ชาวอโศก เพื่อมวลมนุษยชาติ
มีคำขวัญอันโอ่อ่า....ทรนง
มิใช่แค่ปากพูด
แต่พิสูจน์ด้วยการกระทำ
กินให้น้อยลง
อยู่ให้ง่ายๆ
ทำงานให้มากขึ้นๆ
และกระตือรือร้นที่จะช่วยสังคม
ชาวอโศก ถือศีล ๕ ลดละอบายมุข
ละเว้นปาณาติบาตโดยสิ้นเชิง
มองเหล่าสรรพสัตว์เป็นพี่น้อง
มีเส้นทางนิพพาน มิใช่โรยด้วยกองกระดูก
เราลดละรูป รส กลิ่น เสียง
เราลดละลาภ ยศ สรรเสริญ โลกธรรมประดามี
ลดความสุข ลดตัวตน ที่เบ่งพองยโส
มีลมหายใจ คือ แห่งการงานอันเบิกบาน
ปี ๒๕๔๖ สังคมต้อนรับชาวอโศกด้วยสรรพนามใหม่
ขอชื่นชมแด่ "ชาวบุญนิยม" ด้วยจิตคารวะ
พระอานนท์ยุคโลกาภิวัตน์
"ก่อนอื่นดิฉันต้องกราบขออภัยทางทีมงานด้วย ที่ไม่ได้ตอบรับเท็ปที่ส่งไปให้
และไม่ได้จัดส่งค่าเท็ปที่เหลือค้าง......"
ยุพิน เรืองโรจน์ (อ.โพธิ์ทอง จ.ร้อยเอ็ด)
"ขณะนี้กระจ่างแล้วในอโศกแห่งนี้ ในเจตนาของแต่ละท่าน เข้าใจในหมู่กลุ่ม
ไม่สงสัยอะไรเลย ไม่เหมือนเมื่อก่อน เพราะได้อ่านหนังสือ ยิ่งได้ฟังเท็ป
มรดกพุทธ หยุดวิกฤต ความมหัศจรรย์ของการให้ทาน ไม่มีอะไรจะไม่พรากจากกัน
ฯลฯ ฟังแล้วหายโง่ เกิดปีติ พ่อท่านบรรยายธรรมเข้าใจชัดเจนกว่าที่ผ่านมา
ทำให้ดิฉันรักกลุ่ม ยินดีในเพื่อน........."
ฉวีวรรณ บุญมี (อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่)
วันนี้พวกเรามีอาวุธไว้ต่อสู้กับเหล่ามารหรือยัง?
อโศกเรามีให้พร้อม ทั้งเท็ป-VDO-หนังสือ จะเหลือก็แต่ว่า จะมาใช้บริการหรือไม่เท่านั้น
ปฏิบัติธรรมแบบโบราณ ไม่พึ่งสื่ออะไร ไม่ทันเขานะฮะ ต้องหา "ตัวช่วย"
ช่วยด้วยๆๆ จุ๊ย์ๆๆ
อ่านใจให้เป็น อ่านประเด็นให้ชัด
"ตั้งใจว่าปีนี้ จะเอาภาระหมู่กลุ่มมากขึ้น ที่หายไปจากกลุ่มช่วงหนึ่ง
เพราะเกิดปฏิฆะกับหมู่กลุ่ม เพราะอัตตาของเราเพ่งว่า ทำไมคนนั้นคนนี้เป็นอย่างนี้
น่าจะเจริญมากกว่านี้ รู้สึกอึดอัด ขัดเคือง จึงหนีไปเรียนต่อ ก็ถูกโลกย์ดึงไป
แต่พยายามประคับประคองถือศีล ๕ ละอบายมุข มังสวิรัติทำมาตลอด รู้สึกเสียดายเวลาที่ไป
ถ้าอยู่ที่นี่ เราจะพัฒนามากกว่านี้ พอกลับเข้ากลุ่มใหม่ ก็เพ่งโทสอีก
เราอุตส่าห์ไปตั้งนานแล้ว ยังวางกันไม่ได้ ก็มาคิดว่าใจเราเองที่ทนไม่ได้
เรามาพัฒนาที่ตัวเราดีกว่า เราให้อภัยเขา
วันนี้วางใจในญาติธรรมได้มากขึ้น เราไปคาดหวังให้เขาเป็นดังใจเราไม่ได้
