ลำธารชีวิต...ลิขิตด้วยกรรม จากการเป็นนักปฏิบัติธรรมช่วงอดีตสมัยเป็นครู เราเป็นคนเอาจริงต่องาน จะตื่นแต่เช้าไปถึงโรงเรียนก่อนเพื่อน แล้วทำหน้าที่ครูเวรทุกวัน ทำสะอาดตั้งแต่บริเวณอาคารสถานที่ บริเวณสนาม ห้องน้ำห้องส้วม การสอนก็สอนด้วยใจจริงๆ เพื่อจะให้เด็กได้ความรู้พร้อมสอดแทรกจริยธรรม มารยาทไทย โดยทำตัวเป็นตัวอย่าง เช่นเราจะบอกครูทุกคนในวันประชุมประจำเดือนว่า เราจะไหว้ครูทุกคน และไหว้เด็กนักเรียนทุกคน โดยบอกให้นักเรียนทราบหน้าเสาธง เหตุผลก็คือให้เด็กได้รู้จักการกราบไหว้ ซึ่งเป็นมารยาทไทย เราทำตลอดจนเกษียณ เฉพาะเด็กนั้นพอเห็นหน้าเรา เขายกมือไหว้ก่อนครูที่จะยกมือไหว้เขา ช่วงหลังเกษียณจากครูมา ๓ ปี ผมป่วยตลอด ด้วยวิบากกรรมที่ตนเองทำไว้ในอดีตและปัจจุบันมาสมทบกัน เกือบเอาชีวิตไม่รอด มาต้นปี ๒๕๔๖ อาการป่วยทุเลาลง ได้ใช้แรงงาน ความคิดไปช่วยงานอบรมสัจธรรมชีวิตที่ศรีโคตรบูรณ์อโศก ติดต่อกันมีวันพักเพียง ๒ วัน แล้วอบรมต่อ สุขภาพร่างกายสังขารของเราไม่เอื้ออำนวยให้ เพราะเราก็อายุ ๖๓ ปีแล้ว จึงไปช่วยไม่ได้เต็มที่ จากการอ่านสารอโศกได้หัวข้อธรรมะต่างๆ การอดทนใจเย็นของพ่อท่าน เป็นคติเตือนตนให้มองเห็นทุกอย่างเกิดที่ตน หากเราดับที่ตนได้เรื่องก็จบ ช่วงเข้าพรรษา ข้าพเจ้าได้ตั้งตบะกินอาหาร
๒ มื้อ รักษาศีล เพราะมีโรคประจำตัว กินอาหารและยาที่หมอสั่ง ปฏิบัติธรรมกินอาหารมังสวิรัติมาโดยตลอด
มีตกในเรื่องอาหารช่วงที่ตนเองป่วย ควบคุมสติไม่ได้ มันเป็นไปตามวิบากกรรมของเราเอง
ตบะเป็นหนทางในการเอาชนะกิเลส แพ้บ้าง-ชนะบ้างเป็นธรรมดา แต่กำลังแห่งจิตใจเราจะเข้มแข็งขึ้นๆ ทุกวันๆ อย่าลืมตรวจตนด้วยศีลทั้ง ๕ ข้อให้ได้ทุกวันด้วยล่ะ ฤาต้องรอให้ถึงทางตัน
? ผมหวังว่าวันหนึ่งเมื่อทุนนิยมถึงทางตัน
ผู้นำหรือผู้ที่มีอำนาจในประเทศไทย คงจะนำแนวทางของชาวอโศกไปใช้เต็ม ๑๐๐%
หรือประยุกต์ใช้ให้เหมาะสม คนเราที่ทุกข์กันอยู่ทุกวันนี้ เหตุเพราะไม่รู้จักทุกข์ที่แท้จริง ทุกข์ซ้ำซาก วนเวียนเดือดร้อนใจอยู่กับการไม่ได้สมปรารถนา ไม่ได้ดังใจ ฯลฯ ทุกข์อย่างนี้ไม่ทำให้ชีวิตเจริญ-พัฒนาขึ้นได้ พระพุทธเจ้าจึงสอนให้พุทธศาสนิกชนมาเรียนรู้ทุกข์-เหตุที่ทำให้ทุกข์-ทางพ้นทุกข์ และวิถีนำสู่ทางพ้นทุกข์ ซึ่งพุทธศาสตร์นี้ยังทันสมัยยังใช้ได้ดี แม้ยุคสมัยใกล้กลียุคเช่นนี้ หมู่มวลชาวอโศกได้ดำเนินรอยตามทางนี้กันอยู่ แด่ใจที่ใฝ่ดี อนุโมทนาสาธุ! กับสำนึกใฝ่ดี ขอให้ตั้งใจสู้อีกครั้ง เพื่อชีวิตใหม่ที่ดีกว่า อดีตเป็นบทเรียนที่ทำให้ได้รู้คุณค่าเวลาชีวิตที่เหลืออยู่ โลกสร้างมนุษย์มาให้กินพืช
