แถลง
เนินมหัศจรรย์ที่ภูผาฟ้าน้ำ

ถ้าจะพูดถึงความสุขจากการได้เฉลิมฉลองในเทศกาลสำคัญๆของชาวอโศก นับว่าพวกเรา มีงานเฉลิมฉลองกันทั้งปี ได้ทั้งความสุข ความประทับใจ และได้สาระสำคัญของชีวิต

เรามีทั้งงานฉลองปีใหม่ งานฉลองหนาว งานฉลองแล้ง (พุทธาภิเษกฯที่ศาลีอโศก) งานฉลองร้อน (ปลุกเสกฯที่ศีรษะอโศก) งานฉลองน้ำ (ยามน้ำท่วมที่บ้านราชฯ) งานบูชาพระบรมสารีริกธาตุที่สันติอโศก งานเฉลิมฉลองเทศกาลเข้าพรรษา งานมหาปวารณา (ฉลองออกพรรษาที่ปฐมอโศก) ......ฯลฯ

จริงๆแล้วชาวอโศกน่าจะมีวิถีชีวิตที่มีความสุขมากที่สุด เพราะมีงานบุญให้เกิดปีติ ปราโมทย์ กันเกือบทั้งปี ชาวอโศกคนใดที่ยังทุกข์ยังโศกอยู่ แสดงว่าน่าจะตกรถด่วนขบวนสุดท้าย เพราะเอาแต่จมอยู่ในโลก (ภพและอัตตา) ของตัว จนไม่สามารถโผล่หน้าออกมาดูดาวดูเดือน เสมือนกับหอยขมหอยโข่งที่ถูกสาปฉะนั้น

ถ้าใครได้ไปงานฉลองหนาว จะได้นั่งรถผ่านเนินมหัศจรรย์ซึ่งอยู่ระหว่างทางก่อนขึ้นภูผาฯ เป็นเนินที่รถจะวิ่งขึ้นไปได้เองโดยไม่ต้องติดเครื่องแต่อย่างใด มีผู้รู้อธิบายว่า การที่รถสามารถ วิ่งขึ้นเนินได้เองนั้น มันเสมือนกับรถวิ่งลงเหวหรือลงเขา แล้วมีเนินอยู่กลางเหว ยังไงๆ แรงโน้มถ่วง ของโลกที่มากกว่าก็ต้อง ฉุดรถขึ้นฝ่าด่านเนินมหัศจรรย์ได้อยู่แล้ว

เนินมหัศจรรย์นี้เปรียบเหมือนค่ายกลในการปฏิบัติธรรม (อุปกิเลส ๑๖) พวกเราบางคนติดแหง็ก อยู่แค่เนินนี้ ทั้งๆที่หมู่กลุ่มโดยภาพรวมส่วนใหญ่กำลังเจริญรุดหน้าไปด้วยดี เหมือนร้านอาหาร มังสวิรัติที่จำหน่ายในระบบบุฟเฟ่ต์ทุกวันนี้ ทั้งๆที่มียอดขายเพิ่มขึ้น มีกำไรเพิ่มขึ้น แต่แม่ค้า บางคนยังเครียด ไม่สบายใจ คอยจ้องแบบเอาเป็นเอาตายกับลูกค้าบางรายที่ตักมากไปหน่อย ซึ่งต้องถือว่าสอบไม่ผ่านเนินมหัศจรรย์นี้ไปได้ ทั้งๆที่ภาพรวมกำลังไปได้สวย

ในงานพุทธาฯที่ผ่านมา หลายๆคนได้ประโยชน์กันอย่างเต็มที่เพราะสามารถฝ่าด่าน เนินมหัศจรรย์นี้ได้ นับตั้งแต่อุปกิเลสตัวแรกคือ อภิชฌาวิสมโลภะ (เพ่งเล็งที่จะเอาให้ได้ ดังใจตน) เช่น จะต้องแย่งนั่งแถวหน้าให้ได้ จะต้องได้ฟังธรรมะชั้นสูงระดับอภิธรรม ฯลฯ หลายๆคน ที่ปลดล็อคตัวเองออกมาได้ ก็จะรู้สึกอบอุ่นและได้สัมผัสภราดรภาพอันยิ่งใหญ

หลายๆคนที่เคยเอาแต่หมกมุ่นอยู่กับการงานของตน (มทะ-ปมาทะ) แต่พอได้วางงาน ออกมาได้บ้าง มาตั้งใจศึกษาฟังธรรมอย่างเต็มที่ก็ได้พบจิตที่เบาสบาย เบิกบานแจ่มใสขึ้นทันที

ก็หวังว่าพุทธคุณที่ได้ไปพุทธาภิเษกฯกันมา จะอยู่กับพวกเราได้ยั่งยืนยาวนาน จนเกิด สุดยอดปาฏิหาริย์ ก็เพราะทุกๆท่านตั้งใจศึกษาฟังธรรม ประพฤติปฏิบัติธรรม โดยเอาธรรมะ เป็นใหญ่ ไม่ใช่เอาแต่ใจ-เอาแต่อารมณ์เป็นใหญ่ หรือเอาแต่งานที่ตนเองชอบเป็นใหญ่ โดยทำใจในใจให้แยบคายที่จะปฏิบัติอธิศีล-อธิจิต-อธิปัญญา ให้เหมือนๆกับที่ได้อยู่ ในงานพุทธาฯมานั่นเอง

- คณะผู้จัดทำ -

- สารอโศก อันดับที่ ๒๖๘ มกราคม ๒๕๔๗ -