หน้าแรก>สารอโศก


เลิกหวังใดๆจากเขา
ทุกวันนี้.....ยิ่งออกมาต่อสู้โลกภายนอก อยู่กับการทำงานค้าขาย ยิ่งเห็นแต่ของไม่เที่ยงแท้แน่นอน ปรารถนา สิ่งใดไม่ได้สมความปรารถนา ก็ยิ่งเห็นความเป็นทุกข์ ข้าพเจ้าทำใจไม่ค่อยได้ แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะว่า แก่แล้วยิ่งทำใจยาก สิ่งใดที่ไม่รักไม่ชอบ ยิ่งมาให้เห็น สิ่งใดที่ว่าดีแล้ว ก็เหมือนว่าจืดจางไป

ข้าพเจ้ารู้สึกว่ายังมีกรรม ชดใช้กรรมยังไม่หมด ไม่รู้ว่าจะมาเวียนว่ายตายเกิดกี่ภพกี่ชาติ วนเวียนอยู่ ในวัฏสงสาร มาชดใช้กรรมเก่าที่สร้างเอาไว้แต่ชาติปางก่อน แต่ในชาตินี้ก็ว่าทำดีให้ถึงที่สุด ตั้งจิต เอาไว้ว่า จะถือศีล กินมังสวิรัติไปตลอดชาติ เพราะยังไม่คิดเปลี่ยนแปลงเป็นอื่น รู้สึกว่ามังสวิรัติ เป็นปกติธรรมดา ไม่คิดอยากจะกินเนื้อสัตว์ เพราะสงสารเห็นเขาดิ้นรน กลัวเจ็บ กลัวตาย เหมือนกันกับมนุษย์เรา

และก็ไม่อยากมีเจ้ากรรมนายเวรมาจองล้างจองผลาญ เพื่อว่าชาติหน้าต่อไป นึกคิดสิ่งใด จะได้สมปรารถนา จะไม่มี มารผจญ จะไม่มีคนเบียดเบียน ถึงแม้ชาติหน้าจะกลับมาเกิดเป็นมนุษย์ ก็ขอให้เป็นมนุษย์ที่บริสุทธิ์ ประเสริฐ ทั้งกาย วาจา ใจ ให้ได้พบพระพุทธศาสนา พระมหากษัตริย์ ที่ท่านทรงไว้ ในคุณงามความดี มีคุณธรรม

ในหนังสือสารอโศก ดอกหญ้าและแสงสูญ ข้าพเจ้าก็พยายามทำตาม แต่ก็ได้บ้างไม่ได้บ้าง เพราะว่า อยู่ห่างไกลหมู่กลุ่มญาติธรรม พูดจาก็พูดแบบพื้นบ้านหรือประเพณีชาวบ้าน พูดกันอย่างง่ายๆ แต่ก็รู้สึก อบอุ่นใจ เหมือนว่ามีพี่น้องชาวอโศกคอยให้กำลังใจอยู่ตลอดเวลา

ทุกวันนี้ข้าพเจ้ากำลังต่อสู้ เพื่อจะได้ไม่ถือสา จะพยายามถือศีล เคร่งครัดที่ตน ผ่อนปรนผู้อื่น แต่ก็รู้สึกว่า ยากเหลือเกิน เพราะเขาเป็นคนใกล้ชิด อยากให้เขาดีพร้อม แต่เขาก็ทำไม่ดีพร้อมเหมือนอย่างใจ ข้าพเจ้า ก็อุเบกขาไม่ได้ ยังมีทุกข์ใจอยู่บ้างเป็นบางครั้ง.

*** สมนึก ป้องหลักคำ จ.นครพนม

ยิ่งเป็นคนใกล้ชิด ก็ยิ่งอยากให้เขาเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ หากเลิกอยาก เลิกหวังใดๆจากเขาได้ ก็จะไม่ทุกข์ใจ อย่างนี้เลย - บ.ก.

