หน้าแรก>สารอโศก

เตือนคนใช้รถเมล์
กราบขอบพระคุณอย่างสูง ที่ส่งสารอโศก-ดอกหญ้ามาให้อ่านโดยตลอด ทำให้กระผมใช้เป็นแนวทางปฏิบัติ และยึดเหนี่ยวในการดำรงชีพตลอดมา ซึ่งกระผมพยายามอยากให้เพื่อนร่วมงานอ่านกันบ้าง แต่ก็น้อยคนจะสนใจ มีเพียงเพื่อนร่วมงานเป็นสตรีคนหนึ่ง ที่สมัครเป็นสมาชิกร่วมศึกษาปฏิบัติด้วย เขาก็บอกเป็นสิ่งดีที่มาพบอโศก ได้ศึกษาธรรมะดีๆ และใจเย็นขึ้นเยอะ

ผมได้รับหนังสือสารอโศกฉบับ พุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์ '๔๖ จดข้อธรรมะดีๆ ไว้หลายข้อ ดีมากๆ ๑๕ นาทีกับพ่อท่าน ให้ความรู้และ ข้อธรรมะหลากหลาย อ่าน"จากโลกีย์ถึงโลกุตระ" ของกรักแสงฝน และหลายๆท่าน ช่างน่าอนุโมทนา สาธุในศรัทธา และการยอมสล ะทางโลกได้ ผมขอชมเชย และขอเอาอย่าง ตอนนี้ก็เป็นทุกข์อยู่คือ อยากจะสละงานกรุงเทพฯ(ขับรถเมล์) กลับคืนสู่บ้านนอก เป็นกสิก รเต็มตัวตามวิถีชาวอโศกแต่ยังตัด ตัวเองไม่ออกสักที ตัวอยากได้ทุนเงิน และติดที่หนี้สินอยู่เล็กน้อย ข้อเขียนของท่านเสียงศีล สอนใจ ได้ดีมาก "อภัยคือหัวใจที่แท้จริง"

๑. อบรม"กสิกรรมตามโครงการพัฒนาศักยภาพและคุณภาพชีวิตกสิกร" จะมีอบรมอีกเมื่อไหร่ ณ ที่ใด ผมอยากได้ความรู้ ๕ พื้นฐานมากๆ เช่น ปุ๋ยหมัก น้ำหมักชีวภาพ กสิกรรมไร้สารพิษ แชมพู ทำน้ำยาซักล้าง เป็นต้น ฯลฯ

๒. ข้าวเหนียวกล้อง หาซื้อได้ที่ใดครับ หายากไหม? ถ้าผมกลับไปอยู่ จ.กาฬสินธุ์ และขอขอบพระคุณ คุณแม่ด้วงที่ให้ "สูตรการนึ่งข้าวเหนียวกล้อง"

๓. อ่านบทความของ ดร.สาทิส อินทรกำแหง เรื่อง"น้ำฉี่ดีจริงหรือ?" ทำให้ใจกล้าจะลองดื่มดูบ้าง เพราะผมเป็นโรคปวดหลังมานาน

๔. เรื่อง"ภัยสังคม" ที่เขียนโดยก่อแก่น "คนขายคน" นั้นเป็นอุทาหรณ์อย่างดี ซึ่งผมก็เคยโดนสำนักงานจัดหางานเถื่อนแถวๆ หัวลำโพงหลอกประจำ โดยสำนักงานเถื่อนเหล่านั้น จะเรียกเงินค่านายหน้ากับนายจ้างก่อน แล้วมาหักเอาค่าแรงคืนจากพวกผม และยึดบัตรประชาชนไว้ ทำงานในโรงงานแบบทาส คือทำหกโมงเช้า ยันหกทุ่ม เลี้ยงข้าวสองมื้อ พอหัวหน้าผู้คุมเผลอ ต้องหลบหนีปีนกำแพงออกมา เพราะทนไม่ไหว ที่นอนก็ไม่มีมุ้ง ให้ยุงกัดจนตัวลาย ปัจจุบันนี้ไม่นึกว่า "คนขายคน" ยังมีอยู่อีก

