ผู้นับถือ "พุทธ"
ต้องมี "ศีล" คุ้มครองตน ตอนนี้ก็ขอให้ได้อ่านหนังสือและฟังเท็ปไปก่อน นอกจากนี้ผมก็ยังได้ปฏิบัติตามคำสอนของ
พระพุทธองค์ ตามที่พ่อท่านได้สอนไว้คือ ยังกินข้าวสองมื้อคือมื้อเช้ากับมื้อเที่ยงมาตลอด
กินมังสวิรัติบริสุทธิ์ ในวันพระ และวันเกิด ส่วนวันธรรมดาก็เจเขี่ย เพราะทางภรรยายังทำไม่ได้
เหล้าและของเสพติดทุกชนิดเว้นเด็ดขาด อบายมุข ไม่เกี่ยวข้อง แม้แต่หวยบนดินใต้ดินก็ไม่เอา
พร้อมกันนี้เรื่องความโกรธและการให้อภัย แม้คนที่ทำไม่ดีกับเรา ก็ทำได้แล้ว
ในอนาคต ผมจะพยายามกินมื้อเดียวให้ได้ครับ *** หากได้ตรวจตนด้วยศีล เรียนรู้ทำความเข้าใจตัวเองด้วยศีลทั้ง ๕ ข้อ ดังนี้ ข้อที่ ๑ เว้นจาก การฆ่าชีวิต และทำร้ายคนหรือสัตว์ ข้อที่ ๒ เว้นจากการลักทรัพย์ ไม่เอาของที่ไม่ใช่ของเรา มาเป็นเจ้าของ ข้อที่ ๓ เว้นขาด จากการประพฤติผิดทางกาม กับลูกหรือภรรยาผู้อื่น ข้อที่ ๔ เว้นขาดจากการพูดโกหก พูดคำหยาบ พูดนินทา พูดเพ้อเจ้อ และข้อที่ ๕ เว้นขาดจาก การเสพสิ่งติดพวก เหล้า บุหรี่ หรือยาเสพติดต่างๆ รวมถึงการดู การละเล่น เล่นพนัน เที่ยวกลางคืน คบมิตรชั่ว เกียจคร้านการงาน โดยหมั่นระลึกทบทวนตัวเองบ่อยๆ สร้างความเคยชินอย่างนี้ให้ได้เสมอๆ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ก็นับว่าเป็น ชาวอโศก คือเป็นผู้ไม่โศก ด้วยมีศีลคุ้มครองนั่นเอง ได้ผลเป็นอย่างไร เขียนมาเล่า สู่กันฟังบ้าง สำหรับ การบำเพ็ญตบะ เรื่องอาหารการกิน และลดละอบายมุข ที่เขียนมาเล่า สู่กันฟังนั้น เป็นตัวอย่าง ที่ดีทีเดียว ก็นี่แหละ อ่านอย่างเดียว ได้ประโยชน์ระดับหนึ่ง แต่หากลงมือทำ จะได้ประโยชน์มากกว่าไงล่ะ - บ.ก. แด่...เพื่อนผู้พลาดพลั้งไป ขณะนี้มี ๗๖ จังหวัดมีเรือนจำอย่างน้อย ๗๖ แห่งขึ้นไป มีพี่น้องถูกจองจำมากพอควร อยากให้สารอโศก เข้าเรือนจำ ทุกเดือน ทุกจังหวัด สารอโศกเป็นยาเย็น เป็นสมุนไพร ให้แก่คนป่วย ไหนๆ ก็เพื่อบุญกุศล อยู่แล้ว ผมขอได้พิจารณาด้วยครับ สารอโศกจะเป็นเหมือนแสงเทียน เหมือนยาแก้ร้อนใน ข้าวจานสุดท้าย สำหรับคนหมดโอกาส
คนเสียคน แล้วจะได้คิด ๔-๕ คนก็ยังดี ดีกว่าบางคนรับหนังสือก็ปล่อยขาด เปื่อยไปกับ
