>สารอโศก

ฉบับที่ ๒๕๖ มกราคม ๒๕๔๖
สุขภาพบุญนิยม
นับตั้งแต่พบคบคุ้นกับอโศก จนกระทั่ง...อ่านหนังสือและปฏิบัติวิถีทางอโศก....ทุกวันนี้ ผมมีความสุข ที่สุดแล้ว เพียงแต่ต้องระวังรักษาสุขภาพ ของตนเองอยู่เสมอ จะไม่เผลอตัว เผลอใจ ไปรับสารพิษ มาสู่ร่างกาย จะไม่ทำร้ายทำลายจิตใจตนเอง ด้วยความโกรธ ความเครียด คิดมาก ในเรื่องไร้สาระ จะหมั่นออกกำลังกายอยู่เสมอ เพื่อให้ร่างกาย มีระบบภูมิคุ้มกัน ไว้คอยต่อต้านโรคภัยต่างๆ ให้หมดไป

จะเตือนตนอยู่เสมอว่า ตัวเราเองนี้สำคัญที่สุดในการระวังรักษาสุขภาพ รักษาร่างกาย ให้แข็งแรง เสียตอนนี้ ดีกว่าปล่อยให้เจ็บป่วยก่อน แล้วจึงรักษา

บัดนี้ผมได้แนวคิด ต่อการดำรงชีวิตที่ถูกต้อง เพื่อสุขภาพจิตสดใส สุขภาพกายแข็งแรง โดยการปฏิบัติ ตามแนวอโศก ที่พ่อท่านสอนย้ำแล้วย้ำอีก เพื่อให้อายุยืนยาว โดยไม่เป็นภาระ คนรอบข้าง และสังคม จนกว่าจะสิ้นอายุขัย และตายไปอย่างสงบสุข
แก้วมูล เภตรา จ.เชียงราย
ปีนี้พ่อท่านประกาศบุญญาวุธหมายเลข ๔ สุขภาพบุญนิยม เพื่อให้หมู่กลุ่มชาวอโศก เพิ่มการ ดูแลจิตใจ และ ร่างกาย ชาวอโศกต้องเป็นผู้ที่มีอายุยืนยาว ด้วยดีให้ได้ - บ.ก.

ธรรมะเป็นเพื่อนใจ
ก่อนอื่นดิฉันขอกราบขอบพระคุณอย่างยิ่ง ที่ท่านได้จัดส่งหนังสือไปให้สมาชิกหมายเลข ๒๔๑๖๗๖ เป็นเวลา ๑ ปี ๑ เดือนกว่า ที่สมาชิกหมายเลขนี้ (สามี) ได้เสียชีวิต ไปด้วย อุบัติเหตุ รถยนต์ชน ถึงแก่ความตาย ดิฉันและครอบครัว ได้สูญเสียเสาหลัก ของครอบครัวไป ขณะที่ลูกชาย ยังไม่สำเร็จ การศึกษา

การจากไป แบบกะทันหัน เช้าได้พูดคุยเจอหน้ากัน พูดกันไว้ว่าปีใหม่ เราจะไปราชธานีอโศก แล้วเขา ก็ไม่มีโอกาสไป แม้ตัวดิฉันเอง ก็เช่นกัน ปีนี้ตั้งใจจะไป ก็ไปไม่ได้ ความสามารถ ในการขับรถ ของดิฉัน ไปไม่ถึง แต่ยังไง ดิฉันได้หนังสือสารอโศก และดอกหญ้า เป็นเพื่อน ให้ข้อคิด ให้กำลังใจ ดิฉันตลอดมา

วันคืนที่โศกเศร้าเดียวดาย ดิฉันก็ได้หยิบเอาหนังสือเหล่านี้มาอ่านเป็นเพื่อนและคลายทุกข์ เดิมเรามีกัน ๓ คนพ่อแม่ลูก พ่อสามีมาจากไป ตอนนี้ลูกสำเร็จการศึกษาแล้ว ทำงานที่ กรุงเทพฯ ดิฉันอยู่เพียงลำพัง หนังสือคือ เพื่อนที่แสนดี ขอดิฉันได้อ่านต่อไป ด้วยเถอะนะคะ ดิฉันอยู่ได้ ทำใจได้ ก็จากหนังสือนี้ และ ธรรมะต่างๆ ของพ่อท่าน เป็นแนวทาง การดำเนิน ชีวิตที่ดี

