หน้าแรก >[09] การสื่อสาร > การเผยแพร่ธรรมะ >สารอโศก

งานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์
ครั้งที่ ๒๗ ระหว่างวันที่ ๑๖-๒๒ ก.พ. '๔๖


๑๖ ก.พ.'๔๖

ณ บัดนี้ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอตั้งจิตปฏิญญาณในงานพุทธาภิเษก ครั้งที่ ๒๗ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ข้าพเจ้าทั้งหลายจะขอบำเพ็ญธรรม ประพฤติตนอยู่ในศีล ๘ อันได้แก่.....จะขอตั้งใจประพฤติ เว้นขาด..

เสียงปฏิญาณศีล ๘ ของผู้มาร่วมงานพุทธาภิเษกฯที่ปฏิบัติกันมาตั้งแต่ครั้งที่ ๑ จนถึงครั้งที่ ๒๗ ยังคงดังกระหึ่มไปทั่วศาลา ตลอด ๗ วันนี้ ทุกคนจะตั้งใจประพฤติถือศีล ๘ โดยเคร่งครัด ตามที่ได้เปล่งกล่าว

๐๙.๐๐-๑๐.๐๐ น. นายสมดี คชายั่งยืน นายอำเภอไพศาลี ให้เกียรติมาเป็นประธาน กล่าวเปิดงาน พร้อมกับปวารณาตัวให้เรียกใช้ได้ตลอด ๗ วัน

๑๔.๐๐-๑๖.๐๐ น. พุทธาภิเษกฯภาคบ่ายวันแรก ฟังปฐมนิเทศน์ "ศรัทธานั้น สำคัญไฉน ?" โดยสมณะเดินดิน ติกขวีโร และสมณะบินบน ถิรจิตโต ๒ มหาเถระ ที่เปรียบดั่งขุนพล ฝ่ายคามวาสี และ อรัญวาสี แห่งกองทัพธรรม ที่มากด้วยบารมี เปี่ยมด้วยศรัทธา สามารถปฏิบัติได้อย่างง่ายดาย จนออกบวช ในที่สุด ศรัทธาเปรียบเสมือนต้นกล้า แม้ดินจะดีสักเพียงใด แต่ถ้าไร้ต้นกล้าเสียแล้ว ต้นข้าว ก็จะไม่เกิดขึ้น อย่างแน่นอน ศรัทธาทำให้เกิดพลัง เราต้องโน้มน้อม จิตของเรา ให้เกิดศรัทธา กับการมองน้ำ แค่ครึ่งแก้ว กับน้ำเหลืออีก ตั้งครึ่งแก้ว มองด้านไหน ที่จะก่อให้เกิด ศรัทธา และ ฝากให้ทุกคน ไปพิจารณา ในอีก ๒ ปีข้างหน้า จะถึงวาระครบ ๗๒ ปีของพ่อท่าน พวกเรา จะปฏิบัติบูชา กันอย่างไร

๑๘.๐๐-๒๐.๐๐ น. รายการภาคค่ำ พ่อท่านเทศน์กัณฑ์พิเศษ ในโอกาสวันมาฆบูชา โดยเริ่มต้นอธิบาย ขยายความคำกล่าวของอัลเบิร์ต ไอสไตน์ ที่เคยกล่าวถึงศาสนาพุทธไว้ว่า..... ศาสนาในอนาคต จะต้องเป็น ศาสนา แห่งสากล ซึ่งล่วงพ้นจากความเชื่อในเรื่องพระผู้เป็นเจ้า หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย โดยมีหลักการ ที่จะต้องตั้งอยู่บนรากฐาน ของความศรัทธา ที่เกิดจากการสะสมประสบการณ์ในทุกๆด้าน ทั้งในด้านธรรมชาติ และด้านจิตวิญญาณอย่างมีเหตุผล พุทธศาสนา เป็นคำตอบ สำหรับหลักกา รดังกล่าวนี้..........

และอธิบายขยายความถึงผู้ที่ปฏิบัติธรรมของพระพุทธเจ้าแล้วจะมีโลกวิทู รู้จักโลกีย์ทุกรูปแบบ เช่น โลกอบาย, โลกธรรม ๘, กามสุข ฯลฯ โดยไม่ตกเป็นทาสโลกีย์เหล่านั้น เพราะมิฉะนั้น จะเป็นอาริยะ ขึ้นมาไม่ได้ และผู้นั้น จะปฏิบัติตนอยู่ในโลกีย์จนจิตเป็นโลกุตระ มีอนุกัมปา คือมีจิตสงสาร อยากจะ ช่วยเหลือ สัตวโลก ที่ยังตกเป็นทาสโลกีย์ วนเวียนสุขๆทุกข์ๆอยู่กับสิ่งเหล่านั้น ซึ่งทั้งโลกวิทู-โลกุตรจิต -โลกานุกัมปา สามารถพิสูจน์ได้

พร้อมกับเปรียบเทียบลูกๆที่ไม่เอาจริงเอาจัง ไม่เต็มที่กับการทำงาน การผลิต ยังเคยชิน กับการทำอะไร จะต้องมี สิ่งตอบแทนว่า ทำตัวเหมือนอย่างลา ที่ต้องเอาหญ้า ผูกไว้ที่ปลายไม้ และ หน้ารถลาก จึงจะมีแรงเดิน เพราะมีเครื่องล่อ ยังเป็นทาสอามิสต่างๆ ใครคือลา ? ให้กลับไป ตรวจตนเอง

และผู้ที่มาร่วมงาน ทำตัวเหมือนเป็นแขก ถึงเวลากินก็นั่งแถวเพื่อรอกิน ถึงเวลาฟังธรรม ก็ฟังธรรม ถึงเวลา กลับก็กลับ ไม่ขวนขวายช่วยเหลือการงานอะไรเลย คนที่มีลักษณะอย่างนี้ พ่อท่านจะแจกหนวดให้

สุดท้ายผู้ที่ไม่อ่อนน้อม ถ่อมตน ดูดาย ไม่เอาภาระ ไม่ขวนขวาย หรือทำงานแล้ว ถือตัวถือตนสูงแล้ว ลดไม่ลง จะเอาไปไว้บนยอดตาล

๑๗ ก.พ.'๔๖
๐๓.๓๐-๐๕.๓๐ น. ทำวัตรเช้า ฟัง "อีคิวโลกุตระ" จนถึงวันที่ ๒๒ ก.พ. ๔๖ พ่อท่านอธิบาย ขยายความ ธรรมะ ระดับโลกุตระที่ประมาณค่ามิได้ ได้อย่างชัดเจน ละเอียดลออ เข้าใจง่าย ทั้งแนวลึกและ แนวกว้าง ประมาณว่า จะไม่เคยได้ยินได้ฟังอาจารย์องค์ไหนอธิบายได้แบบนี้มาก่อนเลยในชีวิต ญาติธรรม ผู้แสวงหา ทางพ้นทุกข์ ต้องขวนขวายหามาฟังให้ได้ และเก็บไว้เป็นสมบัติส่วนตัว เพื่อนำมาพิจารณา ทบทวน สภาวธรรม อยู่เสมอๆ เพื่อความเจริญในธรรม ซึ่งพ่อท่านคาดว่า จะอธิบายจบเล่ม ในงานปลุกเสกฯ ที่จะถึงนี้

๐๖.๑๕-๐๘.๓๐ น. ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อฟ้าดิน พ่อท่านให้โอวาทเปิดประชุมว่า "แนวคิดการเมืองบุญนิยม จะเป็นนวัตกรรมให้แก่ชาวโลก เพราะว่ามีแนวคิดเป็นโลกุตระ และ ล้างกิเลสด้วย เรากำลังบูรณาการการเมืองบุญนิยมไปสู่สังคม เพราะฉะนั้น เอาใจใส่กันหน่อย ให้เก็บ หลักฐานไว้ด้วย งานการเมืองจะมารับใช้เครือข่ายชาวอโศก เพื่อทำหน้าที่ประสานกับองค์กรนิตินัย"