กาลเวลา ผมว่าหนังสือ เข้าเรือนจำ ไม่เสียฟรีหรอกครับ เขากำลังรอญาติทางหนังสืออยู่ครับ
เขาไม่มีทางออก มีจำนวนหนึ่ง ถึงจะไม่มาก แต่ได้ผล เพราะจำเป็นต้องอ่านหนังสือ
จำเป็นครับ ไหนๆ สารอโศกดึงคน จากบาปสู่บุญ อยู่แล้ว *** สารอโศกยินดีและเต็มใจ หากเรือนจำแห่งใดต้องการ จะส่งให้ทุกเดือนเช่นเดียวกับสมาชิก สารอโศก ท่านอื่นๆ ขอให้เขียนสมัครเป็นสมาชิกมาพร้อมกับแจ้งชื่อและที่อยู่ ที่ต้องการให้ส่งไป ให้ชัดเจน ทางเรายินดี จะส่งไป ให้อ่านฟรี กติกามีอยู่ว่าต้องตอบรับ หรือเขียนความคิดเห็น หรือข้อปฏิบัติ ที่ได้จากการอ่าน ส่งกลับมาให้ด้วย ปัจจุบันนี้หากสมาชิกท่านใด ที่ขาดการ ตอบรับ ติดต่อกันนาน เราจะพิจารณางดส่ง เพื่อจะได้ส่งให้ผู้ต้องการรับ สาระสัจจะ ท่านอื่นๆต่อไป - บ.ก. อีกมุมมองหนึ่งสำหรับชาวอโศก จำไว้เถอะ "พ่อแม่ไม่อยู่บ้าน สมภารไม่อยู่วัด กษัตริย์ชอบเสด็จประพาส" ณ ที่ใดที่นั้นมีปัญหา ชาวอโศก ชาววัดทั้งหลาย ทราบแล้วกลับวัดด่วน! ต้องขอย้ำอีกว่าในบรรดาโลกธรรมทั้งหลาย ชาวอโศกติดสรรเสริญ-เกลียดนินทา-คนนอก
มาแตะไม่ได้ ถ้ามีคนนอก มาว่ากล่าว มักมีประโยคที่ท็อปฮิตติดปากว่า... "พวกคุณไม่เข้าใจพวกเรา"
ความจริง หลักการของพวกท่าน มันชัดเจนอยู่แล้วว่า "เพื่อละกิเลส
เพื่อความพ้นทุกข์" จะต้องไปหวั่นไหวอะไร กับคนยอมรับ
ไม่ยอมรับ เรื่องสรรเสริญ -นินทา ท่านก็รู้อยู่แล้วว่า เป็นของธรรมดา อันว่าคนเรานั้น
เมื่อยังมีกิเลสอยู่ พอขึ้นสูงไปถึงจุดๆหนึ่ง ก็จะหลง ถ้าไม่มีคนเตือน หรือไม่ยอมรับฟังคำตักเตือน
ก็จะเตลิดเปิดเปิงไป เอาละ! ท่านให้แสดง ความคิดเห็นก็แสดงมา
ข้อดีของชาวอโศกก็มีเยอะแยะ ข้าพเจ้าก็มองเห็นอยู่ ไม่ใช่ไม่เห็น แต่จะมานั่งยกยอกันก็คงไม่มีประโยชน์
ดีเหล่านั้น ก็อยู่ในตัวท่านแล้ว พูดข้อไม่ดี ของท่าน ถ้าท่านมองเห็นแก้ไขได้ดี