ทุกสิ่งทุกอย่างดิฉันอยู่ในช่วงพยายามปฏิบัติ นำไปใช้ในชีวิตประจำวันอย่างสม่ำเสมอ แม้แต่การปลูก พืชผัก ต้นไม้ การใช้ปุ๋ยหมักจากพืชผักผลไม้ ดีมากเลย ผลไม้ออกลูกดกดี
นางทัศนีย์ กระจ่างโลก จ.ร้อยเอ็ด
การได้อ่านหนังสือธรรมะ หรือได้ฟังธรรมจากวิทยุ-เท็ป ก็เหมือนมีเพื่อนคลายทุกข์ จะไม่รู้สึก โดดเดี่ยว เดียวดาย เพราะมีธรรมะเป็นเพื่อนใจแล้ว จะไม่รู้สึกเหงาอีกเลย - บ.ก.


จนดักดาน
การทำสวนลองกองของกระผม ปีนี้คิดว่าจะไม่ใช้ปุ๋ยเคมีเลย เมื่อปีที่แล้วใช้ปุ๋ยเคมี ก็ไม่ค่อยมั่นใจ เพราะไม่มี ประสบการณ์ เรื่องการไม่ใช้ปุ๋ยเคมี หลานมาดูบอกว่า ถ้ากระผม ใส่ปุ๋ยเร่งดอก ไว้ก่อนฝนตก พอฝนตกลงมา รับรองออกดอกดกเพียบเลย นี่ก็กำลังเร่งรดน้ำ เป็นการใหญ่ เพราะแดดร้อนจัด ก็ต้องดู และ ศึกษาต่อไปว่า จะเป็นอย่างไร จะได้ผล มากน้อยแค่ไหน

วิธีการทำสวนผลไม้ของชาวสวนจันทบุรีนั้น ต้องใส่ปุ๋ยเคมีเร่งดอกก่อนหมดฤดูฝน แล้วงดน้ำ ปล่อยให้ เหี่ยวเฉา จึงรดน้ำ จะทำให้ออกดอกทันที

ชาวสวนจันทบุรีทุกสวน ทำสวนเพื่อการค้าทั้งนั้น ไม่มีใครคิดทำสวนไว้กิน ไว้แจกเพื่อนบ้าน เหลือจึงขาย ไม่มีใครคิดเช่นนี้ ถ้าคิดเช่นนี้จะจนดักดาน เอาตัวไม่รอดครับ ไหนจะค่าไฟปั้มน้ำ ค่าปุ๋ย ค่าลูกจ้าง ค่าภาษี รายได้ให้สรรพากรประจำปี ค่ากิน ค่าใช้จ่ายจิปาถะ ค่าช่วยงานบวช งานศพ งานแต่ง งานกฐินผ้าป่า และ ค่ารักษาพยาบาล ค่าน้ำมันรถ ฯลฯ ต้องทำรายได้ให้เหลือใช้ ถ้ารายได้ไม่พอใช้ต้องเป็นหนี้หัวโตครับ
นายใบ งามอนันท์ จ.จันทบุรี
ชาวสวนที่เอาตัวไม่รอด ส่วนใหญ่ก็เพราะลงทุนสูงกับปุ๋ยเคมี วิธีการปลูก และการซื้อขาย แบบทุนนิยม นี่เอง ทั้งการใช้ชีวิตฟุ่มเฟือย กับค่านิยม ของสังคม อย่างผิดๆ แต่ถ้าใช้ปุ๋ย ธรรมชาติ ต้นทุนต่ำ และ ฉลาดในการใช้จ่าย ในสิ่งที่จำเป็นของชีวิต ลดละเลิก อบายมุข ต่างๆได้ จะไม่เหลือชาวสวน ที่เป็นหนี้สิน อีกเลย ตัวอย่างจริง ก็มีให้ประจักษ์ตา กันมาแล้ว - บ.ก.


