หน้าแรก >สารอโศก

ใต้ร่มอโศก เดือนธันวาคม ๒๕๔๕

ฉันคือ ชายชรา......ผู้เฝ้าบ่อน้ำ
มีความสุขกับการทำหน้าที่เฝ้าบ่อน้ำ
วันคืนหมุนผ่าน
ฉันรอคอยเศษกิ่งไม้ ใบหญ้า.....ขยะ
ร่วงพรูกระจายเต็มบ่อ
ฉันกระวีกระวาด
รีบโกยสกปรกออกจากบ่อน้ำ
ไม่เคยมองหน้าคนที่โยนขยะ
ไม่เคยนึกฉงนถาม ไยต้องทิ้งในบ่อนี้
วันคืนหมุนผ่าน
ฉันจดจ่ออย่างไม่กะพริบ
จับตาตะกอนสกปรก โผล่ลอยฟ่องจากก้นบึ้ง
ฉันกระวีกระวาด
รีบโกยตะกอนออกอย่างมีความสุข
ฉัน....ชายชรา....ผู้รักการโกยขยะ
ฉันจึงไม่บ่นสักนิด ทุกครั้งที่เจอขยะ


อโศกสร้างคน คนสร้างเมือง
๑. ทำให้ดิฉันสามารถปฏิบัติศีล ๕ ได้เคร่งครัดยิ่งขึ้น
๒. ปล่อยวางจากการยึดมั่นถือมั่นในตัวตนมากขึ้น
๓. เข้าใจแล้วว่าความสุขที่แท้จริงของมนุษย์เรา อยู่ที่มีจิตใจสงบ ไม่ต้องพึ่งพาวัตถุเสมอไป
๔. รู้จักการให้อภัยผู้อื่นมากขึ้น ลดการเห็นแก่ตัวลงมาก ทั้งๆที่เมื่อก่อนมีความโกรธมาก เมื่อถูกเพื่อนร่วมงาน ใส่ร้ายป้ายสี (กล่าวหาว่า ดิฉันเอาเรื่องของเพื่อน ไปรายงานหัวหน้า) ดิฉันไม่เคยแม้แต่จะคิด แม้บางครั้ง สิ่งที่มากระทบแรงมาก แต่ก็สามารถยั้งใจเอาไว้ได้
กัลยา โพธิ์แสงทอง (อ.เมือง จ.สงขลา)

"ด้วยความจริง ผมขอให้คำมั่นว่า กระผมจะยึดมั่น ในแนวทางของพุทธศาสนา เพื่อเป็นแนวทาง การดำเนินชีวิต ตลอดไป จนกว่าจะหมดลม โดยเฉพาะ ในการทำงาน ในราชการที่คนดี อยู่ได้ด้วยความยาก ลำบาก"
ชาญ ปฏิมาภรณ์ชัย (กทม.)

"ความเปลี่ยนแปลงในชีวิตสังเกตได้ง่ายมาก ดิฉันมีความสุขในการดำรงชีวิตและการทำงาน สามารถปรับตัว ให้เข้ากับสถานการณ์ต่างๆ ได้ดีขึ้น (ทั้งๆที่เหตุการณ์ต่างๆ ไม่ได้แตกต่างกัน นั่นคงเป็นเพราะ แนวทางคิดเปลี่ยนไป


"ชีวิตของฉันหนักหน่วงกว่าคนอื่น!
จากญาติธรรม ประดับ อินทร์แป้น (อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี) "เพราะว่ากระแสโลกมันแรงเหลือเกิน มันคอยจะดึงให้ตกต่ำอยู่เรื่อย แต่ถึงจะยากแค่ไหน ก็ขอทำต่อไปจนตราบชีวิตสิ้น......."

