หน้าแรก>สารอโศก

ธรรมประทับใจ(๙๑)
ฉัน มีงานที่ทำเป็นงานสงเคราะห์ผู้คนเสียเป็นส่วนใหญ่ อาจมีโอกาสได้เลือกงานตรงที่...ใครจำเป็นกว่าก็ทำตรงนั้นก่อน

ล่าสุดได้ดูแลคุณยายอายุ ๗๒ ปี ป่วยเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง กลืนอาหารทางปากไม่ได้แม้แต่น้ำ ทุกอย่างจะอาเจียนออกมาหมด ถ่ายเองไม่ได้เนื่องจากมีก้อนมะเร็งที่ลำไส้ ต้องผ่าตัดเอาลำไส้ใหญ่ทิ้งไปประมาณ ๑ ฟุต ส่วนปลายของที่เหลือเอาออกมาเปิดไว้ด้านข้างลำตัว(หน้าท้องด้านซ้าย) เพื่อถ่ายอุจจาระใส่ถุง คุณหมอใส่สายยางเพื่อให้อาหารเข้าไปในลำไส้เล็ก โดยการหยดอาหารทีละหยดผ่านสายยาง เหมือนการให้น้ำเกลือตลอด ๒๔ ชั่วโมง (ชั่วโมงละ ๖๐-๘๐ หยด)

คุณยายยังพูดได้ เดินได้ตามปกติ สุขภาพกายทั่วไปดูแข็งแรงมาก ความจำเป็นเยี่ยม มีอารมณ์ขันอีกต่างหาก แกเป็นชาวสวนปลูกสมุนไพรกว่า ๔๐๐ ชนิด แกเข้าออกโรงพยาบาลอยู่บ่อยๆ ต้องไปหาหมอแทบทุกอาทิตย์ เคยนอนโรงพยาบาลนาน ๕๐ วันก็มี พยาบาลพากันเรียก ยายเสาบ้าง ยายสายบ้าง เหตุเพราะมีสายระโยงระยางบนเสา เพื่อให้แร่ธาตุต่างๆที่จำเป็น เลือด ยา และอื่นๆ

หมอบอกว่า มีเวลาน้อยมากสำหรับคุณยาย เพราะเป็นวาระสุดท้ายคงไม่เกิน ๓-๖ เดือนแน่นอน นี่คือ สิ่งที่ฉันเลือกทำตอนนี้ ....เวลาทั้งหมดที่มี ฉันทุ่มเทให้คุณยายทั้งที่ไม่ใช่ญาติ แต่รู้สึกรัก-ห่วงใย ดูแล ทุกอย่างแบบไม่รังเกียจ ทั้งที่ของเน่าเสีย(อุจจาระ,อาเจียน,ปัสสาวะฯ)ทั้งหลายที่ออกมา ไม่ได้มีอะไร ที่น่าดูน่ามองสักนิด กลิ่นก็เหม็นรุนแรงอย่างบอกไม่ถูก คุณหมอที่ดูแลอยู่เอาใจใส่ดีมาก ทำทุกอย่าง เพื่อให้คุณยายดีขึ้น

บางวัน....ฉันนั่งดูคุณยายหายใจตลอดเวลา เพราะกลัวว่ามันจะหยุดไปตอนไหนแล้วไม่รู้ พยายามหาเท็ป ธรรมะ สวดมนต์ อ่านหนังสือให้ฟังอยู่เสมอ พูดคุยเรื่องราวในอดีตกับแกบ่อยๆ ฉันไม่คิดว่าคนจะมี วิบากกรรมอะไรได้มากมายขนาดนี้ คุณยายเล่าว่า....เคยเอายาพิษให้นกแร้งกิน จนมันตายไปต่อหน้า แล้ววันหนึ่งแกก็เอาขันน้ำ(ที่มียาพิษอยู่) ให้ลูกชายตัวเองกิน แล้วลูกชายก็ชักตาตั้งต่อหน้าต่อตา เพราะคิดว่าน้ำในขันเป็นน้ำสำหรับดื่ม แกไม่ทันช่วยอะไรลูกชายสักอย่าง (ฉันคิดว่า...กรรมคงตามแกทันแล้วล่ะ)

วันนี้ฉันทำกับข้าวสำหรับตัวเองกับลูกสาวและหลานของยาย แกถามฉันว่าทำอะไรหอมจัง? ฉันพาคุณยายมานั่งสูดกลิ่นอาหารในครัว เพราะไม่สามารถกินอาหารทางปากได้ คุณยายบอกว่า ดมกลิ่นก็ยังดี...นอกจากกินไม่ได้ คุณยายก็นอนไม่ได้อีกด้วย เพราะคันทั้งตัว เกาจนเป็นแผลผุพองตั้งแต่หัวจรดเท้า คงเป็นผลของการรักษาด้วยเคมีบำบัด คุณหมอให้ทั้งยากิน-ยาทามาสารพัดชนิด ผลการรักษาก็เหมือนเดิม

วันไหนคุณยายคันน้อย ก็จะเริ่มไอจากน้อยไปมาก....แล้วก็อาเจียน นอนไม่ได้ตามเคย วันไหนคุณยายไม่เพลีย ก็จะสะพายขวดที่บรรจุอาหารขึ้นหลัง ไปดูต้นไม้ในสวน ฉันก็ตามไปช่วยถือขวดให้ทุกครั้ง บางวันก็รู้สึกสงสารก็พักสายบ้าง แกจะดีใจมากบอกว่า ฉันเป็นอิสระเสียที ไม่ถูกขังอีกแล้ว....

