หน้าแรก>สารอโศก

รำลึกอโศก ๒๕๔๖
อโศกรำลึก ครั้งที่ ๒๒

วันเดือนเคลื่อนหมุนผ่าน ตามกาลและกรรมที่กำหนด
เหน็ดเหนื่อยอ่อนล้าฤารันทด ถูกกำหนดด้วยกาลและกรรม

กว่า ๓๐ ปีที่ชาวอโศกหยัดยืน ฟันฝ่า ต้านกระแสแห่งความฟุ้งเฟ้อฟุ่มเฟือย ด้วยการพิสูจน์ตนเป็นคนประโยชน์สูงประหยัดสุด งานอโศกรำลึกเฉกเช่นเดียวกัน ยืนหยัดพิสูจน์มามากกว่า ๒๐ ปี มีการเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา มีการปรับปรุงและพัฒนา เพื่อให้เกิดเนื้อแท้ที่เป็นแก่นแกนขึ้นมา

เน้นเนื้อให้เหนือกว่ามาก เน้นลากแม้ยากกว่าแล่น
เน้นจริงให้ยิ่งกว่าแค่น เน้นแก่นให้แน่นกว่ากว้าง....

การเตรียมงานในครั้งนี้ ทุกเพศทุกวัยทุกฐานะ มาร่วมมือ มาร่วมแรง มาร่วมใจกัน เตรียมพื้นที่ทุกๆตารางนิ้วเพื่อต้อนรับญาติทางธรรม ที่จะมาร่วมงาน.... กำแพงอิฐที่ว่าแน่น ยังถูกทลายลงได้ด้วยพลังสามัคคี (แต่กำแพงใจทลายยากยิ่งเพราะรู้รักสามัคคี)

"ยุทธการ ๑๒๐ นาที"เป็นยุทธการรวมกำลังสร้างสรรของชาวชุมชน ที่จะมาร่วมด้วยช่วยกันทำความสะอาดพระวิหารพันปี ต่างก็ยินดียิ้มแย้มแจ่มใส ทั้งนักบวช นิสิต ม.วช. คนวัด ญาติธรรม และนักเรียนสัมมาสิกขา ช่วยกันเก็บ ช่วยกันกวาด ช่วยกันถู จนทุกๆพื้นที่สะอาดเอี่ยม พร้อมต้อนรับญาติพี่น้องที่จะมาร่วมงานในครั้งนี้

ส่วนทางด้านโรงบุญ ปีนี้ยิ่งใหญ่กว่าทุกปี เพราะแต่ละกลุ่มแต่ละบุคคล ไม่ว่าจะเก่าหรือใหม่ ต่างรวมน้ำจิตน้ำใจแจกกันไม่อั้น ๗๐ ร้านที่มาร่วมจัดโรงบุญในครั้งนี้ ยิ่งให้ไปยิ่งได้มา(ได้มาร่วมงาน) บุญคือการให้ บุญคือการเสียสละ ด้วยจิตใจที่เจตนาให้ผู้อื่นได้รับสิ่งดีๆเต็ม ๑๐๐% (เป็นบุญยิ่งใหญ่จริงๆนะจะบอกให้...)

ในปีนี้ก่อนงานเป็นวันหยุด(เสาร์อาทิตย์) ญาติธรรมส่วนใหญ่จึงเดินทางกันมาตั้งแต่วันเสาร์ วันอาทิตย์ที่ ๘ มิถุนายน ๒๕๔๖ ซึ่งเป็นวันสุกดิบของงานจึงคึกคัก และมีกิจกรรมตลอดทั้งวัน

วันที่ ๘ มิถุนายน ๒๕๔๖
๐๘.๐๐ น. บนโบสถ์ ตัวแทนองค์กรบุญนิยมชาวอโศก ร่วมประชุมระดมสมองเพื่อการพัฒนาศักยภาพองค์กรของชาวอโศก กับคุณสุนัย เศรษฐ์บุญสร้างและทีมงาน โดยมีพ่อท่านเป็นประธาน

