เทศกาลกินเจ
คำว่าอาหาร"เจ"
นอกจากอาหารนั้นจะไม่ปรุงด้วยของคาวจากสัตว์ทุกชนิดแล้ว ยังงดพืชผักอีก
๕ ชนิด ซึ่งเชื่อกันว่าผักทั้ง ๕ ชนิดนี้ มีฤทธิ์กระตุ้นจิตใจ
ทำให้อารมณ์เร่าร้อน คือ ๑.กระเทียม ๒.หอม ๓.หลักเกียว(ลักษณะคล้ายหัวกระเทียมแต่เล็กกว่า)
๔.กุยช่าย ๕.ยาสูบ
ส่วนประเพณีการกินเจนั้น
ขอชื่นชมผู้ที่ริเริ่มประเพณีนี้ เพราะเป็นประเพณีที่ดีมาก ช่วยให้ผู้คน
ได้บำเพ็ญบุญ เพิ่มกุศลให้กับตนเอง สัตว์เล็กสัตว์ใหญ่รอดชีวิตเป็นจำนวนมาก
ดั่งสำนวนที่ว่า หนึ่งมื้อกินเจ
หมื่นชีวิตรอดตาย ชาวอโศกจึงให้ความสำคัญกับเทศกาลกินเจนี้มาก
เพราะเป็นโอกาสอันดี ที่จะได้บริการพี่ๆน้องๆร่วมโลกเดียวกัน และได้ช่วยเหลือชีวิตสัตว์
ให้มีชีวิตอยู่ต่อไป
สำหรับบรรยากาศช่วงเทศกาลกินเจแต่ละแห่งของชาวอโศก
มีดังนี้
ชมรมมังสวิรัติ
สาขาเชียงใหม่
ในช่วงเทศกาลกินเจ
มีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม คือ
๑. ให้ลูกค้าบริการตัวเอง ด้วยการให้ตักอาหารกันเอง โดยกำหนดราคาขายดังนี้
ข้าวและกับ ๑ อย่าง ราคา ๘ บาท ๒ อย่าง ราคา ๑๐ บาท ๓ อย่าง ราคา ๑๒
บาท
๒. เลิกระบบการใช้คูปอง แต่ให้ซื้อขายด้วยเงินสดแทน
นอกจากนี้ในช่วงเทศกาลกินเจ
ก็มีชาวต่างประเทศมาเหมาบางแผนกแจกฟรีด้วย เสร็จจากการขาย อาหารของทุกวัน
ก็มีการประชุมสรุปงานเพื่อปรับปรุงให้ดียิ่งๆขึ้น
งานเทศกาลกินเจครั้งนี้
มีอาสาสมัครจากชุมชนภูผาฟ้าน้ำทุกฐานะ ญาติธรรมทั่วไป และชาว ชมร.เชียงใหม่
ได้ช่วยกันเต็มที่ในการเตรียมงาน และเตรียมอาหาร
อุทยานบุญนิยม
ราชธานีอโศก
ปีนี้ชาวบ้านราชฯทั้งเด็กเล็ก-เด็กโต คนวัด ผู้ใหญ่ชาวชุมชนยกคณะไปช่วยงานเจที่อุทยาน-บุญนิยมเฉกเช่นทุกปี
โดยมีคณะคุรุและนิสิต ม.วช.เป็นแม่งาน บริหารจัดการในแต่ละแผนก เป็นองค์รวม
เริ่มจำหน่ายอาหารเจวันที่
๒๔ ก.ย.-๕ ต.ค.๔๖ ตั้งแต่เวลา ๐๖.๐๐-๑๙.๐๐ น. ช่วงเย็นมีการแสดง ดนตรีของวงบ้านราชฯ
วงฆราวาสและนักร้องสมัครเล่น ซึ่งช่วยสร้างบรรยากาศ ให้สนุกสนาน ได้เป็นอย่างมากทีเดียว
ในวันแรกของเทศกาลเจ
คุณหมอสมนึก ศิริพานทอง จากโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์
ได้มาให้ความรู้เรื่องการกินเจ ที่ได้คุณค่าอาหารครบทั้งโปรตีน แคลเซี่ยม
ธาตุเหล็ก วิตามินบี ๑๒ ฯลฯ คนกินเจฟังแล้วอบอุ่นใจ มั่นใจว่าหากกินถูกหลักแล้ว
