เพื่อฟ้าดิน ครั้งที่ ๑๑

สัมมนาเชิงปฏิบัติการ
โครงการ "การแก้ไขปัญหาหนี้สินภาคประชาชน
เพื่อเอาชนะความยากจนอย่างยั่งยืน"

ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) สถาบันเพื่อพัฒนาการเกษตร และชนบท จำเนียร สาระนาค(สจส.) และเครือข่ายกสิกรรมไร้สารพิษแห่งประเทศไทย(คกร.) ร่วมกันดำเนินโครงการ พัฒนาศักยภาพและคุณภาพชีวิตเกษตรกร จัดการอบรมสัมมนา เชิงปฏิบัติการหลักสูตร "สัจธรรมชีวิต" ให้แก่เกษตรกรในโครงการฟื้นฟู และพัฒนาอาชีพ เกษตรกรลูกค้า ระหว่าง การพักชำระหนี้ ของรัฐบาล โดยใช้สถานที่ชุมชนอโศก ๒๐ แห่ง ทั่วประเทศ

การอบรมฯเริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ๒๕๔๔ จนถึงเดือนมีนาคม ๒๕๔๗ จัดอบรมทั้งหมดรวม ๗๖๑ รุ่น เกษตรกร ผ่านการอบรมจำนวน ๖๑,๗๘๐ ราย ผลของการดำเนินโครงการฯ ปรากฏว่า เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ มีการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตในทางที่ดีขึ้นเป็นจำนวนมาก

ในงานเพื่อฟ้าดินครั้งที่ ๑๑ นี้ ธ.ก.ส., สจส. ร่วมกับคกร. จัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการ โครงการ "การแก้ไขปัญหาหนี้สินภาคประชาชน เพื่อเอาชนะความยากจน อย่างยั่งยืน" ระหว่างวันที่ ๑๖-๑๘ พ.ค. ๒๕๔๗ ณ ชุมชนราชธานีอโศก โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อ
๑. สรุปบทเรียน ในการฟื้นฟู และพัฒนาเกษตรกรลูกค้า เพื่อการทำงานตามนโยบายรัฐบาล ในเรื่องการแก้ไขปัญหา ความยากจน อย่างยั่งยืน
๒. สรุปบทเรียน ให้การดำเนินชีวิต ปรับแนวคิดในการทำงานเพื่อมุ่งสู่ "ธนาคารพัฒนาชนบท"
๓. สรุปบทเรียน ประสบการณ์ การพัฒนา คุณภาพชีวิต ตามแนวทาง กสิกรรมไร้สารพิษ เศรษฐกิจพอเพียง
๔. เสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในสถานการณ์ การเกษตร ในปัจจุบัน ๕. ประชาสัมพันธ์เผยแพร่ผลการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมา

ผู้ร่วมสัมมนา
๑. เกษตรกรที่ผ่านการอบรมหลักสูตร"สัจธรรมชีวิต" จนเกิดผลต่อตนเองและสังคม มาร่วม แสดงผลงาน ๖๓๑ คน
๒. ผู้บริหารและผู้สังเกตการณ์จาก ธ.ก.ส.สำนักงานใหญ่และสำนักงาน ธ.ก.ส.จังหวัด (สนจ.) ที่สนใจประมาณ ๓๐๐ คน (ซึ่งกลุ่มนี้ อาจไม่ได้อยู่ตลอดงาน)
๓. พนักงาน ธ.ก.ส.ทุกสนจ.ที่สมัครใจหรือสนใจจากทั่วประเทศ ๘๗๘ ราย (เป็นพนักงาน ผู้หญิง เพียง ๕ ราย)
๔. เจ้าหน้าที่จากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ๒๕๐ ราย
๕. เกษตรกรลูกค้าและเครือข่ายพันธมิตร ผู้นำชุมชนจากทั่วประเทศ ๗๕๐ ราย
๖. ญาติธรรมและพี่เลี้ยงชาวอโศก ๒๕๐ ราย

รายการ
๑๕ พ.ค.
๐๖.๐๐ น. เป็นต้นไป พนักงาน ธ.ก.ส.และเกษตรกรเข้าพื้นที่ ลงทะเบียน รับถุงพลังศรัทธา พร้อมเอกสาร เข้าที่พัก พนักงาน ธ.ก.ส. พักที่เฮือนศูนย์ โดยแยกตามภาค ชั้น ๔ ภาคเหนือ, ชั้น ๓ ภาคกลาง, ภาคตะวันออก และจังหวัดกาฬสินธุ์ -ขอนแก่น -ชัยภูมิ -โคราช ชั้น ๒ ภาคอีสานทั้งหมด (ยกเว้น ๔ จว.ที่พักชั้น ๓) ส่วนภาคใต้และภาคตะวันตก พักในหมู่บ้าน สำหรับ ผู้ที่ต้องการ ปลีกวิเวก ก็มีกลดแขวน บริการอยู่ใต้ต้นไม้ (ปูน) ชั้นล่างเฮือนศูนย์ ส่วนเกษตรกรพักในหมู่บ้าน

