรกรที่ผ่านการอบรมหลักสูตร สัจธรรมชีวิต และจัดเวทีอภิปรายระหว่างการสอนให้คนมาจน กับสนับสนุนให้คนมารวย

๓. เสนอให้ปลูกพืชผักที่เหมาะกับฤดูกาล สามารถเจริญเติบโตทันงาน พฟด. คือ ตระกูลเถา เช่น ฟักทอง แตงโม แตงกวา บวบ เป็นต้น

๔. เสนอให้ปลูกถั่วเหลืองตั้งแต่ ธ.ค.-๑๕ ม.ค. ซึ่งเป็นฤดูกาลปลูก และสามารถนำผลผลิต มาแสดง ในงาน พฟด. (๑๕ มี.ค.-๑๕ เม.ย.ช่วงเก็บเกี่ยว)

๕. จัดทำข้อมูลเกี่ยวกับเคมีภัณฑ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศ และให้ความรู้คุณและโทษของแมลง

๖. ให้เครือข่ายต่างๆนำพันธุ์ไม้มาแสดงและจำหน่ายให้มากกว่าปีที่แล้ว

๗. สนับสนุนการบริโภคผักพื้นบ้าน ให้เครือข่ายต่างๆนำผักพื้นบ้านที่มีอยู่มากมาย มาดัดแปลง ปรุงเป็นอาหาร เลี้ยงผู้มาร่วมงาน และสาธิตการปรุงอาหารด้วยผักพื้นบ้าน เช่น ดอกแคป่า ผักพาย ผักก้านจอง ผักสะเดา ฯลฯ และจัดประกวดอาหารจากผักพื้นบ้าน เพื่อลดการบริโภคผัก ที่ต้องปลูก ตลอดปี

๘. จัดค่ายสุขภาพ เพื่อให้เห็นคุณค่าของผลผลิตไร้สารพิษ

๙. จัดการแปรรูปและสาธิตผลผลิตที่นำมาในงาน เช่น กล้วย ข้าว

๑๐. ให้แต่ละเครือข่ายรวบรวมเมล็ดพันธุ์พืช, พันธุ์ข้าวต่างๆที่แข็งแรง มาแลกเปลี่ยน ในงานพุทธาฯ ก่อนจะไปร่วมงาน พฟด.

๑๑. เน้นการปลูกข้าว-ถั่ว-งา ซึ่งเป็นหัวใจของการบำรุงดิน

๑๒. ให้ความรู้เรื่องเกษตรนิเวศน์แบบองค์รวม เช่น ปลูกพืชที่เป็นปุ๋ยในดิน ดีกว่าการไปหมักพืช มาเป็นปุ๋ย

๓๑ ธ.ค. ฟัง "เปิดฟ้าส่องโลก" โดย ดร.นิติภูมิ นวรัตน์ คอลัมนิสต์ชื่อดัง พูดถึงสถานการณ์โลก เปิดโอกาส ให้ซักถาม ในช่วงท้าย และกล่าวสุดท้ายว่า "ผมมาส่งสัญญาณถึงท่าน และผมไม่ค่อยได้มา นมัสการ พ่อท่าน ก็ถือโอกาสนี้ เป็นศิริมงคลของผม ตอนจะสิ้นปี ผมก็ถือโอกาส มากราบนมัสการพ่อท่าน พอกราบแล้ว ชื่นใจ กลับไปทำงานได้อีกปีหนึ่ง"

๑ ม.ค. ๔๖ คุณหมออารีย์ วชิรมโน เดี่ยวไมโครโฟน "เพื่อสุขภาพที่ดีใน ๑๐๐ ปี" ทำอย่างไร จะมีสุขภาพ ที่แข็งแรง และอายุยืนยาว ๑๔.๐๐ - ๑๖.๐๐ น.

๒๙ ธ.ค. ประชุมสัมมนาองค์กรสมาชิกเครือข่ายกสิกรรมไร้สารพิษแห่งประเทศไทย พ่อท่าน เป็นประธาน ดำเนินการประชุม โดยคุณธำรงค์ แสงสุริยจันทร์ ประธานเครือข่ายฯ มีเรื่องที่ประชุม สรุปได้ดังนี้

๑. กลุ่มองค์กรสมาชิก คกร. มีทั้งหมด ๔๗ กลุ่ม

๒. แผนการอบรมเกษตรกรของ ธ.ก.ส. ปี ๒๕๔๖ แจ้งมา ๓ เดือน ม.ค.-มี.ค. ในงานพุทธาฯ จึงจะได้ แผนการอบรมที่เหลือ ซึ่งจะมีการปรับเปลี่ยนเล็กน้อย