ดำเนินการประชุมโดย นางสาวขวัญดิน สิงห์คำ หัวหน้าพรรคเพื่อฟ้าดิน หลังจากการประชุม ดำเนินไป จนจบวาระ พ่อท่านให้โอวาท ปิดประชุมว่า "งานที่เรากำลังทำ เป็นงานระดับล้ำหน้า ที่เขาทำกันไป พวกเรากันเอง พยายามทำความเข้าใจกันให้ดี อย่าตั้งแง่ แต่ให้ประสานเชื่อมโยง ควรเปลี่ยนจิตใหม่ ที่จะร่วมไม้ ร่วมมือกัน ให้เข้ากันได้อย่างกลมกลืน ตามหน้าที่ฐานะ ของแต่ละบุคคล"

การประชุมองค์กรบุญนิยม แบ่งองค์กรบุญนิยมออกเป็น ๑๑ หน่วยงาน
๑. ด้านศาสนา ๒. ด้านเศรษฐกิจ พาณิชย์
๓. ด้านการเงิน การคลัง ๔. ด้านกสิกรรม
๕. ด้านอุตสาหกรรม วิทยาศาสตร์ ๖. ด้านชุมชน สังคม สิ่งแวดล้อม
๗. ด้านการสื่อสาร
๘. ด้านการศึกษา ศิลปวัฒนธรรม
๙. ด้านสุขภา
๑๐. ด้านการบริโภค
๑๑. ด้านการเมือง การบริหาร กฎหมาย กระบวนการยุติธรรม ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

๐๙.๐๐-๑๐.๐๐ น. ก่อนฉันฟัง สงครามเมล็ดพันธุ์ โดย โจน จันได และมิเชล จากฮอลแลนด์ มาบอกกล่าว ให้พวกเราได้รับรู้ว่า ขณะนี้ทุนนิยมจากอเมริกา กำลังฉกฉวย เพื่อครอบครองเป็นเจ้า ของเมล็ดพันธุ์ แต่เพียงผู้เดียว ซึ่งจะกลายเป็นระบบทาสยุคใหม่ ที่ต้องซื้อเมล็ดพันธุ์ จากบริษัทข้ามชาติ ไปชั่วลูก ชั่วหลาน สิ่งที่ทุนนิยมกลัวคือ ความเข้มแข็งของชุมชนพึ่งตนเอง ชุมชนชาวอโศก จึงเป็น ความหวัง ที่จะเป็นผู้เก็บ เมล็ดพันธุ์ พืชพื้นบ้าน เพราะเราพึ่งตนเอง คงถึงเวลาแล้ว ที่พวกเรา จะเก็บ เมล็ดพันธุ์ไว้ใช้เอง ประกาศความเป็นไท จากทุนนิยม

ระหว่างรับประทานอาหาร ผศ.ดร.สุธาทิพ และดร.ซิลวิโอ เอเมอรี่ จากมหาวิทยาลัย มหิดล อธิบายสูตร การทำไบโอดีเซลจากน้ำมันพืชที่ใช้แล้ว ทดแทนน้ำมันที่กำลังจะหมดไปในอีก ๕๐ ปีข้างหน้า พร้อมกับ ขับรถยนต์ ที่ใช้น้ำมันไบโอดีเซลมาจอดข้างศาลา พิสูจน์ให้เห็นทั่วกันว่า ใช้ได้จริงๆ และ กลิ่นควันรถ จากท่อไอเสีย ไม่ทำลายสุขภาพ หลายคนทดลอ งสูดกลิ่นแล้วบอกว่า กลิ่นหอม เหมือนไข่เจียว ไหม้ๆเลย

๑๒.๐๐-๑๓.๓๐ น. ของทุกวัน หลังรับประทานอาหาร มีธรรมะขึ้นกระดานดำ ที่ศาลา หายสงสัย และ ศาลา ๖ เหลี่ยม สำหรับคนเก่า-คนใหม่ โดยสมณะ-สิกขมาตุ หมุนเวียนแสดงธรรม ในวันที่ ๑๖ ก.พ. เวลาเดียวกันนี้ มีการบรรยายเรื่องบ้านดิน ที่เรือนคนของแผ่นดิน

๑๔.๐๐-๑๖.๐๐ น. พุทธาภิเษกฯภาคบ่าย "เมื่องานรุมรอบทิศ จะทำจิตอย่างไร?" โดยสิกขมาตุ กล้าข้ามฝัน อโศกตระกูล และสมณะเพาะพุทธ จันทเสฏโฐ การทำงานแบบมรรคมีองค์ ๘ ที่ล้างกิเลส ขณะทำงานไปด้วย ซึ่งต้องฝึกจิตให้นอบน้อม มีความยินดีในการทำงาน เหงื่อไหลมาก น้ำตาไหลน้อย เหงื่อไหลน้อย น้ำตาไหลมาก เราทำงานเพื่อฝึกรับใช้ ไม่ใช่เพื่อผลสัมฤทธิ์ของงาน จงระวัง อารมณ์ก่อนงาน อย่าหลงงาน จนเสียอารมณ์ เมื่องานรุมรอบทิศ เราจะต้องอดทน และ เป็นนักทำใจ

๑๖.๐๐ น. พ่อท่านให้ความเมตตามาพูดคุยกับลูกๆ ที่สนใจหนังสือที่พ่อท่านเขียน สำหรับนำไปแข่งขัน
ในเกมอโศกพันธุ์แท้หนังสือของพ่อท่าน ในงานอโศกรำลึกที่จะถึงในเดือนมิถุนายน เนื่องจาก มีเวลาเตรียมตัวน้อย ปี'๔๖ นี้ จึงขอเปลี่ยนเป็นเกมอโศกพันธุ์แท้เพลงของครูรัก รักพงษ์ ส่วนด้านหนังสือ ขอเลื่อนไปเป็นปีหน้า ผู้ใดสนใจ จะเป็นกรรมการ ร่วมแข่งขัน และ เป็นสปอนเซอร์ สมัครได้ที่ คุณเพ็ญเพียรธรรม สิ้นป่าโลกีย์ และ คุณปะพัดชา ชาวหินฟ้า สันติอโศก และ ในงานปลุกเสกฯ จะจัดเวลาให้พูดคุยกับพ่อท่าน ในเรื่องของเพลง อีกครั้งหนึ่ง

๑๘.๐๐-๒๐.๐๐ น. รายการภาคค่ำ สัมภาษณ์ปฏิบัติกร ชุด สัจธรรมชีวิต ณ ทุ่งศาลี โดยสมณะฟ้าไท สมชาติโก นำเจ้าหน้าที่ ธ.ก.ส. และผู้เข้าอบรมฯหลักสูตรสัจธรรมชีวิต ตามเครือข่ายต่างๆ เช่น ศาลีฯ เชียงรายฯ ชมรมเพื่อนช่วยเพื่อน อินทร์บุรี และศรีสงครามฯ มาบอกเล่าถึงวิถีชีวิตตัวเองที่เปลี่ยนแปลง หลังกลับจากการอบรมฯว่า สามารถถือศีล ๕ ละอบายมุขได้เด็ดขาด ทานมังสวิรัติ สามารถ ปลดหนี้สิน ลงได้ สุขภาพดีขึ้น ครอบครัวอบอุ่น และวัยรุ่น ๒ คนที่ติดยาบ้า และเที่ยวกลางคืน ก็หันหลัง ให้กับอบายมุข เหล่านั้นอย่างเด็ดขาด เกิดศรัทธาอาสามาเป็นพี่เลี้ยง ในงานอบรมฯ รุ่นต่อไป ผู้ฟังต่าง ซาบซึ้ง เปล่งกล่าว อนุโมทนากันเซ็งแซ่ นี่คืองานกอบกู้ มนุษยชาติของชาวอโศก