๑๔.๐๐ น. พนักงาน ธ.ก.ส.ทัศนศึกษาโครงการป่าดงนาทาม (โครงการพิเศษของกรมทหารราบที่ ๖)

๑๘.๐๐ น. รายการ "อบอุ่น-คุ้นเคย" สาระบันเทิงบนเวทีธรรมชาติ เริ่มด้วยวงฆราวาส การแสดง รีวิวของนักเรียนสมุนพระราม และปิดท้าย ด้วยการสนทนาซักถามข้อสงสัยอย่างเป็นกันเอง กับพ่อท่าน สมณะโพธิรักษ์

๑๖ พ.ค.
๐๕.๐๐-๐๘.๐๐ น. ร่วมกันออกกำลังกายบริเวณ ลานโคกใต้ดิน นำออกกำลังกายอย่าง สนุกสนาน โดยคุณหมอสำเริง มีทรัพย์ (หมอเขียว) ได้ความรู้ ได้สุขภาพ หลังจากนั้น ตามอัธยาศัย พร้อมอาหารเบาๆ ข้าวต้มเครื่องร้อนๆ น้ำเต้าหู้และปาท่องโก๋

๐๘.๐๐ น. เข้าศาลา ฟังกำหนดการ และพ่อท่านแสดงธรรม

๐๙.๓๐ น. นายพิทยาพล นาถธราดล ผู้จัดการธ.ก.ส. กล่าวรายงาน ฯพณฯ รองนายกรัฐมตรี พล.อ.ธรรมรัตน์ อิศรางกูร ณ อยุธยา เป็นประธาน ในพิธีกล่าวเปิดงาน และทำพิธีเปิด โดยตัดเชือก มีลูกมะพร้าวตกลงมา ลั่นฆ้อง..โ...ม...ง...เป็นการเปิดงาน ประธานในพิธี, เจ้าหน้าที่ ธ.ก.ส., รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลฯ และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเขตต่างๆ จ.อุบลฯ รับของที่ระลึก จากพ่อท่าน ประธานคกร. คุณถึงไท แสงสุริยจันทร์ นำประธานฯ เดินชมนิทรรศการ, ผลงานของเครือข่าย ต่างๆ จากบริเวณหน้าเฮือนศูนย์ จนถึงบริเวณตลาด ที่เกษตรกร นำผลผลิตมาจำหน่าย หลังจากนั้น ฯพณฯรองนายกฯ เจ้าหน้าที่ ธ.ก.ส. และแขก ผู้มีเกียรติ รับประทานอาหารเที่ยง บนเรือท้าวแถนพญามูล, เรือเกียข่วมฟ้า, เรือกล้าข่วมฝัน บริเวณบุ่งไหมน้อย แล้วเดินทางกลับ

ขณะเดียวกันในบริเวณศาลา หลังพิธีเปิดงาน นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ อดีตรมว. กระทรวง อุตสาหกรรม บรรยายพิเศษ เรื่อง "ทิศทางการปรับทัศนคติพนักงาน และเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อพัฒนา คุณภาพชีวิตของเกษตรกรอย่างยั่งยืน"

๑๒.๐๐ น. พักรับประทานอาหาร มีจุดบริการอาหาร ๓ จุด คือเฮือนศูนย์, เต็นท์บริเวณเฮือน เอิ้นขาน และเต็นท์เฮือนเพิ่งกัน

๑๓.๐๐ น. นายพิทยาพล นาถธราดล ผู้จัดการ ธ.ก.ส.ชี้แจงความคาดหวังของ ธนาคาร กับนโยบาย ของรัฐบาล ในการแก้ปัญหาหนี้สิน ภาคประชาชน

๑๔.๐๐ น. คุณหนึ่งแก่น บุญรอด สัมภาษณ์เจาะใจ คุณประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ อดีตรมว. กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

๑๕.๐๐ น. แบ่งกลุ่มเยี่ยม ชมฐานวิชาการ ๔ ฐานหลัก (หมุนเวียนฐานย่อย ๕ ฐาน ฐานละ ๑๐ นาที)