๓. ฝ่ายประสานงานด้านการตลาด รายงานกิจกรรมว่า ได้เดินทางไปตามเครือข่ายต่างๆ เพื่อประเมินผล-รับซื้อผลผลิต -เตรียมงานโรงบุญ ๕ ธันวาฯ ฯลฯ จากเกษตรกรผู้เข้าอบรม โครงการพักชำระหนี้กับ ธ.ก.ส. ตามเครือข่ายต่างๆ โดยมีแม่ข่ายแต่ละชุมชนประสานงาน กับฝ่ายงานการตลาด

๔. การไปประชุมสัมมนากับหน่วยงานต่างๆ เช่น การร่วมจัดตั้งสภาเกษตรอินทรีย์แห่งชาติ (สกช.) ที่ศูนย์การศึกษา เรียนรู้กสิกรรมไร้สารพิษ วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ซึ่งจะประชุมครั้งต่อไป ที่พุทธสถาน สันติอโศก ในวันที่ ๓-๔ ก.พ ๒๕๔๖, การสัมมนาทางวิชาการ หัวข้อเรื่อง "เผชิญความท้าทาย จากกระแส โลกาภิวัฒน์" การจัดตั้งสมาพันธ์อาหาร และเกษตรอินทรีย์ไทย ของกรมวิชาการเกษตร

๕. วิทยุชุมชน รายงานกิจกรรมซึ่งประชุมครั้งแรกที่ปฐมอโศก คุณอนุ สง่าเรืองฤทธิ์ จากสำนักงาน กองทุน เพื่อสังคม แจ้งเรื่องที่ได้ไปร่วมประชุมสมาพันธ์วิทยุแห่งชาติ และตัวแทน จากเครือข่าย ชาวอโศก แจ้งปัญหา ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะเรื่องการแสวงหารายได้ ไม่ว่าจะเป็น ในรูปของการบริจาคแอบแฝง เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว เพื่อเป็นบทเรียน แก่สถานีใหม่ ที่จะจัดตั้งขึ้น และการผลิตต้นฉบับ ของแต่ละ เครือข่าย เพื่อแจกจ่ายหมุนเวียน ไปตามเครือข่ายต่างๆ ที่สนใจ

๖. รายงานบัญชี-การเงิน

๗. ทบทวนรายงานการประชุมครั้งที่ ๔/๒๕๔๕

เรื่องพิจารณา
๑. งานเพื่อฟ้าดิน จะโฆษณาตั้งแต่งานปีใหม่ไปเลย ซึ่งจัดในวันที่ ๑๖-๑๘ พ.ค.๔๖ คุณอำนาจ หมายยอดกลาง จะประสานงานกับภาครัฐ, ธ.ก.ส. ร่วมจัดงานครั้งนี้ เพื่อแสดงผลการอบรม เกษตรกร พักชำระหนี้ จากศูนย์อบรมต่างๆในรอบครึ่งเทอมของการพักชำระหนี้ จึงฝากให้ศูนย์อบรม ประสานงาน กับชาวบ้าน ที่มาอบรมแล้ว เปลี่ยนแปลงตัวเอง-การทำกสิกรรม เพื่อนำผลผลิต หรือบุคคล เสนอในงานนี้ด้วย ซึ่งจะรายงานความคืบหน้า ในการประชุมครั้งต่อไป

๒. การจัดการด้านการตลาด มีความเจริญเติบโตขึ้นเรื่อยๆ มีผักไร้สารพิษ ล้นตลาด ในเครือข่ายฯ ของกู้ดินฟ้า กทม. จึงขอให้แม่ข่ายแต่ละเครือข่าย บริหารจัดการด้านการตลาด กับผลผลิตของสมาชิก ภายในท้องที่ ในส่วนของพืชไร่ เช่น ข้าวไร้สารพิษ บจ.พลังบุญ, บจ.แด่ชีวิต และบจ.ขอบคุณ จะมีข้าว หอมมะลิ ไร้สารพิษ จำหน่ายตลอดทั้งปี ๒๕๔๖ และการบริการ จัดการถั่วเหลืองไร้สารพิษ จากแม่ข่าย ที่จะป้อน ให้กับโรงงานเต้าหู้ ที่ปฐมอโศก และราชธานีอโศก

๓. ส่งเสริมกสิกรที่ผ่านการอบรมฯ โดยนำผลิตภัณฑ์ชุมชนมาจำหน่ายในงานตลาดอาริยะ โดยมุ่งเน้น เพื่อพัฒนาคน

๔. ปัญหาผลผลิตพืชไร่ของกสิกรที่ผ่านการอบรมฯ ที่ไม่ได้มาตรฐาน

๕. ปัญหาเรื่องเมล็ดพันธุ์ที่ต้องต่อสู้กับระบบทุนนิยม

๖. ลูกเดือยไร้สารพิษจาก จ.เลย ได้ผลผลิตเพียง ๑๐ ตัน ส่วนงาดำไม่มีผลผลิต เพราะขาด การติดตามผล จากกสิกร ที่ผ่านการอบรมฯ