ผมยังพบเห็นภัยสังคมบ่อยๆในเวลานี้ โดยเฉพาะในรถเมล์ กรุงเทพฯ ก็อยากจะบอกเตือนคนใช้รถเมล์ในปัจจุบันว่า ภัยจากพวกมิจฉาชีพบนรถเมล์ให้ระวัง ผมขับรถเมล์ปรับอากาศจากรังสิตไปอนุสาวรีย์ชัยฯ ช่วงเวลาเร่งด่วนจะมีพวกมิจฉาชีปะปนมากับผู้โดยสาร พวกนี้จะทำกันเป็นทีม ๑-๓ คน ส่วนมากคือกรีดกระเป๋า ให้เพื่อนขนาบข้าง

ประเภทที่ ๒ ฉกกระเป๋าเงินในกระเป๋าถือสะพายของผู้หญิง เวลาเบียดเสียดขึ้นรถ พวกนี้จะรีบปฏิบัติการรวดเร็ว
พอถึงป้ายหน้าจะรีบกดออดลงทันที ที่ผมพบบ่อยสุดคือ ป้ายรถเมล์ดินแดงขาออก ดอนเมือง เคหะหลักสี่ ขาเข้า และอนุสาวรีย์ชัยฯ

ส่วนมากผู้ที่ตกเป็นเหยื่อคือกลุ่มสตรี กว่าจะรู้ตัวก็นานจนผู้ก่อคดีลอยนวลแล้ว และล่าสุดมีนักศึกษาราชภัฏถูกป้ายยาจนหลับสลบไสล กว่าจะปลุกให้ตื่นได้ต้องส่งร.พ. กระเป๋าเงิน มือถือ สร้อยคอ หายเกลี้ยง

ขอฝากไว้เตือนคนใช้รถเมล์ ยิ่งใกล้เปิดเทอมแล้ว โปรดให้ระวังนะครับ
*** สามารถ สร้อยสูงเนิน จ.ปทุมธานี

๑. รายละเอียดต่างๆของการอบรมกสิกรเกี่ยวกับกสิกรรมไร้สารพิษนี้ ขอให้คุณติดต่อไปที่ปฐมอโศก ๖๖/๑ หมู่ ๕ ต.พระประโทน อ.เมือง จ.นครปฐม ๗๓๐๐๐ โทรฯ (๐๓๔) ๓๐๕-๗๐๔

๒. ข้าวเหนียวกล้องคงจะหายากหน่อย แต่ถ้ามาที่บริษัทพลังบุญ ซึ่งอยู่ด้านหน้าของสันติอโศกแล้ว คงจะไม่ผิดหวังเป็นแน่- บ.ก.

สุขจริงที่ใจใช่ที่ทรัพย์
ต้องกราบขอโทษมากๆ ที่กระผมได้หายเงียบไปเป็นระยะเวลาสี่เดือนกว่า คิดว่าทางบรรณาธิการเลิกจัดส่งหนังสือไปให้แล้ว แต่แล้ว เมื่อกลับมาถึงบ้าน ก็พบกับหนังสือทุกฉบับของชาวอโศก กราบขอบคุณในความกรุณาของบรรณาธิการและชาวคณะทุกท่านอีกครั้ง ทางบ้านผมยังมีภรรยาและลูกอีกสองคน คอยอ่านหนังสือทุกฉบับ

เหตุที่ห่างหายไป เป็นระยะเวลาถึงสี่เดือนกว่านั้น ก็เพราะว่ากระผมได้สมัครไปทำงานที่ประเทศมาเลเซีย เพราะค้าขายเล็กๆน้อยๆอยู่บ้าน ก็พออยู่ได้ แต่ลูกๆก็โตขึ้นทุกวัน อยากจะหาทุนสักก้อน ไว้เป็นทุนการศึกษาของลูกเมื่อโตขึ้น แต่ความหวังของผมไม่อาจเป็นจริงได้ เพราะประเทศมาเลเซียไม่เหมือนกับประเทศอื่นที่เคยไปมา เขาจะเอาเปรียบเราทุกอย่าง ไม่ว่าค่าแรงล่วงเวลา อาหารเราก็ต้องซื้อเอง อีกทั้งโจรผู้ร้ายก็ชุกชุม แม้แต่ตำรวจของเขา ยังเคยปล้นเอาเงินกระผมไปดื้อๆ แบบนี้ก็คงอยู่ต่อไปไม่ไหวแล้ว ความปลอดภัยในชีวิตก็ไม่มี ค่าครองชีพก็สูง เฉลี่ยแล้วรายได้ต่อเดือน ก็พอๆกับที่เราทำงานที่เมืองไทย