๑. เกษตรอินทรีย์กู้หนี้ชาวนาไทย มีผู้สนใจ ๒๔๕ คน สัญลักษณ์ธงเหลือง
๒. แผนชีวิต-แผนสุขภาพ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี มีผู้สนใจ ๑๙๗ คน สัญลักษณ์ธงฟ้า
๓. ปลูกป่า ปลูกคนเอาถ่าน สร้างพลังงานยั่งยืนเพื่อชุมชน มีผู้สนใจ ๑๓๑ คน สัญลักษณ์ ธงแดง
๔. ยุทธศาสตร์การอยู่กับความยากจนอย่างชาญฉลาด(อย่างเป็นสุข) มีผู้สนใจ ๑๙๓ คน สัญลักษณ์ ธงเขียว (แยกเป็น ๕ กลุ่มย่อย หมุนเวียน ชมฐานงาน ๕ ฐาน ฐานละ ๑๐ นาที)

๑๗.๐๐ น. ชมขบวนแห่ เพื่อฟ้าดิน จากวัฒนธรรม ๓ ภาค ภาคกลาง ภาคใต้ และภาคอีสาน

๑๘.๓๐ น. รายการภาคค่ำ สาระบันเทิง สัมภาษณ์คุณมาร์ติน วิลเลอร์ ฝรั่งผู้หันหลัง ให้กับ วิถีชีวิตทุนนิยม แล้วแยกย้ายกันพักผ่อน

๑๗ พ.ค.
๐๔.๐๐ น. ธรรมะรับอรุณ โดยพ่อท่านสมณะโพธิรักษ์
๐๖.๐๐ น. ออกกำลังกายร่วมกันเพื่อสุขภาพที่ดีกว่า
๐๗.๐๐ น. ตามอัธยาศัยและอาหารเบาๆ
๐๘.๐๐ น. ฟังการชี้แจงจาก ธ.ก.ส. แบ่งกลุ่มพบสมณะตามจุดต่างๆ ๒๐ กลุ่ม
๑๐.๓๐ น. ผู้แทนจากฝ่ายพัฒนาคุณภาพหนี้ ชี้แจงแนวทางการทำงาน "ยุทธศาสตร์สำคัญ ของ ธ.ก.ส. การแก้ไขปัญหาหนี้สิน ภาคประชาชน เพื่อต่อสู้ความยากจนอย่างยั่งยืน"

๑๓.๐๐-๑๕.๐๐ น. เวทีจุดประกายแนวคิด แบ่งกลุ่มตามหัวข้อสัมมนา ๔ กลุ่ม
๑. เกษตรกรอินทรีย์กู้หนี้ชาวนาไทย โดย พ.ต.ท.สมชาย, ดร.สุรศักดิ์ ราตรี, พ่อวิจิตร บุญสูง
๒.แผนชีวิต-แผนสุขภาพ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี โดย นพ.สมนึก ศิริพานทอง, อ.วิชิต นันทสุวรรณ, หมอยงยุทธ ตรีนุชกร
๓.ปลูกป่า ปลูกคนเอาถ่าน สร้างพลังงานยั่งยืนเพื่อชุมชน(เตาเผาถ่าน ๑๐ เตา) โดย อ.กิตติ กลุ่มเคียงมูล (น้ำส้มควันไม้)
๔.ยุทธศาสตร์การอยู่กับความยากจนอย่างชาญฉลาด (อย่างเป็นสุข) โดย พ่อท่านสมณะ โพธิรักษ์, ดร.ณรงค์ เพ็ชรประเสริฐ, คุณถึงไท แสงสุริยจันทร์