๑๘ ก.พ.'๔๖
หลังทำวัตรเช้า ประชุมตลาดอาริยะและ ๘ พาณิชย์บุญนิยม พ่อท่านให้โอวาทว่า ..... พวกเรา จะต้อง เข้าใจ ตลาดอาริยะ ให้ชัดเจนว่า เราไปแสดงการเสียสละ และทำประโยชน์ คนอื่นจะเห็นว่า เรามาเสียสละ คนก็มารับการเกื้อกูลจากเรา เราทำจริง เราไม่ได้ไปหาเสียง แต่ให้เห็นว่า คนมีการเสียสละจริง เราขายถูก เป็นของดี มีคุณค่า เป็นสินค้าปัจจัย ๔ ที่จำเป็นในชีวิต

ขอกำชับว่าอย่าไปเอาคนนอกมาขาย ใครไม่มีเงินซื้อสินค้า ก็ติดต่อเงินเกื้อส่วนกลางได้ ในการขาย ขอกำชับว่า เราจะประกาศความดีให้มั่นคงยั่งยืน เพราะฉะนั้นอย่าไปเป็นหนี้ ขอให้ทำจริง เหล่านี้ เป็นจิตวิทยาสังคม ที่จะเกิดขึ้น ในสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ ถ้าพวกเราลดกิเลสลงได้ก็ยิ่งดี

เรื่องที่ประชุมมีดังนี้
๑. ข้อควรแก้ไขในงานตลาดอาริยะ ๒๕๔๖

๑. แต่ละกลุ่มไม่มีเงินทุนพอในการซื้อสินค้าไปจำหน่าย -แนวทางแก้ไข ส่วนกลางมีเงินทุนระยะสั้นให้เกื้อ

๒. ผู้มาขายสินค้าในตลาดแล้ว ไม่แจ้งข้อมูลล่วงหน้า -แนวทางแก้ไข แม่ข่ายแจกเอกสารล่วงหน้า อย่างน้อย ๑ เดือน เพื่อให้ลูกข่ายแจ้งข้อมูล หากไม่แจ้งล่วงหน้า ให้ตัดสิทธิ์ ในการจำหน่ายสินค้า ในตลาดอาริยะ

๓. กำหนดกำไรอาริยะของสินค้าแต่ละประเภทดังนี้ (ทดลองใช้ในปี ๒๕๔๗ หากไม่เหมาะสม สามารถ ประชุมตกลง เปลี่ยนแปลงได้ในปีต่อไป)

สินค้าที่ซื้อมาจากโรงงาน กำไรอาริยะ ๑๐%

สินค้าที่ซื้อเอง กำไรอาริยะ ๓๐%

สินค้าที่ผลิตในชุมชน กำไรอาริยะ ๕๐%

สินค้าที่ผลิตเอง กำไรอาริยะ ๒๐%

๔. ไม่มีการบริหารจัดการในการซื้อสินค้า ทำให้สินค้าราคาแพง -แนวทางแก้ไข รวมศูนย์ในการจัดซื้อ โดยแบ่งสินค้า ออกเป็น สินค้าจากโรงงาน-สินค้าเกษตรกรรม-สินค้าหัตถกรรม

๒. การตลาดไร้สารพิษ(ผัก ผลไม้ พืชไร่) กรณีความคืบหน้าและปัญหาที่น่าสนใจ นำเสนอ ในงานปลุกเสกฯ

๓. การจดสิทธิบัตร พ่อท่านให้นโยบายว่า เพื่อความสะดวกในการทำงาน ไม่ใช่หวงแหน แต่ใคร จะนำไปใช้ เราไม่หวงแหน ผู้สนใจจะจดสิทธิบัตรติดต่อได้ที่คุณเคียงดิน ชาติบุญนิยม และ คุณหมอ ฟากฟ้าหนึ่ง อโศกตระกูล มีการแจกเอกสารความรู้เบื้องต้นด้านทรัพย์สินทางปัญญา แก่ผู้ที่สนใจ

๔. นโยบายออกร้านบุญนิยม พ่อท่านให้นโยบายร้านบุญนิยมว่า ในสังคมเขารับรู้เรา รู้จักกลุ่มชุมชน บุญนิยม เราต้องระมัดระวังตัว ไม่ฉวยโอกาส แต่ถือโอกาส ประกาศระบบบุญนิยม ถึงจะเป็นบุญ ให้ชัดเจน ถ้าเราขายต่ำกว่าทุน ลดราคาลงได้ถึง ๓๐-๔๐ % ได้จริง ก็ไป แต่หากไม่ได้ ก็ไม่ต้องไป หากจะไปขาย ในนามบุญนิยม จะต้องลดลงได้ถึง ๓๐-๔๐ %

๕. น้ำชีวภาพเพื่อซักล้างทดแทนเคมี มีการแจกตัวอย่างแชมพูทดลองใช้ในงานพุทธาฯ แก่ผู้ที่สนใจ และ ขอให้แจ้งผล การใช้ ในงานปลุกเสกฯ'๔๖

๖. เรื่องอื่นๆ

-ปัญหาโปรตีนเกษตร GMO

-เลือกคณะกรรมการก่อตั้งองค์กรบุญนิยม ด้านเศรษฐกิจ พาณิชย์ ๘ คน
๑. นายสมพงษ์ ฟังเจริญจิตต์
๒. นายร้อยแจ้ง จนดีจริง
๓. น.ส.ดินนา โคตรบุญอารยะ
๔. นายหินไท ชาวหินฟ้า
๕. น.ส.นภวรรณ วิสิษฐ์ศรีศักดิ์
๖. น.ส.ช่วยบุญ จันทรรักษา
๗. นางใบหญ้า ตันวิระ
๘. นายหนึ่งพุทธ วิมุตตินันท์

-ขณะนี้ปฐมอโศกรวบรวมอ้อยทราย(น้ำตาลอ้อย) ได้ประมาณ ๕๐ ตัน ผู้ใดสนใจอ้อยทรายราคาถูก ติดต่อ โดยตรง ที่คุณทิวเมฆ ที่ปฐมอโศก

พ่อท่านให้โอวาทปิดประชุมว่า พัฒนาการของพวกเรา เรามีชีวิตอยู่ในสังคม มีการทบทวนปริยัติ และ ปฏิบัติ มีสัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ และพากเพียรปฏิบัติ ชีวิตของลูกพระพุทธเจ้า จะเจริญทั้งด้าน พิธีกรรม กิจกรรม จิตวิญญาณ ไปด้วยกัน ไม่แยกกัน

วันนี้เราพูดถึงเงินล้านแล้วเฉยๆ อีก ๒๐ ปี แน่นอนกิจกรรมของเราพูดถึง เงินร้อยล้านได้แน่ เงินใน ระบบบุญนิยม เป็นสมบัติส่วนกลาง เป็นระบบที่โลกต้องการ แต่เขาทำไม่ได้ เราเริ่มสร้างระบบ วัฒนธรรม ละเอียด มาเรื่อยๆ เป็นเรื่องของมนุษยชาติ ศาสนาไม่ได้แยกออกจากเรื่องใดๆ แต่จะเป็นแกนหลัก ของทุกอย่าง แทรกอยู่ทั้งในการศึกษา การค้า การบริหาร มนุษย์จะต้องมีธรรมะ มีศาสนา สังคม จึงจะเจริญ