อยู่เมืองไทยเราถึงแม้จะไม่ถึงขั้นร่ำรวย แต่เราก็มีความสุข ที่ได้อยู่ภายใต้ผืนแผ่นดินบ้านเกิดของเรา อยู่ด้วยความสงบเอื้ออารีซึ่งกันและกัน ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ยังดีกว่าไปตกอยู่ในสังคมที่เห็นแก่ตัว ชิงดีชิงเด่น ไร้มนุษยธรรม(ค่อนข้างป่าเถื่อน)

ผมจึงตัดสินใจลากลับเมืองไทย ยอมให้นายจ้างหักเงินถึงหนึ่งหมื่นสองพันบาท ทั้งๆที่ค่ารถจากมาเลเซียมาถึงเมืองไทย ไม่ถึงสองพันบาท กลับถึงบ้าน ยิ่งทำให้ผมรักแผ่นดินไทยมากยิ่งขึ้น แผ่นดินที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ความเป็นมิตร การให้อภัย และที่สำคัญคือเป็นแผ่นดินธรรม ของเราชาวพุทธ ยากที่จะหาประเทศใดๆในโลกเสมอเหมือนได้

ขณะนี้ผมได้กลับมา ค้าขายของชำเล็กๆน้อยๆ กับเมียและลูกสองคนที่กำลังศึกษาอยู่ ป.๖ และ ป.๔ ผมจะไม่ขอไปค้าแรงงานยังต่างประเทศ อีกแล้ว ถึงจะจ่ายค่าแรงสูงสักปานใดก็ตาม เพราะผมเพิ่งจะรู้ซึ้งถึงคำว่า ความสุขของคนเรา แท้ที่จริงนั้นอยู่ที่ใจ หาใช่ทรัพย์สินบริวาร

ขอสัญญาว่าจะขอเป็นสมาชิกของชาวอโศกต่อไป จะรักเคารพพ่อท่านตราบชีวิตจะหาไม่
*** ชวลิต แพ่งศรีสาร จ.อุดรธานี

ถ้าความสุขขึ้นอยู่กับการมีทรัพย์มาก ก็จะมีแต่คนรวยเท่านั้น ที่จะมีความสุขได้ คนจนจะมีแต่ทุกข์ แต่ในความจริง คนจนมากมาย มีความสุขยิ่งกว่าคนรวยเสียอีก โดยเฉพาะคนที่มีใจ"อยากจน" หรือ "กล้าจน" - บ.ก

ไม่ปฏิเสธสังคม
ในอดีตคิดแต่เรื่องเงินๆๆ ปัจจุบันเริ่มคิดได้แล้วว่า เงินเป็นเพียงส่วนประกอบส่วนหนึ่งของชีวิตเท่านั้น ไม่ใช้เงินก็สามารถแสวงหาความสุข ทั้งทางกาย ทางใจได้ อยู่ที่การปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ให้อยู่ในศีล ๕ เป็นอย่างน้อย

ขณะนี้ผมก็พยายามปฏิบัติอยู่ในศีล ๕ ลด ละ เลิกอบายมุขทั้งหลาย ใช้ชีวิตสมถะ แต่ก็ยังทำได้ไม่เป็นที่พอใจ และจะพยายามทำต่อไปเรื่อยๆ ที่ปฏิบัติยังไม่ได้ดีเท่าที่ควรเนื่องจากค้าขาย ยังปฏิเสธสังคมไม่ได้หมดทีเดียว แต่จะพยายามต่อๆไปให้ดียิ่งๆขึ้น