ไม่ขาดสารอาหารแน่นอน
งานนี้อาหารสุขภาพขายดีที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง
คือ ซุบข้าวโพด
ซุบงา น้ำเสาวรส และธัญพืช นอกจากนี้ขนมปังโฮลวีทขายดีมาก จึงลดราคาจากราคาขายเดิม
๑๒ บาท ลดเหลือ ๑๐ บาท เป็นการคืนกำไรให้กับผู้บริโภค ของดี
ราคาถูก
พิเศษสุด ที่ได้รับความสนใจมากอีกอย่างหนึ่งก็คือ
การสาธิตนึ่งข้าวเหนียวกล้อง นึ่ง ๘
เตา นึ่งทั้งวัน ใช้ข้าวเหนียววันละประมาณ ๑๐๐ กิโลฯ เรียกว่านึ่งสุกแทบไม่ทันบริการลูกค้าทีเดียว
นอกจากจะขายอาหารเจแล้ว
ก็จะมีอีกคณะหนึ่งเรียกว่า คณะแสวงบุญ ประกอบด้วยคุรุ
และ นักเรียน สัมมาสิกขา ทุกระดับ ทั้งอนุบาล ประถม มัธยม นำอาหารไปขายนอกสถานที่
เช่นที่ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ตลาดบ้านดู่ ตลาดน้อย ตลาดใหญ่
ตลาดวารินฯ และตลาดวาริน-เจริญศรี เป็นการบูรณาการวิชากิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
เรื่องการเสียสละเพื่อชุมชน ด้วยการฝึก ปฏิบัติจริง เด็กๆปฏิบัติจริงด้วยความสนุกสนาน
และกระตือรือร้น
ศีรษะอโศก
จัด ๓ แห่งด้วยกันคือ ที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ที่ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ
และที่ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ
บรรยากาศการขาย
ที่ อ.เมือง เป็นการเปิดร้านขายแบบเฉพาะกิจ
คือขายเฉพาะช่วงเทศกาลเจ โดยกางเต็นท์ติดกับทางรถไฟ มีผู้คนให้ความสนใจมารับบริการเยอะ
และเพิ่มมากขึ้นกว่าทุกปี มีผู้บอกว่าให้ไปขายเช่นนี้ทุกปี มีญาติธรรมที่อยู่ใกล้ๆมาช่วยขาย
และคอยอำนวยความสะดวก ในเรื่องต่างๆให้ จนเสร็จสิ้นงาน
ส่วนที่
อ.กันทรลักษ์ ปีนี้มีคนมารับบริการเพิ่มมากขึ้นเป็น ๒ เท่า
แม้ว่าช่วงงานจะมีฝนตก เกือบตลอด ก็ตาม ก็ไม่เป็นอุปสรรคแต่อย่างใด
ที่สำคัญปีนี้เน้นนโยบาย ใช้พืชผักไร้สารพิษ มาปรุงอาหาร คนกินจึงกินได้อย่างสบายใจ
ไร้กังวล นอกจากนี้ก็จัดมุม "อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ" ไว้บริการด้วย
ได้รับการตอบรับอย่างดียิ่ง จากผู้มาใช้บริการ
บรรยากาศที่
อ.ปากช่อง โดยกลุ่มญาติธรรมรวมตัวกัน และมีนักเรียนสัมมาสิกขา
จากศีรษะอโศก มาช่วย ๓๕ คน ปีนี้แบ่งจุดขาย ๓ จุดคือ
