สืบทอดสายธารน้ำใจ
กวีซีไรท์อังคาร กัลยาณพงศ์

อีกครั้งกับงานสืบทอดสายธารน้ำใจ หลังจากที่ห่างหายไปหลายปี ครั้งนี้กำหนดให้วันอาทิตย์ที่ ๒ พฤษภาคม ๒๕๔๗ เป็นงานสืบทอดสายธารน้ำใจ กวีซีไรท์อังคาร กัลยาณพงศ์

เช้าวันอาทิตย์ที่ ๒ พฤษภาคม ๒๕๔๗ ที่ผ่านมา พลตรีจำลอง ศรีเมือง ร่วมกับชุมชนสันติอโศก จัดงาน คอนเสิร์ต "สืบทอดสายธารน้ำใจ กวีซีไรท์อังคาร กัลยาณพงศ์" หารายได้ช่วยเหลือ ศิลปินแห่งชาติ กวีซีไรท์อังคาร กัลยาณพงศ์ ที่ป่วยด้วยโรคหัวใจ ณ ศาลาพระวิหารพันปีฯ พุทธสถานสันติอโศก โดยมี พลตรีจำลอง ศรีเมือง เป็นประธานการจัดงาน คุณวิชาญ จิระเวชบวรกิจ เป็นผู้ประสานงานฝ่ายศิลปิน การจัดงานครั้งนี้ มีการเตรียมการล่วงหน้ากัน เป็นอาทิตย์ๆ มีการประชาสัมพันธ์ทางหนังสือพิมพ์หลายฉบับ

สำหรับบรรยากาศของงาน ยังคงอบอุ่นด้วยกลิ่นไอของผู้ให้เช่นที่ผ่านมา ไม่ต้องเสียค่าบัตร ผ่านประตู แถมมี อาหารมังสวิรัติบริการฟรีตลอดทั้งงาน เรียกว่างานนี้ผู้มาร่วมงานได้อิ่มตา อิ่มใจ อิ่มท้อง และอิ่มบุญ แน่นอน นอกจากนั้นยังส่งสายธารน้ำใจไปยังท่านผู้ฟังที่อยู่ทางบ้าน โดยวิทยุชุมชนสันติอโศก ถ่ายทอดสด ตลอดงาน ทางคลื่นเอฟเอ็ม ๑๐๗.๙ เมกกะเฮิรต์ซ ตั้งแต่เวลา ๐๘.๐๐-๑๙.๐๐ น.

การแสดงบนเวทีอยู่บริเวณลานหิน ข้างน้ำตกใต้ศาลาวิหาร ส่วนหน้าห้องสื่อธรรมะจัดเป็นมุม รับบริจาค จำหน่ายหนังสือ-บทกวีของท่านอังคาร ในราคาต่ำกว่าราคาปก (เช่น หนังสือ "หยาดน้ำค้าง คือน้ำตาของ เวลา", หนังสือกาพย์ โคลง กลอน ของอังคาร กัลยาณพงศ์, หนังสือ ๑๔ ตุลาฯ วันประชาธิปไตย) และ จำหน่ายเสื้อยืดพิมพ์ภาพวาดลายเส้นของท่านอังคารด้วย

ส่วนเต็นท์ด้านหลังพระวิหาร จัดเป็นจุดลงทะเบียน ห้องพักรับรอง และรับประทานอาหาร สำหรับศิลปิน นักร้อง ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์-นิตยสารและโทรทัศน์

นอกจากนี้ยังมีกลุ่มศิลปินที่เป็นจิตรกร ผู้มีชื่อเสียงในการวาดภาพเหมือนบุคคลสำคัญของโลก นำโดย อ.วสันต์ สิทธิเขต, อ.หงษ์ทอง เสน่ห์งามเจริญ นำเพื่อนๆมือฉมังหลายคน มาร่วมด้วย ช่วยกัน เช่น คุณภิภพ พรแสงศิลป์ รับเขียนภาพผู้มาร่วมงานในราคาการกุศล จิตรกรต้อม (ภิภพ) เขียนภาพล้อเป็นการ์ตูน จากราคา ๑,๐๐๐ บาท เหลือ ๓๐๐ บาท และจิตรกรบ๊อบบี้ เขียนภาพเหมือน จากราคา ๓,๐๐๐ บาท เหลือ ๕๐๐ บาท มีผู้ให้ความสนใจมาเข้าคิวรอกันยาว เล่นเอาจิตรกรไม่ได้วางดินสอ วางพู่กัน....กันเลยล่ะ

