หน้าแรก>สารอโศก

กรรมตามสนอง

ตอน... ในโลกมืด

เรื่องของคนที่เคยอยู่ในโลกที่สว่างไสว มีแต่ความสวยๆงามๆของธรรมชาติในโลกกว้าง แต่ทว่า คราวนี้ ด้วยผลของ วิบากกรรม ทำให้ต้องมาอยู่ในโลกมืด นี้เป็นผลกรรมของคุณพ่อเกียง เสมอใจ อายุ ๖๐ ปี อยู่บ้านเลขที่ ๙๙ บ้านม่วง หมู่ที่ ๔ ต.สาวถี อ.เมือง จ.ขอนแก่น

คุณพ่อเกียงได้เล่าให้กับผู้เขียนฟังว่า ก่อนนี้ตาของผมทั้งสองข้างก็ยังมองเห็นๆ เหมือนกับผู้คนตาดีๆทั่วไป

แต่ทว่าเมื่อสองปีที่ผ่านมานี้เอง ตาของผมทั้งสองข้างนี้ต้องมาบอดสนิทลง มันเหมือนกับว่า ผมต้องมาอยู่ ในโลกมืด แต่เพียงผู้เดียว ผมมาคิดๆดูว่า มันคงจะเกิดมาจากวิบากกรรม ที่ผมเคยทำเอาไว้กับเขาในอดีต คือเรื่อง มันเป็นมาดังนี้ครับ....

สมัยเมื่อผมเป็นเด็กหนุ่ม อายุราว ๑๕ หรือ ๑๖ ปีนั้น ผมได้จับเอาตั๊กแตนมา บีบตาของมันทั้งสองข้าง หลังจากนั้น ผมก็จะโยน ให้มันบินขึ้นไปบนท้องฟ้า ตอนที่ผมบีบตาของตั๊กแตน ตาของมันจะบอดไปทันที จะมองไม่เห็น ทางไปทางมาเลย

พอตั๊กแตนโดนปล่อย มันก็จะบินหมุนๆๆวนๆเป็นวงกลม ขึ้นไปบนท้องฟ้า มองดูคล้ายๆบั้งไฟตะไลที่เขาจุด แล้วโยนขึ้นไป บนท้องฟ้า มันจะหมุนๆขึ้นไป แล้วผมและเพื่อนๆต่างก็พากันหัวเราะชอบใจไปตามๆกัน เรียกว่า มีความสุขสนุกสนานอยู่กับความทุกข์ของสัตว์อื่น ผมได้ทำกับตาตั๊กแตน แบบเดียวกันนี้ อยู่หลายครั้ง หลายคราด้วยกัน

ยังมีอยู่อีกครั้งหนึ่ง ที่ผมเคยแกล้งคนตาบอด ตอนนั้นผมก็คงจะอายุ ๒๐ กว่าปีเห็นจะได้ ในวันนั้น ที่หมู่บ้าน ของผม เขาจัดให้มีงานบุญประจำปี มีชายตาบอดคนหนึ่ง ได้มาเที่ยวงาน กับเพื่อนๆ เขาด้วย เขาเป็นคนบ้านอื่น

ชายตาบอดคนนั้นให้เพื่อนจูงเขามา พอเขาเดินผ่านผม จะเป็นด้วยความซุกซนของผม หรือความคึกคะนอง ของผม ผมจึงไปขอจูงชายตาบอดจากเพื่อนของเขา

จากนั้นผมก็จูงมือเขาเดินไปเรื่อยๆ แต่พอเดินจูงไปได้สักพัก ผมก็มองเห็นกองขี้ควายกองหนึ่ง อยู่กลางถนน ที่เพิ่งเดินผ่านมา แว๊บหนึ่งในความคิดก็คิดขึ้นมาว่า ชายคนนี้จะตาบอดจริงหรือไม่ จึงจูงมือของเขา เดินกลับทันที

ในจังหวะที่ผมจูงมือเขากลับมานั้น ขาของเขาก็เหยียบเข้ากับกองขี้ควายเข้าอย่างจัง ผมและเพื่อนๆ ของเขา ต่างก็พากัน หัวเราะชอบใจ ไปตามๆกัน ชายตาบอดคนนั้นบ่นพึมพำ ในใจเขาต้องรู้ว่า ผมแกล้งเขา เข้าให้แล้ว

พอผมทำแล้ว ผมก็ไม่ได้คิดอะไร คิดแต่เพียงว่ามันเป็นเรื่องสนุกสนานเท่านั้น ไม่เคยคิดสักนิดเลยว่า มันจะเป็นบาป เป็นกรรมอะไรหนักหนา

ต่อมาผมก็ได้แต่งงานกับสาวงามคนหนึ่งในหมู่บ้านเดียวกัน จากนั้น ผมก็ยึดอาชีพ ทำนา ตามพ่อแม่ ที่เคยทำมา

สิ้นฤดูทำนา ผมก็ได้ไปรับจ้างทำงานทั่วไป เคยฆ่าวัวฆ่าควายมาหลายตัวเหมือนกัน ในระยะมีลูกมีเมียนี้