แต่ละคนฐานอินทรีย์พละไม่เท่ากัน เขาพัฒนาได้มาก น้อย อยู่ที่ใจเขา
ช่วง ๑ ปีที่ผ่านมา ต่อสู้กับกิเลส บางช่วงทุกข์มาก เพราะตั้งใจเป็นคนโสด
แต่มีโจทย์เข้ามาซ้ำๆซากๆ แล้วเราก็ประมาท คิดว่าไม่มีอะไร พอมีการใกล้ชิด
จิตมันดูดไม่รู้ตัว จิตจึงเกิดผูกพันกับผู้ชายคนหนึ่ง แต่จิตสำนึกบอกว่า
เราเป็นนักปฏิบัติธรรม และสัญญาว่าจะเป็นโสด ก็ต่อสู้มาเป็นปี ก็ระลึกถึงพ่อท่าน
ทุกข์นั้นก็เหลือน้อย แต่ไม่ขาดสูญ แต่เราใช้ศีลปกป้องตัวเอง ไม่ให้ตกร่วงไปทางต่ำ
ปีนี้ปล่อยวางได้มาก ลดการปฏิฆะผู้อื่น มีความเสียสละ เอาภาระ ขยัน
ดีใจที่เจริญได้ กราบขออภัยที่มีจิตเพ่งโทสญาติธรรมหลายท่าน......"
สมาชิกกลุ่มปราการอโศกเปิดใจตัวเอง ทั้งวิเคราะห์ทั้งประเมินตนอย่างกล้าหาญ
จิ้งจกเก็บตกมาจากการประชุมเมื่อวันที่ ๒๒ ก.ย.๒๕๔๕ เอามาให้อ่านศึกษากัน
รู้สึกนึกคิด มุมมองเป็นอย่างไร จุ๊ย์ๆๆ
บุญญาวุธหมายเลข
๔
วันนี้อโศกเราเริ่มเคลื่อนไหวในการดูแลสุขภาพ แต่แน่นอน คนที่สุดโต่งไปก็ย่อมมีเป็นธรรมดา
อย่าว่ากัน
ที่ปฐมอโศก มีหลักสูตรอบรมเพื่อสุขภาพเป็นประจำ คุณแม่ของญาติธรรม
เพชรตะวัน ธนะรุ่ง เข้าอบรมกับเขาด้วย
คุณเพชรตะวัน ณ ราชธานี ดีใจหลายต่อ ชวนแม่เข้าวัดก็มาแล้ว มาอยู่ชุมชนก็มาแล้ว
มาเข้าหลักสูตรสุขภาพก็ยังมีใจ ลูกคนไหนรู้ก็ต้องยินดี
จบอบรม คุณแม่แฮปปี้ แต่สีหน้ายังมีปริวิตก
"ฉันอยากให้ลูกเข้าหลักสูตรนี้มั่ง แกกินมาม่าอยู่เรื่อย......"
จุ๊ย์ๆๆ
การสร้างจิตแห่งภราดรภาพ
"เรื่องของคุณภูฟ้า คงจะให้ข้อคิดกับเราคือ พอเขาเสียไปแล้ว เราก็ได้มาคิดถึงความดีของเขา
ทำไมเราไม่คิดถึงความดีของกันและกัน ในยามที่มีชีวิตอยู่ ทุกคนมีข้อบกพร่อง
ถ้าเราจับคนที่ข้อบกพร่อง ก็คงจะทำให้เกิดความไม่สมานฉันท์ขึ้นในหมู่กลุ่ม
เราควรมองกันที่ความดีของคน มากกว่าไปมองที่จุดบกพร่องนั้น สังคมที่จะเกิดสันติสุข
เกิดภราดรภาพ หมู่กลุ่มจะเจริญ ต้องมองที่ตัวเราว่า เราเจริญขึ้นมากน้อยแค่ไหน
มีความเคารพในเพื่อนสหพรหมจรรย์เพียงใด ขอให้พวกเรามองกันด้วยสายตาที่มีความเมตตาเอ็นดู"
เก็บตกจากโอวาทของสมณะบินบน ถิรจิตโต ในการประชุมกลุ่มภูผาฟ้าน้ำ
ครั้งที่๗/๒๕๔๕
อยากจะอยู่ในหมู่กลุ่มอย่างมีความสุข ลองศึกษาอ่านลายแทงบทนี้อีกสักหลายเที่ยวนะฮะ
จุ๊ย์ๆๆ
คุณผิดศีลข้อไหนมากที่สุด
?
