หน้าแรก>สารอโศก

คือวันแม่

สามร้อยหกสิบห้าวันคือวันแม่
มิใช่แค่วันใดให้นึกถึง
สม่ำเสมอสมัครจิตคิดคำนึง
เหมือนแม่ซึ่งรักลูกครบทุกวัน

นี้คือคำขวัญที่สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ พระราชทานเนื่องในวันแม่แห่งชาติ ฟังแล้ว ก็รู้สึก ซาบซึ้ง ประทับใจในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ ซึ่งทรงสอนให้เราสำนึกว่า วันแม่นั้น มิใช่มีแค่ วันเดียว แต่มีทั้งหมด"สามร้อยหกสิบห้าวัน ที่เราต้องนึกถึง และสำนึกในพระคุณ"

ในวันแม่ปีนี้ ชาวอโศกทั้งมวลก็ได้จัดงานเทิดพระคุณแม่ขึ้น เฉกเช่นทุกปี เพื่อเป็นการ ตอกย้ำ ให้กับพวกเรา สำนึกในพระคุณของแม่ให้มากยิ่งขึ้น

งานวันแม่ที่สันติอโศก กรุงเทพฯ
ปีนี้ทางร.ร.สัมมาสิกขาสันติอโศก ได้ส่งจดหมายเชิญผู้ปกครองของเด็กๆมาร่วมงานวัน แม่เช่นทุกปี แต่ที่เพิ่มมาก็คือ การร่วมสัมมนาผู้ปกครองตั้งแต่วันศุกร์ที่ ๘ ถึงวันอาทิตย์ที่ ๑๐ สิงหาคม โดยปีนี้ เป็นปีแรก ของการสัมมนาผู้ปกครอง เพื่อประสานสัม พันธ์ระหว่างผู้ปกครอง ด้วยกันเองและคณะคุรุ สร้างความเข้าใจ ที่ถูกตรงเกี่ยวกับระเบียบแบบแผน ข้อปฏิบัติ และการดำเนินการ ของโรงเรียน อีกทั้ง ร่วมกันเสนอแนวคิด เรียนรู้วิถีชีวิตของเด็ก นักเรียน และชาวชุมชน ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือ จากผู้ปกครอง ส่วนมาก ที่เดินทางมาอยู่ร่วมการสัมมนาเป็นเวลา ๓ วัน

วันเสาร์ที่ ๙ สิงหาคม รายการวันแม่ ของนักเรียนสัมมาสิกขา เริ่มขึ้นเมื่อเวลา ๑๗.๐๐ น. รับประทาน อาหารเย็น ร่วมกัน รายการอาหารเย็นนั้นได้แก่ ขนมจีน-น้ำยา ข้าวเหนียว-ซุปหน่อไม้ ซึ่งได้รับการอุปการะ ฝีมือ และแรงงาน จากการรวมตัวเฉพาะกิจของพี่ๆ ศิษย์เก่ าสัมมาสิกขา สันติอโศก ดังเช่นหลายปี ที่ผ่านมา ส่วนนักเรียนสัมมาสิกขาทำน้ำกาแฟ- ถั่วเหลือง ซาลาเปา เคอร์รี่พัฟ และขนมหม้อแกง เป็นฝีมือ ของผู้ปกครองสัมมาสิกขา ที่สอนทำ โดยลูกๆหลานๆสัมมาสิกขา เรียกรายการนี้ว่า "ลูกทำได้" คือเมื่อ ลูกทำได้แล้ว ก็สอนผู้ปกครอง ทำได้ด้วยได้รับความสนใจ จากผู้ปกครองมาก ขอจดสูตรกัน ใหญ่