พอดีเขาชวนไปอบรมสัจธรรมชีวิตที่ปฐมอโศก เมื่อต้นเดือนสิงหาคม ๒๕๔๖ ได้ความรู้มาก ที่ประทับใจคือได้รู้ว่ามนุษย์เป็นสัตว์โลกที่เหมาะกับการกินพืช เนื่องจากลำไส้ยาวกว่าสัตว์กินเนื้อถึง ๔ เท่า และมีน้ำย่อยเจือจางกว่าสัตว์กินเนื้อถึง ๒๐ เท่า คนกินเนื้อมากๆ จึงมีกากอาหารไปหมักหมมอยู่ในลำไส้นาน เพราะย่อยยาก ระบายออกยาก เกิดสารพิษ ทำให้เป็นโรคต่างๆ เช่น โรคเกาต์ โรคหัวใจ ไขมันอุดตัน อัมพฤกษ์ อัมพาต เบาหวาน มะเร็ง พยาธิ ล้วนแต่ทำให้อายุสั้น ตายเร็วทั้งนั้น ผมต้องการอายุยืน ให้ร่างกายปราศจากโรคร้ายๆ
จึงตัดสินใจเลิกกินเนื้อสัตว์ หันมากินพืชผัก สมุนไพร ผลไม้ เต้าหู้ ถั่วงอก
งดของมัน ของหวานและงดมื้อเย็น เพียงเดือนเดียว น้ำหนักลดไป ๖ กก. คาดว่าไม่นานน้ำหนักส่วนเกินต้องละลายหายไปหมด
เข่าที่เคยปวดอยู่ก็หาย วิ่งได้เหมือนเดิม ไม่ต้องไปพึ่งสถานลดความอ้วนที่คิดเป็นหมื่นๆบาท
พลังพืชผัก จึงมหัศจรรย์จริงๆ กินมากใช้น้อย ก็เหลือเป็นส่วนเกินให้เป็นภาระเช่นนี้ วิธีแก้ปัญหานอกจากกินน้อยลงแล้ว ก็ต้องใช้พลังงานให้มากขึ้น คงต้องประมาณกันให้ดี เพราะอายุก็เข้าเลข ๖ แล้ว หากใจร้อนเกินไปจะเป็นผลเสียมากกว่าผลดี....เคราะห์ดี ! ที่ถูกชวนกลับมาหาสัจธรรมชีวิตได้ทันได้แก้ไขตัวเอง ศีลนำสุขมาให้ แต่ปัญหาของสังคมก็ดูจะเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย
อาจจะเป็นว่าผู้รู้กฎหมายไม่มีความบริสุทธิ์ใจในการใช้กฎหมาย ถ้าทุกคนถือศีล
๕ ได้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงยุติธรรม กรมราชทัณฑ์ไม่ต้องมีก็ได้
รัฐจะได้เงินงบประมาณในส่วนนี้มาใช้ในทางให้คนสนใจในศีล ๕ และเวลาศึกษาศีล
๕ ข้อ ก็ใช้เวลาศึกษาไม่นาน อาจจะ ๑ ชั่วโมง หรือ ๑ วัน ก็เข้าใจแล้ว ไม่เหมือนเรียนกฎหมายที่ต้องใช้เวลาเป็นปีๆ
ถ้าคนเข้าใจเรื่องศีล ๕ เท่ากับคนที่เรียนจบกฎหมายในแต่ละปี สังคมคงจะสงบมากกว่านี้
ผมคิดว่า การแก้ปัญหาสังคมในปัจจุบัน ถ้าแก้ด้วยกฎหมายคงไม่ประสบผล แต่แก้ด้วยศีลธรรมรับรองว่าสำเร็จแน่