จากญาติธรรมใช้หมายเลข ๒๔๙๘๐๒ (อ.เมือง จ.ขอนแก่น)
"ศีลข้อ ๔ เป็นศีลข้อที่รักษาได้ยากที่สุด ถึงแม้ดิฉันจะไม่ได้พูดโกหก
แต่อยู่ในสิ่งแวดล้อม (ที่ทำงาน) ที่มีนักพูดหลากหลายรูปแบบ ที่ก่อให้เกิด
negative thinking จนบางทีรู้สึกเบื่อ ไม่อยากพูดเลย ก้มหน้าก้มตาทำงานไปดีกว่า
แต่บางครั้งก็พบว่า คนที่พูดเก่ง มักจะมีความสามารถในการเอาตัวรอด
หรือเอาเปรียบผู้อื่นได้อย่างไม่ละอายใจ หรือพูดให้ดำเป็นขาวได้ เก่งจริงๆ"
คนอื่นละฮะ ยากข้อไหน ปกติแล้ว ศีลข้อ ๑ ถ้ายังกินเนื้อเพื่อนอยู่
เท่ากับว่ายังปาณาติบาตทุกวัน ยังมีเวรภัย พุ่งเข้าหาตัว
รองลงไปน่าจะเป็นศีลข้อ ๔ ที่มักจะผิดพลาดกันเป็นประจำ หากไม่ทำความเข้าใจ
"เป้าหมาย" ของศีลข้อนี้ เราก็จะยิ่งผิดพลาดได้มาก "มุสาวาท"
เป็นความผิดใหญ่ แต่ระดับน้องก็จะมี ตั้งแต่ "ส่อเสียด-ลามก-ประชด-ทะลึ่ง-หยาบคาย"
สะสมน้อยๆ ก็ใหญ่โตได้เหมือนกัน
อย่างไรก็ตาม การฝึกหัดมองจุดดี ชื่นชมจุดดีของทุกคนที่เราคบหา ก็จะทำให้ชีวิตร่มเย็นเป็นสุข
ไม่ทุรนทุรายเหมือนหมาขี้เรื้อน !
จิตใจโพธิสัตว์
จากญาติธรรม นภาภรณ์ เจริญพันธุวงศ์ (อ.นาโพธิ์
จ.บุรีรัมย์)
"ขอสารภาพว่า ดิฉันไม่สามารถเคี่ยวเข็ญให้เด็กๆ รายงานใบตรวจศีลได้
เป็นความย่อหย่อนของดิฉันจริงๆ ขอแก้ตัวว่า ครูยุคปฏิรูปนี้ งานเอกสารหลักฐานท่วมตัวจริงๆค่ะ
ทำให้ดิฉันละเลยหน้าที่ ติดตามเคี่ยวเข็ญส่วนนี้ไป แต่ยืนยันได้ว่า
เด็กๆอ่านกันด้วยความชื่นชอบจริงๆ ดิฉันอยากหาทางหยิบยื่นเมล็ดพันธุ์แห่งความดีงามแก่เขา
นอกจากจะพยายามอบรมโดยตรงแล้ว ก็อยากขอพึ่งบารมีอโศก ขอความกรุณาส่งหนังสือให้แก่เด็กๆ
ลูกศิษย์ของดิฉัน ผู้ขอสมัครอ่านกลุ่มนี้ด้วยนะคะ ด้วยความหวังว่า
เขาจะซึมซับความดีงามจากตัวอย่างอันดียิ่งของเยาวชนอโศกไว้ในดวงจิตเขาได้
ไม่เป็นคนหลง คนเลว เลือกดีเอาตามแต่ฐานะที่พอจะเป็นได้ของแต่ละคน
แม้ใครเลิศได้ก็ยิ่งประเสริฐ อยากให้เป็นคนดี ไม่ทำร้ายใคร พึ่งตนเองได้
เป็นที่พึ่งของคนอื่นได้บ้างนะคะ"
ฮะ ความหวังดียังต้องแฝง "ความอ่อนโยน"
มิฉะนั้นแล้วจะกลายเป็น "การยัดเยียด!"
