>สารอโศก

พิษอารมณ์


เรื่อง น่าเศร้าที่เกิดขึ้นกับเด็กนับวันจะเพิ่มขึ้นๆ หากท่านผู้อ่านติดตามข่าวสาร ในหน้า หนังสือพิมพ์ จะพบเรื่องเช่นนี้อยู่บ่อยๆ อาทิ "พ่อแท้ๆทำร้ายลูกชายวัย ๑ ขวบ จนระบบ หายใจขัดข้อง สมองอักเสบ มีเลือดคั่ง เนื่องจากร้องไห้เสียงดัง จนพ่อที่เป็น ทาสยาบ้า ทนรำคาญไม่ไหว ลงมือทำร้าย" (จากเดลินิวส์ ฉบับวันที่ ๒๗ มีนาคม ๒๕๔๕) หรืออย่างข่าว ในสถานีวิทยุ เมื่อวันที่ ๒๘ มีนาคม ๒๕๔๕ ว่า "เด็กขวบเศษ ถูกโจรยาบ้า จับเป็นตัวประกัน"

และเมื่อวันที่ ๑๙ มีนาคม ๒๕๔๕ เด็กวัย ๓ ขวบตกจากหน้าต่างถึงขั้นเสียชีวิต เหตุเกิด เพราะวันนั้น เป็นวันพระ แม่รีบออกจากบ้านแต่เช้ามืด เพื่อซื้อดอกไม้ ส่วนพ่อมีอาชีพ เป็นมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ทั้งสอง ต้องออกจากบ้าน แต่เช้าเป็นพิเศษ ไม่ทันได้ล็อคหน้าต่าง พ่อแม่เห็นว่า ยังเช้ามาก จึงไม่ได้ปลุกลูก เพื่อไป ด้วยกัน ปล่อยให้เด็กหลับ อยู่ในบ้าน คนเดียว เมื่อเด็กตื่นขึ้นมาไม่พบใคร จึงพยายามปีน ที่ขอบ หน้าต่าง เพื่อหาพ่อแม่ แล้วเรื่อง คาดไม่ถึง ได้เกิดขึ้น เด็กตกจากหน้าต่างลงเบาะรถของรปภ. แล้วตกไป ที่ท้องถนน ขณะเดียวกัน พ่อขี่มอเตอร์ไซค์กลับมาเห็นพอดี ตกใจมาก รีบนำร่างกระรุ่งกระริ่ง (แขนขาขาด) ส่งโรงพยาบาล ที่ใกล้ที่สุด และเด็กก็จบชีวิตที่นั่น เพราะทนพิษบาดแผลไม่ไหว

ที่ไต้หวันก็เกิดเหตุในทำนองเดียวกันนี้ว่า เด็กคนหนึ่งขณะชะโงกมองที่ระเบียงชั้นบนของ โรงเรียน กระเป๋าเป้ที่สะพายอยู่ข้างหลังหนักมาก ดึงเด็กคนนั้นให้ตกลงมาจนเสียชีวิต ไม่ว่าเมืองไทยหรือเมืองนอก เด็กนักเรียนต้องแบกน้ำหนักกระเป๋านักเรียน จนทำให้เกิด เหตุดังกล่าว แม้วิธีสะพายกระเป๋าเป้ไว้ที่หลัง ช่วยรักษาระบบสรีระไม่ให้เสียศูนย์ แต่เมื่อมีข่าวนี้เกิดขึ้น ผู้เขียนชักไม่แน่ใจแล้วว่า ต้องหันกลับมา หิ้วกระเป๋า กันหรือไม่ อย่างไรละก็ ขอเตือนน้องๆ ที่สะพายกระเป๋าเป้ อย่าได้ชะล่าใจ ระมัดระวังตนเองให้ดี แค่การชะโงกหน้า ที่ระเบียง หรือหน้าต่าง ขณะที่สะพายเป้อยู่นั้น อาจดับชีวิตไปได้ง่ายๆ ดังเรื่องที่เล่ามานี้