อิทธิพลทางอารมณ์
ดิฉันได้รับสารอโศกและดอกหญ้าทุกฉบับที่ท่านจัดส่งให้ ขอขอบพระคุณมากค่ะ ไม่ค่อยมีโอกาส ได้มาวัด ก็ได้รับ ข่าวสารของชาวอโศกจากทางหนังสือนี่แหละค่ะ พ่อบ้านก็ได้อ่านด้วย จากการสังเกต ของดิฉัน เขามีสติ มากขึ้น ใจเย็นมากขึ้นค่ะ ตั้งแต่ได้อ่านหนังสือและได้รู้จักกลุ่มอโศก ดูเขาชอบอ่าน เกี่ยวกับ การเกษตร เป็นพิเศษ ส่วนดิฉันชอบบทสัมภาษณ์พ่อท่านค่ะ

ดิฉันตั้งใจว่าต่อแต่นี้ไป จะพยายามไม่ใช้อารมณ์กับลูก จะใจเย็นให้มากกว่านี้ และพร้อมจะให้เวลา กับเขา มากขึ้น จะเข้าใจเขามากขึ้นค่ะ ถ้าดิฉันรู้ตัวว่ากำลังโมโหจะนับ ๑-๑๐๐ ค่ะ

ที่ดิฉันตั้งใจตรงนี้ เพราะดิฉันสังเกตว่าตอนนี้ลูกสาวคนโต(๕ ขวบ) เขากำลังมีปัญหา ทางด้านอารมณ ์และ จิตใจเป็นอย่างมาก มาคิดๆดูแล้ว ทั้งหมดมันเกิดจากเขาได้รับอิทธิพล ทางอารมณ์ จากแม่ และพ่อ นี่เองค่ะ ประกอบกับเขามีน้อง และดิฉันให้ความสำคัญกับน้องมากกว่าเขาด้วย คิดว่าเขา คงรู้สึกว่า ความรัก ถูกน้องแย่งไป หรือคิดว่าแม่รักน้องมากกว่า ทั้งๆที่ตัวเขาเองก็รักน้องมากด้วย

ดิฉันจะพยายามทำในสิ่งที่ตั้งใจไว้ให้ได้ค่ะ เพื่อจะได้ลูกที่ดีและน่ารักกลับมา แล้วดิฉัน จะเขียนมา รายงานผล ให้ทราบต่อไปนะคะ

*** เคียงขวัญ แรงสืบสิน สมาชิก ๒๕๗๗๗๖

คนใกล้ชิดมีอิทธิพลสำคัญนัก ฉะนั้นความมีมิตรดี สหายดี สังคมสิ่งแวดล้อมดี จึงเป็นทั้งหมดทั้งสิ้น ของการสร้างคนดี - บ.ก

.

ครูวิถีพุทธ
ก่อนอื่นต้องขอขอบพระคุณ ที่กรุณาส่งหนังสือดอกหญ้าและสารอโศก ให้ได้อ่านสม่ำเสมอตลอดมา สำหรับ ชีวิตการเป็นครูในปัจจุบัน ที่มีเรื่องราวมากมายให้เกิดความเครียด ก็ได้ผ่อนคลาย จากหนังสือ สารอโศกและดอกหญ้า ทำให้มีกำลังใจในการต่อสู้กับชีวิตโลกๆต่อไป

เมื่อ ๑๐ ปีที่แล้ว ดิฉันบรรจุเป็นครูชายแดน มีความสุขมากกับการสอนเด็กๆในถิ่นห่างไกลความเจริญ เด็กๆ บริสุทธิ์ และผู้ปกครองมีน้ำใจ แต่พอดิฉันย้ายกลับบ้านที่อยู่ใกล้ความเจริญ ด้วยเหตุผลคือ ดูแลบิดา-มารด และ สิ่งมอมเมา ครูในโรงเรียนไม่ค่อยสอน เอาแต่ประจบสอพลอ ผู้บริหาร สนใจ ทำผลงาน เพื่อหลอก ผู้มาตรวจ แรกเจอผัสสะเหล่านี้ ดิฉันรู้สึกเครียดและทำใจไม่ได้ อยากย้ายด่วน เพื่อหลบหนีปัญหา แต่ช่วง ปิดภาคเรียน ได้มางานปลุกเสกฯ ก็พอมีคำตอบให้กับชีวิตบ้าง แม้โจทย์จะยิ่งใหญ่ก็ต้องต่อสู้