ก็จะได้เจริญงอกงามยิ่งขึ้นๆๆ *** ขอขอบคุณสำหรับการสะท้อนมุมมองอีกมุมของชาวอโศกให้ดู...ชาวเราได้รับการติงเตือน จากพ่อท่าน เสมอมา เรื่องอย่าขยายอย่าสร้างงานให้กว้างเกินตัวเกินกำลังของตน เราผู้ทำงาน ก็ไม่ได้มีใจ ติดหลง ดังที่คุณติงมา อยากบอกว่าเราเหน็ดเหนื่อย ไม่สนุก เหมือนอย่างที่เคย ทำงาน สมัยอยู่ทางโลก ที่มีเครื่องล่อ ดังที่คุณกล่าวมาแล้วว่า และล่อให้เกิดความรู้สึก ท้าทาย เรื่อยไป ดังที่คุณวิเคราะห์นั้นเลย แต่เราอยู่ในสังคม อยู่ในโลก สัมพันธ์กันกับผู้คน เมื่อควรต้องเสียสละ เราก็ทำด้วยเต็มใจ เต็มกำลัง ด้วยเห็นคุณค่า เห็นประโยชน์ เราไม่ได้แสวงหาแต่เหตุ-ปัจจัยเกิดเชื่อมโยง ต่อกันมาเอง หากแม้มีงาน เข้ามามากๆ เราก็ทำได้เท่าที่กำลังเรามีเท่านั้น นั่นแหละ ทำเกินกำลัง ก็ไม่ไหว ที่สำคัญ เราได้เรียนรู้ ฝึกจัดการกับกิเลสสดๆ เมื่อไม่ได้ดังใจ เช่นที่เคยชิน จนเป็นนิสัยมาแล้ว นี้แหละเป็นโอกาสได้ฝึกตัวเองจัดการกับกิเลสของเราเอง เพราะเราเห็นคุณค่าอย่างนี้ เราจึงทำ - บ.ก. แด่...คุณพ่อคนใหม่ของครอบครัว! -ทีแรกเกรงว่าพ่อจะไม่ไหว เพราะชอบเป็นโรคปวดขา เดินมากนานๆไม่ได้ หลังจากกลับมาบ้านพ่อกินมังสวิรัติทุกวันทุกมื้อตลอดจนถึงทุกวันนี้เปลี่ยนเป็นคนสุขุม ใจเย็น และรับฟัง ทุกความคิดเห็น เป็นคนยอมได้ พ่อไม่โกรธแม้ในเรื่องที่น่าโกรธ ผู้คนรอบข้าง -เพื่อนสหาย -ญาติพี่น้อง เห็นการเปลี่ยนแปลงของพ่อ ในทางที่ดีขึ้น และกินมังสวิรัติ อย่างเคร่งครัด เริ่มจะปฏิบัติตาม และสนใจ ที่จะศึกษา เลียนแบบพ่อ เพราะพ่อเปลี่ยนไปมาก อย่างคาดไม่ถึง แม่และลูกๆคนอื่น ก็เริ่มให้ความสนใจ และศึกษา อาหารเกี่ยวกับสุขภาพ ตอนนี้ครอบครัวดิฉันกินมังสวิรัติบริสุทธิ์ ๒ คน คือดิฉันกับคุณพ่อ ส่วนคนอื่นๆประมาณ
๗๐% ไม่น่าเชื่อว่า เพียง ๓ วันของคนคนหนึ่ง จะเปลี่ยนแปลงชีวิต
ได้ตั้งหลายชีวิต กราบขอบ พระคุณพ่อ ที่เป็นส่วนช่วย ผลักดัน ให้ดิฉันมีพลัง
ในการเอาจริงเอาจัง และเคร่งครัด ปฏิบัติธรรม มาจนถึงทุกวันนี้ และขอบคุณ
ชาวอโศก ที่ให้คุณพ่อคนใหม่ กับครอบครัวอินดา