บรรยากาศบนเวที
เริ่มที่การแสดงของวงเจ้าบ้าน "วงฆราวาส" ตามด้วยศิลปินต่างๆ เช่น ไก่ สุพรรณิกา ซึ่งนอกจาก จะมาร้องเพลงให้ฟังแล้ว ยังนำซีดีมาร่วมบุญโดยไม่หักค่าใช้จ่าย ต่อด้วยวงสตริงวัยรุ่น "โอเว่อร์โด๊ซ" กับบทเพลง สัจจะชีวิต ครูรัก รักพงษ์ เวอร์ชั่นร็อคสุดมันชุด "จงดิ้นให้แร้งดู" และ "เมื่อไหร่จะรู้สักที" เป็นอะไร ที่น่าทึ่ง ที่ได้เห็นวัยรุ่นร้องเพลงสัจจะชีวิต

จากนั้น น.พ.ชินโอสถ หัศบำเรอ อดีตรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข อัจฉริยะทางดนตรี มาสีไวโอลินให้ฟัง ซึ่งคุณหมอไม่เคยเล่นไวโอลินในงานไหนมาก่อน แต่งานนี้คุณหมอชิน ได้สีและร้องถึง ๒ เพลง ซึ่งเป็น บทประพันธ์ของท่านอังคาร และท่านอังคารได้นำบทประพันธ์ ที่คุณหมอชิน ขับร้องมาอ่าน ทำนองเสนาะ ให้ฟังอีกด้วย สร้างความซาบซึ้งประทับใจ ที่ได้ฟังจากผู้ประพันธ์โดยตรง ตามด้วยศิลปินรุ่นเยาว์น้องทราย ธัญญารัตน์ อัครอุปพันธ์, น.พ.อารีย์ วชิรมโน มาพร้อมกับเพลงดังประจำตัว "อภัย" ต่อด้วยน้องซิน แล้วก็ได้เวลาของรายการ "มหัศจรรย์พันลึกแห่งดนตรีไทย" โหมโรงโดยวงดนตรีไทยบ้านดุริยปราณีต ของ อาจารย์สุดจิตต์ ดุริยปราณีต (คุณยายแท้ๆของขุนอินทร์ จากภาพยนตร์เรื่อง "โหมโรง" วัย ๗๖ ปี) ขับร้อง เพลงกฤษดาภินิหาร มีคุณแหว๋ว ใจดาว ศิลปินของชาวเรารำประกอบเพลง หลังจากนั้น อาจารย์ศิวกานท์ ประทุมสูติ อ่านบทกวีของท่านอังคาร เป็นภาษาปักษ์ใต้

ต่อด้วยศิลปินแห่งชาติชินกร ไกรลาศ ขับร้องเพลงบ้านแสนสุข พร้อมๆกับสายฝนที่โปรยปราย ลงมา เหมือนจะร่วมอนุโมทนากับสายธารแห่งน้ำใจที่จัดขึ้นในครั้งนี้ ทำให้อดนึกถึงบทกวีบทหนึ่ง ที่ว่า "อันความกรุณาปรานี จะมีใครบังคับก็หาไม่ หลั่งมาเองเหมือนฝนอันชื่นใจ จากฟากฟ้าสุราลัย สู่แดนดิน ....."

ฝนเริ่มตกหนัก จนต้องหยุดการกระจายเสียงชั่วคราว และย้ายเวทีลงมาอยู่ใต้ศาลาพระวิหาร แต่คนฟัง ก็ยังไม่ถอย เมื่อไม่สามารถใช้เครื่องเสียงที่เตรียมมาได้ วงดุริยปราณีตจึงเล่นดนตรีไทย ประกอบเพลง ยอยศพระลอด้วยเสียงสด ไม่ผ่านไมค์ และตามด้วยเพลงค้างคาวกินกล้วย โดยมีผู้ชมร่วมร้องคลอไปด้วย ทำให้บรรยากาศ อบอุ่นประทับใจยิ่งนัก

สุดท้ายของรายการ "มหัศจรรย์พันลึกแห่งดนตรีไทย" ศิลปินแห่งชาติ ๒ ท่าน ครูแจ้ง คล้ายสีทอง, อาจารย์ สุดจิตต์ ดุริยปราณีต, มีอาจารย์ขวัญดี อัตตวาวุฒิชัย ดำเนินรายการแข่งกับสายฝน เริ่มด้วยศิลปินแห่งชาติ ครูแจ้ง ขยับกรับ ขับเสภาบทเห่เรือพระที่นั่งให้ฟังเป็นตัวอย่าง ขับเสภา "จงดิ้นให้แร้งดู" โดยร้องเป็นสังขาร และ ขับเสภาเกี่ยวกับแม่ อ.สุดจิตต์ขับร้องเพลงลาวดวงเดือน นับเป็นโชคดีของผู้ที่ได้ฟังเสียงจริง ของบรมครู ทั้ง ๒ ท่าน