๐๙.๐๐ น. พ่อท่านแสดงธรรมที่ลานทรายหน้าน้ำตก พระวิหารพันปีเจดีย์พระบรมสารีริกธาตุ ญาติธรรมที่มาก่อนงานจึงได้กำไรบุญ ได้ฟังธรรมจากพ่อท่านก่อนวันงาน หลังจากนั้นรับประทานอาหารกันที่ลานทรายข้างน้ำตก เพราะวันนี้ก็มีโรงบุญเล็กๆแต่คึกคัก จัดกันที่ลานทรายนี้เอง

๑๓.๐๐ น. หลังจากอิ่มหนำสำราญกันแล้ว เสียงดนตรีก็ดังกระหึ่มขึ้นท่ามกลางเสียงน้ำตก ผู้มาร่วมงานได้ร่วมบรรยากาศ คอนเสิร์ต กับศิลปินวัยรุ่น จากวงหัวใจสีชมพู จ.ชลบุรี สลับกับนักร้องวัยเด็ก วัยผู้ใหญ่ อาทิเช่น น้องซิน น้องทราย คุณเปียทิพย์ คุ้มวงศ์ คุณธวัชชัย สุทธิมา คุณทิพย์วรรณ ปิ่นภิบาล คุณประเสริฐศรี จันทร์อาภรณ์ คุณกำพล(แซ็ค) ปานพุ่ม จากวง i-zax ร่วมร้องเพลงผลงานเพลง ของครูรัก รักพงษ์ และยังมีมินิคอนเสิร์ต เปิดอัลบั้มใหม่ของ คุณทอดด์ ทองดี ฝรั่งหัวใจไทยแท้ๆ ทั้งร้อง ทั้งรำ ทั้งเต้น ชนิดโชว์ลีลาศิลปินเต็มพิกัด บรรยากาศคึกคักสนุกสนาน

พอแดดร่มลมตก ก็มาถึงรายการเอื้อไออุ่น งานเพลงของครูรัก รักพงษ์ ผู้ร่วมรายการกับพ่อท่าน มี พลตรีจำลอง ศรีเมือง และผู้คร่ำหวอด ในวงการเพลง คือ คุณปราจีน ทรงเผ่า คุณธนิต เชิญพิพัฒนสกุล คุณปฏิพล เหมวรานันท์ คุณวัชราภรณ์ สุขสวัสดิ์ มาร่วมเล่าขาน ถึงตำนานงานเพลงของพ่อท่าน และแต่ละท่านยังได้เล่าถึงใจของตนกับความประทับใจที่ได้มีโอกาสร่วมทำงานกับพ่อท่าน ลูกๆที่ร่วม รายการนี้พลอยซาบซึ้งประทับใจไปด้วย กับบรรยากาศอบอุ่นเป็นกันเอง มีทั้งสาระบันเทิงในแวดวงพี่ๆน้องๆครอบครัวใหญ่ของชาวเรา

และก่อนรายการภาคค่ำจะมาถึง ตัวแทนเครือข่ายกสิกรรมไร้สารพิษกลุ่มโรงสี ได้ร่วมประชุมกันอย่างพร้อมเพรียง

ภาคค่ำ รายการพิเศษที่ญาติธรรมหลายท่าน ต่างรีบมาจองที่นั่งหน้าจอโปรเจคเตอร์ เพื่อรอชม VCD ชุด "บุญนิยมทางเลือกที่สาม" ที่พ่อท่านได้กรุณาบรรยายสดประกอบภาพที่นำเสนอวิถีชีวิตของชาวอโศก ซึ่งมีผู้นำไปให้ ชาวไต้หวันรู้จัก และได้รับการกล่าวขาน ถึงที่ประเทศไต้หวันในมุมมองต่างๆ ทำให้เราชาวอโศกได้เพิ่มโลกวิทูมากขึ้น

วันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๔๖
ก่อนอรุณจะรุ่ง เริ่มวันใหม่กันด้วยการทำวัตรเช้า วันนี้แสดงธรรมสองธรรมาสน์ ธรรมาสน์แรก สม.กล้าข้ามฝัน สะท้อนถึงชาวอโศก ในยุคนี้ ที่พ่อท่านนำพาสร้างบารมีด้วยงานภายนอก ที่กำลังขยายสู่สังคมวงกว้าง งานในก็ต้องตัดเจียนกิเลสตน ซึ่งต้องทำไปด้วย พร้อมๆกัน การได้ขัดเกลาตนเองจะทำให้เข้าใจผู้อื่นมากขึ้น มีกุศโลบายในการจัดการกับกิเลสของตน แและสนุกไปกับการทำ ประโยชน์ตน ประโยชน์ท่านไปพร้อมกัน

ส่วนธรรมาสน์ที่ ๒ แสดงธรรมโดยสมณะบินบน ถิรจิตโต ท่านเน้นย้ำถึงความสำคัญในการทำงานใน ด้วยการมองกันในแง่ดี การหมั่นระลึกถึงศีลของตนไม่ให้บกพร่อง เอาภาระตนเอง เพิ่มความศรัทธา ในกรรมในวิบาก ล้วนเป็นสิ่งที่เราเป็นผู้สร้างเองทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นกายกรรม วจีกรรม หรือมโนกรรม ฝึกละเลิกอกุศลกรรมด้วยการทำกรรมอันเป็นกุศลทดแทน เพราะเราไม่รู้วันตายว่า จะมาถึงเมื่อไหร่

เมื่อทำวัตรเช้าเสร็จสิ้น ญาติธรรมที่มาร่วมงานต่างก็มารอใส่บาตร สมณะและสิกขมาตุ ที่ถนนด้านหน้า ศาลาวิหารด้วย ความปีติยินดีที่ได้พบสมณะและสิกขมาตุจากทุกพุทธสถานเป็นการสะสมบุญ-ทานบารมี- ในแรกอรุณรุ่งของวันใหม่ หลังจากนั้น ได้เวลาแจกของโรงบุญมังสวิรัติแล้ว น้ำใจที่ให้ บริสุทธิ์ อาหารที่แจกก็บริสุทธิ์ปราศจากเลือดเนื้อและจิตวิญญาณของเพื่อนร่วมโลก จึงเป็นโรงบุญ จริงๆแท้ๆ แม้ว่างานอโศกรำลึกในครั้งนี้จะไม่ตรงกับวันเสาร์-อาทิตย์ก็ตาม แต่น้ำใจของเหล่านักบุญ ทั้งหลายไม่มีวันหยุด มีเท่าไหร่ทำด้วยใจมาเพื่อร่วมแจก น้ำใจของผู้รับก็ไม่อั้นเช่นกัน เขาแจกอะไร ที่ไหน อุดหนุนได้ทันที อิ่มทั้งผู้ให้ดีใจทั้งผู้รับ

บรรยากาศโรงบุญคึกคัก คึกครื้น ผู้คนเดินขวักไขว่มากมาย ใครเดินหลบหลีกไม่ทัน ีหวังอาหารที่ถือมา ไม่ได้กินแน่ๆ นอกจากเดินเลือกกินอาหารที่แจกร้านไหนก็ได้แล้ว ในโรงบุญยังมี เวทีชาวบ้านที่ชาว สัมมาสิกขา มาร่วมกันสร้างบรรยากาศให้โรงบุญมีชีวิตชีวา เติมความสุขสนุกสนานแบบกันเองๆด้วย