๑๕.๐๐-๑๗.๐๐ น. เวทีเสริมปัญญาเจาะลึกกับวิทยากร (กลุ่มย่อย) ๑๒ กลุ่ม
๑. สุขภาพทางเลือก "ไขกุญแจสู่สุขภาพ มาเป็นหมอดูแลตนเองกันเถอะ" โดย น.พ.วีรพงษ์ ไชยภัค, นพ.สมนึก ศิริพานทอง
๒. อาหารพิชิตโรค โดย คุณสำเริง มีทรัพย์, คุณพรตะวัน ธนะโภค
๓. ถ่านพลังงานยั่งยืน โดย อ.กิตติ กลุ่มเคียงมูล (น้ำส้มควันไม้)
๔. พบปราชญ์ชาวบ้าน "การสร้างสรรพัฒนาด้วยภูมิปัญญาชาวบ้าน" โดย คุณทองเหมาะ แจ่มแจ้ง เกษตรกรสุพรรณบุรี
๕. จุดไฟอุดมการณ์ ชีวิตข้าราชการที่ลุยงานพาชาวบ้านทำปุ๋ยอย่างมากมาย โดย พ.ต.ท. สมชาย
๖. การทำงานกับชาวบ้านอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ โดย อ.ข้าดิน ศรีเชียงสา
๗. ศักดิ์ศรีชาวนา (ชาวนามาตรฐาน) โดย คุณพ่อวิจิตร บุญสูง
๘. หลักวิชาการเกษตรอินทรีย์ โดย ดร.สุรศักดิ์ ราตรี
๙. จิต วิญญาณ งานกสิกรรม, บุญนิยม-ทุนนิยมกับโลกยุคโลกาภิวัฒน์, จะถึงความเป็นไท ได้อย่างไร โดยพ่อท่านสมณะโพธิรักษ์, ดร.ณรงค์ เพ็ชรประเสริฐ, คุณถึงไท แสงสุริยจันทร์
๑๐. ชมธรรมชาติสัมผัสบ้านดิน "ชมสวนแบบผสมผสาน ชีวิตเรียบง่าย บ้านดินที่ใหญ่ที่สุด ในประเทศไทย" โดย คุณดาวเพ็ญ นาวาบุญนิยม และคุณงามบุญ ชาวหินฟ้า

๑๘.๓๐ น. รายการสาระบันเทิง การแสดงจากเครือข่ายต่างๆ ปิดท้ายด้วยฟังสัมภาษณ์ ลุงทองเหมาะ แจ่มแจ้ง นักวิชาการ ป.๔ ผู้คิดค้นพันธุ์ข้าวไทย และ ดต.พิชัย สุริยุทธ นักสู้ ผู้สร้างป่า

๑๘ พ.ค.
๐๔.๐๐ น. ธรรมะรับอรุณ โดยพ่อท่านสมณะโพธิรักษ์ เจาะลึกแนวทางการปฏิบัติตนคนพุทธ ที่ไม่เคย แสดงธรรมที่ไหนมาก่อน
๐๖.๐๐ น. ร่วมกันเก็บบุญ และเก็บสัมภาระส่วนตัว
๐๗.๐๐ น. ทำบุญตักบาตรร่วมกัน
๐๘.๓๐ น. สรุปแนวทางในการพัฒนาศักยภาพและคุณภาพชีวิตเกษตรกร ทิศทางและ นโยบาย สำคัญของ ธ.ก.ส. โดย ผู้อำนวยการ ฝ่ายส่งเสริมการเรียนรู้ นายศุภชัย สถาการ
๑๑.๐๐ น. พรก่อนจาก โดยพ่อท่านสมณะโพธิรักษ์
๑๒.๐๐ น. รับประทานอาหาร แยกย้ายกันเดินทางกลับ
๑๓.๐๐ น. คกร. ธ.ก.ส.ประชุมสรุปงาน ภาพรวมออกมาดี

สัมภาษณ์
*** นายศุภชัย วงศ์เวคิน พนักงานพัฒนาธุรกิจ ๗ พนักงานระดับปฏิบัติการ จ.อุบลฯ เป็นผู้ประสาน กับทางบ้านราชฯ

"พนักงาน ธ.ก.ส.จ.อุบลฯเข้าอบรมสัมมนาครั้งนี้ ๒๑ คน ในส่วนของผู้ประสานงาน ๑๐ คน เป้าหมายใหญ่ อยู่ที่พนักงาน ครั้งที่ผ่านมา คือเกษตรกร ครั้งนี้เราถือว่า เราจะเปลี่ยนแนว ความคิด พนักงานของเรา คือถือว่าเป็นการแก้ที่ต้นเหตุ เพราะว่า ถึงเราอยากทำ แต่ในเมื่อกลไก หรือ ตัวพนักงานเราไม่ขับ ก็ไม่ประสบ ความสำเร็จ คือสรุปง่ายๆพนักงานต้องอิน (in) [ซึ้งเข้าไปถึงใจ] เสียก่อน

เป้าหมายในส่วนของ ธ.ก.ส.ก็คือ อยากปลูกฝังจิตสำนึกของพนักงาน ธ.ก.ส. เพื่อไปถ่ายทอด สู่เกษตรกร คล้ายๆว่า จะมาเรียนเป็นครู เพื่อจะไปกำกับดูแล

ธ.ก.ส.มองว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ลดค่าใช้จ่าย ลดอบายมุขในส่วนตัวนี้ โอกาสที่เกษตรกร อยู่ได้มี ธ.ก.ส. มองอย่างนั้น เพราะว่า ธ.ก.ส.คงไม่สามารถ ไปหากลไกตลาด ซึ่งยากมาก ที่จะไปแข่งกับเขา