ขอให้ศีลธรรมกลับมา โลกาจะไม่ต้องพินาศ สงครามภายในและสงครามภายนอก จะได้สงบลง
ความสงบสุขจะเกิดแก่มนุษย์โดยทั่วกัน เรียกร้องให้ศีลธรรมกลับมาต้องเริ่มต้นนับหนึ่งที่ตัวเราก่อนเป็นอันดับแรก เชื่อว่าในสังคมเรายังมีผู้คิดดีๆอยู่มาก หากคิดแล้วลงมือทำจริง จะเกิดพลังรวมขึ้นในสังคม และมีผลมากด้วย โดยเฉพาะกาย-วาจา-ใจ ผู้มีศีลจะมีพลังค้ำจุนสังคม อานิสงส์ของศีลห้าเป็นอย่างนี้ ผมรู้สึกดีใจกับตัวเองอย่างมากเลยที่สามารถตัดเหล้าบุหรี่
สิ่งเสพติด ทั้งหลายทั้งปวง ออกไปจากตัวเอง และครอบครัวไปได้ เพราะท้องที่ตำบลแม่ตื่น-ม่อนจองนั้น
การต้มเหล้ามีอยู่แทบทุกหมู่บ้าน เหล้าป่าที่นี่ถือเป็นเรื่องธรรมดา เนื่องจากหมู่บ้านเป็นบ้านป่า-บ้านดอย
หน้าฝนอาหารมังสวิรัติจึงมีมากมาย หน่อไม้เอย เห็ดเอย ผักบุ้งเอย ผัก ผู้รู้คุณค่าของศีล ได้เรียนรู้ปรับปรุงแก้ไขตัวเองไปตามลำดับ ได้รับอานิสงส์และเพิ่มความเข้าใจ-รู้ชัดเป็นขั้นเป็นตอน นี้เป็นหลักประกันให้ชีวิต จะไม่เลือกเดินทางชั่ว ไม่ไปสร้างบาป-เวร-ภัยอีก ด้วยรู้แล้วว่า ศีลนำสุขนำความเจริญพัฒนามาให้อย่างนี้แล จดหมายจากฟินด์แลนด์ ชุมชนทำงานในตอนเช้าเขาจะประชุมก่อน และจ่ายงานให้ทีมไปทำ แล้วเมื่อเวลาหมดก็มาพบกัน พูดคุย-กินอาหารและผู้นำแต่ละองค์กรดูผลงาน ส่วนคนจน เขาก็ช่วยให้มีงานทำ มีเงินพอซื้อ อาหาร บ้าน รถ ไว้ทำมาหากินตอนยังมีงาน แต่พอแก่ร่างกายทำงานไม่ไหวทำไม่ได้รัฐดูแล เขาสร้างระบบรักษาสิทธิได้ดีมาก ประชาชนจะได้รับสวัสดิการกลับคืนเป็นการตอบแทน มีมาตรฐานเขาจะช่วยกันจริงๆ ทันต่อเหตุการณ์มาก ทั่วโลกมาดูงานที่ Hamburg ที่นี่เขามีงานทำตลอด
และสร้างงานเสมอ มีตาดู มีหูฟัง แต่บางคนที่แย่ๆ เขาก็ให้ไปอยู่ในที่ที่ไม่มีคนมาก
เมื่อมีผลงานดี อะไรก็ดี เมืองก็มีแต่คนไปดูด้วยตาตนเอง เมืองไทยอยู่เขตร้อนก็มีธรรมชาติอย่างเมืองร้อน ผู้คนก็มีจริตนิสัยต่างกันไป ปัจจุบันนี้คนไทยหันกลับมาดูแลนิยมรักษาดิน-น้ำ-ฟ้า-ป่า-พันธุ์ไม้กันบ้างแล้ว และที่สำคัญเมืองไทยมีพุทธศาสนา มีวัฒนธรรมที่ดีงาม มีความเป็นพี่เป็นน้องเป็นเครือญาติซึ่งไม่ค่อยเห็นในชาติอื่นๆ หากเติมความมีวินัยให้คนไทยเราอีกสักนิด เพิ่มจิตสำนึกต่อส่วนรวมอีกสักหน่อย บ้านเราจะน่าอยู่ขึ้นอีกมาก เริ่มนับหนึ่งที่ตัวเราแต่ละคนซะแต่วันนี้ดีกว่ามั้ย? ยังดื่มเบียร์ ศีลยังไม่บริสุทธิ์