เย็นวันนี้ ได้จัดเวทีวันแม่ขึ้นที่ศาลาฟังธรรม นักเรียนทุกคนต่างตื่นเต้นที่จะได้แสดงละครให้ ผู้ปกครอง ของพวกเขาดู แต่นั่นก็ยิ่งทำให้พวกเขาตั้งใจใช้ฝีมือและศักยภาพอย่างเต็มที่ เพื่อทุกสายตานั้น คุ้มค่าที่มา ให้กำลังใจ และให้คุณแม่ภูมิใจในตัวลูกๆ โดยปีนี้มีสมณะกล้าจริง ตถภาโว กล่าวเปิดรายการเวลา ๑๘.๑๐ น. แล้วรายการแสดงที่เปิด ประเดิมก็คือ การร้องเพลงประสานเสียง เพลง "ขันติต้องไม่จาง" ของเหล่า ผู้ปกครองสัมมาสิกขา จากนั้นก็เป็นรีวิวเพลงและละคร ซึ่งลูกๆ ตั้งใจแสดง ให้คุณแม่คุณพ่อ และ ผู้ปกครองได้ดูกัน โดยมีพิธีกร และฝ่ายประสานงาน การแสดงเป็นพี่ๆม.๖

"ชีวิตใหม่ในสัมมาสิกขา"เป็นละครของน้องม.๑ ที่จะสื่อถึงการใช้ชีวิตแบบใหม่อย่างสัมมาสิก ขาปี ๑ ส่วน ละครของ ม.๒ นั้นมีชื่อเรื่องว่า"แผ่นดินแม่" เป็นละครเกี่ยวกับความรักชาติ รักในแผ่นดินมาตุภูมิ ระบอบ ประชาธิปไตย และการขยายอา ณานิคมของชาติตะวันตก ด้วยการเผยแพร่วัฒนธรรมใหม่ๆ หากชาวไทย ไร้ชาตินิยมก็จะเป็นจุดจบของประเทศไทย "ลูกผู้ชายตัวจริงฮิปโปๆแดง" เนื้อเรื่อง สื่อให้เห็น ถึงความรัก ความห่วงใย และการให้อภัยของแม่ที่มีต่อลูก แม้ลูกจะหลงเชื่อ ไปกับคำหวานของผู้ชาย จนทำให้ ตัวเอง ต้องช้ำใจก็ตาม เนื้อเรื่องซาบซึ้ง แต่ กลับเป็นละครที่เรียกบรรยากาศครึกครื้นได้ดีทีเดียว (แม้แต่ตัวผู้เขียน ดูตั้ง ๔-๕ รอบ ก็ยังอดขำไม่ได้)

หลังจากนั้น ก็มีการกราบชาวชุมชนผู้มีพระคุณ ผู้เปรียบเสมือนแม่ที่สองที่คอยให้คำแนะนำ ติง เตือนเสมอ เมื่อเราทำ ไม่ถูกไม่ควร ก็ให้ความอบอุ่น และเกื้อกูลตลอดมา จนเวียนไปถึงกราบแม่ที่หนึ่ง ซึ่งเป็นพิธี ที่จัดขึ้น อย่างเป็นกันเอง และน่ารักๆ ตามแบบฉบับของ นักเรียนสัมมาสิกขา เพื่อกราบขอบพระคุณ และ แสดงให้ท่านเห็นว่า เรายังไม่ลืมพระคุณของท่านทั้งสอง

และละครฟอร์มยักษ์ของปีนี้ เป็นของนักเรียน ม.๔ และม.๕ ร่วมกันนำเสนอเรื่อง"การรอคอย ครั้งสุดท้าย" กำกับการแสดงโดย คุรุวิชาภาษาไทยหรือที่เด็กๆเรียกกันว่า"พี่เสือ"(อาชุบ)นั่นเอง เป็นเรื่อง เกี่ยวกับความรัก ความห่วงกังวล ของหญิงคนหนึ่ง ผู้เป็นแม่ ซึ่งสามารถเลี้ยงดูลูกทั้ง ๕ คน ได้จนเติบใหญ่ ต่าง แยกย้าย กันไปทำมาหากิน ร่ำเรียน มีครอบครัวที่จะต้องคอยห่วงคอยกังวล แต่กลับไม่มีลูกคนใดเลย ที่จะหันหลัง กลับมาสนใจแม่ผู้ให้กำเนิด แม้วาระสุดท้ายของชีวิตที่ จบลงพร้อมกับการรอคอย และรับรู้ความจริง อันเจ็บปวดว่า...ตนเป็นแม่ที่ถูกลูกลืม...จนสิ้นใจ