๑.มูลนิธิสว่างวิชชาธรรมสถาน ๒.หน้าร้านทวีพร ตลาด กังวาฬวัฒนา
๓.หน้าร้านสุขภาพดี ตลาดสดเทศบาล
นอกจากนี้ยังมีการบริการลูกค้า แบบถึงที่ โดยในช่วงเช้าจะนำอาหารบรรจุถุง
ใส่ถาดเดินขายตามตลาด ซึ่งได้รับความสนใจมีผู้รับบริการเยอะ
บรรยากาศของงานโดยรวม
มีผู้คนมารับบริการมากขึ้นกว่าปีที่ผ่านๆมา จะขายดีมากในช่วงเย็น-ค่ำ
ทั้งมาซื้อใส่ถุงกลับบ้าน และมานั่งรับประทานที่ร้าน ผู้มารับบริการก็จะมีทั้งคนเก่า
และคนใหม่ๆ ก็มีเพิ่มขึ้นมาก เป็นข้อบ่งชี้ว่า เทศกาลเจปีนี้ผู้คนรับประทานอาหารเจมากขึ้น
นับเป็นเรื่องที่น่ายินดี และอนุโมทนายิ่ง
แล้วที่น่ายินดียิ่งอีกอย่างก็คือ
นักเรียนสัมมาสิกขาได้ฝึกลงภาคปฏิบัติจริง แต่ละคนได้ฝึกทำงาน ในทุกแผนก
ได้เรียนรู้จริงทุกเรื่อง เรียกว่าจบงานเจ สามารถไปเปิดร้านอาหารได้เลย
นี่คือ การเรียน การสอนแบบบูรณาการ ที่โรงเรียนสัมมาสิกขาทุกแห่งสอนกัน
สีมาอโศก
ปีนี้ก็ไม่ธรรมดา มีการประชุมเตรียมการไว้ล่วงหน้า จัดสรรแบ่งงานกันไว้เสร็จสรรพ
มี
ทั้งเด็กนักเรียน สัมมาสิกขา นิสิต ม.วช.และชาวชุมชน โดยได้แบ่งคณะทำงานไว้
๓ คณะคือ
๑. ประจำร้านมังสวิรัตินครราชสีมา (มร.ส.)
๒. ประจำร้านเจ ๒ (ร้านนารายณ์)
๓. หน่วยจรยุทธ์ คือเดินขายตามจุดต่างๆ
บรรยากาศการทำงานทั้ง
๓ คณะ ทำงานประสานกันได้ดี รื่นเริง สนุกสนาน มีผู้มารับบริการ มากพอสมควร
โดยเฉพาะการไปเดินขาย หน่วยงานราชการต่างๆให้ความสนใจ และเอื้ออำนวย
ความสะดวกต่างๆให้ บางแห่งอยากให้ไปขายตลอดไป
ปฐมอโศก
ปีนี้เปิดร้านจำหน่ายอาหารเจ ๒ ที่ คือ ที่ร้านอาหารหน้าชุมชนปฐมอโศก
และร้านมังสวิรัติ(มร.ฐ.) ใน
อ.เมือง นครปฐม
ที่ร้านอาหารหน้าชุมชนฯเปิดขายเป็นปีแรก
นำทีมโดยคุณป้าเกียว คุณป้าจุก คุณป้าปทุม และคุณอาทรายดิน
พร้อมด้วยนักเรียนสัมมาสิกขาฯอีก ๑๒ คน นักเรียนทุกคนทำงานกันดีมาก
ทำงานด้วยความเบิกบานแจ่มใส ทำเป็นกลุ่ม เป็นที่ประทับใจของผู้ใหญ่
ขนาดปีหน้า ขอจองตัวนักเรียนกลุ่มนี้ไว้ล่วงหน้า
ส่วนบรรยากาศของผู้มารับบริการ
ก็มีมากพอสมควรขายได้หลายหมื่นบาท ของดีราคาถูก ขายได้ ขนาดนี้ก็นับว่ามากแล้ว
และที่กลุ่มปลื้มใจก็คือ งานนี้ได้ช่วยให้สัตว์เล็กสัตว์ใหญ่รอดชีวิตได้
อย่างน้อยก็ ๑๑ วัน
สำหรับบรรยากาศที่ร้านมังสวิรัติ(มร.ฐ.)
