- ฝั่งฟ้าฝัน -


ทุกสิ่ง....อยู่ที่ตัวเรา

การทำงานคือการปฏิบัติธรรม จะเป็นงานใดๆที่ทำทั้งทุจริตสุจริต ล้วนสั่งสมลงเป็นกรรม ของตัวเราเองทั้งสิ้น กรรมดีกรรมชั่วอยู่ที่ตัวเราทำ พูดดีพูดชั่วพูดให้ร้ายคนอื่นพูดชมคนอื่น ล้วนเป็นกรรมของตัวเราเองทั้งสิ้น

ดิฉันรู้จักชาวอโศกตั้งแต่ปี ๒๕๒๔ เริ่มปฏิบัติตามโดยกินอาหารมังสวิรัติทันที (จนถึงทุกวันนี้ ไม่เคยคิดกลับไปกินเนื้อสัตว์อีกเลย) พ่อท่านพาหมู่กลุ่มปฏิบัติอย่างไร ดิฉันก็ทำตาม มีงานปลุกเสกฯพุทธาฯ ดิฉันก็จะไปร่วมงานเป็นประจำ ไม่ขาด เพราะงานที่จัด เป็นงานที่ ให้ประโยชน์แก่ผู้ไปร่วมงานทั้งสิ้น ได้ฝึกตนเอง ฝึกอดทนต่อสภาพแวดล้อม ที่สุดคือฝึกจิตใจ ของเราให้ปล่อยให้วาง ให้เบา ให้ว่างให้ได้กับผัสสะรอบกาย

เมื่อปฏิบัติแล้ว มันได้ผลดีต่อตัวเราเอง ดิฉันก็อยากให้ลูกให้หลานได้ในสิ่งที่ดีๆนี้บ้าง พยายาม ส่งเท็ปส่งหนังสือไปให้ และไปชวนเขามาคบคุ้นเพื่อซึมซับสิ่งดีๆ ด้วยความอยากให้ ลูกหลาน ได้สิ่งดีๆ ดิฉันจึงพยายามดึงให้ลูกๆหลานๆมาปฏิบัติในแนวทางอโศก

จนวันหนึ่งไปปรึกษาพ่อท่านสมณะโพธิรักษ์ท่านบอกว่า "ดึงแขนเขาแขนเขาก็ขาด ดึงหัวเขา หัวเขาก็ขาด คนไม่มีบารมีดึงอย่างไรก็ไม่มา"

ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ดิฉันก็ไม่อยากดึงลูกๆหลานๆ เพียงแต่มีอะไรที่น่าสนใจ ก็บอกกล่าวเขา เพื่อทราบ เท่านั้นเอง ดิฉันกราบขอบคุณพ่อท่านมากๆเลย เพราะทุกสิ่งทุกอย่าง มันขึ้นอยู่กับ ตัวเราเอง เราปฏิบัติดีมันก็ได้ดีที่ตัวเรา เราทำตัวเลว เลวมันก็อยู่ที่ตัวเรา

ดิฉันเข้ามาอยู่ที่สันติอโศก มาช่วยงาน สมัยโน้นยังเป็นบ้านทรงไทย ดิฉันมาทำข้าวต้มมัดขาย การอยู่กับคนหมู่มาก ต้องปรับตัวมากๆ บางครั้งก็ต้องทำเป็นเอาหูไปนา เอาตาไปไร่บ้าง สิ่งไหน ที่เห็นเขาทำมันไม่ดี เราก็ไม่ต้องไปทำแบบอย่างเขา เขาพูดไม่ดีเราก็ไม่ต้องไปสนใจ ทำแบบนี้ อยู่สบาย ทำข้าวต้มมัดขายตั้ง ๖ ปี