ปิดท้ายรายการประมาณ ๒๑.๐๐ น. โดยส.กล้าตาย ปพโล กล่าวสรุปปิดงาน

อาทิตย์ที่ ๑๐ สิงหาคม วันนี้เป็นการจัด กิจกรรมวันแม่ของนักเรียนสัมมาสิกขาสันติอโศก ร่วมกับ นักเรียน พุทธธรรมวันอาทิตย์ โดยเน้นถึงพิธีกรรมการสวดสรรเสริญคุณบิดามารดา และการกราบแม่ เป็นแกนหลัก ของงาน งานเริ่มเวลา ๑๒.๑๐ น. โดยได้นิมนต์สมณะซาบซึ้ง สิริเตโชกล่าวเปิดงาน จากนั้น ก็เป็นการอ่าน เรียงความ ของนักเรียนสัมมาสิกขา ด.ญ.จันทรามาศ ประดิษฐ์พล ซึ่งได้ รับรางวัลชนะเลิศอันดับ ๑ ได้เขียน บรรยายความรู้สึกเริ่มต้นถึงแม่ด้วยความน้อยใจ ที่แม่ให้ความรักน้อยกว่าน้อง รู้สึก เกลียดแม่ จนวันหนึ่ง เมื่อได้รับบาดเจ็บ โดยอุบัติเหตุจนเอ็นที่นิ้วทั้ง ๓ ขาด ต้องทำการผ่าตัด แม่เป็นกังวล ร้องไห้ และ ลางานมาเยี่ยม มาให้กำลังใจเธอบ่อยๆ จนรับรู้ ได้ถึงความห่วงใย ความรักของแม่ และเธอ จะรักแม่ ตลอดไป หลายคนได้ฟังแล้ว ก็พลอยร้องไห้ไปด้วย

ยิ่งเมื่อรายการต่อจากนั้น เป็นการกราบแม่บนเวที แม่ลูกบางคู่ถึงกับร้องไห้จนตัวโยกไป ตามๆกัน บ้างที่เก็บ อาการหน่อย หน้าตาก็จะแดงๆไปเป็นแถว (หลายคนจับเอาหัวข้อเรียงความ และการกราบแม่ มาเป็นหัวข้อ สนทนา ภายในวง ไม่เว้นแม้แต่ผู้ใหญ่ ชาวชุมชน บรรยากาศวันแม่ปีนี้ จึงคุกรุ่นไปด้วย ไอรักของแม่ อย่างอบอวล)

จากนั้นก็เป็นการแสดงน่ารักๆและได้สาระ ของเด็กนักเรียนพุทธธรรมวันอาทิตย์ การร้องเพลง "ใครหนอ" ของผู้ปกครอง นักเรียนพุทธธรรม และการแสดงของนักเรียน สัมมาสิกขาสันติอโศก ท้ายเกือบสุด หรือก็คือ เกือบสุดท้ายของรายการ เป็นการร่วม กันร้องเพลง"อิ่มอุ่น" ของลูกๆ ซึ่งถือเป็นการ ปฏิบัติ ที่ติดต่อกันมา ทุกปี เด็กๆร้องเพลงถูกบ้างผิดบ้าง ทำเอาผู้ร้องและ แม่ๆผู้ฟังอดอมยิ้ม อย่างมีความสุข ไม่ได้

เวลา ๑๕.๑๕ น. สมณะกล้าตาย ปพโล กล่าวให้โอวาทก่อนปิดงาน ถึงการย้อน ระลึกถึงพระคุณ และ การตอบแทน พระคุณของแม่ ควรทำเมื่อท่านยังมีชีวิตอยู่ ใช่ว่านึกจะตอบแทนพระคุณ เมื่อท่านจากไป นั่นก็สายเสียแล้ว

วันแม่ปีนี้ก็จบลงด้วยความรัก ความผูกพันของแม่และลูก ที่ยังคงเป็นสายใยอัน อ่อนละมุน หากแต่ เหนียวแน่น และมีพลังแห่งรักจนนิจนิรันดร์