ลูกสาวแกต้องทำงาน เพราะค่าใช้จ่ายสำหรับอุปกรณ์ที่ต้องใช้ดูแลคุณยายแพงมาก เฉพาะถุงใส่อุจจาระใบละ ๖๕ บาท ฝาครอบอีก ๖๕-๑๐๐ บาท ต้องเปลี่ยนวันละ ๒ ครั้ง ค่าใช้จ่ายอื่นๆอีก เช่น อาหารพิเศษ ผ้าพันแผล อุปกรณ์ใส่อาหาร ถุงพลาสติก ผ้าอ้อม ฯลฯ ฉันสงสารลูกสาวแกมาก ประจวบกับตอนนี้งานที่ลูกสาวแกทำ ก็ถูกผลกระทบจากโรคซาร์ส ทำให้รายได้ลดลงกว่าครึ่ง คุณยายบอก รักษาตัวมา ๘-๙ เดือน คงหมดเงินไปเป็นล้านแล้วกระมัง.....

แต่คุณยายที่ฉันเห็น...เข้มแข็ง เบิกบาน อดทนต่อโรค อย่างชนิดที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน อาจมีบางครั้งที่คุณยายเกิดท้อขึ้นมาบ้าง แกจะพูดว่า...สงสารลูก ถ้าตายไปก็ไม่ต้องเป็นภาระของลูกอีกต่อไป ฉันจะบอกคุณยายว่า ให้ลูกหลานได้ทดแทนบุญคุณยายบ้างสิ

ตอนแม่ฉันป่วยเป็นอัมพาต ๓ ปี ฉันได้มีโอกาสดูแลแกปีละ ๗ วันเท่านั้น เพราะติดเรียนหนังสือที่ต่างจังหวัด วันที่แม่ของฉันจะจากโลกนี้ไป ฉันก็ไม่ได้อยู่เคียงข้างแกในวาระสุดท้าย ฉันดีใจที่มีโอกาสแสดงความกตัญญู ตอบแทนบุพการีแทนลูกสาวของยาย ที่ต้องทำงานหนักเพื่อหาเงินมารักษายายต่อไป

ตอนที่ฉันไปดูแลยายใหม่ๆ เวลาฉันคุยเรื่องไปทำบุญ-ใส่บาตร-ฟังธรรมฯ แกจะบอกว่าทำมาเยอะแล้ว เวลาฉันเปิดเท็ปธรรมะ แกจะทำเป็นหลับ เพื่อจะได้ไม่ต้องฟัง ฉันไม่ท้อที่จะเปิดเท็ปบ่อยๆ อ่านหนังสือเยอะๆ จนแกยอมรับฟังและคิดตาม

วันหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้แกบอกฉันว่า ถ้าแม่หายสบายดี จะไปบวชนะ ไปอยู่วัด ถ้าวัดไม่ให้บวชเพราะแก่แล้ว จะไปเป็นโยมอุปัฏฐากให้ฉัน เวลาที่ฉันไปบวชที่วัด

ฉันยกมือ "สาธุ สาธุ สาธุ" มันเป็นข่าวดีสำหรับฉัน ที่ทำให้คุณยายเปิดใจในวาระสุดท้ายของชีวิต มันยังไม่สายหรอก.... เพราะวันนี้คุณยายยังมีลมหายใจสำหรับคิดดีๆอยู่ แม้ร่างกายจะอ่อนเพลีย ผ่ายผอมลงมาก แกคงยื้อสังขารไปได้อีกไม่นาน ฉันได้แต่สวดมนต์ภาวนา ให้แกหลุดพ้นจากวิบากแรงกรรมทั้งหลาย ตลอดจนทุกขเวทนาที่ได้รับ ขอให้บรรเทาเบาบางลงจนที่สุดของแก ก็ขอเป็นไปโดยสงบเถิดนะ

ฉันรู้สึกดีที่มีโอกาส มีส่วนร่วมในการทำความดีนี้อย่างมาก แม้ฉันจะเหนื่อยแสนสาหัส แทบไม่ได้หลับเลยด้วยซ้ำ แต่ทุกอย่างเป็นสิ่งที่ฉันเต็มใจทำอย่างที่สุด

- ชนมน เทพสุด -

-สารอโศก อันดับที่ ๒๖๔ กันยายน ๒๕๔๖-