สมัยมีคดีเกี่ยวกับชาวอโศก พ่อไปไหนดิฉันก็ตามไป ไปเป็นหมู่เป็นมวล พ่อพาทำอะไร ก็ทำตามไป เพราะเชื่อมั่นในพระโพธิสัตว์ทำตามท่านไปเถอะ ท่านไม่พาไปทำเลวร้ายหรอก ท่านพา ให้ทุกคนเป็นคนดี ดีให้ถึงจิตวิญญาณลึกๆ เมื่อคนดีมีมากขึ้น สิ่งแวดล้อม มันก็จะดี ตามมาเอง

อย่างที่พ่อท่านพากินอาหารมังสวิรัตินั่นแหละ เพื่อให้พวกเราเป็นคนที่มีศีลข้อ ๑ ถึงจิตวิญญาณ เพราะไม่ฆ่าและไม่ส่งเสริมให้คนอื่นฆ่าเพื่อเรา ความเมตตาก็จะตามมา จนไม่กล้า ที่จะทำร้ายมด หนู กา ไก่ แมลงสาบ หรือแม้แต่ยุงยังไม่ตบเขาตายเลย ให้เขากิน กินแล้วก็ไป

แล้วพ่อท่านก็พาพวกเราทำกสิกรรมไร้สารพิษเพื่อให้สิ่งแวดล้อมมันดีขึ้น ลองคิดดู ถ้าพืช มีแต่สารพิษ ยาพิษ มนุษย์เราจะอยู่กันอย่างสันติได้ไหม? จะอยู่กันให้อายุยืนได้ไหม? ไม่ได้ เพราะสิ่งแวดล้อม มันเป็นพิษหมดแล้ว อากาศก็พิษ น้ำก็พิษ คนใช้อากาศหายใจ อากาศ เป็นพิษ ชีวิตเราก็ตาย จริงไหม

อย่างเด็กๆที่อยู่กับกลุ่มชาวอโศก ยายอิจฉาเขานะ ว่าเขามีบุญมีบารมี ได้มาช่วยงาน พระโพธิสัตว์ ตั้งแต่เล็กแต่น้อย ไม่เหมือนสมัยดิฉัน เจอก็ตอนไม้ใกล้ฝั่งเต็มแก่ เด็กๆเขามีบุญ ถึงได้เข้ามาอยู่ มาช่วยงานด้านศาสนา ดีใจแทนเขา ที่เขาได้สั่งสมบุญ ได้พบหมู่กลุ่ม ที่ไม่มี การเข่นฆ่ากัน

ที่ไหนๆก็ไม่เหมือนหมู่กลุ่มชาวอโศก ใครที่จะเข้ามาก็ให้ทดลองก่อน จะอยู่ได้จะปฏิบัติตามได้ ต้องมีบารมีเหมือนกัน บารมีเป็นเรื่องสำคัญ ถ้าไม่มีบารมีเข้ามาก็ไม่ติด อยู่ไม่ได้ เหมือนที่พ่อท่าน เคยตั้งไว้ว่า เข้ามา ไม่ถึง ๗ ครั้ง ไม่ให้ทำบุญ

ถึงแม้บารมีจะฝึกกันได้ แต่ถ้ามาพบสิ่งดีแล้วไม่ฝึก มันก็ไม่ได้บารมี เหมือนเรียนหนังสือ ให้จบถึงปริญญา แต่ถ้าไม่เอาไม่ทำ ก็ไม่ได้ปริญญาเฉกเช่นเดียวกัน จึงต้องสร้างบารมี จากการ เริ่มต้น ตั้งแต่เรื่องอาหาร การกินไปเรื่อยๆแล้วจะรู้เอง เห็นเอง และเป็นเองในที่สุด

* สรรพสิ่งในโลกล้วน อนิจจัง
ทุกสิ่งที่คาดหวัง พังสิ้น
เกิดแก่เจ็บชีพยัง ถูกกลบ ลงดิน
ตราบชีวิตยังแดดิ้น ฝากไว้ ความดี

บัวหลวง มณีกุล คนเหนือเจ้า

- สารอโศก อันดับที่ ๒๖๘ มกราคม ๒๕๔๗ -