โรงบุญอโศกรำลึกปีนี้พิเศษกว่าปีที่ผ่านมา เพราะมีเจ้าของสูตรเด็ด จากสวนไผ่สุขภาพ อย่างคุณป้าศิริลักษณ์ ศรีเมือง มาออกร้านร่วมแจก"ยำผักพื้นบ้าน"ในงานครั้งนี้ด้วย ยังไม่พอ มีร้าน พิเศษ อีกร้านที่มาร่วมแจกในครั้งนี้ ถ้าไฟไม่ลุกโชนในกระทะไม่แจกว่างั้นเถอะ นั่นคือ ร้านมูลนิธิ ๓ อาชีพกู้ชาติ.... แต่ผัดผักบุ้งไฟแดงกู้ชาติแฮะ บ.ฟ้าอภัยแจกไม่เหมือนใคร ทำแซนวิชแจก พนักงาน ทุกคนช่วยกันทั้งห่อทั้งหั่น ทำกันตั้งแต่เช้าตรู่ นอกจากนี้ยังมีอีกหลายร้านที่ใจตรงกัน แจกส้มตำ ซุบหน่อไม้ แจกขนมจีนน้ำยา-น้ำพริก.....ดีจัง...เวลามากินจะได้ไม่ต้องมารออยู่ร้านเดียว.... ยังมีร้านอื่นๆ อีกมากมายร่วมกันปันน้ำใจให้เป็นหนึ่ง ถึง ๗๐ ร้านทีเดียว งานนี้ท้าชิงระหว่างคนกินกับคนแจก

แว่วเสียงระฆังดังขับขาน สัญญาณเริ่มขึ้นแล้ว ก่อนฉันวันนี้แสดงธรรมโดย พ่อท่านสมณะโพธิรักษ์ "นักการเมืองคือนักการศาสนา"พ่อท่านสร้าง"คน"ให้เป็นนักการศาสนาก่อน จนกระทั่งเป็นผู้บำรุงง่าย เลี้ยงง่าย เบาภาระในกิจตน แล้วมีน้ำใจเกื้อกูลผู้อื่น แล้วจึงเสริมบทบาทของความเป็นนักการเมือง หรือคือผู้กล้าเสียสละตนมารับใช้สังคมฝึกไปหัดไป ในอนาคตเราจะมีผู้นำเป็นผู้บริหารที่ทำงานฟรี ไม่มีเงินเดือนกินน้อยใช้น้อย เป็นคนโสด และที่สำคัญ มีศีลมีคุณธรรมเป็นหลักของชีวิต

๑๑.๐๐ น. ก็ถึงเวลาที่ทุกคนรอคอย นั่นคือรายการ อโศกพันธุ์แท้ งานเพลงครูรัก รักพงษ์ เป็นเกมที่หาก ทุกคนเข้าร่วมแข่งขัน ต้องเป็นแฟนพันธุ์แท้จริงๆ เพราะคำถามจะเป็นคำถาม เกี่ยวกับผลงาน เพลงของครูรัก รักพงษ์ ผู้เข้าแข่งขันส่งกันมาเป็นกลุ่ม ส่วนใหญ่จะมาจากพุทธสถาน และชุมชนต่างๆ กลุ่มละ ๕ คน มีทั้งหมด ๑๒ กลุ่ม แบ่งเป็น ๓ สาย สายละ ๔ กลุ่ม คัดเลือกเหลือสายละ ๑ กลุ่ม จึงเข้ารอบไปชิงชนะเลิศกัน ๓ กลุ่ม

เกมนี้เป็นเกมอโศกพันธุ์แท้จริงๆ เพราะผู้เข้าร่วมแข่งขันต้องแข่งไหวพริบ ปฏิภาณกัน อย่างถึงเนื้อแท้ ของเพลงครูรัก รักพงษ์....และแล้วก็ถึงช่วงประกาศผลการแข่งขัน กลุ่มที่ชนะเลิศได้แก่...กลุ่มกล้วยไม้ จากสันติอโศก อันดับที่ ๒ ได้แก่ กลุ่มบ้านราชเมืองเรือ ซึ่งเฉือนคะแนนกันแค่เศษ ๓ ส่วน ๔ คะแนนเท่านั้น และอันดับที่ ๓ คือ กลุ่มรัก จากปฐมอโศก ลุ้นกันเต็มที่กับอโศกพันธุ์แท้ ใครพันธุ์แท้พันธุ์เทียมก็รู้กันงานนี้แหละ