ยิ้มสู้ทุกข์
ข้าพเจ้านางนฤมล พรรณนิยม ปัจจุบันอายุ ๓๗ ปี มีสามีชื่อ นายมนัส พรรณนิยม อายุ ๓๘ ปี มีลูกสาวอยู่ ๑ คนชื่อ ด.ญ.นวพร พรรณนิยม ข้าพเจ้ารู้จักอโศกมา ประมาณ ๑๓-๑๔ ปี ได้รู้จักอโศก ครั้งแรก ที่งานปีใหม่ ที่ปฐมอโศก ก็หักดิบ ทานมังสวิรัติ ตั้งแต่วันนั้นเลย และ ก็ตั้งใจว่า จะทานมังสวิรัติ ตลอด ชีวิต ตั้งใจว่า จะไม่แต่งงานตลอดชีวิต แต่แล้ว สิ่งที่ตั้งใจไว้ ก็ทำได้แค่ประมาณ ๑ ปี กับอีก ๒-๓ เดือน เหตุผล ที่ทำได้แค่นี้ เพราะหนีเวร กรรมเก่าไม่พ้น ได้แต่งงานกับสามี

ทั้งๆที่ก่อนหน้า ที่ข้าพเจ้าจะแต่งงาน กับสามีนั้น ข้าพเจ้ายังบอกเลิก กับแฟนเก่า ที่ข้าพเจ้า ยังมีส่วนชอบ อยู่บ้าง แต่ตอนนั้น ไปอโศกบ่อย ก็เลยชนะมาร สามารถบอกเลิกกับแฟนได้ และก็บอกกับเขาว่า ข้าพเจ้า จะไม่แต่งงาน ตลอดชีวิต รู้สึกเบาและก็โล่งตัว โล่งใจมาก ที่ชนะใจตัวเอง แต่ในที่สุด ก็มาแพ้กรรมเก่า

แต่ที่เขียนเล่าให้ฟังซะยาว ก็เพราะว่า ปีที่แล้วๆมา ข้าพเจ้ายังมีชีวิต ที่มีความสุข คืออยู่กัน พร้อมทั้ง พ่อ - แม่- ลูก แต่มาปี ๔๕ เมื่อวันเสาร์ที่ ๑๙ ตุลาคม ข้าพเจ้าได้สูญเสีย สามีไป แค่วัย ๓๘ ปีเอง ซึ่งข้าพเจ้า ก็ได้ทำใจ ไว้ตลอดว่า คนเรามีพบ ต้องมีจาก และก็พอจะรู้ว่า สามีเป็นคน อายุสั้น แต่ก็ยังทำใจไม่ได้ ที่เขามาเสียแค่อายุเท่านี้

ตอนแรก ก็ยังงงเหมือนกันว่า มันเกิดขึ้นได้อย่างไร ทำไมเขาต้องฆ่าตัวตายด้วย แต่ตอนหลัง ถึงได้รู้ว่า เพราะอะไร พูดง่ายๆก็คือเขาไปก่อหนี้สิน เอาไว้มาก จนไม่มีทางออก และก็ไม่ยอม บอกใคร พูดตรงๆ เลยนะคะว่า ถ้าข้าพเจ้าไม่มีธรรมะ อยู่ในใจบ้าง ก็อาจจะเป็นบ้า ไปแล้ว เพราะชีวิต ก่อนสามีเสีย มีแต่สุข มีบ้าน มีรถ มีของใช้ เกือบครบทุกอย่าง เท่าที่จำเป็น แต่ในที่สุด ปัจจุบันนี้ แทบไม่เหลืออะไรเลย บ้านที่เคยอยู่ ก็ต้องย้าย ต้องกลับมา อยู่บ้านเกิด ตัวเอง ที่กทม. และก็ต้องหาเงิน ปลูกบ้านอยู่ใหม่ รถยนต์ เคยมี ก็ต้องขาย เพื่อเอาเงิน มาใช้หนี้เขา พูดง่ายๆอีกทีก็คือ มาจาก ๐ ก็กลับไป ๐ (ศูนย์) แต่ว่าข้าพเจ้า ไม่ได้กลับมา ที่ศูนย์นะคะ เพราะว่ามันติดลบ อีกต่างหาก

แต่ข้าพเจ้าก็สามารถผ่านวิกฤตินั้นมาได้ เพราะวันที่ ๓ หลังจากที่สามีเสีย ข้าพเจ้า เกือบจะบ้า แต่พยายาม นึกถึงลูก หลับตา กำมือแน่น และสูดลมหายใจเข้า - ออกลึกๆ นึกถึงลูกเข้าไว้ จึงผ่านเหตุการณ์นั้นมาได้