๓ ปีที่อบรมฯ เรามีการติดตามประเมินผลมาตลอด ณ วันนี้ ธ.ก.ส.มองว่า เดินถูกทาง เพราะตัว ชี้วัด ยังคงอีกนาน แต่เดี๋ยวนี้ การประเมินผลของ ธ.ก.ส.มองว่า ตัวเองเดินถูกทางแล้ว แต่ถ้าถามว่า ประสบความสำเร็จหรือยัง มันยัง ก็อย่างที่รู้กัน การทำการเกษตรในลักษณะนี้ มันใช้เวลาระยะสั้น

ไม่ได้มองว่า ธ.ก.ส.สนับสนุนปุ๋ยเคมี แต่เป็นทางเลือกของเกษตรกร ที่ยังมีอีก กลุ่มหนึ่ง ถามว่า ถ้าเราไม่มีทางเลือกตรงนี้ เขาก็วิ่ง ไปหานายทุน ซึ่งปุ๋ยเคมี ก็จะมีราคานายทุนกับทางสหกรณ์ ปรากฏว่ามันถูกกว่า แค่นั้นเอง มันเป็นทางเลือกหนึ่ง ของเกษตรกรเอง ซึ่งมีสินค้าอยู่ ๒ สำรับ ณ วันนี้เราไม่สามารถที่จะฟันธงบอกว่า ถ้าคุณเป็นลูกค้า ธ.ก.ส.คุณต้องใส่ปุ๋ยอินทรีย์ เราคง ไม่สามารถ ทำได้ถึงขนาดนั้น

ในส่วนของการอบรม ๓ ปีที่ผ่านมา เราเห็นผลในส่วนของการลดต้นทุนการผลิต เช่น ผลิตน้ำยา ล้างจาน ซักผ้า แชมพูสระผม ลดอบายมุขได้

*** คุณถึงไท แสงสุริยจันทร์
ชื่อโครงการ "การแก้ไขปัญหาหนี้สินภาคประชาชน เพื่อเอาชนะความยากจน อย่างยั่งยืน" เป็นโครงการใหม่ ร่วมมือกัน ระหว่าง เครือข่ายกสิกรรมไร้สารพิษกับ ธ.ก.ส. โดย สจส. โดย สสส. ให้การสนับสนุน วันนี้เป็นการจุดประกาย เริ่มต้นโครงการใหม่นี้

เป้าหมายของงานนี้ทั้งเกษตรกรและพนักงาน ธ.ก.ส. เกษตรกรก็จะได้มาแลกเปลี่ยน ความรู้ กันว่า ใครทำอะไรบ้าง ก็เดินดูกัน ทางส่วนของพนักงานเอง ก็จะได้ดูผลงาน ว่า ๓ ปีที่ตัวเอง ทำมาเกิดผลยังไงบ้าง แต่ละภาคก็ได้มาแชร์กันว่า มันเกิดผลอย่างนี้นะ เสร็จแล้ว เขาก็จะมา สรุปหาแนวทางร่วมกัน ทั้งเกษตรกรและพนักงาน ธ.ก.ส.ว่า เราจะเดินทางทิศทางนี้ ต่อไป หรือ จะปรับปรุงกันยังไงดี เพื่อเอาชนะความยากจน อย่างยั่งยืน

งานปีนี้เรารู้สึกว่าไม่เครียดเหมือนปีที่แล้ว เพราะปีที่แล้วเราไม่เคยทำงาน ในลักษณะใหญ่ๆ อย่างนี้ เอาคนมากิน มาอยู่ตั้งหลายพัน จะกินข้าว เวลาเดียวกัน หนึ่งชั่วโมงจะทำยังไง จะนอนยังไง ปีที่แล้วเราทำ ๕,๐๐๐ ปีนี้เหลือแค่ ๓,๐๐๐ เบาไปเยอะ

แล้วเจ้าหน้าที่ ธ.ก.ส.เคยเห็นฝีมือเราแล้วเมื่อปีที่แล้ว ครั้งที่แล้วเขาไม่เคยเห็น ฝีมือเรา เขาก็เครียด โอ....จะทำได้มั้ยเนี่ย แล้วผู้ใหญ่ทาง ธ.ก.ส. แล้วทางรัฐมนตรีมาดู คือเขาไม่ได้ หน้าแตก แต่เขาเสียนะ แต่ครั้งนี้เขาสบายใจ เขาเคยเห็น ที่ผ่านมาเป็นยังไง งวดนี้เขาประชุม แค่ ๒ ครั้งเอง งวดที่แล้วประชุม นับครั้งไม่ถ้วน ประชุมเตรียมงานระหว่าง คกร.กับธ.ก.ส. แค่สองครั้งเอง ก็ไปได้แล้ว รู้สึกสบายกว่าเดิม ก็ยังลำบากอยู่ เรื่องฟ้าดิน ไม่รู้ฟ้าดินท่าน จะเป็นใจ แค่ไหน อยู่ที่ฟ้ากับดิน แต่เราก็มีแผนสอง ถ้าฟ้าดีก็ออกข้างนอก ฟ้าไม่ดีก็เข้าข้างใน