คงมีพวกเราอีกหลายๆ คนที่คิดว่า โจทย์ของตัวเองหนักมาก แต่จิ้งจกอยากจะสะกิดว่า แท้จริงแล้ว คนทุกคนมีโจทย์ที่หนักหน่วงพอๆ กัน

ใครยังสำคัญตัวว่า โจทย์ของฉัน น่าจะหนักกว่ายากกว่าของคนอื่น คิดแบบนี้ก็ยังเป็น"มานะ"

จะทุกข์ทั้งทียังสำคัญตนว่า"มากกว่าคนอื่น" กิเลสโลกธรรมว่าด้วยมานะ มันจะคอยกัดเราตลอดเวลา ต้องพยายามจับให้ทัน จุ๊ย์ๆๆๆ


การอยู่อย่างขัดแย้ง แต่มีความสุข!
"กินเจปกติดีอยู่ค่ะ แต่ยังมีจิตที่ถือสาอยู่ พยายามลดละเลิกอยู่ งดมื้อเป็นฝึกทานสองมื้อ ไม่กินน้ำอัดลม ไม่ใช้เครื่องสำอาง มีโรลออนอย่างเดียว เพราะค่อนข้างมีกลิ่นตัว คนข้างนอกรับไม่ได้ อุปสรรคก็มีบ้าง จากสามี ชอบแกล้งเอาเนื้อสัตว์มาใส่กับข้าวบ้าง ก็เขี่ยออก แต่ก็ไม่ถือสาเขา เขายังไม่เข้าใจ นอนตื่นตี ๓ ครึ่ง ทำขนม ทำเสร็จก็ไปขาย ขายเสร็จ ก็กลับมาทำต่อตอนเย็น นอน ๓ ทุ่มทุกวัน ส่วนอบายมุขเลิกได้อยู่ เป็นคนไม่ค่อยชอบอบายมุขอยู่แล้ว แต่สามียังซื้อหวยอยู่ ก็บอกเขา เขาซื้อเป็นบางครั้ง อ่านหนังสือ ธรรมะแล้ว ทำให้ลดการเพ่งโทษคนอื่น มองดูตัวเอง แก้ไขตัวเองมากขึ้น จะพยายามสู้กับกิเลส สู้กับอุปสรรค เชื่อว่าเดินตามทางสายนี้แล้ว พ้นทุกข์ได้แน่ ศีลห้ายังแข็งแรงดีทุกข้อค่ะ จะพยายามให้ เพื่อหลุดพ้นชั่ว ให้ได้ค่ะ เชื่อเรื่องวิบากกรรม....."

ญาติธรรมพังพวย เสาทอง (ดินแดง กทม.) เล่าประสบการณ์การลดละมา จิ้งจกพบว่า โยมท่านนี้ มีมุมในการมองคน ที่ขัดแย้งอย่าง"เข้าใจ" จึงไม่เครียด ไม่หนักหน่วงกับชีวิตของตัวเอง

ปฏิบัติธรรมอย่างเป็นสุข ค่อยเป็นค่อยไป เป็นสิ่งไม่ง่ายในความง่ายๆ ที่โยมพังพวยเล่าอย่างสบายๆ จิ้งจก กลับพบ การลดละโลกธรรมอย่างน่าแตกตื่น!

เธอมีการประนีประนอม อย่างเหมาะเจาะเคร่งครัดที่ตน ผ่อนปรนผู้อื่น สาธุ จุ๊ย์ๆๆ


ประเมินผลงานพ่อท่าน
ในการประชุม ๘ พาณิชย์บุญนิยม(ปลายปี ๒๕๔๕) มีคนถามพ่อท่าน ให้คะแนนความสำเร็จ สักกี่เปอร์เซ็นต์ ใน ๓ อาชีพกู้ชาติ

พ่อท่านตอบดังนี้
- ปุ๋ยสะอาดให้ ๕๐-๖๐ %
- ขยะวิทยาให้ ๒๐-๓๐ %
- กสิกรรมธรรมชาติให้ ๖๐-๗๐%

เมื่อลูกๆ ยังสอบตก พ่อท่านก็โทษตัวเองว่ายังไม่ดีพอ
นี่ถ้าไปพุทธเกษตร รายงานต่อท่านอวโลกิเตศวร พ่อท่านได้ผลงานแค่เกรด C เท่านั้นเอง บางเรื่องได้ F ซะอีก ทั้งนี้ทั้งนั้นเป็นฝีมือของลูกๆ ทุกๆ คน ที่ต้องมีส่วนรับผิดชอบ! จุ๊ย์ๆๆ


หลักโยนิโสมนสิการ
จากญาติธรรม มงกุฎ ปราสาร (อ.เมือง จ.ยโสธร)
"กระผมอ่านแล้วอ่านอีกหลายรอบ อ่านแล้วทำให้มีกำลังใจเกิดความละอาย ความเกรงกลัวต่อบาป ต่อสิ่งที่ตัวเอง ปฏิบัติไม่ถูกต้องเหมาะสม ทุกคำความมีคุณค่า มีความหมาย จะน้อมนำมาปฏิบัติ เพื่อสร้างภูมิธรรม ให้กับตัวเองมากที่สุด...."