ข้าพเจ้าเพิ่งรู้นี่เองว่า อ๋อ? เวลาคนที่เขาจะเป็นบ้า มันมีอาการเช่นไร ยอมรับเลยว่า มันเกิดขึ้นมาแล้ว เราแทบ ควบคุมตัวเอง ไม่ได้เลย มันทรมานมากค่ะ หลังจากนั้น ข้าพเจ้า ก็ภาวนาว่า อย่าได้เกิดเหตุการณ์ อย่างนี้อีกเลย เอาละเล่าเรื่องส่วนตัวซะยาว ก็ขอจบ แค่นี้นะคะ มาบอกเล่าเรื่อง การปฏิบัติธรรมกันดีกว่า

เรื่องการกินมังสวิรัติหรือเจนั้น ปีนี้ข้าพเจ้าก็สามารถทำได้พอๆกับ ๒ ปีที่แล้ว คือปี ๒๕๔๓ นั้นทานได้ = ๑๘๓ วัน และปี ๒๕๔๔ ก็ทานได้ = ๑๙๕ วัน ก็ประมาณครึ่งปี มาปี ๒๕๔๕ ข้าพเจ้าทานได้ = ๒๐๐ วัน ทั้งๆที่ อาหารการกิน ก็หายาก และก็โดยส่วนมาก จะทานข้าว แค่วันละมื้อคือ มื้อเช้า ด้วยใจที่ศรัทธา จึงทำให้ ข้าพเจ้าทำได้

ส่วนในด้านอารมณ์ก็เช่นเคย คือ ใจเย็นขึ้น ไม่คิดที่จะโกรธใคร ใครคิดร้ายกับเราก็ช่างเขา เราไม่ขอคิดตอบ ใจเรา ก็เป็นสุข หน้าตาก็ผ่องใสขึ้น ถึงแม้นช่วง ๒-๓ ปีนี้จะดวงตก มีแต่เรื่อง ไม่ดี โดนเขาโกง ประมาณ ๔ แสนบาท เป็นหนี้เขา เป็นแสนๆ ก็สามารถยิ้มสู้ ใช้หนี้เขา จนหมด พออีกปี ก็มาเสียสามี ซึ่งเป็น การสูญเสีย ครั้งยิ่งใหญ่ ทำให้ชีวิตข้าพเจ้า เปลี่ยนไป จากขาวเป็นดำเลยก็ตาม แต่ ณ ปัจจุบันนี้ ข้าพเจ้า ก็ยิ้มสู้อยู่ได้ค่ะ

ส่วนลูกสาวนั้น ก็เป็นเด็กดีค่ะ เรียนก็ได้ที่ ๑ ขยันอ่านหนังสือ มีจิตใจเมตตาปราณีค่ะ คอยปลอบใจ ข้าพเจ้าค่ะ

ฉบับนี้ขอจบแค่นี้ก่อนนะคะ ศรัทธา จริงใจ เชื่อมั่น จากคนมีกรรม แต่ไม่ท้อท ี่จะทำความดีค่ะ
นางนฤมล พรรณนิยม จ.ปทุมธานี
แม้ทุกข์ปานใด ทุกข์หนักแค่ไหน ก็ไม่ยั่งยืน สามารถปลดทุกข์ได้ ด้วยใจสู้ ยิ้มสู้ ให้
ทุกข์สิ้น - บ.ก.


จดหมายถามถึงตัว
ต้องขอขอบพระคุณท่านเป็นอย่างสูง ที่มีความเมตตากรุณาส่งหนังสือให้อ่าน แม้กระทั่ง มีจดหมาย ตามถึงตัว เป็นพระคุณอย่างล้นเหลือ ดิฉันจะจดจำ คำสั่งสอนของท่าน เตรียมตัวลงมือ ปฏิบัติ ตามที่ชี้แนะทุกเรื่อง มิได้ผิดพลาด แม้แต่เรื่องเดียว ทั้งที่อยู่ชายแดน ที่แสน จะแดนไกลมาก ยังตาม ช่วยเหลือ เกื้อกูลอยู่เสมอ เหตุนี้คงลืมความดีงาม ความมีน้ำใจ การเสียสละ ที่ยิ่งใหญ่ได้ยากมาก ทั้งที่กระแสโลก ภายนอก จะดึงใจเรา ไปได้มากมายนัก ในทุกด้าน ชาวอโศกได้ต่อสู้ต้านทาน ทุกวิถีทาง ที่จะช่วย สมาชิก ของชาวอโศก ให้ก้าวขึ้นสู่โลกุตตระ ให้จงได้