ดีอยู่บ้างที่ได้อยู่โรงเรียนเดียวกับสามี ปฏิบัติธรรมด้วยกัน ขัดเกลาและให้กำลังใจกัน เข้าใจว่า เมื่อยัง ไม่ถึงเวลา ที่จะลาออกได้ เราก็ไม่ต้องหลบโจทย์ เพียงแค่อย่าให้โจทย์มีอำนาจเหนือชีวิตเรา มีความหวัง กับวันข้างหน้า ที่จะเป็นอิสระ คิดถึงครู-อาจารย์ มิตรดี สหายดี และคนที่เรารัก ก็พอคลายใจ

เวลาดิฉันสอนนักเรียน จะแทรกความรู้เรื่องสุขภาพและธรรมะเสมอ ถึงแม้จะ อนภาษาอังกฤษ(ม.๑-๓) ดิฉัน สงสารเด็กที่เขาไม่รู้ โดนโลกมอมเมา รวมทั้งครอบครัวที่ดูแลไม่เป็น เด็กวัยรุ่นค่อนข้างดื้อ แต่ก็ อ่อนไหวง่าย ดิฉันใช้ความรักสยบความก้าวร้าว เป็นบารมีที่ดิฉันเป็นคนไม่สวย (ตามแบบฉบับ ที่คน กำหนดขึ้น) โดยแท้ตระกูลครอบครัวของดิฉัน พ่อแม่ญาติพี่น้องเป็นคนจัดว่ า หน้าตาดี(เขาว่ากัน) มีแต่ดิฉัน ที่หน้าตาธรรมดาๆ และไม่สนใจ ที่จะตกแต่งตัวเอง ซึ่งเป็นมา ตั้งแต่เด็กๆ ดิฉันเคยทะเลาะ กับแม่บ่อย เมื่อตอนเป็นวัยรุ่น เพราะแม่ชอบบังคับให้แต่งตัว แต่ดิฉันไม่ทำ ใครๆที่พบเจอดิฉันก็จะพูดว่า เป็นลูกเป็ดขี้เหร่ สารพัดที่จะพูดถากถาง ดิฉันก็เจ็บปวดเพราะเป็นเด็กและไม่รู้ธรรมะ

แต่ประสบการณ์เหล่านี้ เป็นประโยชน์ต่อชีวิตปัจจุบัน เพราะทำให้ดิฉันเป็นคนแข็งแกร่ง ไม่ถือสาคน และ เห็นใจ ในชีวิตของคนอื่น ที่เลือกเกิดไม่ได้ ไม่ว่าจะอ้วน ผอม ดำ ขาว หรือพิการ ดิฉันเป็นคนสำรวมวาจา ที่จะพูดถากถาง เสียดสีผู้อื่น เพราะรู้ว่าเขาจะเจ็บปวดหรือไม่ ในขณะที่คนคิดว่าตัวเองสวย หรือหล่อ ไม่เคยเข้าใจ ความรู้สึกคนอื่น

เด็กนักเรียนเป็นกรรมการที่ดี ในการตัดสินว่า เมื่อแรกที่เขาชอบครูเพราะหน้าตาภายนอก แต่เมื่อคบคุ้น นักเรียน จะรู้สึกรักครู ที่ความดี เกิน ๙๐% ของนักเรียนทั้งหมด (ที่เหลือคืออาจเพราะมืดบอดเกินไป)

ดิฉันทานอาหารมังสวิรัติ ถือศีล ๕ ละอบายมุข ตลอด ๑๐ ปีที่ผ่านมา ศีล ๕ อาจมีบกพร่องข้อ ๑ บ้าง ข้อ ๔ บ้าง เป็นบางเวลาที่สติกำกับไม่ทัน ก็จะพยายามต่อไปค่ะ การแต่งกายก็ถือ ประโยชน์สูง-ประหยัดสุด ไม่หรูหรา ไปกับสังคม ผมไม่เคยยาวเกินคอตั้งแต่จำความได้ เป็นคนที่เห็นโทษภัยของผมยาวมาก เพราะเกะกะ สกปรก รุงรัง ดูแลยาก ตัดทุกเดือนไม่เกินหู ไม่เข้าใจว่าทำไมผู้คนจึงไว้ผมยาว หรือ อยากมี ผมยาว แม้กระทั่งศิษย์เก่าสัมมาสิกขา (ดูจากปกหนังสือสารอโศก) แต่คิดว่าเขาก็คงมีเหตุผลที่ดี มากกว่า กิเลสส่วนตัว

*** สมาชิก ๒๕๙๖๔๐ จ.สุรินทร์

ครูต้องมีพฤติกรรมเป็นตัวอย่างที่ดีแก่นักเรียน มีศีล ๕ ละอบายมุข เป็นครูวิถีพุทธให้ได้ เผื่อว่า พอมี ความหวัง สร้างโรงเรียนวิถีพุทธขึ้นมาได้ - บ.ก.