ปฐมอโศก จ.นครปฐม

งานวันแม่ที่ปฐมอโศก จัดขึ้นเมื่อเวลา ๐๘.๐๐ น. ของวันที่ ๑๑ สิงหาคม และสิ้น สุดลงเมื่อเวลา ๑๔.๓๐ น. ของวันที่ ๑๒ สิงหาคม โดยมีการปฐมนิเทศ การเปิดใจ การแสดงภาคค่ำของลูกๆ และ การระดมสมอง ของผู้ปกครอง เพื่อหาวิธีร่วมกันพัฒนาลูกๆ ที่พิเศษกว่าทุกปีคือ ให้แม่ๆและผู้ปกครอง ร่วมกันขัดห้องน้ำ ที่ลูกๆ ของตน ดูแลรับผิดชอบ ลูกที่ขัด ห้องน้ำไม่สะอาดต่างร้องโอยไปตามๆกัน

หลังจากพิธีกรรมวันแม่สิ้นสุดลง สมณะ สิกขมาตุแต่ละรูป ให้โอวาทก่อนที่ผู้ปกครอง จะเดินทางกลับ จึงนับว่า เป็นโชคดีของผู้ปกครอง เพราะนอกจากจะได้พูดคุยกับลูกๆแล้ว ยังได้รับธรรมะกลับบ้านด้วย มีผู้มา ร่วมงานประมาณ ๓๐๐ คน

งานวันแม่ปีนี้บรรยากาศในงานดูอบอุ่น ประกอบกับความรักที่แม่และลูกให้กัน จากใจจริง ยิ่งทำให้งาน มีความหมาย ลึกซึ้งกว่าทุกป


สีมาอโศก จ.นครราชสีมา

ได้ร่วมกันจัดงานวันแม่ขึ้น ในวันที่ ๑๐ เดือนสิงหาคม ๒๕๔๖ ด้วยหัวข้องาน ที่ว่า "เพื่อแม่ แพ้บ่ได้" งานเริ่ม ตั้งแต่ตี ๔ มีการประชุมผู้ปกครองนักเรียนสัมมาสิกขาในช่วง ๘ โมงเช้า หลังจากที่แม่ๆลูกๆ ได้ทำบุญ ตักบาตรเรียบร้อยแล้ว ก็มารวมกันที่ ศาลาส่วนกลาง

พิธีเริ่มประมาณ ๙ โมงเช้า โดยมีสมณะน่านฟ้า สุขฌาโน และสิกขมาตุผุสดี ให้โอวาท จากนั้น ก็เป็นพิธี สวดสรรเสริญคุณบิดามารดา ร้องเพลง และอ่านกลอนวันแม่ บรรยากาศเริ่มอบอุ่นยิ่งขึ้น เมื่อนักเรียน แต่ละคน มอบดอกมะลิให้กับคุณแม่ น้ำตาของแม่และลูกก็เริ่มไหล แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ที่ลูกและแม่ จะได้มาอยู่ด้วยกัน แต่ก็เป็นเวลาที่ดีที่สุดที่ลูกๆทุกคนจะได้มอบความรักให้แก่แม่ จากนั้นก็มี การมอบ รางวัล ศีลเด่น-เป็นงาน-ชาญวิชา ให้แก่นักเรียน และมีการแสดงในช่วงรับประทานอาหาร

แม้งานปีนี้จะจัดในระยะเวลาสั้นๆ เพราะต้องแบ่งเวลาออกมาจากงานอบรม เกษตรกร แต่ทุกคน ก็ทำงาน อย่างเต็มที่ เพื่อคนที่ตนรักที่สุด แม้บางคนจะเหนื่อยจะท้อ แต่ต่างก็เข้าใจซึ่งกันและกัน งานนี้จึงบอกได้ อย่างเต็มที่ว่า "เพื่อแม่ แพ้บ่ได้"