การปฏิบัติธรรม มิใช่มุ่งลดละกิเลสตัวเองอย่างเดียว แต่เรายังมีจิตอีกตัวหนึ่ง
ที่หวังดีอยากให้คนอื่นได้รับรสพระธรรม จิตดี มีจุดเสียก็ตรงที่ ต้องระวังการเอาแต่ใจ
การเผด็จการความคิด เราจะต้องใช้ศิลปะอันประณีต จึงจะสำเร็จได้ จุ๊ย์ๆๆ
อยู่อย่างเป็นหนี้
"เพราะโลกทุกวันนี้ทำให้คนเห็นแก่ตัว เอาเปรียบมาเพื่อให้ตน และพวกพ้อง
แต่ไม่ได้ให้อะไรกับโลก เพราะแรงกายแรงใจที่ทำไป ก็เอากลับคืนมาให้แก่ตนจนหมด
เผลอๆเกินกว่าด้วย"
พระสิทธิเดช อุปสโม (อ.โกรกพระ จ.นครสวรรค์)
ให้ข้อคิดมาคุยกอง บ.ก.
จิ้งจกเห็นด้วยอย่างมาก การอยู่ในโลก ต้องระวัง "เป็นหนี้"
ยิ่งเราบริโภคมาก ไม่ว่าจะในลักษณะกิน-อยู่-หลับนอน เราก็จะยิ่งเป็นหนี้
ของฟรีไม่มีในโลก แต่มนุษย์เราเพียงสมมติเงินตราขึ้นมา เพื่อใช้อ้างในการเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์
อโศกเรามีชีวิตไปทิศทางเดียวกัน คือ "ระบบบุญนิยม"
กินน้อย ใช้น้อย ทำงานให้มาก ที่เหลือเจือจุนสังคม
จุ๊ย์ๆๆ
มาตรฐานในการลดละ
"การปฏิบัติธรรมของดิฉัน เลิกกินเนื้อสัตว์ทุกชนิดมาได้ ๑ ปี
๑๑ เดือน อบายมุขทุกอย่างไม่มี และพยายามปลูกผักไว้กินเอง และไปวัดเกือบทุกวันอาทิตย์
(สันติอโศก)
ดิฉันชอบและศรัทธาวิถีชีวิตแบบชาวอโศกมาก ข้อปฏิบัติที่คิดว่ายากสำหรับดิฉัน
คือกำหนดมื้อ ดิฉันติดเรื่องกิน ทุกวันนี้ต้องต่อสู้กับเรื่องนี้อยู่มาก
และส่วนมากจะเป็นฝ่ายแพ้ แต่ยังดีอยู่อย่างหนึ่ง คือไม่คิดอยากกินเนื้อสัตว์เลย......"
ธรรมะกว้างใหญ่ไพศาล
มีมากดุจใบไม้ในป่าใหญ่ จะเริ่มต้นตรงไหนดีนะ จดหมายของญาติธรรม ส.๐๙๔๗๘
(จ.อยุธยา) ก็พอจะบอกเส้นทางได้นะฮะ
การปฏิบัติธรรม จะมีกระบวนท่ามาตรฐาน ใครฐานสูง ก็จะผ่านขั้นต้นเร็ว
ใครฐานอ่อน ก็ต้องพากเพียรหน่อย อย่าบ่น และอย่าท้อเลยนะ จุ๊ย์ๆๆ
ไฟเผาขยะ ตบะเผากิเลส
- ทำวัตรเช้า ฟังเท็ปทุกวัน มื้อเดียว เช็คศีล ไม่ฆ่ามด (ฝุ่นบุญ)
- ทานอาหารหนักมื้อเดียว-มื้อกลางวัน ใส่บาตรทุกวัน (วิมลศรี)
- ไม่ทานของหวาน ลดอาหารประเภทเส้นๆลง (บัวดาว)
- ไม่ทานทุเรียนตลอดชีวิต (เม็ดดิน)
- สังวรศีลข้อ ๔ ให้เคร่งครัด (ละเมียด)
- มาวัดทุกวันอาทิตย์ (ป้าเล็ก)
*
จิ้งจกส์
คติประจำฉบับนี้
คนจะดีได้ ใช่ทำในวันเดียว
คนจะเข้มแข็งได้ ใช่ทำในครั้งเดียว
(สารอโศก
อันดับที่ ๒๕๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๖)
|