สภาพจิตใจช่วงนี้ เจริญขึ้นน้อย บางครั้งแย่ลงบ้าง แต่ว่าไม่มีอาฆาตพยาบาทจองเวรผู้ใด ยังมีความชื่นชม ยินดี และ เห็นอกเห็นใจทุกคน ซึ่งแต่ก่อนถือสาโกรธเคืองคนเก่ง ไม่ค่อย เชื่อฟัง ความคิดเห็นของคนอื่น เอาแต่ความคิดของตัวเองเป็นใหญ่ เป็นนิสัยส่วนตัว ได้รับการเลี้ยงดู มาอย่างนี้ เพราะเป็นลูกคนแรก มีความเชื่อมั่น ในตัวเองสูง บางครั้ง หลงตัวเอง

วันเวลาผ่านไปด้วยวัยและประสบการณ์ในการปฏิบัติธรรม ทำให้เข้าใจชีวิตมากขึ้น ทำให้เห็นข้อเสีย ของตนเองมากขึ้น เป็นทวีคูณ แต่ก่อนตนเองโง่เขลามาก กว่าจะรู้ว่า สิ่งใดควรมิควร ได้ผ่านล่วงเลย มานาน พอสมควร จะเริ่มต้นใหม่ ก่อนที่จะช้าไปกว่านี้

ขอขอบพระคุณมากเหลือเกิน ไม่ทราบว่าจะหาคำกล่าวใดมาเปรียบเทียบ กับสิ่งที่ชาวอโศก ฝ่ายแนวหน้า ได้มอบ แต่สิ่งดีงามล้ำค่าให้ ทางหนังสือ จดหมาย และเท็ปธรรมะ

และขอขอบพระคุณเป็นกรณีพิเศษ สำหรับท่านที่ตั้งใจเสียสละเวลาอันมีค่า ได้บันทึก พิมพ์ดีด ทั้งเขียน ด้วยลายมือ ที่สื่อจากใจ ส่งมาเตือนใจ จี้จุดใจ อย่างถูกต้อง ทุกประการ จะยึดปฏิบัติตน ให้มีศีล มีธรรม ถือศีล ๕ เป็นอย่างต่ำ ให้สมกับ คำสั่งสอนของท่าน ให้จงได้ ผลการปฏิบัติเป็นอย่างไร จะรายงาน ให้ท่านทราบต่อไป
นงค์นุต โพธิ์ศรี จ.เลย
ทุกวันนี้คนที่จะถือศีลปฏิบัติธรรมจริงๆ หาได้ยากมาก เพราะถูกกระแสโลกดูดเอาไป เกือบหมด หากไม่ส่งธรรมะ ติดตามให้ถึงตัว ก็น่ากลัวว่า ความชั่วจะคาบเอาไปกินเสียหมด - บ.ก.


ใจผ่องใสกว่าเดิม
ได้อ่านสารอโศก-ดอกหญ้าบ่อยๆ อ่านแล้วไม่รู้สึกเบื่อเลย ทำให้มีกำลังใจ สำหรับสร้างสม ความดีเยอะขึ้น ก่อนนี้ถ้าทำแล้วมันไม่ได้ประโยชน์ ก็ทิ้งเลยเลิกทำทั้งหมด เดี๋ยวนี้เปลี่ยนไป มากค่ะ ยังทำอยู่ต่อไป เลิกคิดว่าใครจะเข้าใจว่าอย่างไร พยายามแก้ที่ตัวเอง ยกจิตตัวเอง ทุกวันๆ ยิ่งได้อ่านเรื่องราว ของญาติธรรม ที่ส่งเข้ามาแล้ว ทำให้ได้ข้อคิด ในการดำเนินชีวิต เยอะขึ้นมากจริงๆ วันนี้ที่ทำได้แล้วคือ
๑. ถือศีล ๕ และศีล ๘ ทุกวันพระ และจะพยายามทำให้ศีลบริสุทธิ์จริงๆ
๒. ความโกรธที่เคยมี แบบลมออกหู อาละวาด กรี๊ดใส่ ขว้างปาข้าวของ ทำร้ายตัวเอง ให้มันสะใจ ไม่มองหน้าคนที่ทำให้โกรธ หรืออาฆาตพยาบาทเขาเหล่านั้น ตอนนี้เลิกทำ แล้วค่ะ เพราะได้รู้ว่า...กิริยาอาการเหล่านั้นหาประโยชน์ใดไม่ได้เลย
๓. เรื่องของคนอื่นที่เคยเก็บเอามาเป็นทุกข์ ก็เลิกทุกข์แล้วค่ะ เพราะรู้ว่าคนมีกรรมเฉพาะตน ก็ยึดหลัก อุเบกขา ช่วยไม่ได้ ก็วางลง