ก็คึกคักเช่นทุกปี มีนักเรียนสัมมาสิกขาปฐมอโศก
ไปฝึกงาน ภาคปฏิบัติจริงถึง ๖๐ คน ม.วช.และผู้ใหญ่ในชุมชนอีก ๓๐ คน
เรียกว่าแค่คนขาย ก็เกือบจะเต็ม ร้านแล้ว ลูกค้าที่มารับบริการประทับใจเด็กนักเรียนมาก
ที่แม้จะเป็นเด็ก แต่ก็ทำงานเก่ง ขยันขันแข็ง ทำงานอย่าง กระตือรือร้น
งานนี้ได้ฝึก ให้เด็กรับผิดชอบงาน เป็นเจ้าของงาน ให้เรียนรู้และทำเอง
ทุกขั้นตอน จนถึงคิด ต้นทุนกำไร ของอาหารแต่ละอย่างที่ทำออกจำหน่าย
และปีนี้มีการมอบรางวัล ให้กับนักเรียน ที่ทำงานดีเด่น ในเรื่องของการทำ
๕ ส., ความสามัคคีในกลุ่ม, การตรงต่อเวลา และทำยอดขาย ได้สูงสุดของแต่ละแผนก
เป็นการสร้างค่านิยมให้เด็กๆแข่งขันกันทำดี ให้มากยิ่งขึ้น
กรุงเทพมหานคร
เริ่มที่บ้านสวนไผ่สุขภาพ ใกล้ซอยพหลโยธิน
๕ ปีนี้ทางร้านได้ขยายพื้นที่ออกมาทางร้านกู้ดินฟ้า
๓ และกางเต็นท์เพิ่มอีก ๒ หลัง เพื่อรองรับลูกค้าช่วงเทศกาลเจ
ซึ่งในแต่ละวัน จะมีลูกค้ามา รับประทานอาหารจำนวนมาก ส่งผลให้ร้านกู้ดินฟ้า
๓ ขายพืชผักผลไม้ไร้สารพิษดีตามไปด้วย และที่น่าประทับใจคือ ร้านกู้ดินฟ้า
๓ จะมีญาติธรรมที่อยู่นอกวัด ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป ช่วยขายมิได้ขาด
ส่วนร้านกู้ดินฟ้า
๑ ที่อยู่หน้าพุทธสถานสันติอโศก ขายพืชผักผลไม้ไร้สารพิษ มีลูกค้ามารับบริการ
เพิ่มมากขึ้น ลูกค้ารายใหญ่คือ ชมร.หน้าสันติอโศกที่ใช้พืชผักไร้สารพิษ
ปรุงอาหารทั้งหมด ทั้งในช่วงเทศกาลเจ และช่วงปกติก็ตาม
สำหรับบรรยากาศที่
ชมร.สาขาจตุจักร ช่วงก่อนเทศกาลเจจะขายของแห้งดีมาก
ลูกค้าจะซื้อไปตุนคนละเยอะๆ ส่วนอาหารสดช่วงเทศกาลเจ มีลูกค้ามารับบริการอย่างเนืองแน่น
ยืนเรียงคิวเข้าแถวยาวเหยียด เพื่อซื้อคูปองอาหาร ขอขอบคุณผู้มารับบริการทุกๆท่าน
ที่ให้การสนับสนุนและให้ความร่วมมือด้วยดี ขออภัยหากบริการไม่ทั่วถึงและล่าช้าไปบ้าง
บรรยากาศงานเจของนักเรียนสัมมาสิกขาสันติอโศก
ปีนี้ทางโรงเรียนสัมมาสิกขาฯ นอกจาก จะส่งเด็กไปเรียนภาคปฏิบัติที่
ชมร.หน้าสันติอโศกแล้ว ก็เปิดร้านขายเองด้วย โดยขายที่หน้าร้าน กู้ดินฟ้า
๑ อาหารที่ขายมีหลากหลายชนิด ที่ขายดีที่สุดคือ ซาลาเปา จะมีทั้งไส้เค็ม
ไส้หวาน ปั้นกันแทบไม่ทันทีเดียว งานนี้นักเรียนทุกคนช่วยงานกันดีมาก
ตื่นกันแต่เช้ามืดทุกวัน มาเตรียมของไว้ขาย ซึ่งเตรียมกันอยู่ ๒ ที่คือ