*** พลเอกธรรมรัตน์ อิศรางกูรฯ
"เรื่องการส่งเสริมให้คนมาทำอาชีพแก้จน ถ้าคนมีธรรมะก็แก้จนได้ ถ้าเราไปพักหนี้ ปลดหนี้ แล้วเขา ไปกินเหล้าเมายาเหมือนเดิม ก็ยังจนอยู่ ถ้าเผื่อเราเอาธรรมะ เข้าไปใส่ มีหลายคน เขาก็บอก เดี๋ยวนี้เลิกแล้ว ก็จะแก้ปัญหาความยากจนได้

บรรยากาศธรรมชาติดี คนเดี๋ยวนี้มากขึ้น มีปัญหามากขึ้น คนก็ใฝ่ธรรมะสูงขึ้น การที่จะสร้าง บรรยากาศ ที่มันง่าย มันธรรมชาติ เป็นเรื่องดี ที่นี่ทำเลดี มีน้ำ บรรยากาศดี"

*** นายพิทยาพล นาถธราดล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)
"วันนี้เป็นครั้งที่ ๓ ที่ได้มา ครั้งแรกเมื่อท่านนายกฯ มาเยี่ยมในโครงการพักชำระหนี้ ครั้งที่ ๒ เมื่อ รมช.วราเทพ มาเปิดงาน และครั้งนี้

ทางธ.ก.ส.ได้ร่วมกับเครือข่ายกสิกรรมไร้สารพิษราชธานีอโศก และหลายๆแห่งทั่วประเทศ เน้นในเรื่อง ของการลดรายจ่าย เน้นในเรื่องของการลดละ ลดต้นทุนในการประกอบอาชีพ และการดำรงชีวิต ได้เห็นวิธีการที่ทำ เชื่อว่าพนักงาน ธ.ก.ส.ที่มา และเกษตรกร คงจะได้ แบบอย่าง เอาไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมในแต่ละที่แต่ละแห่งปีหน้าคงจะต้องดูว่า จะจัดเนื้อหา อย่างไรอีก คงต้องกระจาย ไปหลายๆแห่ง คือหลายๆ ภาคให้เขามาเรียนรู้ เอาแบบอย่าง ไปประยุกต์ใช้"

*** อดีต รมว.ประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์
"ผมตั้งใจจะมากราบพ่อท่านเท่านั้น ก็ได้กราบพ่อท่านสมใจอยากแล้ว และได้คุยกับท่าน พักใหญ่ด้วย เป็นความสุขมาก งานอย่างนี้ดีมาก ไม่ใช่แต่เพียงทำกิจกรรมสัมมนา ประชุมแล้ว จบกันไป ได้ความสัมพันธ์ส่วนตัวที่ดีมาก ทำให้เกิดความผูกกันเป็นปึกแผ่นเกื้อกูลกัน ช่วยเหลือ ซึ่งกันและกัน ใครมีปัญหาอะไรก็บอก และทุกคนก็พร้อมจะช่วยแก้ปัญหา ซึ่งกันและกัน โดยอาศัย คำสอนของพุทธะ โดยคำสอนของพ่อท่าน เอามาเป็นเข็มทิศ ในการทำงาน ดีมากครับ"

*** อดีต รมว.อุตสาหกรรม ไชยวัฒน์ สินสุวงศ์
"เท่าที่เห็นในการทำงาน ทุกคนต้องยอมรับว่าทุกคนทำงานกันได้ดีมาก แล้วก็ไม่คิดว่า จะทำงาน กันได้ลงตัวขนาดนี้ รู้สึกว่า คงจะมีการเตรียมงานกันมาดี ในการแบ่งหน้าที่ แบ่งบทบาท แม้แต่รายการบนเวที หรือรายการพาท่านประธาน ไปดูงาน ก็เป็นไปตาม กำหนด ทุกอย่าง ไม่มีการล่าช้า แสดงว่าประสิทธิภาพเยี่ยม สงสัยจะประชุมวางแผนกัน ไม่น้อยกว่า หนึ่งครั้ง

ทีมงานคงจะทำให้ผู้ร่วมงานทึ่งมากเหมือนกัน เพราะคนหมู่มากแต่ทำงานได้ลงตัว พอสัมผัสได้"

