หน้าแรก>สารอโศก

บทเรียนราคาแพง : บทเรียนที่ต้องสรุป และต้องมีมาตรการทางออก

บทที่ ๑ บทเรียนราคาแพง
เมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ทีมงานต.อ.กลางได้รับโทรศัพท์แจ้งจากคุณหินไท จากบ้านราชฯว่า เจลว่านหางจระเข้ซึ่งเป็นสินค้าขายดี มีออเดอร์การสั่งผลิตไม่ขาดสาย ได้เกิดจุดสปอต เชื้อราสีขาวขึ้น อีกเป็นครั้งที่สอง หลังจากที่เกิดความเสียหายไปครั้งแรกเมื่อราวเดือนมกราคม ๒๕๔๖ โดยร้านค้า ทาง กรุงเทพฯ ขอส่งสินค้ากลับคืนทั้งหมด ส่วนทางคุณหินไทและผู้ผลิตก็มิได้นิ่งนอนใจ ได้ส่งสินค้า ชุดแรกที่เสียหายให้บริษัทขาย สารเคมีตรวจวิเคราะห์ ซึ่งบริษัทขอให้เพิ่มตัวยากันบูดให้มากขึ้น คนผลิตเองก็สันนิษฐานว่า น่าจะเกิดจากผ้า กรองว่านรั่วทำให้เนื้อว่านตกลงไป

ทีมงานตอ.กลางรีบโทรศัพท์ทางไกล ขอความร่วมมือจากศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์เขต ๑๐ จ.อุบลราชธานี ให้ส่งเจ้าหน้าที่ไปเก็บตัวอย่างวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์ตรวจวิเคราะห์ และขอให้ ภญ.กาญจนา มหาพล หัวหน้ากลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภคและเภสัชสาธารณสุข เข้ามาดูสถานที่ และร่วมวิเคราะห์ ขั้นตอนการผลิต เพื่อหาสาเหตุการปนเปื้อนกับผู้ผลิต และต.อ.กลางใน ช่วงงาน เพื่อฟ้าดินที่ผ่านมา สิ่งที่น่า ตกใจอีกครั้ง คือ เจลชุดที่สามที่เพิ่งผลิตเมื่อต้นเดือนพฤษภาคม นี้ก็เกิดจุดราสีขาวเล็กๆอีกแล้ว ทั้งๆที่สิน ค้ายังอยู่ในโรงงาน ยังไม่ทันได้แพ็คส่งออกไปจำหน่ายเลย

ผู้ผลิตแจ้งว่า ผลิตครั้งหนึ่งๆ ราว ๑ หมื่นหลอด ต้นทุนวัตถุดิบและบรรจุภัณฑ์ ที่ไม่รวมค่า แรงงาน ประมาณ ๘ หมื่นบาท เมื่อคิดเป็นมูลค่าสินค้าที่จำหน่ายก็ราวสองแสนกว่าบาท โอ้โฮ สองแสน คูณสามก็ไม่กล้า คิด ไม่กล้าคำนวณเอาเสียเลย

บทที่ ๒ บทเรียนที่ต้องสรุป
ลำพังการผลิตผลิตภัณฑ์จากว่านหางจระเข้เป็นเรื่องที่ต้องมีความสะอาดละเอียด ประณีต แม้แต่ ในโรงงานผลิตระดับอุตสาหกรรมที่ควบคุมกระบวนการผลิตอย่างดี ก็ยังถือว่าเป็น ผลิตภัณฑ์ ที่มีความเสี่ยงต่อการเสียหายได้ง่ายมากอยู่แล้ว ความเสียหาย ก็เคยเกิดที่ชุมชนศีรษะอโศก จนต้องงดการผลิตเจลจากว่านหางจระเข้ไปช่วงหนึ่งเช่นกัน

เอกสารการวิเคราะห์หาสาเหตุการปนเปื้อนและข้อเสนอการแก้ปัญหาได้รับความอนุเคราะห์ ช่วยเหลือ เป็นอย่าง ดีจากภญ.กาญจนา จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุบลฯ และ ภญ.พรพรรณ สุนทรธรรม จากกองควบคุม เครื่องสำอาง อย.อย่างรวดเร็วทันใจในสองวัน จนทีมงานต.อ.กลาง รู้สึกประทับใจ และต้องขอสรรเสริญ คุณความดี ความใส่ใจของข้าราชการไทยทั้งสองท่านมา ณ โอกาสนี้

บทเรียนที่ต้องสรุปข้างล่างนี้ มิได้จะช่วยสรุปวิเคราะห์ปัญหาการผลิตผลผลิตเฉพาะเจล ว่านหางจระเข้ ที่บ้านราชฯนี้เท่านั้น แต่น่าจะมีส่วนที่จะช่วยให้ผู้ผลิตผลผลิตทุกประเภท(อาหาร ยา ผลิตภัณฑ์ ทำความสะ อาด) ได้มีมุมมองหลายๆมุม ถึงโอกาสของความเสี่ยง ที่อาจเกิดขึ้นได้ ในทุกขั้นตอนของ กระบวนการผลิต นับตั้งแต่ วัตถุดิบ การเตรียม วัตถุดิบ น้ำที่ใช้ การผสม เครื่องมืออุปกรณ์การผลิต การบรรจุ สถานที่ผลิต และที่สำคัญที่สุด คือ ตัวผู้ผลิตเอง ที่เป็นผู้จัดการและ เกี่ยวข้องกับขั้นตอน การผลิตทั้งหมดดังกล่าว แม้ในขณะนี้ยังไม่มี ความเสียหายร้ายแรงเกิดขึ้น แต่ก็เป็นเรื่องที่ผู้ผลิต และต.อ.ชุมชนต้องช่วยกันหมั่นตรวจตราและป้องกันกันไว้ก่อน มิใช่หรือ

