หน้าแรก>สารอโศก

- แม่น้ำ ลักขิตะ -

มิตรภาพจะงอกเงยได้หรือไม่ ...อยู่ที่การพบกันครั้งแรก


พบกันเป็นครั้งแรก.....มิตรภาพเกิดขึ้นได้ หากเรารู้จักใช้ศิลปะ และมารยาทที่เหมาะควรกับเขา

เนื่องจากโลกนี้มันกลม เราจึงได้พบคนหน้าเก่าๆหลายครั้ง เจอแล้วทักทาย ถามสารทุกข์สุขดิบเป็นธรรมดา

แต่หากเขาพยายามเลี่ยงไม่สบหน้าเรา ย่อมแสดงว่าเราทำเสียมิตรในวันแรกที่พบกัน จนเขาไม่อยากเข้าใกล้เป็นหนสอง อยู่ห่างไว้จะดีกว่า

แรกรู้จักกัน....เราอย่าปากเสีย ทักปมด้อยเขาต่อหน้า เธอผิวดำไปนะ ปากเบี้ยวนิด จมูกแบนหน่อย เป็นอาทิ

อย่าทำตัวเป็นตำรวจ ซักถามประวัติไปเสียทุกอย่าง บ้านอยู่ไหน? ทำงานอะไร? พ่อแม่เป็นใคร? อายุเท่าไหร่? แต่งงานหรือยัง? ฯลฯ....คนเราต้องการมีโลกส่วนตัว เขาจะไม่ชอบใจ หากเราไม่ยุ่มย่ามมากเกิน

"หากเราจะคบกัน อย่ายุ่งกับชีวิตส่วนตัวของฉัน" เขาจะตอกกลับอย่างนี้ หากเราเสนอหน้าเกินพอดี

แรกรู้จักกัน....อย่าพูดจากระโชกโฮกฮาก กิริยาหยาบกระด้างอย่างแม่ค้าปากตลาด เสียเสน่ห์ ไม่มีใครอยากคบหรอก หากไม่ใช่คนคุ้นเคยรู้จริตนิสัยกันมาก่อน เขาจะเบือนหน้าหนีทันที

รู้จักเอาอย่างนักการเมือง สร้างภาพพจน์ดีต่อหน้าเขาไว้ก่อน เพื่อมิตรภาพในภายภาคหน้า ให้เขาตรึงตราภาพพจน์เราไม่ลืมเลือนได้เป็นดี

แรกรู้จักกัน....อย่าคุยโชว์ อวดตนข่มเขา เราเก่งสารพัด เงินเดือนสูง มีบ้านหลังใหญ่ รถหลายคัน และที่สำคัญ อย่าเผลอชมว่า ตัวเองรูปงาม จะทำให้เขาเกิดอาการขย้อนในช่องท้อง หมั่นไส้ แทบอ๊วกตรงนั้นเลยแหละ

ถ่อมตนไว้ก่อน อ่อนน้อมเข้าไว้ ทำให้เขารู้สึกเมตตาเรา เหมือนเห็นขอทานตามสะพานลอยก็ปาน อยากช่วยเหลือเรา เขาเป็นคนสำคัญกับเรานะ ทำให้เขารู้สึกเช่นนั้น แล้วมิตรภาพจะงอกเงย

แรกรู้จักกัน....อย่าแสดงตนเป็นปราชญ์ความรู้ล้นหัว เทศน์สอนสั่งเขาจนน่าเบื่อ หากเขามีสมบัติผู้ดี จะทนนั่งฟังเราสักพัก ก่อนขอตัวไปทำธุระแล้ว ไม่กลับมาอีก ถ้าลุกเดินหนีไปเฉย บ่งว่าระอาเราสุดทนฟังแล้ว ให้รู้ตัวซะ

หัดแสดงตนเป็นคนโง่..ซื่อๆเซ่อๆเสียบ้าง แต่อย่าให้ถึงขั้นปัญญาอ่อน นี่ก็เกินไปหน่อย อย่าด่วนร้อนวิชา ชี้นำชีวิตเขาให้ทำตามเรา....ชักชวนเขาพูดคุยเรื่องทั่วไปสบายๆ ที่ไม่ข้องเกี่ยวตัวเขา นายกฯคนใหม่น่าจะเป็นใคร? รู้สึกเบื่อมั้ยกับการเมือง? ให้เขาได้แสดงความคิด แล้วเราก็รับฟัง....เขาจะรู้สึกว่าเราน่าคบ ไม่ใช่คนประเภทหัวไอ้เรือง ไม่ฟังความเห็นใคร

แรกรู้จักกัน...อย่าพูดถึงเรื่องเงิน ช่วงนี้เศรษฐกิจแย่ ค่าใช้จ่ายก็มาก เงินไม่ค่อยพอใช้เลย ต้องหยิบยืมเพื่อนบ้านแก้ขัดไปพลางๆ เขาฟังแล้วจะยิ้มแหยให้เรา กลืนน้ำลายฝืดๆ และคงตัดสินใจชาตินี้ไม่ขอพบเรา เพราะกลัวถูกยืมเงิน

เงินทำมิตรเป็นศัตรูมามากแลว หากไม่อยากเสียเพื่อน พยายามเลี่ยงอย่าให้เขายืมเงินเป็นอันขาด ถ้าอยากช่วยจริงให้เขาไปเลย อย่าทวงคืน แต่อย่าบ่อย เดี๋ยวเพื่อนเสียนิสัย แล้วเราจะลำบากใจภายหลัง ช่วยเท่าที่เหมาะควรล่ะกัน

คนไม่เคยรู้จักกันมาก่อน มิตรภาพจะไม่งอกเงยแน่....หากเอาแต่วางมาด สงวนทีท่า ทำ
เป็นเฉยกับเขา

ทักเขาก่อนเป็นไร? แสดงความกล้าหน่อย อาจจะเสี่ยงหน้าแตกอยู่...ถือเป็นบทฝึกทำใจล่ะกัน

-สารอโศก อันดับที่ ๒๖๔ กันยายน ๒๕๔๖-