*** ส.ส.สุวิทย์ อ.ตระการพืชผล จ.อุบลฯ เขต ๕
"ผมมาที่นี่บ่อยมาก และมีความชื่นชมในการที่เราอยู่แบบนี้ และก็ช่วยกันทำงาน แบ่งหน้าที่กัน ทำงาน เพื่อเป้าหมายที่เราหวังไว้ แล้ววันนี้สังคมเริ่มจะยอมรับ เพราะคนกลัวตาย โดยเฉพาะ อาหารปลอดสารพิษ อาหารปลอดภัย เพราะพวกเรามาจากดิน สุดท้ายก็ไปสู่ดิน ตอนมีชีวิตอยู่ ก็ขอให้มีความสุข สุขภาพแข็งแรง โรคภัยไม่มาเบียดเบียนถือว่าเป็นบุญแล้ว ตอนนี้เราก็เริ่ม มากินแบบนี้ ก็ถือว่า เรามีบุญเหมือนกัน ก็ขอชื่นชมที่พวกเราทำแบบนี้ แล้วก็ช่วยเหลือสังคม"

*** พ.ท.เชิดพงษ์ บุญยเกียรติ ช่างภาพประจำตัวรองนายกฯ "มาที่นี่รู้สึกทึ่ง สถานที่ใหญ่ อาหารการกินดี"

*** ส.ส.กิตติพงษ์ เทียมสุวรรณ อ.น้ำยืน จ.อุบลฯ
"ในการที่เราให้หลายๆคน คือมีคนที่มาสัมผัสมีหลายระดับ ถ้าเผื่อเขามาแล้วนำจิตวิญญาณ พวกนี้ออกไปแล้วอยู่ที่บ้าน คิดว่าเมืองไทย จะเดินไปข้างหน้าได้ เพราะจะลดค่าใช้จ่าย และเพิ่ม คุณภาพชีวิต"

*** คุณจุฬารัตน์ นิรัศตยกุล
"มางานเกือบทุกปี ครั้งนี้เป็นครั้งที่ ๓ มาครั้งนี้รู้สึกเขาเรียกว่าอิ่มใจขึ้นเรื่อยๆ ว่ามีผู้คนเห็นว่า วิถีอย่างนี้ น่าจะเป็นทางออก ของชีวิตตัวเอง และเป็นทางออกของสังคมรวม แล้วก็มีคน เข้ามาทำงานด้วยกันมากขึ้น มาแล้วรู้สึกดี ทำให้ตัวเองเป็นสุข และก็พร้อมจะให้กับสังคม"

งานเพื่อฟ้าดิน ครั้งที่ ๑๑ มีญาติธรรมจากเครือข่ายต่างๆมารวมพลังเป็นเจ้าภาพ และ ประสบการณ์ จากงานครั้งที่ผ่านมา (ซึ่งมีผู้มาร่วมงานมากถึง ๕,๐๐๐ คน) ทำให้งานครั้งนี้ ผ่านไปด้วยความราบรื่น มีผู้มาร่วมงานที่อยู่ตลอดงาน ประมาณ ๓,๐๐๐ คน ปัญหาในเรื่อง ที่พัก ห้องน้ำ น้ำประปา ไฟฟ้า อาหาร จึงไม่เกิดขึ้น และพนักงาน ธ.ก.ส.ที่มาล้วนเป็นพนักงาน ภาคสนาม ที่ออกทำงาน ในพื้นที่กับเกษตรกรโดยตรง และเป็นผู้ที่สมัครใจมา เข้าใจกฎระเบียบ วิธีปฏิบัติตัวในชุมชน แม้ว่าก่อนเริ่มงาน และระหว่างงาน ฝนจะตกลงมา แต่กลับเป็นผลดี ทำให้อากาศที่ร้อนอบอ้าว กลับสดชื่นเย็นสบาย แม้ถนนอาจเฉอะแฉะบ้างก็ตาม

ตลอดงานมีรถหน่วยตรวจสอบเคลื่อนที่ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวง สาธารณสุข มาตรวจหา สารปนเปื้อน ในอาหารรวม ๑๓๔ ตัวอย่าง พบยาฆ่าแมลง ระดับ ปลอดภัย ๒ ตัวอย่างจากกระชายดำ (ยังไม่ตรวจ ๒ ตัวอย่าง และรอผลการตรวจ หาจุลินทรีย์ ก่อโรค ๓๖ ตัวอย่าง)