พอฝนหยุดตก ก็ย้ายเวทีกลับขึ้นมาที่ลานหินเช่นเดิม การแสดงบนเวทีดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง น้องน้ำหวาน ตามด้วยครอบครัวศิลปินคีตาญชลี (พ่อ-แม่-ลูกทั้ง ๓) ขับกล่อมเพลงเพื่อชีวิต แนวหวาน ที่ฟังกี่ครั้ง ก็ยังไพเราะและซึ้งใจ สลับกับการประมูลภาพ โดยพิธีกรกิตติมศักดิ์ คุณแซมดิน เลิศบุศย์ และคุณหินทอง ดีรัตนา

พักฟังเพลงกับลูกเป็ดขี้เหร่ นักร้องวัยรุ่นเจ้าของเพลง "ใช่เธอเพียงคนเดียว" และยินดีให้นำเพลงนี้ ไปเผยแพร่ ต่อด้วยคุณวัชระ กรรณิการ์ พิธีกรไททีวีทูไนท์ ขึ้นทักทายผู้มาร่วมงาน คุณเปียทิพย์ คุ้มวงศ์ และลูกสาว-คุณนันทนา คุ้มวงศ์ ร้องเพลงดังในอดีต คุณวัชราภรณ์ สุขสวัสดิ์ แม้สุขภาพยังไม่ดีนัก ก็มาร่วม ร้องเพลงกับคุณสุทธินันท์ จันทระ พิธีกรสาว คุณอัญชลี ไพรีรัก เป็นผู้ดำเนินรายการ ตามด้วย นักร้องกิตติมศักดิ์ คุณทินวัฒน์ มฤคพิทักษ์, คุณสุวัจชัย สุทธิมา, คุณทอดด์ ทองดี, มินิคอนเสิร์ต คุณทิพย์วัลย์ ปิ่นภิบาล เปิดอัลบั้ม "ทะเลจันทร์" พร้อมมอบรายได้ ที่จำหน่ายซีดีสมทบทุนสายธารน้ำใจ โดยไม่หักค่าใช้จ่าย ขณะเดียวกัน อาจารย์วสันต์ สิทธิเขต ได้วาดภาพเหมือน ท่านอังคาร อยู่บริเวณ ด้านซ้ายของเวที มีผู้ขอให้วาดภาพให้ในราคา ๕๐,๐๐๐ บาท

๑๖.๐๐ น. โดยประมาณ ร่วมค้นหา "คุณค่ากวีเอก" จาก ๔ นักปราชญ์ ส.ศิวรักษ์, เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ กวีซีไรท์อีกท่านหนึ่งของเมืองไทย, พ่อท่านสมณะโพธิรักษ์ และกวีซีไรท์อังคาร กัลยาณพงศ์ ดำเนิน รายการโดย ดร.ขวัญดี อัตวาวุฒิชัย ก่อนจบรายการ สมณะเพาะพุทธ จันทเสฏโฐ หรือท่านจันทร์ ขึ้นพูด กล่าวถึงเนื้อหา และประโยชน์ของบทกวีของท่านอังคาร ที่ท่านนำไปใช้ในการแสดงธรรมให้ฟัง อ.เนาวรัตน์ เดี่ยวขลุ่ยและขับร้องบทกวีตากับยายให้ฟัง และชื่นชมว่าท่านอังคารเป็นศิลปิน ที่เขียนรูปเป็นกวี และเขียน กวีเป็นรูป

การสนทนาจบลง โดยพ่อท่านฝากว่า ศิลปะเป็นมงคลอันอุดม นำพาไปสู่ความประเสริฐสูงสุด ไม่ใช่งาน บำเรออัตตา ศิลปะต้องมีในคน ขอให้ทุกคนมีศิลปะในชีวิตและในจิตวิญญาณ

ปิดรายการสนทนา ด้วยการมอบเงินที่ได้รับบริจาคในงาน ให้ท่านอังคาร จำนวน ๒ แสนเศษ จากพ่อท่าน ทั้งนี้ยังไม่รวมเงินจากการประมูลภาพ และจากการจำหน่ายหนังสือ เสื้อยืด ซีดี ซึ่งจะรวบรวมให้ในภายหลัง คาดว่ารวมทั้งสิ้นประมาณ ๓ แสนบาท ซึ่งคุณอังคารได้กล่าวว่า "เป็นน้ำใจของทุกๆคน ที่จะระลึกถึง ไปชั่วกาลนาน"

