หน้าแรก>สารอโศก


ฉบับนี้ได้รับข้อมูลสดๆจากหนังสือพิมพ์คมชัดลึก ประจำวันอังคารที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๔๖ จึงรีบนำมา เสนอแก่สมาชิก คอลัมม์น้ำฉี่ ทันทีเลยค่ะ ก็ต้องขอขอบคุณผู้ที่ส่งข้อมูลนี้มาให้เป็นอย่างยิ่ง ขอบคุณค่ะ

หมอแผนไทยชี้สกัดฉี่ผสมเครื่องสำอาง
หมอแผนไทยยันดื่มฉี่รักษาได้ สารพัดโรค เผยเครื่องสำอางบางชนิดมี สารสกัดจากฉี่ผสมอยู่ด้วย ด้านมะกัน หัวใสสกัดใช้รักษาอัมพาตขายทั่วโลก ขณะที่หนุ่มใต้ฟุ้ง ดื่มมา ๒ ปี จากคนหัวล้าน กลายเป็นค นผมดกดำ อย่างไม่น่าเชื่อ แถมหายปวดหลังชะงัด

การเสวนาเชิงวิชาการในหัวข้อ "น้ำปัสสาวะรักษาโรคได้จริงหรือ" ซึ่งจัดโดยกรมพัฒนาการ แพทย์แผนไทย และ การแพทย์ทางเลือก เมื่อวันที่ ๓๐ มิ.ย. โดยมีวิทยากรผู้เข้าร่วมการประชุมคือ พระครูดุษฎี จากสำนักสงฆ์ วัดทุ่งไผ่ จ.ชุมพร และน.พ.บรรจบ ชุณหสวัสดิกุล ผู้เชี่ยวชาญ ด้านการแพทย์ทางเลือก ต่างอ้างว่า ปัสสาวะมีสรรพคุณ ในการรักษาโรค หลายอย่าง ได้อย่างไม่น่าเชื่อ

น.พ.บรรจบ กล่าวว่า น้ำปัสสาวะสามารถนำไปบำบัดโรคหลายชนิดได้ ซึ่งเรื่องนี้ได้เขียนไว้ ในตำรา แพทย์แผนจีนว่า การดื่มน้ำปัสสาวะเด็กผู้ชายที่ร่างกายแข็งแรง จะช่วยให้คนที่มีอาการอ่อนเปลี้ย เพลียแรง มีเรี่ยวแรงขึ้นมาได้ เพราะในน้ำปัสสาวะประกอบด้วยน้ำ ๙๕% ยูเรีย ๒.๕% และสารอื่นๆอีก ๒.๕% หากถามว่า การที่มีสารต่างๆ เพียงเท่านี้ จะรักษาโรคได้อย่างไร

"ต้องเรียนว่าการดื่มน้ำปัสสาวะรักษาโรค จะใช้หลักพิษล้างพิษ เช่นเดียวกับการฉีดเซรุ่ม ซึ่งโรคที่รักษาได้ มีตั้งแต่อาการปวดเรื้อรัง ได้แก่ ปวดหลัง ปวดข้อ ไมเกรน ปวดเมื่อยไม่มีสาเหตุ โรคที่เกี่ยวกับภูมิต้านทาน เช่น โรคภูมิแพ้ ผื่นคัน สะเก็ดเงิน รูมาตอยด์ เอสแอลอี ประเภทแผลต่างๆ เช่น แผลเบาหวาน แผลไฟไหม้ ส่วนโรค ในระบบ ในร่างกาย คือ เบาหวาน มะเร็งลำไส้อักเสบเรื้อรัง ตกขาวจากเชื้อรา กลิ่นปาก กลิ่นตัว รวมทั้ง ยังดูแลผิวพรรณ และเส้นผม"

เขาบรรยายถึงสรรพคุณที่ใช้รักษาโรคได้เกือบสารพัด

สำหรับวิธีการใช้นั้น น.พ.บรรจบ ระบุว่า ใช้วิธีรับประทาน แต่มีหลายวิธี เช่น นำปัสสาวะ ๑ หยด ใส่ลง ในน้ำ ๑ ช้อนชา เขย่าประมาณ ๕๐ ครั้ง หรือในวันแรกจะหยดปัสสาวะ ๑-๕ หยดในปาก วันต่อมา อาจจะหยด ๖-๑๐ หยด และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนกว่าจะเคยชิน