ของเราค่ะ (เนื่องในโอกาสวันพ่อแห่งชาติ'๔๖) *** สาธุ! ให้กับครอบครัว "อินดา" ที่ได้รับบุญได้รับกุศลกันโดยถ้วนหน้า หากมีโอกาสก็มาร่วม งานพุทธาฯ งานปลุกเสกฯ ซึ่งเป็นงานประจำปีที่ในหมู่ผู้ขวนขวายศึกษาประพฤติธรรม จะไม่พลาด ทั้งสองงานนี้ กันเลย นอกจากเจ็บป่วย หรือติดธุระสำคัญกันจริงๆ เพราะได้รับ ประโยชน์มาก เหมือนกับได้มาเติมพลัง ให้ชีวิต - บ.ก. วิบากกรรม ทำให้ชีวิตเข้มแข็ง แต่ปัจจุบันทุกวันนี้ข้าพเจ้ามีสุขกายสบายใจ เพราะทุกสิ่งที่มันเกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วก็ดับไป มันเป็น ของไม่เที่ยง เราปลงเราวางสิ่งที่มันเป็นอกุศล ยึดมั่นถือมั่นเอาแต่สิ่งที่เป็นกุศลไว้ในตัว อย่างมีสติ ไม่เอาความดี ที่ตนมี ไปข่มเขาอื่น สุดท้ายก็จะได้ไม่นำทุกข์ สุกไหม้มาให้แก่ตนอีก ตั้งแต่แม่บ้าน ลูกหลานทุกคนมีความสุขเย็น เห็นใจกัน ให้อภัย เอื้ออาทรซึ่งกันและกัน เหตุเพราะ เรามีศีล คือ ห้ามทำบาปชั่วเวรภัย ธรรมคือปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เข้าทำนองที่ว่า ธรรมย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม การรักษาศีล ปฏิบัติธรรมนี้ ใครทำได้ก็เป็นของผู้ทำ ตามฐานะแห่งการปฏิบัติ
ตนเองนั้น ตั้งจิตสัจจะ ให้แก่ตนว่า จะต้องเอาจริง แม้ล้มแล้วต้องลุกเดินหน้าต่อ
แม้บางครั้งมีอุปสรรค ทำให้เราถอยถด หมดกำลัง แต่จิตใต้สำนึกที่อยู่ลึกๆนั้นติงเตือนตนเสมอ *** อนุโมทนาสาธุในความตั้งใจเอาจริงที่ไม่ ท้อแท้-ท้อถอยกันง่ายๆ นับเป็นโชคดี ที่มีโอกาสเรียนรู้ ทำความรู้จัก และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ยังไม่เหมาะควรของตัวเองไปด้วย ชดใช้วิบากกรรมไปด้วย - บ.ก. ตัวอย่างที่ดี...มีค่ากว่าคำสอน แต่จะอย่างไรก็ตาม ตราบใดที่ดิฉันยังมีชีวิตอยู่ คงต้องก้าวไปข้างหน้าต่อไป
ทุกวันนี้ ดิฉันเจริญรอย ตามพ่อท่าน ที่ทำงานอย่างไม่รู้จักว่าง ดิฉันอยากใช้
กายสังขารนี้ ให้สมกับที่ได้รับมา *** นับเป็นความคิดความตั้งใจที่ดีงามที่อยากใช้กายสังขารนี้ให้สมกับที่รับมา โดยมีพ่อท่าน เป็นตัวอย่าง ในการเจริญรอยตาม และยินดีที่ทราบว่าหนังสือสารอโศก ช่วยเสริมกำลังใจ ให้ด้วย สำคัญที่ตัวเราเอง เมื่อเจอทุกข์ เจอความท้อแท้มากๆบ่อยๆ ก็น่าจะเรียนรู้ ที่จะปรับเปลี่ยน - ยืดหยุ่นได้เอง ในโอกาสต่อๆไป เพียงแต่อย่าสิ้นหวัง หรือล้มเลิกซะก่อน เท่านั้นเอง! - บ.