ปลอดภัยไว้ก่อน
ต้องขออภัยอย่างมาก ที่ไม่ได้ตอบรับกลับไปเป็นเวลานาน เพราะช่วงนี้ไม่ค่อยมีเวลาเลย ทั้งเรียนหนัก ทั้งทำงานด้วย ก็เลยเหนื่อยมากค่ะ กว่าจะหยิบหนังสือขึ้นมาอ่านได้ ก็ต้องใช้ความพยายามน่าดู แต่ทุกครั้ง ที่มองเห็น หนังสือดอกหญ้า-สารอโศก ก็รู้สึกอุ่นใจ เพราะเป็นเหมือนเพื่อนที่คอยให้กำลังใจเราตลอดเวลา

ต้องขอขอบพระคุณอย่างมาก เพราะนอกจากตัวข้าพเจ้าจะได้อ่านแล้ว คนรอบข้างของข้าพเจ้า พวกเขา ก็ได้อ่านด้วย จึงเป็นประโยชน์อีกต่อหนึ่ง ถือว่าได้ทำ ธรรมทานทีเดียวค่ะ ทุกครั้งที่เจอกับอุปสรรค หรือ ในยามที่เหงา ท้อแท้ พอได้อ่านสารอโศก-ดอกหญ้าแล้ว ทำให้มีพลังขึ้นมาสู้ต่ออีกครั้ง

ยิ่งทุกวันนี้ โลกภายนอกร้อนแรงมากทีเดียว จนบางครั้งก็กลัวถูกโลกโลกียะดึงดูดไปเหมือนกัน เพราะ ข้าพเจ้าเอง ก็เป็นวัยรุ่น เป็นนักศึกษา ทำให้มองเห็นค่านิยมของวัยรุ่นทุกวันนี้ ที่มันผิดไปจากแต่ก่อน ผู้หญิงยุคนี้ ใจง่าย ไม่รักนวลสงวนตัวเลย

ยิ่งในหมู่นักศึกษา ชอบแต่งตัวสวย มีโทรศัพท์มือถือ แต่งตัวโป๊ๆหน่อย พวกเขาจะยิ่งคิดว่ามันสวยมาก แล้วทุกคน ก็ต้องอยากมีแฟน ใครไม่มีถือว่าเชย ผู้หญิงสมัยนี้เขาคิดว่า การที่เขาเสียตัวให้กับผู้ชาย มันเป็นเรื่อง ธรรมดามาก ข้าพเจ้าได้ยินแล้วก็ใจหาย อยากขอเตือนเพื่อนๆหญิงด้วยกันนะคะว่า ผู้ชาย ทุกวันนี้ หาดีแทบไม่ได้เลย ส่วนใหญ่แล้วมีแต่กิน เที่ยวเล่น มั่วกามเป็นหลัก วันๆเอาแต่แต่งตัวหล่อ ใช้เงินเยอะ เสาะหาจีบผู้หญิง ไม่มีความรับผิดชอบอะไรเลย

เพื่อนผู้ชายเขาบอกข้าพเจ้าว่า คนที่รักกันจะต้องมีเซ็กซ์กันทุกคนเป็นเรื่องธรรมชาติ พอเบื่อคนนี้ ก็ไปคว้า คนใหม่ เขาคิดเหมือนฝรั่งเลยค่ะ และสรุปโดยภาพรวมแล้ว วัยรุ่นทุกวันนี้คิดอย่างนี้เกือบ ๘๐% แต่คนดีๆ ก็มีอยู่บ้าง แต่น้อยมากเลยค่ะ

ตัวข้าพเจ้าเองก็อยู่ทั้งสังคมภายนอก และได้คลุกคลีกับหมู่กลุ่มชาวอโศก จึงทำให้เข้าใจธรรมะได้ดียิ่งขึ้น มองเห็น ความทุกข์ได้ชัดเจนขึ้น นี่ถ้าหากว่าข้าพเจ้าไม่ได้รู้จักธรรมะก่อนล่ะก็ คงเป็นเหมือนคนทั่วๆไป ที่คิดว่า การปฏิบัติธรรมะเป็นเรื่องไร้สาระแน่ๆ