เกมนี้พ่อท่านร่วมชมด้วยตลอดรายการ และเป็นผู้มอบของรางวัลให้กับผู้ชนะทั้ง ๓ อันดับ รวมถึงผู้เข้าร่วมแข่งขันทุกคน รางวัลที่ ๑ พิเศษสุด ได้รับภาพวาดลายเส้นของพ่อท่าน ซึ่งมีลายมือของพ่อท่านเขียนไว้ว่า

นอกจากนี้ยังได้รับปากกา ภาพถ่ายของพ่อท่าน หนังสือจาริกเพื่อชีวิต และผ้าฝ้าย ส่วนผู้เข้าร่วม แข่งขันทุกคนจะได้รับภาพถ่ายของพ่อท่านและผ้าฝ้าย

๑๔.๐๐ น. เป็นการบรรยายเรื่อง "สถาบันอาหารและเกษตรอินทรีย์"โดย พลตรีจำลอง ศรีเมือง ประเทศชาติ จะปลอดหนี้ ชาวกสิกรจะอยู่ดีกินดี ต้องหันกลับมาทำภาคกสิกรรมเท่านั้น โดยเฉพาะ กสิกรรม ไร้สารพิษ เพราะไม่ต้องนำเข้าสารเคมี สุขภาพคนไทยก็จะดีขึ้น และที่สำคัญรัฐบาล ควรเข้า มาสนับสนุนเรื่องการตลาดให้กับกสิกร เพื่อส่งออกไปยังต่างประเทศ ฟังพลตรีจำลอง ศรีเมือง บรรยายแล้ว ทำให้เห็นความฝันใกล้เป็นจริงเข้ามาทุกทีๆ

จบจากการบรรยาย ต่างแยกย้ายกันตามอัธยาศัย ส่วนใหญ่ก็มุ่งกันไปยังโรงบุญมังสวิรัติ... ยังแน่นหนา ไม่ขาดสายกับถนนโรงบุญน้ำใจชาวมังสวิรัติ ที่แจกกันด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส จวบจนได้เวลา ๑๘.๐๐ น. ปิดโรงบุญฯ เพื่อทุกๆคนจะได้ไปร่วมบูชาพระบรมสารีริกธาตุ

พ่อท่านพานำบูชาพระบรมสารีริกธาตุ และเน้นให้ชาวอโศกทุกๆคน ปฏิบัติบูชาจนกว่าจะนิพพาน ไม่ว่าเกิดมาชาติไหนๆ ก็จงบำเพ็ญเพียรทุกชาติ ทุกชาตินะ จะได้ถึงนิพพาน นี่แหละความรักของ โพธิสัตว์ อยากให้มวลมนุษย์พ้นทุกข์พ้นโศก จะได้ไม่ต้องมาเวียนว่ายตายเกิดกันอีก......

จากนั้นเป็นการฉาย VDO ชุดพิเศษ "ผลงานเพลงครูรัก รักพงษ์"เป็นเรื่องราว ผลงานจากอดีต จนถึงปัจจุบัน ทีมงานที่ทำVDOชุดนี้ทุ่มเทแรงกายแรงใจทำมิวสิคVDO(ดาราจำเป็นกันทั้งนั้น)
ดูแล้วประทับใจต้องยกนิ้วให้ผลงานชิ้นนี้....แม้เหน็ดเหนื่อยสักเพียงไหน ผลงานที่ได้ย่อมภูมิใจ ที่ทำเพื่อพ่อท่าน ผู้ซึ่งเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณ และต่อด้วย VCD งานเพื่อฟ้าดิน ครั้งที่ ๑๐ ที่เพิ่งผ่านมา