ก. ทุกสิ่งเกิดขึ้นล้วนดีทั้งนั้น *** หากมองวิกฤตนี้เป็นโอกาส คุณดวงจันทร์มีเป้าหมายที่เป็นรูปธรรมชัดเจนดีมาก ปฏิเสธ ไม่ได้เลยว่า วิบากนี้ ไม่ใช่ของเรา ดังนั้นต้องยอมรับความจริง และทุ่มเทศักยภาพที่มี ทำคืน ให้เต็มที่ โอกาสนี้จะทำให้เราเข้มแข็ง ทั้งกายและใจ ชื่นชมคุณดวงจันทร์ที่มั่นใจว่า จะต้องทำ ทุกอย่างที่สุจริต เพื่อใช้หนี้เขาให้ได้ นี่แหละ เป็นการยืนหยัดยืนยัน ในความจริงของใจที่มี อย่างไรก็ตาม หาเวลาอ่านหนังสือ ฟังเท็ปธรรมะกันบ้างนะ - บ.ก. คนปลูกกาแฟ บอกกล่าว.... นอกจากนี้ยังมีการฉีดยากันมอดเจาะเมล็ดกาแฟ ถ้าสวนนั้นมีมดแดงทำรังบนต้นกาแฟ
เขาก็ฉีดฆ่า มดแดงด้วย ยามใดเมล็ดกาแฟราคาแพง เขารีบขาย ก็อาจต้องฉีดยาฆ่าหญ้า
เพื่อให้กาแฟ ที่ตากบนลาน แห้งเร็วขึ้น เพื่อขายตอนราคาแพง ก่อนการคั่วบดเป็นผง
ถ้าเราเก็บ รักษาไม่ดี หรือเมล็ดกาแฟ ไม่แห้งสนิท มีความชื้น จะมีราเกิดขึ้น
แต่คั่วแล้วจะมองไม่เห็น ผู้ใช้ได้รับเชื้อราอย่างเลี่ยงไม่ได้ ถ้าเราไปซื้อ
เมล็ดกาแฟ จากโกดัง เก็บสินค้าของพ่อค้า เขาจะฉีดยา กันมอดไว้ด้วย เพื่อไม่ให้มอดทำลายเมล็ดกาแฟ
ที่เขาเก็บเอาไว้ จึงเรียนมา ให้ทราบ ในฐานะคนปลูกกาแฟ *** ผู้ใช้กาแฟดีท็อกซ์ ควรได้รับรู้และนำข้อมูลนี้ไปพิจารณา ตรวจสอบคุณภาพกาแฟ ที่ตนเองใช้ เพื่อความปลอดภัย ในชีวิตและสุขภาพของตน ชาวเราก็มักจะได้รับน้ำใจ ให้ความรู้ และ ช่วยบอกกล่าว จากผู้รู้หลายๆท่าน อย่างนี้อยู่เสมอๆ ด้วยความขอบพระคุณยิ่ง - บ.ก. รักษ์สิ่งแวดล้อม...ต้องยอมเปลี่ยนแปลง ในบทความ หน้าปัดชาวหินฟ้า ซึ่งได้เขียนเกี่ยวกับการรับบริจาคถุงใช้แล้วดังนี้ ชื่นชม....ต้องขอเชียร์กับชาวพลังบุญและแด่ชีวิต ที่ติดป้ายรับบริจาคถุงใช้แล้ว เพื่อนำกลับมาใช้ ในกิจการ ของบริษัททั้งสอง เพราะเป็นแนวคิดที่นอกจาก จะช่วยกัน ประหยัด ต้นทุนต่างๆแล้ว ยังได้ช่วยกัน รักษาสิ่งแวดล้อม ของประเทศด้วย ในประเทศเยอรมนี เมื่อประมาณ ๖-๗ ปี ที่ผ่านมา ห้างสรรพสินค้า บริษัทห้างร้าน และร้านค้า ต่างๆ ได้มีการเริ่มใช้ ถุงผ้าฝ้ายเอาไว้บรรจุสิ่งของที่ลูกค้าได้ซื้อแทนการใช้ถุงพลาสติก ในขั้นแรก จะมีการแจก