ธรรมะก่อนฉัน "เพื่อนธรรม-พันธุ์แท้" โดย สมณะซาบซึ้ง สิริเตโช และสมณะร่มเมือง ยุทธวโร เพื่อนแท้ จะจูงกันไปสู่ที่สูงเพียงถ่ายเดียว เพื่อนจะทำให้เราลดความเอาแต่ใจลงได้ ถามตัวเองว่า เรามีมิตรแท้ ได้มากพอ จนเราเชื่อมั่นตัวเองว่าเราจะปฏิบัติธรรมอย่างนี้ตลอดไปได้หรือไม่ เพราะมิตรดี สหายดี สังคมสิ่งแวดล้อมดี เป็นทั้งหมดทั้งสิ้นของการปฏิบัติธรรมให้สูงขึ้น

ภาคบ่าย (๑๘-๑๙ ก.พ.) ธรรมะทางเลือก แบ่งกลุ่มสัมมนาตามความสนใจ มีสมณะ-สิกขมาตุ ประจำกลุ่ม ให้คำปรึกษา แนะนำ

๑. ธรรมะทั่วไป คลายสงสัยที่ศาลาฟังธรรม โดย สมณะร่มเมือง ยุทธวโร

๒. ถามปัญหาส่วนตัว ธรรมะตามกลดบริเวณเขตสมณะเกจิฯและสิกขมาตุเกจิฯ

๓. เพิ่มสมถะที่โบสถ์ โดยสมณะผืนฟ้า อนุตตโร อธิบาย-ตอบข้อสงสัย และพานั่งเจโตสมถะ

๔. มาเป็นหมอดูแลสุขภาพของตัวเอง ที่เฮือนคนของแผ่นดิน โดย สมณะเดินดิน ติกขวีโร และ ทีมงาน สุขภาพบุญนิยม

๕. กีฬาอาริยะ (ลุยงาน) สัมมากัมมันตะ บนอริยมรรคมีองค์ ๘ อาทิเช่น ใส่ปุ๋ย, ปุ๋ยชีวภาพ, ถอนหญ้า ๒ แห่ง, ทอนฟืน, เคลียร์กิ่งไม้, น้ำหมักชีวภาพ, ขนฟาง และถางหญ้า

ภาคค่ำ สัมภาษณ์ปฏิบัติกรชุด คลื่นลูกใหม่ โดย สมณะกล้าจริง ตถภาโว ๕ ตัวอย่าง ของคลื่น ลูกใหม่ จากเครือข่ายต่างๆ ของชาวอโศก ที่เข้ามาช่วยงานอย่างต่อเนื่อง ไม่ขาดสาย ขอต้อนรับสมาชิกใหม่ ทุกท่าน ผู้มีศีล ที่ยังไม่มา ก็ขอให้มา ส่วนผู้ที่มาแล้ว ก็ขอให้อยู่เป็นสุข ๆ เถิด

๑๙ ก.พ ๔๖
หลังทำวัตรเช้า ประชุมบุญญาวุธหมายเลข ๓ กสิกรรมไร้สารพิษ พ่อท่านเป็นประธาน มีวาระ การประชุม ๕ วาระ ดังนี้

๑. การเตรียมงานเพื่อฟ้าดิน

-คุณถึงไท แสงสุริยจันทร์ แจ้งว่า ได้ส่งหนังสือ เรียนเชิญท่านนายกฯ พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร มาเป็นประธาน เปิดงาน เพื่อฟ้าดิน ในวันที่ ๑๖ พ.ค. ๔๖ เวลา ๑๐.๐๐ น. และเรียนเชิญ ร่วมเสวนา หัวข้อเรื่อง "การพัฒนาชีวิตแบบยั่งยืน" ในเวลา ๑๔.๐๐-๑๖.๐๐ น.

-ตกลงให้ใช้คำว่า กสิกร แทนคำว่า เกษตรกร และคำว่า กสิกรรม แทนคำว่า เกษตรกรรม เพราะชาวอโศก ทำกสิกรรมอย่างเดียว ไม่ได้เลี้ยงสัตว์

-หาผู้รับผิดชอบโครงสร้างของงาน พ.ฟ.ด. ดังนี้

ตลาด - น.ส.ดินนา โคตรบุญอารยะ, น.ส.ดาวพร ชาวหินฟ้า และนายร้อยแจ้ง จนดีจริง
สถานที่ - ทีมบ้านราชฯ
นิทรรศการ - น.ส.ขวัญดิน สิงห์คำ และนางพรตะวัน ธนะโภค
วิชาการ บรรยาย - นายแก่นฟ้า แสนเมือง
ประชุม และผู้ประสานงานกลาง - สมณะเดินดิน ติกขวีโร
สาระบันเทิง - นายหินไฟ หมายยอดกลาง
รวบรวมกสิกรจากศูนย์ต่าง - นายถึงไท แสงสุริยจันทร์
อาหาร - บ้านราชฯ
เลขานุการ - นายสู่ดิน ชาวหินฟ้า

๒. การเก็บเมล็ดและพันธุ์พืช ถือเป็นวาระแห่งชาติ จะกอบกู้ชาติได้ต้องเก็บเมล็ดพันธุ์ โดยแม่ธรณีเป็น
แหล่งเก็บ ตามธรรมชาติ ที่ดีที่สุด หรือกระจายกันไปปลูกให้มากที่สุด ขอความร่วมมือจากพี่เลี้ยง ที่ออกไป ประเมินผล ตามศูนย์ต่างๆ ให้หาเมล็ดและพันธุ์พืชจากพี่น้องกสิกรด้วย และในงานปลุกเสกฯ ขอให้ ญาติธรรม นำเมล็ดและพันธุ์พืชที่แต่ละคนบริโภค นำมาร่วมแสดง หรือหากมีพันธุ์พืช ที่ไม่สามารถ นำมาร่วมแสดงได้ ก็ขอให้นำภาพถ่ายมาด้วย เพื่อเก็บเป็นข้อมูลต่อไป

-ตั้งศูนย์พันธุ์พืช มีผู้ประสานงานกลาง ฝ่ายนักบวช-สมณะเสียงศีล ชาตวโร, สมณะถ่องแท้ วินยธโร และ สมณะธาตุดิน ปฐวีโร ฝ่ายฆราวาส-นายไพโรจน์ อัครสีวร, นายวัลลภ จันดาเบ้า และนายถึงดิน วิฆเนศ รับผิดชอบข้อมูลเมล็ด และพันธุ์พืช

-ตั้งศูนย์ปุ๋ยสะอาด มีผู้ประสานงานกลาง ฝ่ายนักบวช-สมณะเสียงศีล ชาตวโร ฝ่ายฆราวาส-นายสมพงษ์ คงจันทร์, นายข้าดิน ศรีเชียงสา และนายหนึ่งพุทธ วิมุตตินันท์ บริษัทดินน้ำฟ้า ประกาศ รับซื้อเมล็ดพันธุ์ ทุกชนิดจากกสิกร

๓. องค์กร ค.ก.ร. แบ่งออกเป็น ๔ ภาคตามศูนย์การทำงาน และให้ภาคเหนือ-กลาง-ใต้ เลือกตัวแทน ภาคละ ๕ คน และคัดเลือกจาก ๕ คน เหลือ ๒ คน รวม ๖ คน เป็นตัวแทนภาค เพื่อเข้าประชุม เครือข่าย ค.ก.ร. และภาคอีสาน ที่เลือกตัวแทนจากศูนย์ย่อย ๔ แห่ง แห่งละ ๓ คน แล้วเลือกตัวแทนจาก ๑๒ คน เหลือ ๖ คน รวม ๔ ภาค จำนวน ๑๒ คน เป็นตัวแทนกลาง ของแต่ละภาค เพื่อเข้าประชุมกับองค์กร ค.ก.ร.

