หน้าแรก>สารอโศก


ฉบับนี้ได้ข้อมูลมาจากหนังสือพิมพ์มติชนรายวัน ฉบับวันพุธที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๔๖ พอได้อ่านตรงนี้แล้ว ก็ ย้อนนึกถึงข่าวฮือฮาที่ว่า น้ำปัสสาวะของเด็กชายก่อนวัยเจริญพันธุ์ มีสรรพคุณดีเยี่ยม แต่นี่เป็นข่าวฮอตฮิต มาเมื่อหลายปีก่อนแล้ว

สาเหตุที่จำได้แม่น เพราะว่าผู้เขียนก็ทันสมัยกับเขาเหมือนกัน โดยได้ทดลองดื่มปัสสาวะของหลานชายดู บ้าง ดื่มเข้าไปเต็มแก้ว เรื่องสี กลิ่น และรสชาติอย่าบอกใครเลย รสชาติผิดกับของเราเองที่ทานมังสวิรัติจะ ดื่มง่ายกว่า จึงคิดว่าอย่างไรๆของตัวเราเองดีที่สุด

ดังนั้นลองมาฟังจากคอลัมน์ประชาชื่น รายงานโดยคุณภาวิณีย์ เจริญยิ่ง กันเลยค่ะ

เป็นข่าวฮือฮาและโด่งดังไปทั่วโลก เมื่อชาวบ้านร้านถิ่นในมณฑลเจ๋อเจียงทางตะวันออกของประเทศจีน พิสมัยรายการอาหารสูตรเด็ด น้ำปัสสาวะเด็กชายผสมกับไข่ ถือเป็นยาบำรุงกำลังชั้นเลิศ ถึงขั้นต้องไปรอฉี่ สดๆ จากนักเรียนชายที่โรงเรียน

ข่าวนี้ทำเอาบรรดาคนขี้รังเกียจทั้งหลาย เกิดอาการพะอืดพะอมอยากจะอาเจียนเป็นแถวๆ ขณะที่พวกมี ประสบการณ์ตรงกับการดื่มฉี่จำนวนไม่น้อย ไม่ได้ตื่นเต้นตกใจอะไร กลับเห็นเป็นเรื่องธรรมดาสามัญ เพราะตั้งแต่โบร่ำโบราณ คนไทยก็ใช้ประโยชน์จากฉี่

ที่สำคัญพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรา พระองค์ก็ทรงบัญญัติให้ศิษย์ตถาคตดื่ม ปูติมุตตเภสัช คือยาจาก น้ำมูตร(ปัสสาวะ)เน่า หรือฉันยาดองด้วยน้ำ"ปัสสาวะ" อันเป็น ๑ ในหลักปฏิบัตินิสสัย ๔

หากใครเคยอ่านเรื่องราวของ"หลวงพ่อชา สุภัทโท" พระสายป่าชื่อดัง จะรู้ว่าท่านเคยฉันน้ำมูตรเมื่อยาม ธุดงค์ไปในถิ่นทุรกันดาร ไม่มีน้ำฉันน้ำใช้ ท่านพุทธทาสภิกขุก็เป็นอีกรูปหนึ่งที่มีประสบการณ์ฉันน้ำมูตร แต่พระเหล่านี้ไม่มีโฆษณาหรือบอกกล่าวให้เอิกเกริก อดีตนายกรัฐมนตรีของอินเดีย นายโมราจิ เดซาย ก็เคยดื่มน้ำปัสสาวะเพื่อรักษาโรค

อย่างที่รับรู้กัน การดื่มน้ำปัสสาวะมีมาแต่โบราณกาล พระดุษฎี เมธังกุโร ลูกศิษย์ท่านพุทธทาส เจ้าอาวาส วัดทุ่งไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร ซึ่งแม้จะไม่ได้ฉันน้ำมูตร แต่ก็มีญาติโยมที่ดื่มน้ำปัสสาวะมาเล่าประสบ การณ์ให้ฟังมากมาย อย่างที่ท่านบอก

"การดื่มน้ำปัสสาวะตนเองของญาติโยมและพระ อาตมามองว่าเป็นเรื่องที่ดี เป็นการเอาชนะใจตนเอง ละ ความรังเกียจและมองผ่านอุปสรรคได้ เป็นการควบคุมพฤติกรรมการกินของตนด้วย เพราะถ้ากินสารพิษ หรืออาหารรสจัดเข้าไป ก็มีผลต่อปัสสาวะที่จะดื่ม ซึ่งจะมีรสขมขื่นและรสเปรี้ยว ทั้งนี้จะต้องมีศีลและบำ เพ็ญภาวนาด้วยจึงจะได้ผล ไม่ใช่จะดื่มก็ดื่มเลย ต้องมีความระมัดระวังรักษาศีล รักษาใจ และควบคุมพฤติกรรมการกิน"

จากคำบอกเล่าของผู้ที่เคยดื่มน้ำปัสสาวะ ต่างยืนยันว่า การดื่มน้ำปัสสาวะสามารถรักษาโรคได้หลายอย่าง แม้ในส่วนของแพทย์หรือนักวิทยาศาสตร์ไทย จะไม่ได้ศึกษาวิจัยเรื่องนี้อย่างจริงจัง แต่ผลที่เกิดขึ้นทำให้ เชื่อกันว่า น้ำปัสสาวะเป็นของดีมีประโยชน์ ถ้ารู้จักใช้รู้จักกิน

พระดุษฎีเล่าว่า "ในน้ำปัสสาวะคงจะมีภูมิคุ้มกัน และมีประโยชน์ เพราะญาติโยมบางคน เมื่อทดลองดื่มไป ๒ เดือน ก็สามารถแก้ปวดเมื่อยหลังและเอวได้ และยังเกิดผลพลอยได้ช่วยให้ผมดกดำนุ่มสลวยด้วย การจะ ดื่มน้ำปัสสาวะนั้นต้องมีวิธีการดื่ม คือต้องดื่มตอนเช้าหรือตอนตื่นนอน"

พบกันใหม่ฉบับหน้าค่ะ

(สารอโศกอันดับที่ ๒๖๓ สิงหาคม ๒๕๔๖)