ไม่น่าเชื่อว่า การอ่านหนังสือธรรมะบ่อยๆ สามารถพัฒนาจิตใจได้มากขนาดนี้ ความเป็น คนใจร้อน ยึดกฎเกณฑ์ ในชีวิต ขนาดไม้บรรทัดยังต้องหลีกทางให้เลยค่ะ เดี๋ยวนี้ ตามเหตุ ตามปัจจัย แต่ไม่ใช่ ละทิ้ง ระเบียบวินัยนะคะ คือสามารถใช้ชีวิต แบบเป็นกลาง ได้มากขึ้น อาจจะไม่ใช่ทั้งหมด แต่จะพยายาม ทำให้ได้ ในอนาคต ก่อนนี้คิดว่า การปฏิบัติธรรม คือ การเข้าวัด -นั่งสมาธิ ทั้งที่เคย ปฏิบัติแบบนี้มานาน ก็รู้สึกว่า ตัวเองได้น้อย วันนี้แม้ไม่ได้ นุ่งขาวห่มขาว แต่จิตใจ ผ่องใสกว่าเดิมค่ะ ขอบคุณ ผู้จัดทำ ทุกท่านค่ะ
ชนมน เทพสุด จ.เชียงใหม่
ปฏิบัติศีล ๕ กับศีล ๘ ได้บ้าง ยังส่งผลให้จิตใจผ่องใสถึงเพียงนี้ ถ้าถือศีลได้ดีได้
สูงกว่านี้.....จะขนาดไหน - บ.ก.


ไม่หวังแม้คำขอบใจ
ก่อนหน้าที่จะรู้จักสันติอโศก ดิฉันเป็นคนที่มีความเครียดมาก มีความวิตกกังวลสูง นอนไม่หลับ ฝันร้าย ก็บ่อย เจ้าคิดเจ้าแค้น มีความทะเยอทะยานอยากได้นั่นได้นี่ ไม่สมหวัง ก็เป็นทุกข์ ตั้งความคาดหวัง ไว้กับคนรอบข้างสูง โกรธก็ง่ายและเบื่อง่าย พยายามต่อสู้ เพื่อความยุติธรรมในชีวิตการทำงาน บ่อยมาก

เคยทำงานหนักมาก เพื่อหาเงิน เคยคิดว่าเงินคือพระเจ้า บันดาลทุกๆสิ่งคือความสุขในชีวิต รับจ้างขึ้นเวร ตระเวนขึ้น OT แทบไม่มีเวลาพักผ่อน จนเพื่อนพูดว่า ดิฉันเป็นคน หรือ เป็นเครื่องจักร

ขณะทำงาน วันเวลาที่ผ่านไป ก็มีหลากหลายปัญหามารุมเร้าบ่อยๆ จนบางครั้งไม่รู้คำว่า สุข มันเป็นอย่างไร พอมีเงินก็มาใช้จ่ายอย่างสนุก เป็นความรู้สึกสุขชั่ววูบ แต่ทุกข์มีมาก และ นานเหลือเกิน เวลามีปัญหา ก็เที่ยววิ่งหา ปรึกษาอาจารย์ มีคำถามหลากหลาย อยู่ในใจ ตลอดมา เช่น ทำไม โลกนี้ ไม่สร้างแต่คนดี ทำไมต้องมีการแข่งขัน ทำไมทุกคน สวมหน้ากาก เข้าหากัน อีกทั้ง มีความอยากได้ ความมีมากมายเหลือเกิน ไม่รู้จักจบสิ้น วิ่งตามความอยาก จนเหนื่อยล้า