ส่วนคดีสะเทือนขวัญที่เกิดในสหรัฐอเมริกา แม่คลอดลูก ๕ คน จับลูกกดน้ำตาย เพราะมีภาวะ เครียดมาก จึงก่อการกับลูก ไร้ศีลธรรมจรรยา ไม่ผิดกับประเทศไทย ที่แม่คลอดลูก ออกมาแล้ว ทิ้งที่กองขยะบ้าง หรือนำไปทิ้งที่หน้าบ้าน ของชาวบ้าน ที่มีอันจะกินบ้าง เมื่อไม่พร้อมจะเป็นแม่ ไฉนจึงปล่อยให้เกิดลูกเล่า ทำบาปทำกรรม ลืมนึกไปว่า ถ้าแม่ของผู้นั้น ทำแบบนี้ ตัวเองจะอยู่ได้ มาจนทุกวันนี้ละหรือ สิ่งที่บุคคล ผู้นั้น กระทำขึ้น เป็นการไม่รับผิดชอบ รู้ว่าจะเกิดปัญหา ไยไม่มีสติยับยั้งชั่งใจ ยอมปล่อยให้ เรื่องทำนองนี้ เกิดขึ้นบ่อยๆ ผู้เขียนคุยกับหญิงสาวบางคนทำแท้งมาแล้ว ๒-๓ ครั้ง สุขภาพกาย และสุขภาพใจ เสียหมด โดยเฉพาะคนไทยควรมีจิตสำนึกในเรื่องนี้ และหาทาง ป้องกันตนเอง ไม่ตกเป็นเหยื่อกามของฝ่ายชาย ที่เอาแต่สนุกและปลดปล่อยอารมณ์ ไม่คำนึงถึง ความทุกข์ที่เกิดกับ เพศตรงข้าม

แม้แต่ตำรวจก็ยังพบว่า มีตำรวจบางคนในจังหวัดนครนายก หื่นกาม กระทำชำเราเด็กสาววัย ๑๕ สำเร็จถึง ๒ ครั้ง แล้วแบบนี้ประชาชนจะรู้สึกอุ่นใจได้อย่างไร ถ้ายังปล่อยให้ตำรวจเลวๆ ลอยนวล โชคดีที่จับได้ และถูกเอาเรื่อง ตามระเบียบไปแล้ว ไม่เช่นนั้น ประชาชน ยังคงต้อง หวาดผวา ไร้ที่พึ่ง เพราะผู้พิทักษ์ สันติราษฎร์ เป็นเสียเอง

ส่วนพ่อเลี้ยงเป็นถึงวิศวกรหนุ่ม ฆ่ารัดคอลูก ยังความเศร้าสลดให้กับผู้เป็นแม่ไม่น้อย คุณผู้หญิง หากจะมี สามีใหม่ คงต้องคิดให้มากว่า จะเดือดร้อนมาถึงลูกหรือไม่ นี่เป็นเพียง อุทาหรณ์ ที่เกิดขึ้น ในบ้านนี้ เมืองนี้แล้ว

หิวข้าวถึงกับถูกแทงดับ พี่กินข้าวหมดหม้อ ถูกน้องต่อว่า พี่ทนคำต่อว่าไม่ได้ ถึงกับแทงน้องดับ อย่างน่า อนาถ เรื่องของเด็กๆที่ยังไม่มีวุฒิภาวะ เอาแต่ใจ เรื่องแบบนี้ จึงเกิดขึ้นได้ ไม่สงสัยเลยว่า วัยรุ่นสมัยนี้ ช่างหูเบา อะไรที่ฟังไม่ถูกหู อารมณ์ร้อนได้เสมอ นี่ขนาดพี่น้องกันเองแท้ๆ ยังเป็นแบบนี้ กับคนอื่นๆ เรื่องทำนองนี้ เคยเกิดมาแล้ว แค่มองหน้า เหยียบหัวแม่เท้า ถึงกับถูกยิงตาย

จึงขอให้ทุกคนพยายามอย่าได้ก่อเรื่องราว ให้มีสติระงับใจ อากาศร้อนแบบนี้ หากทั้งร้อนกาย และร้อนใจ จนก่อเกิด เหตุการณ์ที่เป็นภัย ต่อสังคม จะให้ใครช่วย ใจเย็นๆกันหน่อยเถิด เราคนไทยด้วยกัน.

หากท่านผู้ใดมีประสบการณ์จริงจากชีวิต สามารถส่งมายังคอลัมน์นี้ หรือส่งมาทาง e-mail ข้างต้นได้

(สารอโศก อันดับที่ ๒๕๖ มกราคม ๒๕๔๖)