ถุงผ้าฝ้ายนี้ ให้แก่ลูกค้าฟรีๆโดยไม่คิดราคา แต่ที่ถุงผ้าฝ้ายเหล่านี้ ก็จะมีการพิมพ์โฆษณาต่างๆ ซึ่งเป็นผลดี สำหรับห้างสรรพสินค้า บริษัทห้างร้าน และร้านค้า ต่างๆไปในตัว บางบริษัท หรือสมาคมที่ไม่ได้เกี่ยวข้อง กับการค้าขาย โดยตรง ก็ผลิตถุงผ้าฝ้าย ออกมาแจก ให้ประชาชนเช่นกัน เป็นการสนับสนุน การใช้ถุงผ้าฝ้าย แทนการใช้ถุงพลาสติก เวลาไปซื้อของ ลูกค้าก็จะเอาถุงผ้าฝ้ายติดตัวไปด้วยคนละถุง หรือสองถุง ถ้าไม่มีถุง หรือ มีถุงไม่พอ ทางร้านค้า ก็จะแจกถุงให้ฟรี ถุงผ้าฝ้ายใบหนึ่งจะใช้ได้แรมปี ถ้าเกิดสกปรกขึ้นมา ก็ซักล้างได้อย่างง่ายดาย ทางฝ่ายพ่อค้า ก็สามารถ ประหยัดต้นทุน และรักษาสิ่งแวดล้อม ทางฝ่ายลูกค้าก็ภูมิใจ ที่มีส่วนช่วยรักษา สิ่งแวดล้อม เท่าที่กระผมทราบ ถุงพลาสติกย่อมทำมาจากพลาสติก พลาสติกก็ทำมาจากน้ำมันดิบ และ เราก็ต้อง ซื้อน้ำมันดิบ มาจากต่างประเทศเพื่อทำพลาสติก สำหรับถุงผ้าฝ้ายนั้น ก็ทำมา จากฝ้าย ซึ่งเราไม่ต้องซื้อ จากต่างประเทศ ดังนั้นนอกจากจะช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังช่วย ประหยัดเงินตรา ของชาติด้วย ที่กล่าวมานี้ เป็นเพียงการเพ้อฝันของกระผมคนเดียวเท่านั้น แต่เป็นสิ่งที่กระผมอยากจะเรียน
ให้ท่านทราบ เพราะจาก บทความในข่าวอโศก ทำให้เกิดความเพ้อฝันเช่นนี้ขึ้นมา
ได้เหมือนกัน เลยขอเล่าสู่กันฟัง *** ขอบคุณที่กรุณาส่งข้อเขียนให้เป็นกำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติ ในการหมุนเวียนนำถุงกลับมาใช้ สิ่งที่คุณอารี คิดคาดหวัง คงไม่ใช่เรื่องเพ้อฝัน เพราะหลายงานของชาวอโศกได้ใช้ถุงผ้า บรรจุ สิ่งที่จะมอบ เป็นของขวัญ ของที่ระลึก แก่วิทยากรในงานสำคัญๆ โดยเฉพาะคอลัมน์ ไร้บุญนิยมสังคมอันตราย ในสารอโศก เจ้าของคอลัมน์ ได้มอบถุงผ้าเป็นที่ระลึก ให้แก่ผู้ที่ ส่งบทความ แล้วได้ตีพิมพ์ หากเราพยายาม เริ่มต้นทำ ที่ตัวเราเอง แต่ละคนหลายๆคน ก็ทำให้มีน้ำหนัก ที่จะยืนหยัดยืนยัน ทำสิ่งที่ดีงาม ให้กับสังคม สิ่งแวดล้อม อีกมากเลย โอกาสต่อไป หากมีเรื่องนำเสนอเชิญได้ทุกเวลา - บ.ก. - สารอโศก อันดับที่ ๒๖๘ มกราคม ๒๕๔๗ - |