เบียร์เป็นเครื่องดื่มมึนเมาชนิดหนึ่งซึ่งปกติไม่ได้ใช้เบียร์ในการรักษาอาการความดันต่ำ ผู้มีอาการมึนหัวมีหลายสาเหตุ เหตุหนึ่งมาจากไม่ได้ออกกำลังกาย หากเพิ่มการเดิน การเคลื่อนไหว ร่วมกับการฝึกหายใจยาวๆลึกๆช้าๆ กินอาหารและดื่มน้ำให้พอเหมาะ รวมถึงรักษาอารมณ์ให้แจ่มใส จะช่วยปรับสมดุลเรื่องนี้ได้ดี อย่างไรคือ....ครูวิถีพุทธ - เท่าที่ทราบในปัจจุบัน ครูพยายามสร้างผลงานทุกอย่าง เพื่อเอาตัวรอด ทำให้มีเวลาดูแลนักเรียนน้อยลง ไม่ทำไม่ได้ เพราะโดนบังคับมาจากหน่วยเหนือ ถ้าเราเตรียมการสอน สอน ดูแลเด็กที่มีปัญหา บางที่ตามเด็กถึงบ้าน แต่เดี๋ยวนี้ทำไม่ได้ เฉพาะทำแฟ้มมาตรฐานการศึกษาก็ไม่มีเวลาแล้ว - เอกสารต่างๆ ต้องทำทุกปี เช่น รวบรวมคำสั่งต่างๆ ว่าทำอะไร ทำงานทุกอย่างต้องหวังผล โดยการบันทึกเฉพาะค่ากระดาษและเพิ่มเอกสารปีหนึ่งหลายร้อยบาท พอสิ้นปีมาก็เปลี่ยนใหม่ ครูปัจจุบันมีภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มมาก ในสมัยก่อนเราดูแลเด็กด้วยความรัก สอนเด็กให้เป็นคนดี เรื่องเก่ง มีศีลธรรม โดยใช้ความเมตตาเป็นหลักไม่จำเป็นต้องทำหลักฐาน เพราะทำเอาบุญ ไม่ต้องการเอาหน้าหรือความดีความชอบอะไร - เมื่อครูต้องทำเอกสารตามมาตรฐานที่กระทรวงกำหนด ครูบางคนก็โยนภาระให้เด็กนักเรียนทำ เช่น การทำโครงงานแต่ละวิชา หมดเงินวิชาละหลายร้อยบาท แล้วนำไปโชว์ผลงานของครู ทำให้ครูได้รับความดีความชอบ บนความทุกข์ของนักเรียน และผู้ปกครอง แทนที่เราจะสอนในชั้นเรียนแบบสมัยเก่า ซึ่งไม่ต้องใช้ค่าใช้จ่าย และทำกันโดยดูแลอย่างใกล้ชิด แทนที่จะปล่อยเด็กให้ทำกันเอง บางคนเสียตัวก็มี กว่าผู้ปกครองจะรู้ก็สายไปเสียแล้ว - การจะเป็นครูวิถีพุทธ
ในปัจจุบันนั้นทำได้ยากมาก จะถูกต่อต้านจากกลุ่มไร้คุณธรรม มือถือสากปากถือศีล
ประจบสอพลอ แต่ปัจจุบันผมก็พยายามทำให้ดีที่สุด ผู้ที่มีศีลห้า คือ ครูที่โลกต้องการ โรงเรียนวิถีพุทธ เป็นได้ทุกที่ที่มีครูที่มีศีลห้า ดูแลกายกรรม วจีกรรม และมโนกรรมของตน ไม่ให้ด่างพร้อยด้วยศีล จนกว่าความเดือดร้อนใจจะลดลงๆๆ เมื่อความสงบสุขมาเยือน เราจะรู้ว่า เราจะทำประโยชน์เกื้อกูลเพื่อนครูและลูกศิษย์ อย่างไร ระวัง....ทำงานอย่าสร้างศัตรู! - สารอโศก อันดับที่ ๒๖๕ ตุลาคม ๒๕๔๖ |