- แม่น้ำ ลักขิตะ

-พายุสงบ ทะเลเรียบ... ทำใจให้ไร้ซึ่งโศกเศร้า เราก็มีแต่สุขสันต์


 

พายุร้ายโหมพัดกระหน่ำ ทะเลป่วนปั่นบ้าคลั่ง.....หลังจากพายุพ้นผ่าน มหานทีกลับมาเงียบสงบดังเดิม เสมือนชีวิตคนเรา ยามโศกเศร้ารุมเร้าเจียนบ้า แต่เมื่อดับโศกาลงได้ คล้ายประตูสวรรค์เปิดอ้า ทำไมโลกนี้ต้องมีความเศร้าด้วยนะ? ทำไมเราต้องหมองหม่น? ทำไมเราต้องร้องไห้? ทำไมเราต้องเสียใจ?.....

คำถามเหล่านี้ น้อยคนนักที่จะถาม-เหมือนคนถามอีเดียต หลายคนรู้สึกเช่นนั้นทันที

เหมือนเป็นคำถามง่ายๆ แต่ใครสามารถตอบได้ทันทีโดยไม่คิด และกระจ่างนัยความหมายที่สื่อ

"ทำไมโลกนี้ต้องมีความเศร้าด้วยนะ?....."

เราจะตอบว่าอย่างไร? แค่คำถามแรกก็ไม่ง่ายซะแล้ว

สัจจะโลกนั้นแบ่งออกเป็นสองส่วน คือ ปรมัตถสัจจะ กับ สมมุติสัจจะ

ปรมัตถสัจจะ...เป็นความจริงสูงสุด รู้ได้ยาก เป็นเรื่องของปัจเจกชน รู้เห็นได้ด้วยตนเอง

สมมุติสัจจะ...เป็นความจริงที่โลกบัญญัติสมมุติขึ้นมา เพื่อใช้แสดงออก สื่อสารระหว่างมวลมนุษย์ อย่างกิริยาอาการเศร้าของคนเรา ก็เป็นสมมุติสัจจะอย่างหนึ่ง ที่ปุถุชนใช้สื่อแสดงออก ถึงอารมณ์ความรู้สึกภายในใจ

แต่ในด้านของปรมัตถสัจจะ ถือว่าความเศร้าไม่มีจริง แต่เพราะคนยังถูกครอบงำด้วยอวิชชา จึงได้ปั้นอารมณ์ทุกข์ขึ้นมา บัญญัติภาษาตามสมมุติโลกว่าคือความเศร้า และใช้แสดงออกเมื่อต้องเผชิญกับการสูญเสีย

เป็นไปตามสมมุติสัจจะ ที่โลกนี้ต้องมีความเศร้า เพราะสังคมคนสานสัมพันธ์กันด้วยสมมุติโลก หากโลกนี้ไร้สมมุติ มนุษย์คงวุ่นวายสับสน

ตัวเราเอง หากจะอยู่ร่วมกับสังคมได้อย่างมีความสุข ต้องเข้าใจสมมุติสัจจะ และปรมัตถสัจจะให้ถ้วนรอบ อย่าหลงปรมัตถ์จนลืมสมมุติ อย่ายึดติดสมมุติจนไม่เข้าถึงปรมัตถ์ ความเหมาะควรไม่มีสูตรตายตัว ขึ้นอยู่กับการประมาณของแต่ละคน ประกอบกับสภาพการณ์ที่เป็นอยู่นั้นๆ

เมื่อทำใจให้ไร้ซึ่งโศกเศร้า เราก็มีแต่สุขสันต์....อันนี้เป็นส่วนของปรมัตถสัจจะ

เพราะอวิชชา หลอกเราให้ปั้นอารมณ์เศร้า แล้วก่อเป็นทุกข์ทับถมชีวิต ครวญคร่ำร่ำไห้กับการสูญเสียของรัก กระนั้นสิ่งที่เสียไปหาได้คืนกลับมาไม่

โลกนี้มีการพรากจากของรักเป็นธรรมดา หากเข้าถึงสัจจะส่วนนี้ วิชชาจะเกิดกับตัวเราทันที แล้วเราไม่ต้องปั้นอารมณ์เศร้าอีกต่อไป

ชีวิตก็มีแต่สุขสันต์เท่านั้น...

- สารอโศก อันดับที่ ๒๖๖ พฤศจิกายน ๒๕๔๖ -