ศาลีอโศก จ.นครสวรรค์
มีการจัดงาน ๒ วัน โดยวันที่ ๑๑ สิงหาคมเป็นการจัดภายในระหว่างนักเรียน และผู้ปกครอง เริ่มต้น ด้วยการ ทำวัตรเช้า เปิดใจชีวิตในวัยเด็กของสมณะ จากนั้นก็เป็นการขนกรวด ขนทราย สานสัมพันธ์แม่ลูก ต่อมา เป็นพิธีกราบ แม่ โดยมีนักเรียนจากโรงเรียนหนองบัว ๔๔ คน มาร่วมตักบาตร และทำพิธี กราบแม่ด้วย ซึ่งก่อนถึงพิธีเป็นการอ่านเรียงความวันแม่ ที่ชนะการประกวด ปรากฏว่าเรียก น้ำตาจากผู้ฟัง ได้มากเลยทีเดียว

ช่วงบ่ายเป็นการประชุมสัมนาคุรุและผู้ปกครอง มีการก่อตั้งชมรมผู้ปกครอง นักเรียนสัมมาสิกขา ศาลีอโศกขึ้น ส่วนภาคค่ำ เป็นรายการบันเทิงระหว่างแม่ลูก มีการร้องเพลง รำวง เปิดใจประธาน ชมรม ผู้ปกครองฯ คือ คุณแม่วีณา ทัศศรี รองประธานฯ คือ คุณอังคณา เชี่ยงหว่อง

วันที่ ๑๒ สิงหาคม มีการทำวัตรเช้า เปิดใจแม่กับลูกๆ และการจัดกิจกรรม เชื่อมประสานกับ ทางรายการ วิทยุชุมชนไพศาลี โดยพี่เลี้ยงพาเด็กๆที่มาร่วมงานตั้งแต่เช้า พัฒนาสถานที่ และฟังธรรมจากสมณะ จากนั้น มีการประกวดร้องเพลง และ แต่งกลอนเกี่ยวกับแม่ มีการแสดงละคร จากนักเรียน สัมมาสิกขา เรื่อง "วัฒนธรรมไทย" ซึ่งได้รับการ ติดต่อขอให้ ไปแสดงที่ศาลเจ้า ให้ชาวไพศาลีได้ดูด้วยในวันเดียว กัน


ภูผาฟ้าน้ำ จ.เชียงใหม่
ปีนี้มีคุณแม่ของเด็กนักเรียนสัมมาสิกขาฯมาร่วมงานกันอย่างอบอุ่น โดย เริ่มงานตั้งแต่ ๐๓.๓๐ น. เป็นรายการ สมณะฯแต่ละรูป รำลึกถึงพระคุณของโยมแม่ เวลา ๐๘.๐๐ น. แม่ๆและลูกๆ ร่วมกันใส่บาตร ๐๙.๐๐ น. พิธีเปิดงานโดยอาจารย์ ๑ สมณะ บินบน ถิรจิตโต พูดถึงสภาวะของผู้เป็นแม่ที่มีแต่ให้ เราจะต้อง เป็นผู้ให้ซึ่งกันและกัน

จากนั้นนักเรียนสัมมาสิกขาอ่านเรียงความ และบทกลอนที่เขียนรำลึกถึงพระ คุณของแม่ ที่ชนะ การประกวด บรรยากาศลูกๆอ่านไปน้ำตาไหลไปด้วย เพราะความซาบซึ้งถึงพระคุณของแม่ บวกกับ คิดถึงแม่ มีบางคนแม่ไม่ได้มา ร่วมงาน เพราะติดภารกิจ

ช่วงรับประทานอาหาร ก็มีการแสดงต่างๆ ของนักเรียนเช่น ละคร รีวิวประกอบ เพลง ร้องเพลง เป็นต้น และรอบๆ ศาลาฟังธรรม ก็จะมีซุ้มอาหารต่างๆไว้บริการ

ช่วงเย็นเวลา ๑๘.๐๐-๒๐.๐๐ น. เป็นการสัมภาษณ์คุณแม่ของเด็กนักเรียน ดำเนินรายการโดย สมณะ ลานบุญ วชิโร เป็นประสบการณ์ชีวิตของแม่ที่เลี้ยงลูกมาต้องทุกข์ยากลำบากอย่างไร แล ะแม่ของแม่ เลี้ยงลูก มาอย่างไร จบรายการวันนี้ด้วยพิธีกราบแม่ของลูก ทั้งแม่และลูกๆ ชาวชุมชนต่างก็ซาบซึ้ง ประทับใจ น้ำตาไหลกันทั่วศาลา


