หน้าแรก>สารอโศก

แถลง
เข้าพรรษา "สลายภพ-สยบอัตตา" เพื่อพากันบรรลุธรรมเป็นทีม

เรามีนักปฏิบัติธรรมสายไฟแรงมิใช่น้อย ที่รอคอยการบรรลุธรรมอย่างรวดเร็วดั่งใจอยาก แต่ถ้าหาก จะต่อรองว่า ถ้าอยากบรรลุธรรมจริงๆ หยุดทำอะไรตามภพ หรือตามอำเภอใจ ของตัวเองก่อนได้ไหม ? ถ้าสลายภพ ที่จะทำอะไ รตามความอยาก ของตัวเองได้ นี่ก็คือการบรรลุธรรม (เพราะได้สลายภพ) ไปชั้นหนึ่งแล้ว

ยิ่งสามารถสยบอัตตาเจ้าตัว"ยึดจัด-อัตตาแรงร้าย" ที่คอยไปเที่ยวจัดการผู้อื่น ทั้งๆที่เป็นเพียงข้อบกพร่อง เล็กๆน้อยๆ ของเขาเท่านั้น แต่อัตตาใหญ่อัตตาร้ายที่มุ่งยึดจะเอาดีให้ได้ดั่งใจของเรา กลับไม่คิด ที่จะสยบ อัตตาของเรา ลงไปก่อน ความเอื้ออาทร ความอบอุ่น ที่จะก่อให้เกิดบรรยากาศมิตรดีสหายดี อันเป็น ทั้งหมดทั้งสิ้น ของการบรรลุพรหมจรรย์จึงไม่มี จะมีก็แต่คอยจังหวะ ที่จะอัดกันไป อัดกันมา จนกว่า จะเจ็บป่วย ล้มตายจากกัน ไปข้างหนึ่ง

เมื่อยามน้ำท่วมบ้านราชฯที่ผ่านๆมา มักจะมีงานประเดประดังเข้ามาอย่างรอบทิศ ทั้งงานอบรม ทั้งต้อง ออกไปช่วยกัน ทำนาในที่ไกลๆ ทั้งต้องออกไปช่วยกันขายอาหารมังสวิรัติ แล้วก็ยังต้องช่วยกัน เก็บข้าวของ ที่จะล่องลอย ไปตามน้ำ ฯลฯ

แต่ละงานดูจะสำคัญไปหมดทุกอย่าง แล้วแต่ว่าใครจะมีภพแรงหรือดึงกำลังได้มากกว่ากัน ก็จะเข้าห้ำหั่น
ชักเย่อ แรงงานกัน จนเหน็ดเหนื่อย เมื่อยล้าไปทุกฝ่าย

แต่ในพรรษานี้ชาวบ้านราชฯ ฝึกสาธารณโภคีทางความคิด(เอาความคิดเข้ามาร่วมกันรวมกัน เหมือนกินใช้ ร่วมกั นรวมกัน) แล้วค่อยจัดลำดับความสำคัญของงาน ๑ ๒ ๓ ๔ ไปตามลำดับ นับว่า ก่อให้เกิด ความน่าอัศจรรย์ เหมือนมีคนมาช่วยทำงานเพิ่มขึ้น ทั้งๆที่ก็มีแต่หน้าเก่าอยู่เหมือนเดิม แต่เมื่อเราเก็บ แรงงาน ที่กระจัดกระจายกันไป ตามภพใครภพมัน มารวมกันได้ ทำให้มีคนไปช่วยงาน ขายอาหาร มังสวิรัติ เพิ่มขึ้นถึง ๔ ทีม ทีมละ ๑๓-๑๔ คน นับว่าเป็น สุดยอดปาฏิหาริย์ของพุทธ ที่สามารถ ทำให้คนๆเดียว เป็นหลายคน และหลายๆคน ก็สามารถมาร่วม รวมความคิดกันได้ เป็นคนๆเดียว งานจะมากแค่ไหน ก็ดูจะไม่พอมือ พวกเราไปได้

พระอาริยะเจ้าทั้งหลายย่อมไม่แสวงหากาม และมุ่งพากเพียรสลายภพสยบอัตตา หันมาจัดการตัวเอง โดยมีมิตรดี สหายดีคอยช่วยชี้แนะ เก็บรายละเอียดให้ อย่างเอื้ออาทรต่อกัน ทั้งหมดนี้ น่าจะเป็นทิศทาง ของการพากัน บรรลุธรรม โดยสมควรแก่ธรรม อย่างเป็นทีม

- คณะผู้จัดทำ -

(สารอโศก อันดับ ๒๖๑ มิถุนายน ๒๕๔๖)