ภาคเหนือ ศาลีอโศก เป็นศูนย์ภาคเหนือ ประกอบด้วย จังหวัดเชียงราย, เชียงใหม่, สิงห์บุรี, เพชรบูรณ์ และ แพร่
สมณะที่ปรึกษา -สมณะเสียงศีล ชาตวโร
ผู้รับผิดชอบ-นายสมพงษ์ คงจันทร์, นายไม้ผล ธรรมชาติอโศก และนายบุญใส่เกล้า สมกระโทก

ภาคกลาง สันติอโศกเป็นศูนย์ภาคกลาง ประกอบด้วย จังหวัดนครปฐม, ร.ร.ผู้นำกาญจนบุรี, บูรพาอโศก และ สันติอโศก
สมณะที่ปรึกษา-สมณะนาไท อิสสรชโน
ผู้รับผิดชอบ-นายสมพงษ์ ฟังเจริญจิตต์

ภาคใต้ ทักษิณอโศก เป็นศูนย์กลางภาคใต้ ประกอบด้วย จังหวัดตรัง, สงขลา, พังงา และชุมพร
สมณะที่ปรึกษา-สมณะกล้าดี เตชพหุชโน
ผู้รับผิดชอบ-นายประจำ อังกาพย์ละออง

ภาคอีสาน ราชธานีอโศก เป็นศูนย์ของภาคอีสาน ประกอบด้วย

-สังฆสถานหินผาฟ้าน้ำ เป็นศูนย์ย่อยของจังหวัดขอนแก่น, ชัยภูมิ, เลไลย์อโศก

-พุทธสถานสีมาอโศก เป็นศูนย์ย่อยของเมฆาอโศก, ดินหนองแดนเหนือ และวังน้ำเขียว

-ศีรษะอโศก เป็นศูนย์ย่อยของร้อยเอ็ดอโศก, ศรีสงครามอโศก และศีรษะอโศก

-ราชธานีอโศก เป็นศูนย์ย่อยของสวนส่างฝัน และราชธานีอโศกเองด้วย

๔. การถ่ายทำสารคดี พ.ฟ.ด. ศูนย์อบรมใด
ที่ต้องการถ่ายทำ สารคดีของกสิกร ที่เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตตนเอง ติดต่อได้ที่นายหินไฟ หมายยอดกลาง และที่ประชุม มีมติซื้อรถคันใหม่ ให้กับทีมแสง สี เสียง เพื่อความปลอดภัย ในการทำงาน

๕. คัดเลือกตัวแทนองค์กรบุญนิยม เพื่อเข้าประชุม ๓ หน่วยงาน คือ ปุ๋ยสะอาด-ขยะวิทยา-กสิกรรมไร้สารพิษ

พ่อท่านให้โอวาทปิดประชุมว่า อาตมาชื่นใจที่พวกเราขมีขมัน มีไฟขึ้นมา ชาวอโศก ต้องยึดหัวหาด เป็นกสิกรกันจริงๆ เพื่อเป็นงานเป็นอาชีพ เป็นความถนัด ที่มนุษย์จะต้องใช้ในโลก

๐๙.๐๐-๑๐.๐๐ น. ฟังธรรมะก่อนฉัน โดยสิกขมาตุมาบรรจบ เถระวงศ์ เรื่อง "เชื่อให้ทำ... ธรรมให้เชื่อ" จะทำอะไรต้องตั้งสติ อ่านใจของเรา สติเป็นรากฐานของจิต และให้สะสาง จิตของเรา ให้สะอาด อาศัยความเชื่อไปก่อน จนกว่า เราจะเกิดธรรมะจริงขึ้น จะเชื่อถืออย่างไร ทำให้เราชนะกิเลสได้

สมณะกลางดิน โสรัจโจ "รวมพลังคลังธรรมาวุธ" ปัจจุบันชาวอโศกมีบุญญาวุธ ๔ อันดับ คือ อันดับที่ ๑ มังสวิรัติ อันที่ ๒ ตลาดอาริยะ อันดับที่ ๓ กสิกรรมไร้สารพิษ อันดับที่ ๔ สุขภาพบุญนิยม และ ขณะนี้ที่ ชมรมมังสวิรัติ แห่งประเทศไทย สาขาจังหวัดเชียงใหม่ เป็นเสมือนคลังธรรมาวุธ เพราะรวมบุญญาวุธ ไว้ครบ ๔ อันดับ

ขณะรับประทานอาหาร ดร.อารีย์ วชิรมโน จากไร่มะขามเปรี้ยว ได้มาพูดให้ความรู้ เกี่ยวกับ การดูแลสุขภาพ แก่ผู้มาร่วมงาน จนถึงเวลา ๑๔.๐๐ น. แล้วเดินทางกลับ เนื่องจากติดธุระ

๑๔.๐๐-๑๖.๐๐ น. ภาคบ่าย แบ่งกลุ่มสัมมนาตามความสนใจ เหมือนวันที่ ๑๘ ก.พ. สำหรับ ธรรมะทั่วไป มีสมณะ มั่นแจ้ง พุทธชาโต ให้ความกระจ่าง คลายสงสัย ที่ศาลา ส่วนเพิ่มสมถะนั้น วันนี้ สมณะผืนฟ้า อนุตตโร พาเดินจงกรม ฝึกสติจากโบสถ์มายังศาลา ส่วนด้านอื่นๆมีผู้สนใจเนืองแน่น เช่นเคย

๑๖.๐๐ น. พ่อท่านให้ความเมตตา มาร่วมประชุมกับศิษย์เก่าสัมมาสิกขา (ที่จบจาก สัมมาสิกขา ทุกแห่ง ทุกรุ่น ตั้งแต่ปีแรก จนถึงปัจจุบัน มีจำนวนทั้งหมด ๗๒๓ คน) เพื่อเตรียมจัดงาน คืนสู่เหย้า เข้าคืนถ้ำ สัมมาสิกขา ครั้งที่ ๑ ระหว่างวันที่ ๓-๕ พ.ค.๔๖ ที่ราชธานีอโศก มีการคัดเลือกศิษย์เก่า แต่ละแห่ง เป็นตัวแทน ผู้ประสานงาน ส่งจดหมาย เชิญศิษย์เก่า มาร่วมงาน โดยส่งไปพร้อมกับจดหมาย ที่พ่อท่าน เขียนถึงศิษย์เก่าด้วย นอกจากนี้ ขอเชิญคุรุรุ่นแรก ที่เคยสอน นักเรียน ตั้งแต่รุ่น ก.ศ.น. จนถึงสัมมาสิกขา มาร่วมงานด้วย ในวันที่ ๕ จะมีรายการศิษย์เก่าพบคุรุ และก่อนจาก พ่อท่าน จะมอบ ของที่ระลึก แก่ศิษย์เก่าทุกคน ที่เรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ จากทุกสัมมาสิกขา ใครทราบข่าวแล้ว กรุณา บอกต่อๆ กันไปด้วย

๑๘.๐๐-๒๐.๐๐ น. รายการภาคค่ำ สัมภาษณ์ปฏิบัติกรชุด บุญนิยมระดับ ๔ มีจริงหรือ ? โดย สิกขมาตุ รินฟ้า นาวาบุญนิยม