ใช่แล้วฮะ "ทุกคำความ" "ทุกตัวอักษร" ล้วนมีข้อคิด แต่อย่าลืม"ทุกฉากชีวิต" กลับมีข้อคิดมากมาย มหาศาล

ในฉากชีวิตทุกฉากทำปฏิกิริยา "ผัสสาหาร" อันเลิศล้ำ จึงอย่าหลงละเลยมองนอกตัว

โจทย์ทุกโจทย์ มีค่ามากมายมหาศาล หัดคิด หัดตรึกตรอง หัดธรรมวิจัย แล้วเราจะค่อยๆหลุดโล่ง จุ๊ย์ๆๆ


มาตรวจความลึกของศีลข้อ ๑
"ทำให้ใจอ่อนลง ไม่แข็งกระด้าง สงสารสัตว์ เมตตาสัตว์มากขึ้น"
ญาติธรรม ธวัช คำศรี เขตภาษีเจริญ กทม

"สัตว์เล็กยังไม่สงสารมาก คือ มดกับยุง"
ญาติธรรม นกเอี้ยง สืบสน อ.สูงเนิน โคราช

จ.ม. ๒ ฉบับเล่าประสบการณ์ทางจิตหลังจากปฏิบัติลดละในศีล ๕ โดยเฉพาะศีลข้อ ๑ ซึ่งเป็นศีล พี่ใหญ่ ต้องรีบด่วน "ลงมือ"

จะไปนิพพาน ก็ไม่ควรเหยียบย่ำบนกองเลือด กองเนื้อ และน้ำตาของเหล่าสรรพสัตว์

การปฏิบัติโดย"รู้เป้าหมาย" จะทำศีลข้อ ๑ ของเราขยับสูงขึ้นประณีตขึ้น เราจะรู้จุดอ่อนว่ายังตกหล่น-ย่ำแย่ในจุดไหน

สงสารสัตว์นั้นดีแล้วต่อมาก็ต้องสงสารมนุษย์ แม้เขาจะไม่ดีกับเรา เราก็ยังต้องอภัย-สงสาร
ขอให้พวกเรา สนุกกับความลุ่มลึก ในการปฏิบัติศีล แต่ละข้อ อย่าเพียงหยุดพอใจ แค่การลดละ ขั้นหยาบๆ ตื้นๆอยู่เลย จุ๊ย์ๆๆ


วิบาก หรือ บารมี?
จากญาติธรรมวิภาดา สุขะปานนท์(อ.เดชอุดม จ.อุบลฯ)
"แต่ชีวิตดิฉันมันเต็มไปด้วยขวากหนาม มันมีแต่ความทุกข์ระทมใจ มองไปทางไหน ไม่ทุกข์ก็ท้อ แต่ดิฉัน และ ครอบครัว ก็ฟันฝ่ามันออกมาได้ด้วยธรรมะ ดิฉันซึ่งเปรียบเสมือน ผู้นำครอบครัว ต้องใช้ความอดทน อดกลั้น ใช้ความเข้มแข็งอย่างมาก ถึงสามารถยืนหยัดมาได้ จนถึงทุกวันนี้"

คุณวิภาดาต้องพูดใหม่ว่า อุปสรรคที่เกิดขึ้นเยอะแยะในครอบครัว ทำให้ดิฉัน มีโอกาสปฏิบัติธรรม สม่ำเสมอ!

ความทุกข์สอนให้ดิฉันแข็งแกร่งขึ้นมาก!

ขยะกองโตดิฉันเอามาย่อยเป็นปุ๋ยจนหมดสิ้น ไม่พอมือ!