ที่หน้าบ้านคุณสุวดี (ทาวน์เฮ้าส์หน้าสันติฯ)
และที่ชั้นล่างตึกสัมมาสิกขาฯ งานนี้เด็กนักเรียนได้ฝึกปฏิบัติจริงเต็มที่
เป็นเจ้าของงานเอง แบ่งกันรับผิดชอบอาหารแต่ละอย่างๆไป โดยมีคุรุเป็นที่ปรึกษา
สุดท้าย งานเจที่
ชมร.สาขาหน้าสันติอโศก ก่อนงานมีการประชุมเตรียมงานกันล่วงหน้า
วางแผนการไว้อย่างดี ตลอดงานจึงดำเนินกิจการไปได้อย่างราบรื่น ยิ่งปีนี้ปรับการบริการแบบใหม่
โดยให้ลูกค้าบริการตักอาหารเอง บริการตนเอง ซึ่งลูกค้าให้ความร่วมมือดีมาก
และเป็นที่ชอบใจของลูกค้าเป็นส่วนใหญ่
ปีนี้ลูกค้าที่มารับบริการมีทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่
ทยอยกันมาเรื่อยๆไม่ขาดสาย เป็นปรากฏการณ์ใหม่ ที่ทั้งลูกค้าและยอดขายเพิ่มขึ้นเป็น
๒ เท่า และช่วงงานมีผู้ที่เข้าอบรม โครงการสร้างผู้นำ
ที่สันติฯ มาช่วยงาน ด้วยหลายคน นี่ก็เป็นปรากฏการณ์ใหม่อีกอย่างหนึ่ง
ที่มีผู้มาช่วยงานเพิ่มขึ้น แต่ทั้งนี้งานเทศกาลเจ จะผ่านพ้น ไปด้วยดีไม่ได้เลย
หากไม่ได้แรงสนับสนุนจากคนวัด ชาวชุมชนและนักเรียนสัมมาสิกขาฯ ขอขอบคุณมา
ณ โอกาสนี้ด้วย
สรุป งานเทศกาลเจที่พวกเราชาวอโศกได้ร่วมแรงร่วมใจกันในปีนี้
โดยภาพรวมมีผู้มารับบริการ เพิ่มมากขึ้น และแต่ละร้านก็พยายามที่จะใช้พืชผักไร้สารพิษปรุงอาหาร
ซึ่งมีหลายแห่ง ไม่ใช้ผัก จากตลาดเลย นับเป็นการพัฒนาอีกก้าวหนึ่งของพวกเรา
ที่มอบแต่สิ่งดีๆไม่มีพิษภัยให้กับลูกค้า ของดี-ราคาถูก-ไม่ฉวยโอกาส-ซื่อสัตย์-เสียสละ
นี่คืออุดมการณ์ของพวกเราที่ต้องไปให้ถึง
นอกจากนี้ งานเทศกาลเจยังถือเป็นการเรียนการสอนแบบบูรณาการของนักเรียนสัมมาสิกขาฯ
ทุกแห่ง เพื่อให้เด็กได้ฝึกปฏิบัติจริงจากสถานประกอบการ ซึ่งสรุปผลแล้วเป็นที่น่าพอใจ
เด็กสามารถปฏิบัติงานได้ดี ทำได้จริงโดยมีกรอบของศีลเป็นสิ่งคุ้มครอง
เหนือสิ่งอื่นใด
นับเป็นเรื่องน่าภาคภูมิใจ ที่พวกเราชาวอโศกได้มีส่วนร่วม ให้พ่อแม่พี่น้อง
ได้สร้างเมตตาธรรม ได้รับประทานอาหารเจในช่วงเทศกาลกินเจ ทำให้ หนึ่งมื้อกินเจ
หมื่นชีวิตรอดตาย"
สัพเพสัตตา...
สัตว์ทั้งหลาย
ที่เป็นเพื่อนทุกข์เกิด-แก่-เจ็บ-ตาย
ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น
จงอยู่เป็นสุขๆเถิด..."
- ผาแก้ว (รวบรวม) -
-สารอโศก
อันดับที่ ๒๖๔ กันยายน ๒๕๔๖-
|