๒-๓ เดือนก่อน ได้รู้จักพี่ร้านตัดเสื้อผ้า ซึ่งรับหนังสือดอกหญ้า และสารอโศกอยู่ ดิฉันได้ยืมมาอ่าน หลายเล่ม ยอมรับว่า เป็นหนังสือ ที่มีสาระมาก ได้ข้อคิด หลากหลาย เห็นการเสียสล ะการทำงาน ของกลุ่มอโศก เมื่อดิฉันได้อ่าน และนำมาทบทวน กับวิถีชีวิต ของตนเอง ที่ผ่านมา และนำมาปฏิบัติ กับตนเองดู ทำให้รู้สึกว่าชีวิตตนเองยังมีค่า มีสาระ มากกว่าเดิม

แต่เดิมเวลาเข้าร้านหนังสือ ก็จะไปมุมหนังสือบันเทิง อ่านนิยาย เดี๋ยวนี้ จะอ่านแต่ หนังสือ ธรรมะ หนังสือ จรรโลงใจ ไม่ดูโทรทัศน์ ไม่บ้าสะสม ลดการไปเที่ยว ห้างสรรพสินค้า เวลาว่าง ก็ไปสนทนาธรรม กับเพื่อน อ่านหนังสือ ทำสวน

เวลาเครียดไม่สบายใจก็อ่านหนังสือ ทำให้ดิฉันเป็นคนใจเย็น มีสติมากขึ้น ปลงต่อ สิ่งต่างๆ ได้มาก มองโลก ในแง่ดีกว่าเดิม เลิกไขว่คว้า เลิกตามหาความฝัน รู้จักพอมากกว่าเดิม

ความรู้และแง่คิดที่ได้จากการอ่าน ก็นำมาถ่ายทอด เป็นที่ปรึกษาให้กับคนไข้ หรือ ผู้ที่มี ปัญหาได้ โดยเฉพาะ หน้าที่การงาน ของตนเอง เกี่ยวข้องกับบุคคล ที่มีปัญหา และมารับ บริการ อยู่ตลอด โดยนำมา ผสมผสาน กับความรู้ในวิชาชีพ ของตนเอง และแบ่งปัน ให้กับเพื่อน ร่วมงานด้วย ดิฉันจะมีกลุ่มเพื่อน ที่สนใจ ในเรื่องธรรมะ และเคยบวชชีด้วยกัน ก็ให้เขายืมหนังสือ ที่ดิฉันยืมมา ให้พวกเขาไปอ่านต่ออีก

เมื่อวานนี้ดิฉันเริ่มได้รับหนังสือสารอโศก และดอกหญ้าเป็นครั้งแรก ขอบคุณมากค่ะ ประกอบกับ ใกล้จะถึง ปีใหม่พอดี จึงตั้งใจไว้ว่า จะเริ่มต้นชีวิตเก่า ในปีใหม่นี้ว่า จะทำความดี ให้มากกว่าเดิม มากกว่าปีก่อนๆ จะเป็นผู้ให้โดยไม่หวังผลตอบแทน จะเป็นคนเสียสละ มากกว่าเดิม จะยิ้มแย้ม แจ่มใส จะไม่บ่น จะพยายามเข้าใจคน ให้อภัยคน ทำหน้าที่ของตน ให้ดีที่สุด จนสุดความสามารถ ทุกกรณี โดยไม่หวังอะไรจากใครๆ แม้แต่คำว่าขอบใจ จะเป็นผู้ให้ โดยไม่จำ พยายามปฏิบัติธรรม ในสิ่งที่ ยังทำไม่ได้ ทำสิ่งที่ทำได้ยาก ให้เป็น ความเคยชิน
อัมพร เทพแก้ว จ.ลำปาง
การเริ่มต้นชีวิตเก่าในปีใหม่ แบบคิดใหม่ ทำใหม่ โดยทำความดีให้มากยิ่งขึ้น ขอแสดง ความชื่นชม ยินดีด้วยอย่างสูง เพราะหาได้ยากมากแล้วในสังคมปัจจุบัน โดยเฉพาะ การลด กิเลสตัวเอง เป็นการ ฝืนใจอยาก ของตนสุดยอดเลย - บ.ก.

