เรียงวลีกวีธรรม

โจทย์ธรรมทำ
ธ.ก.ส.รวมชนมาฝึกอาชีพ
อบรมรีบหลักสูตรเร่งแต่เจ๋งแจ๋ว
ชาวอโศกโลกเก่าเราต้องแจว
ออกสู่แนวขึ้นขั้นบันไดธรรม

โจทย์มาถึงไยจึงเฉยเมยเมินหน้า
หรือไม่กล้าหวงตัวกลัวถลำ
ปล่อยกิเลสลอยนวลไม่ควรทำ
เมื่อมีน้ำแล้วไม่ตักจักเสียดาย

เวลาเหลือเพียงนิดชีวิตน้อย
หากมัวคอยความสำเร็จระเห็จหาย
เพียรเถอะหนออย่ารอรั้งตั้งใจกาย
โถมทะลายนิวรณ์ห้าให้ลาเลือน

หมั่นเดินมรรคตั้งมั่นในงานนี้
ร่วมน้องพี่สมัครสมานงานเสมือน
one for all all for one หมั่นย้ำเตือน
โจทย์ใดเยือนก็ยินดีคลี่คลายไป

โน่นสีรุ้งรุ่งเช้าขึ้นพราวฟ้า
ภายภาคหน้าชนทั้งผองคงผ่องใส
เพราะเศรษฐกิจพอเพียงเลี้ยงชาวไทย
ศีลธรรมอำไพคงกลับมา
- ใบไม้เหลือง -
๒๔ พ.ย.๔๖


 

ทุกข์ คือสิ่งทนได้ยาก
ทุกข์ มอมเมา มากมาย ที่ไหลมา
ทุกข์ เนืองนอง หนักหนา ล้วนสาหัส
ทุกข์ กลัดกลุ้ม ลามลวน กวนรอยรัด
ทุกข์ ผูกมัด มวลหมู่ มนุษย์มนา
คือ ราคะ โทสะ โมหะหลง
คือ ป่าดง แดนกิเลส เขตตัณหา
คือ มานะ มืดมัว ตัวอัตตา
คือ สรรพ อวิชชา พาทุกข์ทน
สิ่ง เร่าร้อน รุนแรง แทงกายขันธ์
สิ่ง ห้ำหั่น ย่ำยี จิตปี้ป่น
สิ่ง เศร้าหมอง หม่นไหม้ เหมือนไฟลน
สิ่ง ท่วมทับ สับสน กระวนกระวาย
ทน ต่อแดด ต่อฝน ทนลมหนาว
ทน เจ็บใจ บางคราว ร้าวสลาย
ทน เหลือบยุง ไรริ้น กินเลือดกาย
ทน เจ็บป่วย ไม่สบาย ในบางวัน
ได้ รับผล ของกรรม ที่ทำไว้
ได้ ไม่เลือก ว่าใคร ที่ไหนนั่น
ได้ แก่สัตว์ ทุกตัว ทั่วหน้ากัน
ได้ ทุกสิ่ง ทุกอัน การกระทำ
ยาก เต็มที ที่สัตว์ จะหลุดร่อน
ยาก วิงวอน คุณพระ จะช่วยค้ำ
ยาก หากคน ไม่หัด ปฏิบัติธรรม
ยาก จะหนี เหนือกรรม คำว่า"ทุกข์"
- ทอง ๑๐๐% -


 

ย่างก้าวใหม่
อดีตเคยผิดเคยพลาดพลั้ง
วาดหวังมิได้ดั่งใจหมาย
ทุกข์ท้อสับสนจนวุ่นวาย
เถิดปล่อยไป,อย่าเก็บไว้ในชีวี

ตั้งต้นหนทางย่างก้าวใหม่
รวบรวมกายใจในวันนี้
เกี่ยวฝันสร้างสรรค์แต่สิ่งดี
มี-ไม่มี เรียนรู้อยู่อย่างสามัญ
- ภู เชียงดาว -


อ่านจิต
สุขเย็นด้วยฌานการพุ่งเพ่ง
ศีลเคร่งตรองตรึกเร่งฝึกฝน
ตั้งตบะ ล้างเหตุกิเลสตน
อดทน สรรสร้างทางนิพพาน

สุขเย็นด้วยญาณการตามรู้
เฝ้าดูอารมณ์ทุกสถาน
เนกขัมมะหรือเคหะพึงประมาณ
ล้วนคือการพินิจอ่านจิตตน
- แด่ธรรม -


เอื้ออาทรกันเถิดนะ
ผลิตุ่มตา คราฝน ได้พ้นผ่าน
ใบอ่อนสาน สืบต่อ ก่อใบใหม่
ยืนลำต้น พ้นผ่าน พายุภัย
ผลิกิ่งใบ ช่อชูบอก ดอกรู้บาน
เต็มสะพรั่ง ทั้งต้น บนลานป่า
บ้างคลี่มา แซมใบ ในลานบ้าน
ต่างกลิ่นสี กลิ่นใส หาใดปาน
ฤดูกาล อุ้มชู ให้รู้ตน
รู้รับฝน ทนแสง รู้แล้งหนาว
รู้ถึงคราว ผลิดอก ออกช่อผล
ฤดูใด ได้กำหนด ความอดทน
ฤดูใด ได้ยล ซึ่งผลงาน
ชีวิตร่วม รวมใจ ในแหล่งหล้า
รู้รักษา หน้าที่ มีประสาน
รู้รับให้ กูลเกื้อ รู้เจือจาน
ใช่ล้างผลาญ รับประโยชน์ แต่โสดเดียว
จุนเจือโลก โศกร้าย เหือดหายสูญ
ไม่เกื้อกูล โลกเรา จะเปล่าเปลี่ยว
ให้แสงแห่ง เมตตา ช่วยยาเยียว
ความแห้งเหี่ยว โหยหา ด้วยอาทร
- อนาคาริก -
วก.สป.


 

ฟื้นใจ
เหนื่อยนักพักตรงนี้ ยังมีที่พอพึ่งพิง
เหนื่อยใจอย่าหน่ายจริง อย่าเพิ่งทิ้งปณิธาน

วันนี้หาใช่เรา อย่าเหมาว่าอวสาน
จุดไฟในดวงมาลย์ หาญสู้ใหม่ให้สุดแรง
- สายลม ๒๐ มิ.ย. ๔๖ -