อาหารยังเจเขี่ยอยู่ แต่ทานผัก ผลไม้สัก ๗๐% ขึ้นไปแล้ว และจะพยายามเลิกอาหารประเภทเนื้อให้ได้ในที่สุด
*** แสงไทย เหล่ารุ่งโรจน์ จ.เชียงราย

การปฏิบัติธรรมไม่ใช่การปฏิเสธสังคม แต่เป็นการช่วยเหลือสังคม ให้เห็นว่ายังมีคนดีมีศีลอยู่ในสังคม และต้องเป็นคนกล้าหาญมากทีเดียว จึงจะกล้าถือศีลเป็นตัวอย่างที่ดีอยู่ในสังคมได้ - บ.ก..

ไม่ได้เข้ากลุ่ม
ตั้งแต่ผมสมัครเป็นสมาชิกรับหนังสือมา ก็ได้รับมาตลอด รู้สึกว่าหนังสือสารอโศก และดอกหญ้า มีประโยชน์มาก พอผมมีเวลาว่าง ก็จะหยิบขึ้นมาอ่านตลอด เพื่อเป็นกำลังใจในการปฏิบัติธรรม ถึงแม้ว่าผมจะไม่ได้มาเข้ากลุ่มเลย แต่ก็ได้รับทราบข่าวสารทางหนังสือ ผมก็ภูมิใจ ที่มีผู้สืบศาสนา ที่ปฏิบัติถูกต้องตามคำสอนของพระพุทธองค์

ถึงแม้ว่าผมจะไม่ได้เข้ากลุ่ม ผมก็ได้ปฏิบัติธรรมคือ เลิกอบายมุขทุกชนิด เหล้า บุหรี่ เครื่องดื่มชูกำลัง ทุกชนิด แต่มีบางครั้งที่จิบน้ำชาบ้าง แต่น้อยนะครับ

และทุกวันพระผมก็กินเจอยู่ เพราะตอนที่ภรรยาคนแรกเสียไป ผมสมาทานกินเจมาตลอดเกือบสี่ปี แต่คงเพราะผมยังมีวิบากกรรมอยู่ ก็ได้แต่งงานใหม่ ตอนนี้ผมจะกินเจเฉพาะวันพระ ภรรยาผม แกก็ไม่ได้ ว่าอะไร เขาก็เข้าใจผมดี ผมคิดดูแล้ว เพราะถ้าตอนที่ผมบวช เมื่อยี่สิบปีก่อน หากผมได้ อ่านหนังสือ ของพ่อท่าน ผมก็คงจะไม่สึก และได้มาเข้าอยู่ในกลุ่มแล้ว แต่คงเพราะมีวิบากกรรม ผมเลย สึกออกมา

อีกอย่างสมัยเมื่อยี่สิบปีก่อน สันติอโศกถูกมองในแง่ลบ พระเถรสมาคมในสมัยนั้นได้บอกว่า สันติอโศก เป็นพระนอกรีตบ้าง เป็นภัยต่อศาสนาบ้าง ไม่ควรไปคบหาสมาคมด้วย ผมเสียดายมาก ถ้าตอนที่ผมบวช และผมได้รู้ว่าสันติอโศกปฏิบัติได้ถูกต้องอย่างนี้ ผมคงจะไม่สึก และคงจะเข้ามาร่วมกลุ่มด้วย

แต่อย่างไรเสีย ตอนนี้ถึงแม้ว่าผมจะไม่ได้เข้ามาร่วมกลุ่ม แต่ผมก็ได้ปฏิบัติอยู่ข้างนอก ได้อ่านหนังสือไปด้วย ตอนนี้ที่ผมปฏิบัติอยู่คือ กินสองมื้อ ตอนเช้าไม่กิน วันพระกินเจ เลิกอบายมุขทุกชนิด ไม่โกรธ มีจิตใจ เยือกเย็น มองโลกในแง่ดี ไม่กินสัตว์ใหญ่ทุกชนิด ยกเว้น ปลา กุ้งเท่านั้น
*** อ้าย ผัดวัน จ.เชียงใหม่

คนเข้ามาในกลุ่มอโศกแล้ว แต่ไม่ปฏิบัติธรรม ก็เหมือนคนอยู่นอกกลุ่ม ส่วนคนที่ยังไม่ได้เข้ากลุ่มอโศก แต่ได้ปฏิบัติธรรมถือศีล ๕ ละอบายมุข กินมังสวิรัติ ก็เหมือนคนอยู่ในกลุ่มแล้ว - บ.ก.