ใจเย็นรอบคอบ
ดิฉันได้รับหนังสือดอกหญ้าและสารอโศกแล้ว เป็นครั้งที่ ๒ ดิฉันขอขอบคุณมาก หนังสือของอโศก ทุกฉบับ ไม่ว่าเก่าหรือใหม่ ปีพ.ศ.ใดๆ ก็น่าอ่านมาก เพราะให้ความรู้ ความเข้าใจ ในทุกๆด้าน ของการดำเนินชีวิต ในโลกปัจจุบัน ดีเป็นอย่างยิ่ง

เมื่อดิฉันประสบอุบัติเหตุขาหัก(หักเองขณะวิ่ง) ดีใจที่หักเอง ไม่มีใครทำให้เจ็บ ไม่มีใคร ทำให้เดือดร้อน และไม่เดือดร้อนใคร โทษ "กรรม" ดิฉันต้องรักษาตัว อยู่ที่โรงพยาบาล เป็นเวลา ๘ คืน ก็มีหนังสือ หลายๆฉบับ ของอโศกนี่แหละ เป็นเพื่อน ไม่เหงา ไม่คิดถึงวันเวลา ไม่มีการรอคอย

จนวันสุดท้าย น้องพยาบาลได้มาพูดคุยกับดิฉันว่า พี่ทำใจได้ดีมาก ไม่โวยวาย ไม่ทำตัว เรียกร้อง ความสนใจเลย ถ้ามีคนอย่างพี่ พวกพยาบาล คงได้มีโอกาส พักผ่อนบ้าง ในตอนกลางคืน ดิฉันจึงบอกว่า มีหนังสือของอโศก นี่แหละ ดีมาก พี่ถึงทำใจได้ "สุข-ทุกข์ อยู่ที่ใจเรา" น้องพยาบาล ก็ยืมหนังสือไว้อ่าน แล้วเราก็ได้ เป็นมิตรกัน น้องพยาบาล ทานมังสวิรัติอยู่แล้ว

ดิฉันไปโรงพยาบาล แต่ละครั้ง มีความประทับใจไม่ซ้ำแบบ อย่างเช่นครั้งหนึ่ง ดิฉันนั่งรอ เวลาเรียกบัตรคิว ก็เป็นอันให้แปลกใจ เป็นอันมาก เดี๋ยวขอแซงคิวหน่อยนะ คนไข้ VIP ของคุณหมอ เดี๋ยวคนนี้ จะมาฝาก หาความเป็นระเบียบวินัย ไม่ค่อยมี จนแพทย์มาตามดิฉัน ดิฉันบอกว่า ยังไม่ถึงคิวเรียก..... แพทย์ต้องหยิบ ประวัติมาดูเอง พยาบาลหน้าห้อง เขียนแพทย์ ผู้ตรวจนัด ชื่อผิดคน โถ..... ความผิด อยู่กับ พยาบาล หน้าห้อง

นัดอีกครั้ง ดิฉันเป็นคน อ.สามเงา ซึ่งอยู่ไกลจากตัว อ.เมืองตาก ๖๐ กิโลเมตร มาโรงพยาบาล แต่ละครั้ง ต้องให้ทันรถเที่ยวแรก ๐๗.๐๐ น. จะได้บัตรคิวเลขต้นๆ วันนี้ มาตามนัด พยาบาลลงวันที่ให้ผิดค่ะ วันนี้ไม่มีศัลยกรรมกระดูก พยาบาลแก้ไข วันที่ใหม่ ให้เสร็จ ไม่มีคำ "ขอโทษ" จากพยาบาลเลย ค่ารถ ไปกลับ -สามเงา -ตาก ๕๐ บาท ค่าสามล้อเครื่อง อีก ๒๐ บาท ดิฉันก็ให้อภัยได้ ขอให้พยาบาล คนดีมี "สติ" บ้าง เงินทอง หายาก ในยุคปัจจุบัน เจอคนปากกล้า เขาคงไม่เงียบ อย่างดิฉันหรอก

จากการได้อ่านและติดตามมิตรชาวอโศก ทำให้เป็นคนใจเย็น รู้จักการให้อภัย ถึงจะช้าลง ไปบ้าง แต่ก็ทำให้ เป็นคนรอบคอบ ไม่ค่อยผิดพลาด
น.ส.ทัศณี ปรมาริยะ จ.ตาก
หากปฏิบัติธรรมได้ถูกทาง จับกิเลสโลภ-โกรธ-หลง ของตนได้ชัด มองตนเป็นหลัก มองคนอื่น เป็นรอง แล้วจัดการกิเลสของตนให้ลดลง เชื่อได้เลยว่า ใจจะเย็นขึ้น รอบคอบ มากขึ้น และ ให้อภัย ผู้อื่นได้ง่ายๆ - บ.ก.

(สารอโศก อันดับที่ ๒๕๖ มกราคม ๒๕๔๖)