บุญนิยมระดับ ๔ คือแจกฟรี ซึ่งชาวอโศกได้แจกหนังสือธรรมะฟรี เป็นปกติมาตั้งแต่เริ่มต้น และ ทุกวันที่ ๕ ธ.ค.ชาวอโศกทั่วประเทศ จัดโรงบุญฯ แจกอาหารฟรี แต่ที่ชมรมมังสวิรัติ แห่งประเทศไทย สาขา จังหวัดเชียงใหม่ (ชมร.ช.ม.) แจกอาหารฟรีมา ตั้งแต่เดือน ต.ค. ๔๕ จนถึง มี.ค. ๔๖ และ ในเดือน มิ.ย. ๔๖ จะแจกอาหารฟรี ตลอดทั้งเดือนอีก และเป็นอาหาร ที่ปรุงจากพืชผัก ไร้สารพิษอีกด้วย มีผลทำให้ ร้านมังสวิรัติ จังหวัด นครปฐม (มรฐ.) และ ชมร. หน้าสันติอโศก ดำเนินการตาม เป็นแบบอย่าง โดยประกาศ จะแจกฟรี เดือนละ ๑ ครั้งทุกเดือน และอาจเพิ่มขึ้น หากมีผู้มาติดต่อ เหมาร้าน เพื่อแจกฟรี บุญนิยม ระดับ ๔ มิใช่มีเพียงแค่คำสอน เท่านั้น แต่สามารถปฏิบัติได้จริง ในชาตินี้ ขอสาธุดังๆ กับทุกๆ แห่ง และ กับทุกคน ที่กำลังตัดสินใจ จะดำเนินตาม

๒๐ ก.พ.'๔๖
หลังทำวัตรเช้า ประชุมคุรุสัมมาสิกขา เพื่อกำหนดการสัมมนา พ่อท่านให้โอวาทเปิดประชุมว่า... คุรุเอง จะต้องปรับ ความเป็นคุรุใหม่ ให้ถูกต้อง ให้เด็กเป็นตัวฝึกหัด ปฏิบัติ ไม่ใช่ให้แต่วิชาการ เพียงด้านเดียว แต่ต้องให้เหมาะสม ทั้งวิชาการ และเป็นงาน ต้องดูเด็กว่า คนไหน จะเสริมหนุนจุดใดบ้าง หรือ การพาเด็ก ไปทัศนศึกษา ข้างนอกบ้าง การศึกษาของเรา เอาเด็กเป็นศูนย์กลาง ที่แท้จริง ขอให้พยายาม บูรณาการ ในส่วนของ ประโยชน์ตน คุรุไม่ใช่ผู้ที่ จะบังคับเด็ก แม้ว่าจะมีวัยวุฒิ และอื่นๆ มากกว่าเด็กก็ตาม ทำอย่างไร ที่จะไม่ทำพฤติกรรมอย่างนี้ แต่ปฏิบัติเหมือนพ่อแม่ พี่น้อง ต้องมีศิลปะ ที่จะสร้างเด็ก ส่วนประโยชน์ท่าน เด็กจะได้ ตามความสามารถ ที่คุรุมีความสามารถ

-ชุมชนดินหนองแดนเหนือ(อุดรฯ) ขออนุญาตเป็นโรงเรียนสาขาของสัมมาสิกขา ศีรษะอโศก

-สมณะเดินดิน ติกขวีโร ให้แนวคิดในการกระชับการประชุม และปัญหาของโรงเรียนทุกแห่ง คือปัญหา ระหว่าง คุรุกับเด็ก และ ปัญหาระหว่างเด็กกับเด็ก

-สมณะบินบน ถิรจิตโต ให้แนวคิดภาพรวมของปัญหาที่เกิดขึ้น คือ ถ้าครูมีเวลาให้เด็กมาก ปัญหาเด็ก จะน้อย แต่หากครูมีเวลาให้เด็กน้อย ปัญหาเด็กจะมาก ปัญหาที่เกิดขึ้น เนื่องจากขณะนี้ ชุมชนชาวอโศก จะเน้นด้านเศรษฐกิจ แล้วส่งเด็กไปอยู่ฐานงาน โดยคุรุไม่มีเวลามากพอ ที่จะพูดคุย สร้างสัมมาทิฐิ ให้กับเด็ก ความเก่งในงาน ทำให้เด็กเกิด อัตตามานะ และ กามตามมา แล้วส่งผล ให้เด็ก ไม่สามารถ อยู่วัดได้ และได้ยกตัวอย่าง นักเรียนจากสันติอโศก ที่มีรุ่นพี่ ที่จบแล้ว รับผิดชอบงาน ภายใต้การดูแล ของสมณะ -สิกขมาตุ สามารถดูแลน้องๆ ได้เป็นอย่างดี ทำอย่างไร ที่สัมมาสิกขา แต่ละแห่ง จะสามารถ ปรับสมดุล ของเวลา ให้แก่กันได้

กำหนดสัมมนาคุรุประจำปี ๒๕๔๖ ในวันที่ ๔-๕ เม.ย.๔๖ ณ พุทธสถาน ศีรษะอโศก

-คัดเลือกตัวแทนคุรุจาก ร.ร.สัมมาสิกขาทุกแห่ง แห่งละ ๒ คน เพื่อคัดตัวแทนจากทุก
โรงเรียน เหลือ ๒ คน เพื่อเข้าร่วมประชุม องค์กรบุญนิยม

๐๙.๐๐-๑๐.๐๐ น. ธรรมะก่อนฉัน สมณะโพธิสิทธิ์ โพธิสิทโธ แสดงธรรมเรื่อง "วิชาครูบาอาจารย์" กล่าวถึง วิชชา ๙ ของพระพุทธเจ้า และอ่านบทกวีจรณะ ๑๕ ย้ำเน้นว่า พื้นฐานของวิชา ให้รักษาศีล อย่างมีสติ มีน้ำใจกว้างเกื้อ และการเข้าใกล้สัตบุรุษ เงี่ยโสตสดับฟังธรรม ของสัตบุรุษ ใคร่ครวญไตร่ตรอง นำไปปฏิบัติ ความเจริญ ก็จะเกิดขึ้น

สมณะกล้าตาย ปพโล แสดงธรรมเรื่อง "ยินดี....ไม่มีปัญหา" ท่านได้เล่าเหตุการณ์ สมัยเป็นฆราวาส ทำงานที่ ชมร.ฝั่งอ.ต.ก. ต้องต่อสู้กับกิเลส และการได้รับขุมทรัพย์ เรื่องรอยยิ้ม ทำให้ท่าน มีการประมาณ และ เล่านิทานประกอบ เรื่องการปรับใจ ให้ยินดีกับสิ่งที่เรากระทำ แล้วจะมีความสุข ฝากว่า การรักษาศีล หัดขัดใจตนเอง ตั้งตบะ อยู่ในหมู่มิตรดี สหายดี สังคมสิ่งแวดล้อมดี ทำให้เราเจริญ

หลังฉัน ฟังวิธีการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม โดย อ.มาณพ ประภาสานนท์ จาก ร.พ. สรรพสิทธิ ประสงค์ ที่นำการแพทย์ทางเลือก มาทดลองใช้รักษาผู้ป่วย ไม่ว่าจะเป็น โรคมะเร็ง เบาหวาน ฯลฯ จนหาย จากโรคต่างๆ มีผู้สนใจ ร่วมรับฟังมากมาย

๑๔.๐๐-๑๖.๐๐ น. พ่อท่านตอบปัญหาในหัวข้อ ตอบเปรี้ยงถึงความไม่เที่ยง ของไตรลักษณ์ ญาติธรรม เบิกบาน ในธรรมกันดี

๑๘.๐๐-๒๐.๐๐ น. ภาคค่ำ ฟัง "เบื้องหลังแห่งความสำเร็จ" โดยสมณะซาบซึ้ง สิริเตโช ญาติธรรม ที่มาช่วย กิจการสนับสนุนงาน ของวัดอย่างสม่ำเสมอ ทั้งในด้าน การบริจาคทาน การสละแรงงาน มาช่วย อย่างต่อเนื่อง ทุกคนได้นำเอาธรรมะ กลับไปประพฤติปฏิบัติ จนเปลี่ยนแปลง ตัวเอง ไปในทิศทาง ที่เจริญ ยิ่งขึ้น และบางท่าน ตัดสินใจมาบวช ในที่สุด