ข้าพเจ้าจะพยายามรักษาศีลให้บริสุทธิ์ รับประทานอาหารมังสวิรัติตลอดไป ถึงแม้จะไม่ได้อยู่วัด ก็จะ พยายามขัดเกลาตัวเอง และจะทำให้ดีที่สุดเท่าที่พละกำลังตัวเองจะทำได้ค่ะ

ขอบคุณหมู่กลุ่มชาวอโศก ที่ทำให้ข้าพเจ้ามีวันนี้ เป็นคนที่พยายามจะทำความดีให้ถึงที่สุด และถึงแม้ จะอยู่ห่างไกล ก็จะไม่ทิ้งธรรมค่ะ

*** มณฑาดอย จ.อุบลราชธานี

อยู่ในสังคมทุกวันนี้ เปรียบเสมือนอยู่ท่ามกลางฝูงหมาป่าดุร้าย ที่พร้อมจะขย้ำเราได้ทุกเมื่อ อย่าประมาทเด็ดขาด หมั่นรักษาศีลให้มั่นคงไว้เป็นเกราะป้องกันตัว แล้วจะอยู่รอดปลอดภัย - บ.ก.

ทำงาน-ทำธรรม
กระผมได้รับหนังสือแล้ว ทั้งดอกหญ้าและสารอโศกไล่เลี่ยกัน ขอขอบคุณมาก ที่ขอบคุณอีกเป็นอย่างสูง ก็คือ ผมได้รับกำลังใจจากธรรมปฏิสัมพันธ์ ทำให้มั่นใจและมีกำลังใจปฏิบัติธรรมมากขึ้น แต่ก็ยังจัดสรร เรื่องงาน ไม่ค่อยจะลงตัว เพราะตอนนี้ได้เพิ่มงานของตัวเอง คือกำลังฝึกทำเห็ดฟางโรงเรือนอยู่ ก็เลยทำให้ ไม่ค่อยมีเวลาไปช่วยทางหมู่กลุ่มเลยช่วงนี้ แต่ตัวเองก็มีความสุขกับการทำงานอยู่ เพราะคิดว่า การทำงาน ก็คือการปฏิบัติธรรม

ทำเห็ดก็เป็นการศึกษา และต้องการปุ๋ยจากฟางเก่าเห็ดไปใส่นาด้วย แต่เป็นโรงเรือน ก็ต้องลงทุน ไปมาก พอสมควร(เห็ดฟางไร้สารพิษ) คนอื่นเขาใช้ยูเรีย ปูนขาว แต่ของผมไม่ใช้ ใช้มูลวัว และปุ๋ยหมัก สูตรเรา นี้แหละ ก็ได้ผลดีครับ จะน้อยกว่าเขานิดหน่อยก็ไม่เป็นไร เพราะเราหวังเพื่อสุขภาพ ของคนกิน มากกว่า ไม่ได้หวัง เงินทองมากมาย

บางทีจังหวะอบรมก็เอาเห็ดไปส่งให้ส่วนกลางด้วย ก็คิดราคาทุน แต่ก็เต็มใจ อยากให้หมู่กลุ่ม ได้ทานเห็ด ที่ปลอดภัย จากสารเคมี เพราะว่าตามที่รู้ เชียงรายยังไม่มีเจ้าไหนทำเลย ส่วนใหญ่ก็จะเพียงเพื่อ ปลอด สารพิษ ไม่ไร้สารพิษ ส่วนของผมรับรองร้อยเปอร์เซ็นครับ ไร้สารพิษแน่นอน

*** อุดม อาสาสะนา จ.เชียงราย

การทำงานคือการปฏิบัติธรรม คนที่รู้ดีจริงแล้วเท่านั้น จะใช้งานที่ทำนั่นแหละเป็นการปฏิบัติธรรม เนื้องาน (เห็ด) ก็จะถูกธรรม(ไร้พิษ) คนทำงานก็จะถึงธรรม - บ.ก.