ฟังเพลงไพเราะก่อนอำลา จากครอบครัวคีตาญชลีอีกครั้งกับเพลงแสงดาวแห่งศรัทธา ขณะเดียวกัน อ.วสันต์ สิทธิเขต ได้วาดภาพเหมือนพ่อท่านให้ชมบริเวณด้านซ้ายเวที หลังจากนั้น ศิลปินจากค่ายแกรมมี่ คุณอุ๊ หฤทัย พร้อมคุณแจ๊ค คุณหน่อย คุณปู ขับร้องเพลงสากล และเพลง เพื่อชีวิต ให้สนุกสนานร่วมกัน ปิดท้ายด้วย คุณเปิ้ล-สุทธินันท์ จันทระ ศิลปินอโศกพันธุ์แท้ ขับร้องเพลง "คน" และเพลง "แสงดาวแห่งศรัทธา"

พ่อท่านให้โอวาทปิดงาน "ขอบคุณทุกคนที่มาเหน็ดเหนื่อยร่วมกัน"

สำหรับศิลปิน ผู้สื่อข่าว ผู้มาช่วยงาน ได้ให้สัมภาษณ์ดังนี้

คุณสุริยัน สมบุญ เจ้าของกิจการให้เช่าเครื่องเสียง นำเครื่องเสียงราคาหลายล้านบาท มาติดตั้งในงานฟรี "ทีมงานมาช่วยกัน ๑๑ คน ผมมีความภาคภูมิใจที่ได้มาทำงานที่นี่ เพราะว่าผมหาโอกาสมานานแล้ว ที่จะทำงานบริสุทธิ์ ไม่มีธุรกิจเข้ามาแอบแฝง ส่วนมากผมทำงานอยู่ข้างนอก เป็นเรื่องของธุรกิจ ที่ไม่ค่อย จะบริสุทธิ์ เพราะเป็นเรื่องสื่อ เรื่องโฆษณา เรื่องหลอกทั้งนั้นเลย ราคาติดตั้งตามงานต่อหนึ่งโชว์ ราคา แสนขึ้น ผมก็เลยปลื้มปิติลึกๆ ว่าเราได้มาทำงานที่เราเคยเขียนภาพไว้ เคยคิดไว้ตั้งแต่ในสมัยเป็นเด็ก งานครั้งนี้ มีความสุข ไม่ใช่สุขที่ได้มาด้วยเงินหรือได้ทรัพย์ มันสุขอยู่ในใจ"

อาจารย์ ส. ศิวรักษ์ "การจัดงานครั้งนี้รู้สึกดี บรรลุเป้าหมายหรือไม่ต้องไปถามคุณวิชาญ เขาเป็นหัวเรือใหญ่ ผมเป็นตัวประกอบ"

น.ส.ศิริรัตน์ เกยูร "ไม่คิดว่าคนที่มาช่วยงานจะเยอะขนาดนี้นะคะ คิดว่าท่านอังคารคงจะดีใจ"

นางอุ่นเรือน กัลยาณพงศ์(ภรรยาท่านอังคาร) "อาการป่วยของท่านอังคารภายในเดือนแรก ก็ควบคุม ตามที่หมอสั่งอย่างเคร่งครัด ทานยาที่หมอให้ และควบคุมอาหาร แต่ตอนนี้ก็ทำตัวเป็นปกติ ท่านทำงาน ไปเรื่อยๆ การจัดงานครั้งนี้ท่านดีใจที่ได้รับน้ำใจจากทุกๆฝ่าย ธรรมดาท่านไม่เคยออกงาน ในงานนี้ ท่านได้รู้ ถึงน้ำใจแต่ละคน น้ำใจซึ่งสำคัญที่สุด"

คุณเปียทิพย์ คุ้มวงศ์ ดารา-นักร้อง "ไม่เคยรู้จักท่านเป็นการส่วนตัว ได้ยินแต่ชื่อเสียง แต่สนิทกับที่นี่ (สันติอโศก) พ่อท่านเป็นผู้ที่ดิฉันเคารพรักมากที่สุด ท่านขอให้มาช่วยงานคุณอังคาร เมื่อท่านต้องการ ความช่วยเหลือ มีอะไรที่ดิฉันพอทำได้ก็ยินดีที่จะทำ"