๗. ราคาผลผลิตไร้สารพิษ ให้ใช้หลักการเอื้ออาทร

๘. เปิดการอบรมการวางแผนระบบน้ำ ในการทำกสิกรรมแบบประโยชน์สูง-ประหยัดสุด มีประสิทธิภาพ ระหว่างวันที่ ๒๔-๒๘ ก.พ.๔๖ ที่ราชธานีอโศก จำนวน ๓๐ คน ไม่เสียค่าใช้จ่าย เครือข่ายใดสนใจ ส่งตัวแทน มาอบรมได้

๙. เสนอตั้งคณะกรรมการเครือข่ายกสิกรรมไร้สารพิษ เพื่อแบ่งเบาและเพิ่มประสิทธิภาพของงาน

๑๐. ทำหนังสือเชิญข้าราชการที่ขอตัวมาช่วยงานอบรมฯตามศูนย์ต่างๆ ร่วมประชุมในงานพุทธาฯ

๑๑. โครงการของบประมาณจากองค์กรส่งเสริมสุขภาพ ของกระทรวงสาธารณสุข(สสส.) เกี่ยวกับ สุขภาวะ ของเครือข่ายต่างๆ ขอให้ส่งภายในวันที่ ๒๕ ม.ค.

พ่อท่านให้โอวาท ปิดประชุม ขอให้ทุกคนมีวิริยะอุตสาหะ

๓๐ ธ.ค.๔๕ - ๑ ม.ค.๔๖ คุณหมออารีย์ วชิรมโน เดี่ยวไมโครโฟน "เพื่อสุขภาพที่ดีใน ๑๐๐ ปี"

๒ ม.ค. ๔๖ เวลา ๐๖.๐๐-๐๙.๐๐ น. "ยุทธการ ๑๘๐" รวมพลสัมมาสิกขา-สัมมาสิกขาลัยวังชีวิต-ญาติธรรมร่วมกันเก็บสถานที่ เพื่อไม่ให้เจ้าของสถานที่ ต้องรับภาระหนัก หลังเสร็จงาน ซึ่งเป็นวัฒนธรรม ของชาวอโศก ที่ยากจะเลียนแบบได้ จนแทบไม่น่าเชื่อว่าเมื่อ ๓ วันที่ผ่านมา มีการจัดงานใหญ่ขึ้นที่นี่

บุญญาวุธหมายเลข ๒ ได้จบลงอย่างสวยงามอีกวาระหนึ่ง กราบขอบพระคุณทุกท่าน ที่มาร่วมกัน เสียสละแรงงาน ทุนทรัพย์ เวลา เพื่อสืบทอดอุดมการณ์บุญนิยม ให้อยู่คู่โลก ตลอดไป ชั่วกาลนาน และฝากสุดท้าย กับลูกๆทุกคน จากพ่อท่านว่า

"...ยุคนี้เป็นยุคปลาย จะใกล้กลียุค ซึ่งอาตมาทำงานยากมาก ต้องอาศัยพวกเราช่วย ต้องการพลังรวม ถ้าผู้ใดเข้าใจแล้ว จะช้าอยู่ทำไม มีเวลาเหลือเท่าไหร่ อย่าเอาเวลาไปสูญเปล่าเลย จะต้องไปแต่งงานดูก่อน จะต้องไปหาเงิน อยากได้สักล้าน สองล้าน แปดล้าน สิบล้าน คุณเคยมาแล้วทั้งนั้น กว่าจะได้พบ สัจธรรม อย่างนี้ กว่าจะได้มาฟังธรรม อย่างนี้รู้เรื่อง เป็นเวไนยสัตว์ ที่ฟังโลกุตรธรรมรู้เรื่อง รับธรรมะ อย่างนี้เข้าใจ แล้วก็มีทั้งศรัทธา ทั้งปัญญาขึ้นมาได้

เพราะฉะนั้นอย่าไปเสียเวลา โลกียะเป็นเหตุให้น่าเบื่อ ไม่น่าไปหลงใหลได้ปลื้ม คุณเกิดมาเป็นคน อีกกี่ชาติๆ ถ้าไม่ออกจากโลกียะ คุณจะตกนรกอีกเนิ่นนาน เพราะฉะนั้น คุณทำงาน ไม่เอาเงินเดือน เท่ากับ คุณทำบุญหมดเลย......"

- ลูกอโศก -

(สารอโศก อันดับที่ ๒๕๕ เดือน ธันวาคม ๒๕๔๕)