ชาตินี้แหละ
รู้สึกดีทุกครั้ง ที่ได้รับหนังสือสารอโศกหรือดอกหญ้า เพราะว่าได้อ่านครั้งใดก็มีกำลังใจครั้งนั้น เหมือนตัวเอง กำลังทำ บททดสอบอะไรสักอย่าง

ครึ่งปีที่ได้ฝึกกิน ๒ มื้อมา ต้องใช้ความอดทนพอสมควร (จากที่ก่อนนี้เคยกินวันละ ๓ มื้อเป็นปกติ และมี ๔ มื้อ ๕ มื้อบ้าง เป็นครั้งคราว) แต่ตอนนี้เริ่มชิน ถึงแม้บางครั้งจะหิวบ้าง แต่ก็ใช้ความอดทนเอาค่ะ น้ำหนัก ลดลง ๑ กิโลกรัม จากที่เป็นคนผอมอยู่แล้ว ก็เลยมีคนทักมากว่า ทำไมต้องทรมานตัวเอง ก็ตอบเขาไปว่า เมื่อก่อนกิน ๓ มื้อ ๕ มื้อ ยังไม่อ้วนเลย จึงลองกิน ๒ มื้อดูบ้าง พอเรามั่นคงแล้วก็คงไม่มีใครว่าอะไร แต่บางครั้ง ก็กินเกินเที่ยงไปบ้าง เพราะมีเหตุเป็นไป ก็ยังมีการอนุโลมให้ตัวเองบ้าง แต่จะไม่กินเกิน ๒ มื้อ

ถ้าเราไม่ผอมอย่างนี้ คนก็คงไม่ทักท้วงถ้าเราจะกิน ๒ มื้อ บางครั้งก็เบื่อตัวเองเหมือนกัน ไม่รู้จะขาด สารอาหาร หรือเปล่า แต่พออ่านสารอโศกลงจดหมายจากญาติธรรม ก็มีกำลังใจทุกครั้งไป เพราะบางคน เขาก็กินมื้อเดียว ยังอยู่ได้เลย ก็อยากทำได้ แต่ต้องค่อยเป็นค่อยไป เพราะสิ่งแวดล้อมที่อยู่ต่างกัน คิดว่า ถ้ามีหมู่กลุ่ม คงทำได้ง่ายกว่านี้

ตอนนี้ก็ฝึกตัวเองเป็นประจำ ฟังเท็ปธรรมะ อ่านหนังสือ สวดมนต์ จะทำให้เป็นปกติมีความหวังว่า ถ้าชาติหน้า จะได้เกิดมาอีก ก็ขอเป็นผู้ชาย ให้ได้มาบวชในพุทธศาสนา มีปัญญาแตกฉานในธรรมะ คงหวัง มากไปนะคะ ชาตินี้ก็ทำได้เท่าที่ทำได้ไปก่อน แต่ก็จะใช้ความพยายามทำให้ได้ดีที่สุดค่ะ

ให้กำลังใจตัวเองทุกวันในการฝึกปฏิบัติ ดูคนที่เขาทำได้ดี อยากดีอย่างเขา ล้มลุกบ้างก็ช่างมัน ดีกว่า ไม่พยายามเลย ไม่ใช่หรือคะ

*** สุมาลี แสงอำนาจ จ.สุพรรณบุรี

แม้เกิดเป็นหญิง ก็ถือศีลปฏิบัติธรรมในพระพุทธศาสนาได้ ไม่ต้องรอไกลถึงชาติหน้า ชาตินี้แหละ ถือศีล ทำดีให้เต็มที่ ลดกิเลสหมดก็เป็นพระอรหันต์ได้เลย - บ.ก.

แก่ศีลแก่ธรรม
แก่อีกปีแล้วนะ...วันเกิดใกล้เข้ามา แถมความชราของกายสังขารที่ไม่เที่ยง สายตายาว (มองใกล้เห็นไม่ชัด) ตามวัย ที่เลข ๔ นำหน้า ผมหงอกเริ่มบอกเตือน มีคนทักบอกถึงความเปลี่ยนแปลง ของวัย ส่องกระจกดู เออ... เราแก่แล้วจริงๆ ปล่อยผมหงอกเตือนตัวเอง ไม่ย้อมผมอำพรางวัย เผื่อเวลาทำอะไรผิดพลาด เพราะขาด ความเฉลียว เดี๋ยวก็คงมีคนมา"ถอนหงอก"ให้ ได้ระวังตัวเองไว้ก่อน