วันที่ ๑๐ มิถุนายน ๒๕๔๖
วันที่ ๑๐ มิ.ย.'๔๖ วันสุดท้ายของงานอโศกรำลึก ทำวัตรเช้าโดยพ่อท่านสมณะโพธิรักษ์ ซึ่งเน้นย้ำ ต่อในเรื่องของ โมฆะบุรุษ ใครไม่อยากเป็นโมฆะบุรุษ ต้องเร่งปฏิบัติตนให้ได้โลกุตระธรรม ด้วยการเห็นกิเลส ในตนให้ได้ให้ชัด แล้วลด ละ ล้างกิเลสในตนเองให้ได้อย่างจริงๆจังๆ การที่จะลดล้าง กิเลสในตนเองได้ผลดี ต้องทำงานตามมรรคมีองค์ ๘ นี่เป็นเส้นทางสู่การเป็นอาริยชนคนโลกุตระ

เมื่อเสร็จสิ้นการทำวัตรเช้า ญาติธรรมต่างจังหวัดเริ่มทยอยกันเดินทางกลับสู่ภูมิลำเนา แม้งานอโศกรำลึก จะเป็นช่วงระยะเวลาเพียงวันสองวัน แต่น้ำใจของบรรดาญาติธรรม ที่มาร่วมงานนั้น ล้นเหลือ มากด้วยน้ำใจ หอบพืชพันธุ์ธัญญาหารมาฝาก... นี่สิทางเกวียนสายเก่าที่ผู้คนยังมากด้วยน้ำใจ เอื้อเฟื้อและแบ่งปัน

วันนี้ตั้งแต่ ๐๖.๐๐-๐๙.๐๐ น. เป็นการประชุมพรรคเพื่อฟ้าดิน องค์กรบุญนิยม และเครือข่ายกสิกรรม ไร้สารพิษ โดยมีพ่อท่านเป็นประธาน จัดระบบระเบียบการทำงานขององค์กรแต่ละองค์กรทุกๆชุมชน เพื่อพัฒนาความก้าวหน้าขององค์กรบุญนิยม เพราะมนุษย์เป็นสัตว์สังคม องค์กรบุญนิยม ต้องเป็น องค์กร เพื่อสังคม

.....แตกหน่อต่อกิ่งใบ ยิ่งใหญ่
เคี่ยวเข้มแก่นเนื้อใน แน่นหนัก
ผลิดอกชูช่อไกล ทุกถิ่น แดนฟ้า
ดอกอโศกฟูมฟัก มอบให้...ผองชน...

ในงานนี้ทุกคนมาช่วยกันเป็นเจ้าภาพ ทั้งนักบวช คนวัด ม.วช.ทุกแห่ง และนักเรียนสัมมาสิกขา ร่วมรับผิดชอบ กันเต็มที่ ทั้งด้านการจราจร การอำนวยความสะดวกต่างๆ ตลอดจนสถานที่พักอาศัย ชาวชุมชนสันติอโศกเสียสละ ละความสะดวกสบายส่วนตัวเพื่อญาติๆที่มาจากต่างจังหวัด... แต่ละคนเคี่ยวเราเพื่อเอามิตรจริงๆ

แม้ว่าวันนี้จะเป็นวันสุดท้ายของงาน โรงบุญมังสวิรัติก็สู้ไม่ถอย ยังคงแจกๆๆ จนกว่าจะ ไม่เหลือใคร มารับแจก โรงบุญปีนี้จัดระบบการล้างภาชนะได้ดี ผู้ที่มาร่วมงานรับประทานเสร็จแล้ว ก็ช่วยล้าง ภาชนะเอง เรียบง่าย สะอาดตา ขยะไม่เยอะ ทีมขยะเอ๋ยจึงทำงานด้วยรอยยิ้ม

แล้วปิดท้ายรายการ ด้วยขบวนการร่วมกันเก็บบุญยุทธการ ๗๐ นาที ทุกๆคนช่วยกันเก็บเต๊นท์ ๓๐ กว่าหลัง
ในเวลาชั่วครู่ก็เสร็จเรียบร้อย ทั้งเก็บอุปกรณ์ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ แม้แต่ขยะรกเลอะก็เก็บไม่เหลือให้พบเห็นเลย ราวกับไม่เคยมีการจัดงานมาก่อน

* a-nice *

(สารอโศก อันดับที่ ๒๖๐ พฤษภาคม ๒๕๔๖)