๒๑ ก.พ.'๔๖
หลังทำวัตรเช้า ประชุม ค.ก.ร. พ่อท่านให้โอวาทเปิดประชุมว่า เรามีอะไรใหม่ๆเติมเข้ามาเรื่อยๆ ทุกคน จะต้องขันเชนาะ มีอปจายนมัย มีเวยยาวจมัย อ่อนน้อมถ่อมตน และขวนขวายเพิ่มขึ้น ต้องอ่อนน้อม ถ่อมตน ยอม เปิดจิตให้กว้าง รู้ข้อมูลให้กว้างขึ้น ไม่ยึดมั่นถือมั่นตัวเอง แต่ละคนไม่โง่ มาช่วยกันคิด แล้วลงมติ มติของพวกเราจะเป็นมติที่ดี ใครที่แสดงเชิงครอบงำ ใช้อำนาจ กดดัน มีสมณะบางรูป ใช้ลักษณ ะแบบนี้ ซึ่งเป็นอรูปอัตตา บางทีมากเกินไป เพราะฉะนั้นเมื่อมาประชุม ขอให้ถอดตัว ถอดตน แสดงความดี ความจริงในที่ประชุม

ถ้าเราสามารถเคารพที่ประชุม ลดตัวลดตน แล้วขวนขวาย เป็นการพัฒนาหมู่กลุ่มและตัวเราเอง

ถ้าเราแสดงอัตตามานะ คนยิ่งยกให้ ก็จะไม่มีประโยชน์ เราก็ยิ่งเบ่ง จึงต้องอ่อนน้อมถ่อมตน เราจึงจะ เพิ่มภูมิได้ และมีอะไรก็ขอให้พูดในที่ประชุมให้หมด อย่าเอาไปพูดข้างนอก แล้วให้โหวตเป็นมติ ทำตามมติ ต้องสำนึก สังวร ให้จริงๆ ต้องเลิกความคิดของตน จึงจะเป็นประชาธิปไตย ที่สมบูรณ์

ดำเนินการประชุมโดย คุณถึงไท แสงสุริยจันทร์

-พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แจ้งเรื่องการขอตัวข้าราชการ จากหน่วยงานต่างๆของรัฐ มาช่วยงานอบรมฯ ตามศูนย์อบรมฯต่างๆ ขอให้คำนึงถึงความเหมาะสม ของต้นสังกัด ที่ขอไปด้วย ว่าจะกระทบกระเทือน หรือไม่ และยื่นหนังสือ รวมไปครั้งเดียวจะดีกว่า

-คุณศุภชัย สถาการ ผู้อำนวยการสถาบันเพื่อพัฒนาการเกษตรและชนบท จำเนียร สารนาถ (ส.จ.ส.) ชี้แจง และ ตอบข้อซักถาม กรณีลดจำนวน การอบรมหลักสูตรสัจธรรมชีวิต ตามศูนย์อบรมต่างๆ

-เจ้าหน้าที่โครงการสร้างเสริมสุขภาพ โครงการชุมชนป็นสุข(สสส.) ซึ่งเป็นองค์กรเอกชน แต่รัฐบาล ให้การสนับสนุน ชี้แจงการดำเนินการ ของโครงการ รวมทั้งการให้ทุน ในเรื่องการจัด กระบวนการเรียนรู้ ไม่เน้น การก่อสร้าง อาคารสถานที่ เป็นโครงการสร้างเสริม สุขภาพเชิงรุก ร่วมงานกับ คกร. เพื่อต่อยอด กสิกร ที่เข้ารับการอบรม ธ.ก.ส. โดยให้ศูนย์อบรมฯ แต่ละแห่ง เขียนโครงการ ที่ต้องการ ส่งไปยัง คกร. รวบรวม ส่งไปยัง สสส. ใน ๔ ประเด็น คือ

๑. งานติดตามผล
๒. หลักสูตรอบรมสร้างชีวิต มีหลักสูตรอย่างไร ต้องการจำนวนเท่าไร
๓. สร้างเสริมความเข้มแข็งระหว่างกลุ่มเครือข่าย
๔. สร้างเสริมสุขภาพองค์รวม

พ่อท่านให้โอวาทปิดประชุมว่า พวกเรามีการพัฒนา มีความก้าวหน้า มีการสัมพันธ์ ทั้งแนวกว้าง และ แนวลึก ทั้ง ธ.ก.ส. และสสส. ซึ่งอบอุ่นมาก ได้รับความรู้ความเข้าใจกันมาก ใครที่ยังไม่เอาจริง เหลาะแหละ เอาแรงงาน ทุนรอน ไปเสียเวลา ขอให้แต่ละคนไปพิจารณาให้ดีๆ

เราต้องการแรงงาน บุคคล องค์กรอื่นๆ พร้อมที่จะมาประสานกับพวกเรา ควรจะเร่งรัดพัฒนา ใครสามารถ จะมาหนุนได้ ขอขอบคุณ

ก่อนฉัน ๐๙.๐๐-๑๐.๐๐ น. ฟัง "ทางโลก ทางธรรม" โดยพล.ต.จำลอง ศรีเมือง เล่าประสบการณ์ การทำงาน ทั้งทางโลก และ ทางธรรม ที่ทำเพื่อประชาชน และ บอกตัวเองว่า จะขอเลือกชีวิต ที่หมดกิเลส

๑๔.๐๐-๑๖.๐๐ น. ธรรมะภาคบ่าย พ่อท่านตอบปัญหา ตอบเปรี้ยงถึง ความไม่เที่ยง ของไตรลักษณ์ เป็นวันสุดท้าย

๑๘.๐๐-๒๐.๐๐ น. รายการภาคค่ำ สัมภาษณ์ปฏิบัติกรชุด สู้สารพัด! โดยสมณะเสียงศีล ชาตวโร การต่อสู้ ของแต่ละชีวิต บนหนทางโลกียะ และเส้นทางโลกุตระ ต้องเจอกับอุปสรรค นานัปการ กว่าจะประสบ ความสำเร็จ ไม่ง่ายเลย และเมื่อได้นำธรรมะ ไปปฏิบัติ ความเป็นบุญนิยม จึงปรากฏ วิถีชีวิต จึงดำเนินควบคู่กับ ความเสียสละ ไม่เอาเปรียบ เห็นอกเห็นใจผู้อื่น

หลังจบรายการ ทีมอาสาสมัครบุญนิยมขอแรงทุกคนช่วยกันหอบฟางคนละไม้คนละมือ ที่ทุ่งศาลี ไปรวมกัน เพื่อเป็นการแบ่งเบา เจ้าภาพ หลายแรงช่วยกัน งานก็สำเร็จลง มิใช่ผลักภาระ เป็นของเจ้าภาพ ผู้เดียว

๒๒ ก.พ.'๔๖
ทำวัตรเช้า ฟังพ่อท่านอธิบายอีคิวโลกุตระเป็นวันสุดท้าย แล้วจะไปฟังต่อ ในงานปลุกเสกฯ ที่ศีรษะอโศก หลังจากนั้น ร่วมยุทธการ ๔๖ ผู้ที่ยังอยู่ช่วยกัน เก็บซาแลนด์ และไม้ยูคาฯ บริเวณที่พัก ซึ่งเสร็จทัน ภายในเวลา ๔๖ นาที สาธุ! กับทุกๆท่าน

๐๙.๐๐-๑๐.๐๐ น. สมณะเดินดิน ติกขวีโร กล่าวสรุปงาน มีผู้มาลงทะเบียน ๑,๘๖๑ คน และ อยู่ครบ ๗ วัน ๑,๐๘๐ คน มีผู้มาร่วมงาน เป็นครั้งแรก ๓๐๐ กว่าคน ตัวแทนนิสิต สัมมาสิกขาลัยวังชีวิต กล่าวขอบคุณ และ ขออภัยในความบกพร่อง