ได้เห็นหมู่กลุ่มเจริญก้าวไกล ก็อยากไปร่วม แต่ภาระดูแลพ่อแม่ที่ชราและป่วยอยู่ยังมี ยังไม่โชคดี เหมือนญาติธรรมคนอื่น

วิกฤตพิษไข้หวัดซาร์ส ทำให้ผู้คนมากหน้าแทบเป็นบ้ากัน ผมก็อยู่ในคนกลุ่มนั้น ได้ช่วยปลอบขวัญผอง เพื่อน คอยย้ำเตือนให้เพื่อนคลายเศร้า ต้องทนเอา...วิกฤตนี้สอนผู้คนให้รู้จักประหยัด อดออม พร้อมรับ กับความไม่แน่นอน ในวันข้างหน้าได้ ไม่ทุกข์ใจมากอย่างครั้งนี้ ได้พักงานประจำ ...ลุยงาน สาธารณกุศล เต็มที่ มุ่งสร้างความดี ให้แก่ตัวเองได้ ชื่นใจ ท่ามกลางภัยวิกฤตจากโรคร้าย แม้ไม่ป่วยเป็นมันเข้า แต่ก็ต้องเศร้า ปวดร้าวไปตามๆกัน

ขอขอบคุณที่ยังจัดส่งสารอโศก,ดอกหญ้า มาให้เป็นประจำ ได้นำไปให้เพื่อนที่ทำงาน อ่านด้วยทุกครั้ง วิกฤตของบ้านเมือง ที่เกิดขึ้นมากมาย สื่อความหมายให้วิถีชีวิตชาวอโศกเด่นขึ้น ผู้คนพร้อมยอมรับ นำไป ปรับเปลี่ยน วิถีชีวิตใหม่ สายน้ำใจแห่งชาวอโศก ไหลดับโศกทั่วไทยแล้ว ภูมิใจที่ได้ เป็นคนหนึ่ง ในหมู่กลุ่ม ชาวอโศก

*** นนท์ พิมลเอกอักษร จ.ภูเก็ต

ยิ่งนานวันก็ยิ่งแก่ พึงแก่ศีลแก่ธรรมเถิด เกิดมาชาตินี้ ชีวีจะได้ถูกใช้อย่างมีคุณค่าสูงสุด - บ.ก.

แจ้งข้อมูลฆราวาส
สาเหตุหนึ่งที่ตอบจดหมายช้าไปหลายเดือน คือได้ขับรถจักรยานยนต์ล้ม ลุกไม่ขึ้น ต้องมีคนมาช่วยยกรถ ยกคนขึ้น จึงเดินได้ ไปแค่คลินิก ๒ แห่ง ไม่ถึงกับไปโรงพยาบาล ไปหาหมอแรกฉีดยา-กินยา แต่หมอไม่บอก ให้ประคบน้ำแข็ง และห้ามย่างไฟภายใน ๒๔ ช.ม.หลังจากรถล้ม จึงทำให้เลือดออกมาก ไม่หยุดง่าย ต้องไปหา หมอเอกซเรย์อีก จึงรู้ผลว่าตัวเองไม่ประคบน้ำแข็ง และย่างไฟโดยอบไอน้ำ

ซึ่งแต่ก่อนรู้เหมือนกันว่าต้องทำอย่างนี้ พอถึงเวลาจริงๆกลับลืมเฉยเลย เป็นผลทำให้อาการหนักกว่าเดิม น่าจะหาย ภายในเวลา ๖-๗ วัน ต้องกลายเป็นเดือนๆ ดังนั้นจึงต้องพักผ่อน และทำงานเบาๆ ไปด้วย พร้อมกัน หยุดงานเลยไม่ได้ ลูกค้าจะหายหมด

หมอได้บอกว่าเป็นไตบวม ดีนะที่ไตไม่แตกตาย ดวงคงไม่ถึงฆาต จึงได้รอดมาได้ถึงทุกวันนี้ กว่าจดหมาย ฉบับนี้ จะถึงมือสำนักพิมพ์ฝ่ายรับจดหมาย ร่างกายคงหายดีขึ้นแล้ว แต่คงไม่เหมือนเดิมทีเดียว ขอเล่า อย่างย่นย่อ เท่านี้ก่อน