พระท่านว่า กงกรรมกงเกวียน มันจะหมุนวนหมุนเวียน คือกรรมที่ผมได้เคยก่อเคยสร้างเอาไว้ บัดนี้มันก็ได้ ย้อนรอย มาสู่ชีวิตของผมเข้าจนได้

คือเมื่อสองปีที่แล้ว ราว พ.ศ.๒๕๔๔ อายุผม ๕๘ ปี หลังจากที่ผมกลับมาจากการทำงาน เป็นช่างไม้ ก่อสร้างบ้าน ที่ อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ ในเย็นวันนั้น.....พอผมกลับมาถึงบ้านแล้ว ผมรู้สึกปวดๆ เมื่อยๆ และ เหนื่อยอ่อน ตามร่างกาย

ผมก็คิดว่า เราไปทำงานหนักมา ร่างกายคงจะพักผ่อนไม่เพียงพอ เราควรจะไปหาหมอ เพื่อให้หมอ ฉีดยา บำรุงร่างกาย ให้ร่างกายของเรา แข็งแรงจะดีกว่า

ผมจึงได้ไปฉีดยากับหมอ ที่คลินิกซึ่งเปิดขึ้นในหมู่บ้าน ฉีดยาตอนเย็น พอตอนเช้าผมตื่นขึ้นมา รู้สึกว่า ตาของผม ด้านซ้าย มองไม่ค่อยจะเห็น มันเป็นพร่าๆมัวๆ ผมก็หายามาหยอดตา แต่มันก็ไม่หาย เป็นอยู่ ๔ วัน ตาของผมด้านซ้าย ก็บอดไปเฉยๆ อย่างนั้นแหละ

หลังจากนั้นอีก ๔ วัน ผมให้ลูกสาวพาไปหาหมอที่โรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น เพื่อจะได้ให้หมอตรวจดูว่า ตาของผม ที่มืดบอดลงไปนี้ มันมีสาเหตุอันใด พอที่จะรักษาให้หายได้เป็นปกติหรือไม่

เช้าวันนั้น ขณะที่ผมเดินจะก้าวขาขึ้นไปบนรถโดยสาร หัวเข่าของผมได้ไปกระแทกเข้ากับตัวถังของรถ อย่างแรง เท่านั้นแหละ ตาของผมด้านขวาที่เหลืออยู่ ก็มืดบอดสนิทลงไปอีก มันทำให้โลกทั้งโลก ที่เคยสว่างไสว ต้องมืดสนิทลงทันที

ผมก็ให้ลูกสาวรีบพาไปหาหมอ หลังจากที่คุณหมอมาตรวจดูตาเรียบร้อยแล้ว คุณหมอก็บอกว่า เซลตาของคุณลุง อักเสบ หมอช่วยอะไรไม่ได้แล้ว ใจผมนี้หายแว่บไปเลย นึกไม่ถึงว่า เราจะมาตาบอด ในยามแก่

ผมก็ยังไม่ละความพยายาม จากนั้นผมก็เลยให้ลูกสาวพาไปหาหมอ ที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ เผื่อหมอ จะมีช่องทาง ช่วยผมได้บ้าง คุณหมอที่นี่ก็บอกว่า หมอช่วยอะไรคุณลุงไม่ได้แล้ว

ผมเลยให้เมียและลูกสาว พาไปหาหมอดูนั่งทางใน หลังจากหมอดูตรวจดวงชะตา และนั่งทางใน เรียบร้อยแล้ว ก็บอกว่าช่วยอะไรไม่ได้แล้ว เพราะโรคที่ทำให้ตาของคุณลุงเป็นในครั้งนี้ เกิดจากโรคของ วิบากกรรม คุณลุงลองคิดทบทวนดูซิว่า เคยไปทำกรรมกับตาของคนหรือสัตว์ตัวใด จนตาเขา มืดบอดมาบ้างไหม

ผมก็ตอบไปว่า เคยบีบตาตั๊กแตนจนตามันบอด และเคยแกล้งคนตาบอด

หมอดูเลยสรุปให้ฟังว่า กรรมอันใดก็ตาม จะเป็นกรรมดีหรือกรรมชั่วที่เราทำเอาไว้แล้ว กรรมกรรมนั้น ก็จะเป็นกรรม ของเราทันที และมันก็พร้อมที่จะมาสนองคืนกับเรา ไม่ช้าก็เร็ว จะได้รับผลของกรรม ที่ตนได้ กระทำขึ้น มานั้นแน่นอน ดังคุณลุงได้รับอยู่ในขณะนี้

พอผมได้รู้สาเหตุแห่งกรรม ที่ทำให้ผมตามืดบอดทั้งสองข้างแล้ว ใจผมก็ปล่อยวาง ไม่เป็นทุกข์ ไม่คิด จะไปรักษา ที่แห่งใดอีกแล้ว จากนี้ไปผมก็จะยอมชดใช้กรรม ที่ผมได้กระทำเอาไว้นั้น สุดแท้ แต่กรรมเวร จะทำให้ผมนี่ อยู่ในโลกมืด อีกนานเท่าใด

คุณพ่อเกียง เสมอใจ กล่าวกับผู้เขียนในที่สุด

- ก่อแก่น -

สารอโศก อันดับ ๒๖๑ มิถุนายน ๒๕๔๖