ผู้น้อยสำนึก
ฝึกปฏิบัติถือศีล รักษาควบคุมตัวเองให้อยู่ในศีลในธรรม ตัวผู้น้อยตั้งใจกินเจมาได้ ๑๔ เดือน รู้สึกดีมากๆ ไม่มีปัญหาอะไร อยู่กันทั้งครอบครัว พ่อ-แม่-พี่ ผู้น้อยทำอาหารเจกินคนเดียว ไม่มีใครกินด้วยค่ะ เพราะรสชาติ ไม่อร่อย ไม่มีกะปิ ปลาร้า เนื้อ ปลาอะไร แต่ก็ไม่เป็นไร ผู้น้อยมั่นใจและตั้งใจไว้เลยว่า จะรักษาการกินเจไปตลอดชีวิต
ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะทำให้ผู้น้อยเปลี่ยนใจ เพราะชีวิตการเกิดเป็นทุกข์อย่างยิ่ง คนเราไม่กินเนื้อ ไม่ตายหรอก อาหารของคนเรามีเยอะแยะ อะไรก็กินได้ ไม่จำเป็นจะต้องไปไล่ฆ่าสัตว์ที่เขารักชีวิตของเขา เอามากิน เป็นอาหารของเรา คิดดูแล้ว...มนุษย์เรานี้ดุร้าย โหดมาก เห็นแก่ตัว รักตัวเอง แต่ไปทำร้าย ผู้ไม่รู้เรื่อง รู้ราวอะไร ผู้น้อยสำนึก ไม่เอาอีกแล้วกับการกินเนื้อสัตว์

ผู้น้อยสำนึกมากว่า ชีวิตที่เหลืออยู่นี้ ผู้น้อยจะตั้งใจใฝ่ธรรมให้มากขึ้น เน้นหนักที่ตัวเอง จะคิด จะทำ จะสร้างบุญกุศล เริ่มต้นที่ตัวเองก่อนค่ะ
*** นิตย์ เทพสุทร จ.ลำปาง

สำนึกดี มีอภัย หัวใจเบิกบาน ที่เลิกผลาญชีวิตสัตว์อื่นได้ - บ.ก.

เต็มใจทำงานเต็มที่
การปฏิบัติธรรมของดิฉันโดยรวม คิดว่าก้าวหน้ากว่าแต่ก่อน เช่น ศีลข้อที่ ๑ คิดว่ายาก ตอนนี้ก็ทำได้ดีเกินคาด รู้จักยับยั้งชั่งใจ มีสติ ตอนนี้ศีลข้อ ๔ ก็พอใช้ แต่ยังมีการนินทาผู้อื่นด้วย ทั้งที่รู้ว่าไม่ดี แต่ยังหยุดไม่ค่อยได้ บางครั้งดิฉันตั้งตบะไว้ว่า จะพูดน้อยๆ แต่พอเข้ากลุ่มเพื่อนๆแล้ว ลืมทุกที พอเวลาอยู่คนเดียว จะรู้สึกว่าตัวเองนี้แย่ที่สุด ก็จะเริ่มต้นใหม่ทุกที

ทุกครั้งที่เริ่มต้นนับใหม่ ดิฉันจะมีความรู้สึกว่า การทำ หรือพูดอะไรที่ไร้สาระ มันทำให้เราเป็นคนที่เหลวไหล จิตใจตกต่ำไปด้วย ตั้งแต่วันนี้ วันที่ดิฉันสารภาพผิด ดิฉันจะขอใช้ชีวิตอย่างมีสติ จะทำให้ศีลห้าข้อบริสุทธิ์ให้ได้ ถึงแม้จะยากสักเพียงใด ถ้าทำสำเร็จก็คงต้องตามเช็คบิลเรื่องอื่นๆ ที่ยากกว่านี้