น.พ.บรรจบ กล่าวต่อว่า สารยูเรียในปัสสาวะเปรียบเสมือนมอยซ์เจอไรเซอร์ หรือสารทำความชื้น ในเครื่องสำอาง ซึ่งเครื่องสำอางที่มีราคาสูง จะใส่ยูเรียเข้าไป แต่ถ้าราคาถูกจะใส่สารพาราฟิน

นอกจากนี้ในปัสสาวะยังมีสารยูโรคีเนส ซึ่งทางการแพทย์จะฉีดให้ผู้ป่วยที่เป็นอัมพาต เพื่อละลายลิ่มเลือด และ รักษาเส้นเลือดอุดตัน ซึ่งมีบริษัทในประเทศสหรัฐได้นำเครื่องกรองปัสสาวะ เพื่อกรองเอา สารตัวนี้ ออกมาใช้ในวงการแพทย์

ตั้งแต่ปี ๑๙๘๙ ดังนั้นหลังปีดังกล่าว ผู้ที่รอดมาได้ก็ให้เข้าใจได้เลยว่า ถูกฉีดสารจากปัสสาวะ ของคนสหรัฐมาแล้ว แพทย์ทางเลือกรายนี้ระบุว่า ที่ผ่านมามีคุณยายป่วยเป็นมะเร็งปอด ระยะสุดท้าย ซึ่งแพทย์แผนปัจจุบัน วินิจฉัยว่า จะอยู่ได้ไม่เกิน ๓ เดือน แต่ปรากฏว่าเมื่อยายได้ดื่มน้ำปัสสาวะ รวมถึง กินผักพื้นบ้าน เวลาผ่านไปหลายเดือน ยายคนดังกล่าว ก็ยังไม่เป็นอะไร หนำซ้ำ ยังเจริญอาหาร มากยิ่งขึ้นด้วย

นอกจากนี้ ยังพบว่าปัสสาวะที่เก็บไว้นาน จะเปลี่ยนสีจากเหลืองอำพัน จนเป็นสีเข้ม สามารถรักษาแผล จากไฟไหม้ได้ โดยเอามาทาบริเวณแผล เรื่องนี้มีคนไข้เคยทดลองใช้ได้ผลมาแล้ว ซึ่งเขายืนยันได้ ใช้ยาแผนปัจจุบันเ กิดอาการแสบ แต่เมื่อนำไปแช่ในน้ำปัสสาวะ กลับไม่พุพองและค่อยๆหายไปในที่สุด


"ผมไม่ได้หมายความว่า ให้คนไทยทุกคนลุกขึ้นมาดื่มน้ำปัสสาวะกันหมด ถ้ามีร่างกายปกติ ก็ไม่จำเป็น เพียงแต่ ถ้าหมดหนทางในการรักษา ก็ทดลองได้ และที่ผ่านมาก็ไม่เคยปรากฏผลข้างเคียง แต่คนที่เป็น โรคหนองใน ก็น่าจะรู้ว่าไม่ควร ส่วนกรณีผู้ป่วยที่รับประทานยา และใช้เคมีบำบัด คิดว่าน่า จะกินได้ ไม่เสียหายอะไร เพราะกินเพียง ๕๐-๑๐๐ ซีซี. ซึ่งน้อยมาก เมื่อเทียบกับ จำนวนปัสสาวะ ในแต่ละวัน ประมาณ ๓ ลิตร" น.พ.บรรจบ ระบุ

ส่วนกลุ่มประเทศที่นิยมดื่มคือ ประเทศแถบตะวันออก คือ อินเดีย ที่ดื่มเป็นวัฒนธรรม ส่วนจีน ก็มีดื่ม จำนวนหลายล้านคน ในส่วนคนไทยน่าจะมีมาก โดยเฉพาะผู้ปฏิบัติธรรม แต่ยังไม่มีการรวบรวม ตัวเลข อย่างเป็นทางการ ทั้งนี้คิดว่า ประเทศไทย ควรจะมีการวิจัยว่า เรื่องนี้มีผลเสียหรือไม่ ถ้าไม่มีผลเสีย ก็ควรจะวิจัยผลดี เพราะอย่างสหรัฐ ก็มีการสร้างมูลค่า ของปัสสาวะปีละ ๕๐๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ด้านพระดุษฎี เมธังกุโร จากสำนักสงฆ์วัดทุ่งไผ่ จ.ชุมพร กล่าวว่าพระพุทธเจ้าบัญญัติไว้ในนิสสัย ๔ แนวปฏิบัติสำหรับการยังชีพของพระสงฆ์ว่า ต้องนุ่งห่มด้วยผ้า ๓ ผืน นำมาจากผ้าห่อศพ ผ้าบังสุกุล ต้องฉันอาหาร อยู่โคนต้นไม้ ฉันอาหารที่ได้จากการบิณฑบาต และประการสุดท้ายคือ เมื่อเจ็บป่วย รักษาตนเอง ตามธรรมชาติ ฝึกสมาธิ ดื่มน้ำปัสสาวะ ซึ่งบัญญัติไว้ในนิสสัย ๔ กำหนดไว้ในพระไตรปิฎกว่า การดื่มน้ำปัสสาวะรักษาโรค จะช่วยให้คนคนนั้นระมัดระวังด้านการบริโภคอาหาร เพราะหาก กินโปรตีน เนื้อสัตว์ ชา กาแฟ เบียร์ มีผลคือรสชาติ จึงเห็นว่าการดื่มน้ำปัสสาวะไม่ใช่เรื่องเสียหาย เพราะไม่ต้อง เปลืองค่าใช้จ่าย ดีกว่าซื้อสาหร่าย ซึ่งราคาแพง อาจไม่ได้ผลก็ได้ นอกจากนี้ บางคนไม่ดื่ม แต่อมบ้วนปาก ยังทำให้ เหงือกและฟัน ทนทาน ซึ่งหลายคน ทำมานับ ๑๐ ปีแล้ว