พวกเราบางคนอ่านแล้วอาจนึกหัวเราะ แต่นี้แหละต้องคิดเป็น ตรึกเป็น

ศาสนาพุทธจึงเป็นของคนฉลาดมีปัญญาเท่านั้น คิดไม่เป็นก็ทำให้ตัวเองโง่

เหตุการณ์ชีวิตไม่ว่าจะหนักหนาขนาดไหน จะเป็น "วิบาก" หรือ "บารมี" เราเป็นผู้ลิขิตเองจริงๆ จุ๊ย์ๆๆๆ


บันไดขั้นที่ ๑ ของนักมังสวิรัติ
"ส่วนมากจะไม่ได้ทำกับข้าวเอง เพราะไปทำอย่างอื่น เพราะเจ้านายจะแบ่งอาหารให้ ท่านแบ่งอะไรให้ก็กิน...."

ญาติธรรมบัวลอย ที่ภูเวียง เล่าถึงอุปสรรคที่ทำให้ไปไม่ถึงเป้าหมาย....

ในความเป็นนักปฏิบัติธรรมหน้าใหม่ หรือยังไม่แข็งแรง จิ้งจกขอสนับสนุนการฝึก"เจเขี่ย"

เพราะ"เจเขี่ย" ทำให้คนรอบข้างไม่ต่อต้านรุนแรง

ถ้าต้องสู้กับตัวเอง สู้กับคนรอบข้าง โอกาสแพ้มีเกินครึ่ง

การปฏิบัติธรรมต้องมียุทธวิธีเหมือนกันนะเนี่ย จุ๊ย์ๆๆ


ขอตัวมาช่วยราชการอบรมกสิกร

พลตรีจำลอง ศรีเมือง มีบันทึกขอตัวญาติธรรมในหลายๆจังหวัด มาช่วยราชการงานอบรมกสิกร อันเนื่องมาจาก โครงการพักชำระหนี้ ชาวนาชาวไร่ของรัฐบาล โดยผ่านทาง ธ.ก.ส.

จิ้งจกฝากแจ้งทุกคน ถ้าปีหน้าจะให้ขอตัวอีก เราจะต้องเก็บผลงานไว้อ้างอิง

ปกติแล้วการอบรมกสิกรทุกรุ่น จะมีการสรุปประเมินผล ผู้มาช่วยราชการควรขอสำเนาไว้ ๑ ชุด ทุกครั้ง ที่มีการอบรม การขอตัวครั้งต่อๆไป ก็จะง่ายขึ้น
สงสัยสิ่งใด โทรไป ๐๑-๘๕๓-๕๐๐๐ จุ๊ย์ๆๆๆ


เรื่องของนักรบทวนกระแส
จากญาติธรรมอภิชัย เลิศธนกิจ
"ได้อ่านสารอโศกและดอกหญ้าทำให้ไม่กินเบียร์ ไวน์ และน้ำอัดลม สำเร็จเบื้องต้น
เลิกสูบบุหรี่ ๒ ปีกว่าครับ
เดี๋ยวนี้เริ่มไม่ดูโทรทัศน์ รู้ข่าวสารน้อยลง
ต้นเดือนได้ฝากแสตมป์มาให้ ๕๐ ดวง....."

ฮะ สิ่งเลวร้ายให้ขจัดออกไป
สิ่งดีๆ ให้สะสมเข้ามา
การปฏิบัติธรรม เราจะพบ"มาตรการใหม่ๆ" มาจัดการกับตัวเองสม่ำเสมอ
ญาติธรรม อภิชัย ทำถูกต้องแล้วฮะ จุ๊ย์ๆๆ


อโศก ๕๐ % !
จากญาติธรรม อำนวย มีพันธ
ให้คะแนนการปฏิบัติธรรมของตัวเอง "การปฏิบัติที่ได้จากการอ่าน ณ เวลานี้ ยังมีความเป็นอโศก อยู่เพียงแค่ ๕๐ เปอร์เซ็นต์ คือกินอาหารมังสวิรัติเป็นปรกติถือศีล ๕ เป็นปรกติ (ขาดวิ่นบ้าง) ละอบายมุข ๖ ได้หมด ยกเว้นใจยังแอบเสพอยู่บ้าง ถ้าตามจิตไม่ทัน ศีลที่ตกร่วงคือ การตบยุง กำลังพยายามจะไม่ให้ทำอีก เข้าพรรษา'๔๕ ที่ผ่านมา ตั้งตบะ ไม่กินของหวาน ทำได้ประมาณ ๙๐ เปอร์เซ็นต์ ไม่ทราบสอบผ่านหรือเปล่า จะพยายามต่อไป ถ้าไม่ตายเสียก่อน...."