ได้รับหนังสือมาหลายเล่ม อ่านแทบไม่ทัน ต้องอ่านสู้ ไม่ให้แพ้คนเขียน ส่วนคนอื่นเห็นเขาอ่าน ๒-๓ วันจบ คิดว่า เขาทำได้อย่างไร เราต้องทำให้ได้อย่างนั้น หนังสือแต่ละเล่มเนื้อหาดีมาก ทันโลก ทันเหตุการณ์ โดยเฉพาะ ฉบับพุทธาภิเษกฯที่งานศีรษะอโศก คงเป็นเพราะอ่านแทบทุกหน้า จึงรู้สึกว่าดีมาก แม้แต่ เรื่องใหม่ ที่เพิ่งรู้ว่า เดี๋ยวนี้มีบุญญาวุธถึงหมายเลข ๔ แล้ว คือสุขภาพบุญนิยม หมอที่เก่ง ในการ รักษาโรค สมัยนี้ เอาค่ารักษาแพงมาก ส่วนตัวดิฉันเริ่มทำที่ตนเอง และทำให้แม่ ตั้งแต่ บุญญาวุธ หมายเลข ๑ มาจนถึง หมายเลข ๔ ก็ไม่ยุ่งยากอะไร สามารถทำได้ในราคาถูกมาก

ถ้าเล่าถึงหนังสือที่ส่งมาให้สมาชิกอ่าน อย่างฉบับ "คืนสู่เหย้า เข้าคืนถ้ำ สัมมาสิกขา" แม้แต่งาน "เพื่อฟ้าดิน" ที่ลงในเราคิดอะไร เนื้อหาสาระ ผลงานที่ออกมาเป็นผลเยี่ยมยอดมาก เมื่อ ๒ งาน มาผนึก กำลังรวมกัน ทำให้เห็นกำลังของหนุ่มสาว รวมถึงญาติธรรม ผู้ร่วมงานทุกท่าน ว่ามีพละกำลังมหาศาล ขนาดไหน โดยเฉพาะกำลังของคนรุ่นใหม่หนุ่มสาวทั้งหลาย ว่าต่อไปจะเป็นกำลังของศาสนา ได้อีกยาวไกล ต้องช่วยกัน สนับสนุนส่งเสริมให้จริงจังต่อไป

ล่าสุดได้ไปงานอโศกรำลึก ได้อ่านหนังสือ"ความคุ้นเคยเป็นญาติอย่างยิ่ง" ทำให้รู้จักกับสมณะ และ สิกขมาตุ มากขึ้น เนื่องจากญาติธรรมมีการงานภาระมาก จึงทำให้มีโอกาสคุ้นเคยกับสมณะ สิกขมาตุ น้อยลงไป พอได้อ่านหนังสือเล่มนี้ ทำให้ได้รู้จักท่านมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมเยอะเลย

ยังมีเรื่องต่างๆที่จะเล่าอีกมากมาย ถ้าจะเล่าลงในฉบับนี้หมด คงไม่จบง่ายๆ ดังนั้น จึงต้องเล่า เพียงย่นย่อ ก็พอ โอกาสหน้าต้องมีเรื่องเล่ากันอีก เพื่อตอบรับหนังสือที่ทางสันติอโศกได้ส่งมาให้อ่าน ดังนั้น จึงเป็น หน้าที่ ของสมาชิกหนังสือต้องตอบรับ และเล่าเหตุการณ์ที่อยู่ในชีวิตประจำวันที่บ้านตัวเอง ให้ทางวัด ได้รู้ข่าวบ้าง เป็นการแจ้งข้อมูลเรื่องราวของฆราวาสญาติโยมในชีวิตจริง

*** นงค์นุต โพธิ์ศรี จ.เลย

คอลัมน์"จดหมายจากญาติธรรม"นี้ สมาชิกหนังสือสนใจอ่านกันมาก เพราะต้องการรู้ข่าวคราว กับการ ปฏิบัติ ของญาติธรรมทั่วประเทศ ซึ่งเป็นประโยชน์มาก จึงหวังว่าบรรดาสมาชิกโปรดรีบตอบรับ และ แจ้งข้อมูล ให้ทราบด้วย - บ.ก.

(สารอโศก อันดับทื่ ๒๖๒ กรกฎาคม ๒๕๔๖)