ราชธานีอโศก จ.อุบลราชธานี
งานวันแม่เริ่มจัดตั้งแต่เช้าวันอาทิตย์ที่ ๑๐ สิงหาคม'๔๖ ในช่วงก่อนฉัน ซึ่ง ตรงกับวันสุดท้าย ของงาน อบรม พ่อท่านได้แสดงธรรมก่อนฉัน โปรดทั้งผู้อบรมฯและคุณแม่ด้วยภาษาอีสาน

๑๖.๐๐-๑๘.๐๐ น. สัมมนาผู้ปกครองนักเรียนโดยสมณะฟ้าไท สมชาติโก และสิกขมาตุกล้าข้ามฝัน ต่อมา ในเวลา ๑๘.๓๐ -๒๑.๓๐ น. เป็นการแสดงละครสะท้อนชีวิต ปีนี้เด็กๆแสดงละคร สู่แกนโลกุตระ ทั้งหมด ซึ่งเป็นของนักเรียน ตั้งแต่ชั้น ประถมฯถึงมัธยมปลาย

วันจันทร์ที่ ๑๑ สิงหาคม ผู้ปกครองร่วมทำวัตรเช้าโดยสมณะฟ้าไท และ สิกขมาตุกล้าข้ามฝัน หลังทำวัตร ออกกำลังกายร่วมกัน และแบ่งผู้ปกครองเป็น ๓ กลุ่ม เรียนรู้สัมมาอาชีวะ ตามความสนใจ เรื่องกสิกรรม ไร้สารพิษ การทำอาหารมังสวิรัติ และการทำปาท่องโก๋ เวลา ๐๙.๐๐ น. ฟังเทศน์วันแม่โดย สมณะเดินดิน ติกขวีโร กล่าวถึง แม่ทำทุกอย่างเพื่อลูกมาตลอด ไม่เคยนึกถึงตนเอง สิ่งที่แม่ทำได้ยากคือ เลิกคิดถึงลูก จึงขอให้แม่ หันกลับมาระลึกถึง การสร้างอาริยทรัพย์ให้แก่ตนเองบ้าง ล้างจิตความผูกพันให้ได

จากนั้นเวลา ๐๙.๓๐-๑๐.๐๐ น. ผู้ใหญ่บ้านนำเคารพพระบรมสาทิสลักษณ์สมเด็จ พระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เปิดกรวยแพ พานธูปเทียน ร่วมกันสวดบทบูชาแม่ ตัวแทนนักเรียน กล่าวระลึกถึง พระคุณแม่ พร้อมกับร้องเพลงลูกแม่ร่วมกัน จากนั้นก็เป็นพิธีกราบแม่ โดยมีคุรุดินดอน ธนะโภค ดำเนิน รายการ บรรยากาศ ซาบซึ้งประทับใจ น้ำตาของแม่ลูกท่วมศาลา ก่อนน้ำจริงจะมา รายการสุดท้าย คือ คุณแม่เปิดใจ และ รับประทานอาหารร่วมกัน


ทักษิณอโศก จ.ตรัง
ปีนี้เป็นปีที่ ๒ สำหรับการจัดงานวันแม่ วันที่ ๑๑ ส.ค. สมณะและชาวชุมชนร่วมกัน ทำวัตรเย็น ให้แต่ละคน กล่าวถึงความรู้สึกที่มีต่อแม่

วันที่ ๑๒ ส.ค. มีผู้ร่วมกิจกรรมเพียงชาวชุมชนและญาติธรรมข้างนอก เนื่องจากทาง ชุมชนได้งดกิจกรรม พุทธธรรมวันอาทิตย์ จึงไม่มีเด็กนักเรียน และผู้ปกครอง มาร่วมสร้าง ความสนุกสนาน ร่าเริง โดยกิจกรรม เริ่ม ๐๙.๓๐ น. สมณะดินดี สันตจิตโต เทศน์เรื่อง แม่ แล้วก็มีพิธีกราบขอพรจากแม่ ของชาวชุมชน จากนั้น น้องๆก็กราบพี่ๆตามลำดับ