สุดท้ายขอฝาก "พรก่อนจาก" ที่พ่อท่านแสดงธรรมให้แก่พนักงาน ธ.ก.ส.และทุกคนที่มา ร่วมงาน ว่า "...ขอให้ทุกคนตั้งใจ สิ่งที่ดีสิ่งที่ได้ ตั้งใจแล้ว สิ่งใดที่มั่นใจแล้ว ลงมือทำอย่าช้า เวลาไม่มาก เกิดมาร้อยปีตายสั้นนิดเดียว ร้อยปีตาย กับวัฏสงสารนี้ โอ้โห...คุณเทียบได้มั้ย ร้อยปีนี้นิดเดียว วัฏสงสารนั้นนับไม่ถ้วน คุณยังไม่ตายในวัฏสงสาร อัตภาพของคุณ ยังไม่ ปรินิพพาน คุณยังจะวนเวียน ในวัฏสงสารนี่อีก วัฏสงสารมันยาวนานมาก เพราะฉะนั้น ร้อยปีตาย เมื่อได้มีโอกาสได้มาพบศาสนา ได้มาพบมิตรดีสหายดีสังคมสิ่งแวดล้อมดี ซึ่งจะเป็น แรงเหนี่ยวนำ เป็นสนามแม่เหล็ก ที่จะทำอะไรให้เกิดพัฒนา ในช่วงชีวิตที่เราได้มาพบนี้

ตายแล้ววิบากอีกเยอะแยะเหมือนหมาไล่เนื้อยังไล่คุณอยู่อีกนะ คุณอย่านึกว่า คุณมาเกิด คนหนึ่งๆนี่ วิบากมันมาเกิดทั้งหมด ไม่ใช่นะ ชุดหนึ่งเท่านั้นนะ คนเรามาเกิด มีวิบากมาเกิดให้ ชุดหนึ่ง ส่วนวิบากขณะนี้ที่ยังมีมาเยอะเลย และวิบากชั่วนี่มากกว่า ท่านเปรียบไว้ เหมือนหมา ไล่เนื้อ มันยังวิ่งไล่กวดยังไม่ทัน คุณตายปั๊บมีอีกเยอะเลยมา นึกว่าคุณทำดี ในปางนี้แล้วนี่ จะคุ้ม ไม่แน่ วิบากอื่นมาสมทบ ชาตินี้ ได้เกิดเป็นคน ชาติหน้าอาจจะไปเป็นควาย ยังไม่แน่หรอก แม้ทำดี

เพราะฉะนั้นต้องเผื่อพอไว้ เมื่อได้รับโอกาสดี ดังที่อาตมาเทศน์ไว้เมื่อวันแรก เกิดมาเป็นคน มีชีวิตรอด ได้พบพุทธศาสนา แล้วทำให้มันบรรลุ ทำให้มัน ได้มรรคผล ซึ่งเป็นทรัพย์ เป็นสมบัติ ต้องสั่งสมอันนี้ คนไม่ได้พบพุทธศาสนา มีอีกมากเหลือเกิน หกพันกว่าล้านในโลกนี้ น่าสงสาร เขาไม่รู้จักทิศทางที่แท้จริง ที่ไปดีจริงๆ เพราะฉะนั้น อย่าพลาดโอกาส

ไม่ใช่อาตมามายุแหย่ แต่อาตมาอยากจะให้คุณได้ประโยชน์ใส่ตน เกิดมาไม่เสียชาติ มันควร จะได้ เพราะฉะนั้น เหลือเวลาที่นั่งๆอยู่นี่ ไม่เท่าไหร่หรอกนะ บางคน ๔๐ เอนเอียงเข้าไปห้าสิบ หกสิบ เจ็ดสิบแล้ว จะอยู่ถึงเจ็ดสิบปี ขนาดอาตมาหรือเปล่ายังไม่รู้ เพื่อนๆ รุ่นเดียวกับอาตมา ตายไปซะเท่าไหร่ก็ไม่รู้ เหลือเท่าไหร่ก็ไม่รู้ ตายมากกว่าที่เหลือ เพราะฉะนั้น อย่าไปประมาท ก็ขอให้ทุกคน ได้พยายาม พากเพียรสั่งสมเอาสิ่งที่ดีเป็นทรัพย์ กรรมเท่านั้นเป็นทรัพย์ ขอให้ พากเพียรสั่งสมกรรมที่เป็นกุศล โดยเฉพาะได้โลกุตระกุศล ขอให้ทุกคน มีโอกาส แล้วก็มีบุญ ได้รับสิ่งอย่างนี้ถ้วนทั่วทุกคนเทอญ"

- ทีมขวนขวาย -

-สารอโศก อันดับที่ ๒๗๐ เมษายน ๒๕๔๗ -