สาธุๆ ทุกๆคนลองให้คะแนนตัวเองว่า เป็นอโศกกี่เปอร์เซ็นต์?วันนี้คุณลดละอะไร ตอบได้ไหมเอ่ย?


ตกต่ำ หรือ เป็นกรรมฐานของเรา ?
"ตอนนี้ที่ปฏิบัติเพิ่มเข้ามาคือ กำหนดรู้สภาพจิตใจของตัวเองว่ามีกิเลสตัวใดเกิดขึ้นในใจเรา และ พยายาม สลัดมันออก แต่ก็ถือได้ว่า ยากพอสมควร สำหรับการปฏิบัติจริงๆ แต่ก็พยายามจะไม่ท้อถอย....."

จากญาติธรรมสุทิน เจือจันทร์ (อ.สังขะ จ.สุรินทร์) เล่าสถานการณ์ในการรบของตัวเอง
คนเรา พอลดละ "วัตถุ" ก็จะต้องมาจัดการ "อารมณ์" แต่เราจะไม่ปฏิบัติแยกจากกัน พ่อท่านเคยเทศน์ เรื่องการตัดกิเลส เราใช่ว่าจะตัดเรื่องเดียว แต่ต้องทำหลายๆเรื่อง ไปพร้อมๆ กัน

บางตัวแป๊ปเดียว นั่นฐานเก่า

บางตัวทำนานกว่าจะพ้น แสดงว่าเป็นบารมีใหม่ ที่ต้องสะสม

บางตัวทำไม่สำเร็จเลย แสดงว่าไม่มีของเก่า ต้องรีบสะสมเสียแต่ชาตินี้

พวกเราบางคนไม่เข้าใจตัวเอง ใหม่ๆก็ลดละได้ทุกอย่าง แต่พอนานๆไป ไอ้โน่นก็ไม่ได้ ไอ้นี่ก็ไม่ง่าย แล้วนึกว่าตัวเอง "แย่!" ความจริงแล้ว "บารมีเก่า" จะลดละได้ง่าย แต่ "บารมีใหม่" เป็นของยากธรรมด๊า ธรรมดา ตกใจไปทำไม? จุ๊ย์ๆๆ


ไฟเผาขยะ ตบะเผากิเลส

-มาพักค้างในชุมชนเป็นครั้งคราว (แม่นวลน้อย)

-วันพระกินมื้อเดียว ไม่จุบจิบ สวดมนต์ไหว้พระทุกวัน (คุณอรทัย)

-วันพระศีล ๘ กินมื้อเดียว ไม่เพ่งโทษผู้อื่น ขับรถไม่ใจร้อน สำรวมวาจา ไม่กินจุบจิบ (คุณลือไท)

-จะมาวัดทุกวันอาทิตย์ (คุณป้าผ่องศรี)

-ลดการดูT.V. และพยายามอ่าน E.Q. โลกุตระประมาณครึ่งชั่วโมง (อ.สุภาณี)

-กิน ๑ มื้อ งดขนมหวาน ออกกำลังกาย/กำหนดเวลา ๑๒ ม.ค.-๓๑ ม.ค. (คุณน้อมนบ)

-ตั้งตบะร่วมสร้างบารมีกับญาติธรรมดังนี้ ๑. ฉันอาหารธรรมชาติ ๒. ฉันอาหารท้องพร่อง ๓. วันพุธ ฉันข้าวเปล่า ๔. ตรงต่อเวลา ๕. อาบน้ำไม่เกินวันละ ๕ ขัน (สมณะเก้าก้าว)

จิ้งจกส์


คติประจำฉบับนี้
"บุญบารมี" ไม่มีได้ฟรี ไม่อาจซื้อขาย
แต่ต้องลงมือปฏิบัติเองจึงจะได้มา

(สารอโศก อันดับที่ ๒๕๕ เดือน ธันวาคม ๒๕๔๕)

x9