สำหรับทุกวันนี้ ดิฉันกำจัดความขี้เกียจก่อนนอนได้แล้ว ดิฉันจะกล่าวคำบูชาพระรัตนตรัย และสวดมนต์ทุกคืน ผิดกับเมื่อก่อนไม่ค่อยทำ ถ้าทำแล้วแต่อารมณ์พาไป

ชีวิตประจำวันก็ยังมีงานทำอยู่ เงินเก็บไม่มี เพราะเงินเดือนแค่ ๒ พัน แต่ก็อยู่ได้ เพราะปลูกผักไว้กินเอง โรงงานที่มีข่าวว่าจะเลิกจ้าง ก็เงียบไป ก็ไม่ได้คิดอะไร ถึงเวลาเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น ทำไปเรื่อยๆ อย่างสุดความสามารถ ที่ทำได้ดีมาตลอดก็คือ การทำงานอย่างเต็มใจ เต็มที่และสนุก ไม่เครียดและไม่ง่วง ก็ภูมิใจที่ทำได้ และจะทำต่อไป
*** นงนุช กันธะ จ.เชียงใหม่

คนเราหากจะทำอะไร แม้แต่การถือศีลก็ตาม ลงมือทำอย่างเต็มใจ และเต็มที่แล้ว ย่อมเกิดมรรคผลตามมาอย่างแน่นอน อันจะพาให้พ้นทุกข์ได้ - บ.ก

จิตตกยากมาก
ดิฉันอ่านสารอโศกจนจบหมด แล้วจึงเขียนมา อ่าน "น้ำใจจากแดนไกล" ของคุณชิดตะวัน แล้วใจหาย ดิฉันอยากให้พ่อท่านแข็งแรง มีสุขภาพดี มีอายุยืนยาว ได้รู้เรื่องราวสุขภาพของท่านใน"บันทึกปัจฉาสมณะ" ถึงจะยังไม่มีโอกาสได้ไปกราบพ่อท่าน แต่ก็ยังมีความรู้สึกว่าได้ใกล้ชิดกับท่านตลอดเวลา

เช้ามืดถ้าไม่มีเหตุสุดวิสัย จะฟังเท็ปก่อนนอน หรือทุกครั้งที่มีเวลาจะอ่านหนังสือ ตอนนี้กำลังอ่าน"ความรัก ๑๐ มิติ"อยู่ค่ะ ได้ข้อคิดจาก จดหมายของญาติธรรม ชอบ"จากโลกีย์ถึงโลกุตระ" "เดินตามรอยพ่อ" "กว่าจะถึงอรหันต์"มาก ประทับใจ "ชาดกทันยุค" ในเราคิดอะไร เรื่องไม่ท้อถอย มาก

การปฏิบัติตอนนี้ พยายามฝึกไม่โกรธ ซึ่งยากมาก ใช้วิธีนึกถึงคำสอนของพ่อท่าน ตอนนี้กำลังหัดกำหนดลมหายใจ แล้วนับ ๑-๕ ได้จาก "ถ้อยคำสิริมงคล" ของสุวลี ถ้านับก่อนนอน จะหลับง่ายมาก และกำหนดเวลาตื่นได้
*** แววตา มีแสง จ.ลพบุรี

นับว่าเป็นอีกคนหนึ่งที่หมั่นเพียรในการศึกษา แบ่งเวลาที่จะฟังเท็ปธรรมะ และอ่านหนังสือธรรมะทุกวัน ถือว่าเป็นผู้เคารพในการศึกษาธรรมได้ดี อย่างนี้จะมีธรรมะเป็นเครื่องช่วยใจได้เสมอ จิตตกยากมาก - บ.ก.


(สารอโศก อันดับที่ ๒๖๐ พฤษภาคม ๒๕๔๖)