นายไพฑูรย์ เจียรณาสาธิต อายุ ๓๖ ปี ชาวสวนปาล์ม อ้างว่าดื่มปัสสาวะมา ๒ ปีแล้ว วันแรกที่ลอง รู้สึกว่า รสชาติแย่มาก แต่พอดื่มทุกวัน ก็สามารถปรุงแต่งกลิ่น คือจะไม่รับประทาน อาหารตอนเย็น แต่จะดื่ม น้ำมากๆ แทน ซึ่งรสชาติที่ได้ จะจืดเหมือนน้ำชา ไม่หอม คิดว่าทำอย่างไร จะให้ปัสสาวะหอม เหมือนฉี่เด็ก ก็ไปดู พฤติกรรมของเด็ก ซึ่งดื่มนม ดังนั้น การดื่มนม จะทำให้ปัสสาวะหอม เหมือนปัสสาวะเด็ก

"รสชาติของปัสสาวะ จะบ่งบอกอาหารที่รับประทานเข้าไป ถ้ามีรสชาติเค็ม แสดงว่าเราดื่มน้ำน้อย ถ้ามีรสขม แสดงว่า รับประทาน สารพิษเข้าไปมาก ถ้ามีรสขมอมเปรี้ยว แสดงว่า ร่างกาย รับสาร กันบูด เข้าไป ถ้ารับประทานเนื้อสัตว์ สะตอ ลูกเนียง จะทำให้กลิ่นปัสสาวะแรงฉุนกึก ดังนั้น การดื่มน้ำ ปัสสาวะ ตอนเช้า ทำให้เรารู้ว่า อาหารที่รับประทาน ในระหว่างวัน เป็นอย่างไร"

เขาบอกว่า แรงจูงใจที่ทำให้ต้องดื่มปัสสาวะ เป็นเพราะภูมิอากาศของภาคใต้ จะทำให้เป็นหวัด และ ภูมิแพ้บ่อย หลังจากดื่มแล้ว ไม่ต้องกินยาแก้ไข้อีก แต่ตนจะไม่ดื่มตอนเย็น กลับดื่มตอนเช้า ครั้งเดียว ถ้าช่วงไหน เจ็บคอ จะดื่มตอนเย็นด้วย ทั้งนี้นอก จากจะมีสรรพคุณ ดังกล่าวแล้ว การดื่มปัสสาวะ ยังทำให้ตัวเอง หายปวดหลัง และทำให้ผมบนศีรษะ ดกดำขึ้นมาอีกด้วย

นายไพฑูรย์ กล่าวว่า นอกจากตัวเองจะดื่มแล้ว ภรรยาและลูกสาววัย ๗ ขวบ ก็หันมาดื่มด้วย เช่นกัน และ การที่ลูกสาว หันมาดื่ม เพราะตนให้เลือกว่า เวลาไม่สบายจะยอมถูกฉีดยา หรือจะดื่มน้ำปัสสาวะ เพราะในช่วง ๒ ปีที่ผ่านมา ลูกไม่เคยเป็นหวัดเลย นอกจากนี้ แม่ของตน เป็นหวัดเรื้อรังมา ๒๐ ปี เคยฉีดยา มาตลอด ไม่หาย เมื่อตนแนะนำ ให้ดื่มกลับมีอาการดีขึ้น

(สารอโศก อันดับที่ ๒๖๑ มิถุนายน ๒๕๔๖)