อาจารย์วสันต์ สิทธิเขตต์ ศิลปินอิสระ วาดภาพ กวี เรื่องสั้น "รู้สึกยินดีมากที่ได้มาร่วมงานครั้งนี้ ก็เห็นว่า มีแต่คนที่ยากจนด้วยกัน ที่เห็นใจคนที่มีคุณค่า มองเห็นคุณค่าความงามของคน เพราะบุคลากร อย่างท่าน อังคาร หรือคนที่ทำงานเสียสละชีวิตทั้งชีวิตเพื่อศิลปวัฒนธรรม เพื่อจรรโลงจิตใจมนุษย์ ไม่ได้รับ การเหลียวแล จากสังคม เพราะว่าคนที่มีอำนาจในสังคม ก็อาจมองไม่เห็นว่า บุคคลใดที่ควรนับถือ หรือ ไม่ควรนับถือ

การที่มนุษย์อยู่ร่วมกัน การเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือกันได้ เท่าที่เรามีความสามารถนั้น เป็นหน้าที่ของการมี ชีวิตอยู่ของเรา ผมนับถือท่านอังคารมานานแล้ว ตั้งแต่ได้อ่านหนังสือของท่าน คิดว่าที่ผมมาร่วมงาน ก็อบอุ่นใจ คิดว่าน่าจะได้เป็นกระแส เป็นจุดเริ่มต้นให้สังคมรับรู้ ไม่ว่าชุมชนไหนก็ตาม ถ้ามีคนที่เสียสละ หรือว่าคนที่กล้าหาญที่จะต่อสู้เพื่อสังคมชุมชนนั้น เราก็ต้องให้การเชิดชูหรือว่าทำประวัติ หรือให้เยาวชน ได้ศึกษา ไม่ใช่ไปนับถือคนต่างชาติ ดารานักร้องเป็นฮีโร่ ควรจะมีฮีโร่ของเราเองในสังคม"

คุณทอดด์ ทองดี ศิลปินนักร้อง "รู้สึกดีครับ รู้สึกปลื้มใจแทนคนที่นี่ ที่รวมความรัก ฉลองชีวิตของศิลปิน คนหนึ่ง ที่ยิ่งใหญ่ ผมมาด้วยความเห็นแก่ตัวนะครับ เพราะผมมาแล้วมีความสุขจริงๆ"

คุณหงษ์ทอง เสน่ห์งามเจริญ จิตรกร "เห็นคนที่มาร่วมงานก็รู้สึกอบอุ่น โดยส่วนตัวแล้วก็เคารพและชื่นชม บทกวีอย่างท่านอังคาร และกวีอย่างท่านอังคารในประเทศสยามคงแทบจะไม่เหลือแล้ว นอกจากท่าน อังคารแล้วก็มีกวีอีกหลายคน แต่ถ้ากวีแหลมคมอย่างนี้ คงไม่มีใครเทียบเท่าท่านอังคารแล้ว งานครั้งนี้ เราได้มามีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมหาเงินเข้ากองทุนเพื่อท่านอังคาร ก็ดีใจ

เข้ามาที่นี่ก็อบอุ่น มาถึงเหมือนกับว่าทุกคนอัธยาศัยดีมาก ให้การต้อนรับตั้งแต่ขับรถเข้ามา คนที่ดูแลเรื่อง การจอดรถ ก็พูดจายิ้มแย้มแจ่มใส อัธยาศัยดีมาก อาหารการกินก็ทั่วถึง กินแทบไม่หมด เยอะมาก จนอิ่มเกิน ดีมากครับ

งานสืบทอดสายธารน้ำใจกวีซีไรท์อังคาร กัลยาณพงศ์ จบลงด้วยความร่วมมือร่วมใจของทุกๆฝ่าย ขออนุโมทนา กับหัวใจเสียสละทุกดวง ที่ปรารถนาให้กวีซีไรท์คนนี้มีสุขภาพที่แข็งแรง อยู่สร้างสรร งานกวีไทยที่เปี่ยมล้นคุณค่า คู่ฟ้าเมืองไทยและคู่โลกไปอีกนานแสนนาน เราคนไทยภูมิใจในผลงาน อันล้ำค่า ของกวีซีไรท์อังคาร กัลยาณพงศ์ ผู้ควรค่ากับคำว่า "กวีเอกแห่งแผ่นดินสยาม"

และขออภัยในความบกพร่องกับทุกท่าน ที่มีส่วนร่วมในงานครั้งนี้ ขอบคุณน้ำใจทุกหยดที่บอกให้รู้ว่า น้ำใจจะไม่มีวันเหือดหายไปจากแผ่นดินแห่งความเอื้ออาทร

- ปลาทวนน้ำ -
(ขอขอบคุณ คุณทองแก้ว ทองแก้ว เอื้อเฟื้อข้อมูลหลัก)

- สารอโศก อันดับที่ ๒๗๐ เมษายน ๒๕๔๗ -