งานนี้ถึงแม้จะไม่มีเด็กๆมาสร้างสีสันและให้ความสนุก แต่บรรยากาศของงานก็เต็ม ไปด้วยความซาบซึ้ง และ ประทับใจ จนหลายท่านน้ำตาซึมไปตามๆกัน อีกทั้งยังมีการระลึกถึงพ่อท่าน ในฐานะแม่ ทางจิตวิญญาณ ของชาวอโศก ทำให้ทุกคน เกิดแรงบันดาลใจที่จะสร้างอิทธิบาท สืบสานงานศาสนา อย่างมี ประสิทธิภาพต่อไป


หินผาฟ้าน้ำ จ.ชัยภูมิ
เช้าวันที่ ๑๑ สิงหาคม ๒๕๔๖ เป็นวันแรกในรอบ ๒ ปี ที่ตั้งสังฆสถานมานักเรียนสัมมา สิกขาหินผาฟ้าน้ำ และ ผู้ใหญ่ มานั่งรอสมณะที่ศาลาโฮมดิน เพื่อทำวัตรเช้าในโอกาสวันแม่ นับเป็นมงคลจริงๆ ที่พิเศษ อีกมากๆ ก็คือ พ่อ-แม่ นักเรียน มาร่วมงานกันท่วมท้น โดยมีนักเรียนสัมมาสิกขาเลไลย์อโศก มาร่วมงานด้วย

หลังจากทำวัตรเช้าเสร็จลูกจูงมือแม่ร่วมกันอนุรักษ์สืบทอดวัฒนธรรมลงแขกดำนาเป็นภาพ ที่แสดง ความมีน้ำใจ พร้อมเพรียงสามัคคี อบอุ่น เห็นแล้วเป็นบุญตา น่าเลื่อมใสยิ่งนัก หลังจากนั้น จึงเป็น การทำบุญ ใส่บาตรกัน

๘.๐๐ น. ทำพิธีกรรมวันแม่ที่ศาลาทั้งแม่และลูก ต่างซาบซึ้งปีติน้ำตาไหลกันทั่วศาลา

ปีนี้ต่างจากปีที่ผ่านมาคือมีแม่มาร่วมงานมากขึ้น และได้มีเวลาใกล้ชิดสัมพันธ์กับลูกมาก ขึ้นกว่าทุกปี ทำให้แม่ ได้เข้าใจถึงความเป็นอยู่ของลูก ลูกก็ดีใจที่ได้มีส่วนช่วยให้แม่มีเวลาฟังธรรมจากสมณะ เป็นการสร้าง ความคุ้นเคย ระหว่าง แม่ คุรุ และสมณะ

เด็กๆมีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น มีความรับผิดชอบ มีทักษะในการทำ งานมีการ แก้ปัญหา ได้ดีขึ้น การแสดงละคร นักเรียนเข้าใจจัดฉาก นำเสนอได้ดี เห็นการพัฒนาของเด็กมากขึ้น

นี้คือส่วนหนึ่งของงานวันแม่แบบชาวอโศก ที่พยายามปลูกฝังให้ทุก คนมีความ กตัญญูกตเวที เราจะ ไม่นึกถึงแม่ เฉพาะวันงานเท่านั้น แต่จะต้องนึกถึงทุกๆวัน และกระทำการตอบแทน ส่วนจะตอบแทน ได้มากน้อย แค่ไหนนั้น ก็ขึ้นอยู่กับสำนึกของแต่ละคน

"ลูกที่ดี จะไม่มีเพียงแค่สำนึก
แต่จะแปลความสำนึก
ให้เป็นการกระทำที่ดี
เช่นนี้จึงจะชื่อว่า มีสำนึกดี"

เกษ - มล เรียบเรียง

(สารอโศก อันดับทื่ ๒๖๒ กรกฎาคม ๒๕๔๖)

i