ปัญหาการเกิดราในเจลว่านหางจระเข้ (รุ่นที่ผลิตตั้งแต่มกราคม ๒๕๔๖ เป็นต้นมา)
ผลิตที่โรงแชมพู ชุมชมราชธานีอโศก จังหวัดอุบลราชธานี
วิเคราะห์โดย กลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภค อุบลราชธานี เมื่อ ๑๘ พฤษภาคม ๒๕๔๖

 

บทที่ ๓ บทเรียนที่ต้องมีมาตรการทางออก
ในเย็นวันจันทร์ที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๔๖ หนึ่งวันคล้อยหลังจากงานพฟด. ท่านฟ้าไท สิกขมาตุกล้าข้ามฝัน ได้เรียกประชุมคณะกรรมการชุมชนเร่งด่วน เพื่อหามาตรการที่จะเป็นทางออกในการ ป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นอีก ที่ประชุมมีมติดังนี้

๑. ให้จัดซุ้มสาธิตและฝึกปฏิบัติการผลิตผลิตภัณฑ์ต่างๆ (ทั้งอาหารแปรรูป ยาสมุนไพร และ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด) สำหรับผู้มาศึกษาดูงานหรือผู้เข้ารับการฝึกอบรม แยกออกจากโรงงาน/สถานที่ผลิต เพื่อลด การปนเปื้อนจากบุคคลภายนอก

๒. ให้หยุดการผลิตเจลว่านหางจระเข้ชั่วคราว จนกว่าจะทราบผลการตรวจวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ และหาสาเหตุการปนเปื้อนที่ชัดเจนขึ้น เมื่อจะเริ่มผลิตชุดใหม่ขอให้ผู้ผลิตทดลองผลิตใน ปริมาณที่น้อยก่อน โดยเตรียมการด้านความสะอาดของสถานที่(๕ ส.) อุปกรณ์ สุขวิทยาของผู้ผลิต และควบคุมกระบวนการผลิตทุกขั้นตอนอย่างประณีต ทั้งนำผลิตภัณฑ์ที่เสร็จแล้วส่งตรวจ ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ จังหวัดอุบลราชธานี และตั้งตัวอย่างผลิตภัณฑ์ไว้อย่างน้อย ๑ เดือนเพื่อดูการเปลี่ยนแปลง ก่อนนำออกจำหน่าย

๓. ขอให้ทีมงานผู้ผลิตออกไปพักอาศัยนอกเขตโรงงานผลิต(ยกเว้นผู้อยู่เวรเฝ้าสถานที่) และงดการปรุง/รับประทานอาหารในสถานที่ผลิตเพื่อป้องกันแมลงและสัตว์นำโรค โดยทางชุมชนได้จัดหาที่พักเป็นบ้านเรือนไทยที่ไม่ห่างจากโรงงาน อยู่สบาย และอากาศดี ปราศจากกลิ่นไอ ของสารเคมีให้แล้ว

๔. เพื่อลดภาระของผู้ผลิต ที่ต้องการเวลาในการเตรียมการด้านความสะอาดของสถานที่ และอุปกรณ์การ ผลิตอย่างประณีต จึงขอให้ย้ายการตักแบ่งและจำหน่ายปลีก ชุดสารเคมีสำหรับการผลิตผลิตภัณฑ์ทำความ สะอาด ให้แก่บุคคล ภายนอก ไปที่ร้านค้าชุมชน(ร้านปันบุญ) โดยจะจัดทีมนักเรียนมาช่วยดำเนินการ

๕. ขอให้พิจารณาแบ่งรายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชน นำมาปรับปรุงสถานที่ผลิต เพื่อให้ลด ความเสี่ยง ต่อการปนเปื้อน ในกรณีของโรงแชมพูนั้น คณะกรรมการชุมชนจะพิจารณาดำเนินการให้ เมื่อสิ้นสุดปัญหาทางกฎหมายที่ชุมชนจะเป็นเจ้าของสิทธิ์ในที่ดินบริเวณดังกล่าว โดยในระยะเฉพาะหน้าคณะกรรมการชุมชนอนุมัติ ให้ปูเสื่อน้ำมันบนชั้น ๒ ของอาคารผลิต เพื่อป้องกันฝุ่นละอองไม่ให้ ตกลงมา ณ บริเวณผลิต และขอให้ทีมผู้ผลิต โดยการสนับสนุนของชุมชน และทีมนักเรียน ได้ช่วยกันทำ ความสะอาดสถานที่ และทำ ๕ ส.ครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่ง

สามบทเรียนนี้ ราคาแพงมากสำหรับชาวบุญนิยมอโศก แต่พวกเราก็ยอมสูญเสียทรัพย์สิน ไปได้ โดยไม่ยอมเสียคุณภาพ ความซื่อสัตย์ และความปลอดภัยแก่ผู้บริโภค พวกเเราต้องการสอบให้ผ่าน ไม่ต้องเรียนกัน ซ้ำแล้วซ้ำอีก และเชื่อมั่นว่าไม่มีใครอยากตกซ้ำชั้น หรือถูกรีไทร์ออกเป็นแน่

จริงใจ-ไมตรี-ไม่มีวันเบื่อ (ที่ต้องพูดเรื่องเก่าๆอยู่เรื่อยๆ)
*** ต.อ.กลาง

(สารอโศก อันดับที่ ๒๖๐ พฤษภาคม ๒๕๔๖)