สมณะเดินดิน ติกขวีโร ให้ข้อคิดว่า เมื่อพุทธาฯครั้งที่ ๑ คุณยายไปล่อายุ ๔๓ ปี ตอนนี้ยังทำงาน เหมือนเดิม คนมาร่วมงานครั้งที่ ๑ ประมาณร้อยกว่าคน ปัจจุบัน ๑,๘๖๑ คน ดูเวลาเหมือน แป๊บเดียว ยังลดกิเลส อะไรได้ไม่มาก อย่าประมาท ในคืนวัน ที่ล่วงไป

งานนี้ไม่มีการประกาศขอแรงงานเลย นิสิตทำงานเป็นระบบ เป็นสภาพหมุนรอบเชิงซ้อน เป็นลำดับ ผู้ใหญ่ ช่วยดูแล ม.วช. เด็กรุ่นใหม่เข้ารับงานบริหารจัดการ น้องๆสัมมาสิกขา สามร้อยกว่าชีวิต พร้อมจะทำ เมื่อพี่พาทำ เป็นไปตามลำดับ มีระบบจัดการที่ดี ตั้งแต่อาหารเข้าศาลา จนนำไปทำปุ๋ย คนมา เป็นพันๆคน ดูเรียบร้อย แต่เบื้องหลังการถ่ายทำ ต้องประชุมกันดึก เพื่อบริหารจัดการ เป็นพัฒนาการ ที่เป็นไปด้วยดี

อยากให้ชัดเจนว่า ความเรียบร้อยบริบูรณ์ คือการประสานสัมพันธ์กันด้วยดี ทำงานแล้ว ไม่น๊อตหลุด เห็นประสิทธิภาพ ของคนรุ่นใหม่ (ทายาท) แม้มีเด็กมาก แต่ผู้ใหญ่ก็ขมีขมัน เอาภาระช่วยกัน อยากจะฝาก พวกเราว่า ผลงานที่เห็นพัฒนาขึ้น เป็นลำดับ ในแต่ละปี ในแง่ธรรมะ พวกเราเก่ง ตื่นนอน ตั้งแต่ตีสาม ทั้งประชุม นั่งฟังธรรม ๗ วัน แต่รู้สึกว่าเร็ว เป็นเวลาสวรรค์

งานนี้ศาลีอโศกกำไรอาริยะ เป็นการลงทุนมาก แต่จะไม่ได้ผลเลย ถ้ากลับไปเราไม่ขวนขวาย ไม่พัฒนา ตนเอง เพราะฉะนั้น เราต้องมีการเปลี่ยนแปลง ใครบ้างจะรู้ เราจะจากโลกนี้ไป เมื่อไร ชีวิตเป็นของน้อย เรายังไม่เปลี่ยนแปลง อะไรเลย แต่เราจะแก่แล้ว เวลาแป๊บเดียว ไม่นาน สำหรับชาวอโศก อะไรดีให้รีบทำ อย่าปล่อยวันเวลา ให้ผ่านไป

เป้าหมายของชาวอโศก แข็งแรง ทำงานทนทาน เอาเวลามาดูแลตัวเอง และจิตใจเราด้วย การจะเกิดฌาน เจโตปริยญาณ ต้องเพ่งเข้ามามา มองจิตใจเราเอง จะเกิดการเผากิเลสอย่างไร ต้องเพ่งมองตัวเอง ทั้งนั้น ขบวนการชาวอโศก จะเจริญรุ่งเรือง แน่นอน ขอให้ทุกคน ทำหน้าที่ของตนเอง ให้ดีที่สุด อย่าทำงาน ผิดหน้าที่ ใจที่อยากได้เร็วๆ ทำให้ทุกข์ พ่อท่านมั่นใจว่า ชาวอโศกจะอายุยืนด้วย ๗ อ.

การมีอายุยืนเป็นสื่อบอกแจ้งการดำเนินชีวิตที่ดี รู้แล้วต้องทำพฤติกรรมที่ดีกว่านั้น ระบบแบบนี้ จะเป็นสิ่งที่ประกาศ แก่ชาวโลกว่า คนอยู่อย่างนี้ สงบสุข ไม่เหมือนโลกที่เขาเป็นกัน

งานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์ ครั้งที่ ๒๗ จบลงด้วยความเรียบร้อย ขออนุโมทนาบุญ กับทุกๆท่าน ที่มีส่วนร่วม ในงานครั้งนี้ กราบขอบพระคุณพ่อท่าน -สมณะ -สิกขมาตุ ที่เปี่ยมด้วยโลกานุกัมปา สั่งสอนสัตว์โลก ๗ วันที่ได้มาฝึกฝน ขัดเกลาตนเอง เพิ่มพลังธรรม เพื่อขับเคลื่อน จิตวิญญาณ ให้พัฒนายิ่งขึ้นไป หวังว่าแต่ละท่าน คงพบกับ ปาฏิหาริย์ในตนเอง เกิดโลกวิทู โลกุตรจิต และ โลกานุกัมปา กันถ้วนทั่ว สมกับที่ได้มา พุทธาภิเษก ในครั้งนี้ เพื่อร่วมกัน กอบกู้มนุษยชาติ ด้วยความแข็งแรง เข้มข้น ทนทาน ยืนนาน แน่นลึก นึกนบ และ ฝากสุดท้าย จากพ่อท่านในคืนมาฆบูชา ว่า

"เราเองเป็นลูกพระพุทธเจ้า ได้เดินทางมาตามทฤษฎีของพระองค์ มาถึงวันนี้แล้ว อาตมาทำงาน มา ๒๐-๓๐ ปี หลายคน ได้พิสูจน์กันมา อย่าชักช้าเลย อย่าประมาท อาตมาไม่ได้พูดเล่น คุณทำไม ไม่อยากเป็น อรหันต์เร็วๆหรือ ถามสมณะด้วย ทำไมปล่อยวันปล่อยคืน ไปล่องๆลอยๆ หลายผู้หลายองค์ เห็นแล้วก็เอ้อ.... ก็อยากจะให้พวกเรา พยายามอ่านตัวตน มองตัวเรา รับเอาไปแก้ไขปรับปรุง......

อาตมาภาคภูมิในพวกเราว่า พวกเรานี้ได้ ถ้าไม่ได้คุณอยู่ไม่ได้หรอกอย่างนี้ ในโลก ที่มักน้อยสันโดษ ขัดเกลา เป็นโลกของมนุษย์พัฒนา ๙ เป็นคนเลี้ยงง่าย บำรุงง่าย มักน้อย สันโดษ มีศีลเคร่ง มีการขัดเกลา มีอาการอันน่าเลื่อมใส มีการไม่สะสม มีการขยัน หมั่นเพียร เพราะฉะนั้น คุณจะมีมากมีน้อยอะไร ก็แล้วแต่ อาตมา ก็ภาคภูมิใจอยู่ แต่คุณเจริญได้ สิ่งที่ดีกว่านี้ ยังมีอีก ควรจะพัฒนาขึ้นไปให้ได้

ขอให้ทุกคนมีความเบิกบานใจ มีอารมณ์ยินดี ในการได้ฟังเทศน์ แล้วเอาไปพัฒนาแก้ไขตนเอง ให้เจริญๆ มีกำลังวังชา ในการที่พัฒนา ตนเองขึ้นมา เพื่อประโยชน์ของตน และเพื่อประโยชน์ของโลก ศาสนาพุทธนั้น เป็นศาสนาแห่งโลก เป็นศาสนาที่มี โลกานุกัมปา ....

- ลูกพุทธ -